บทที่ 1310 พูดจริงทำจริง
บทที่ 1310 พูดจริงทำจริง
ฉือโถวเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับบุคคลอื่น การที่เขาแอบรักคนคนหนึ่งมาหลายปีนั้นแสดงให้เห็นว่า เขาเป็นคนที่มีความยึดมั่น ฟ่านหลิงยินดีที่จะแต่งงานกับคนแบบนี้ และสามารถแต่งงานกับเขาได้ด้วยความสบายใจ ทั้งที่รู้ว่าสามีของนางจะมีคนอื่นอยู่ในใจ แต่นางรู้… วันหนึ่งถ้าตนเองเดินเข้าไปในหัวใจของฉือโถวได้ ตนก็จะเป็นคนเดียวในใจของเขาไปตลอดชีวิต
นางไม่คาดคิดมาก่อนว่าวันนี้จะมาถึงเร็วขนาดนี้ และฉือโถวบอกกับตัวเองว่าเขาจะดีกับนางไปตลอดชีวิต
ฟ่านหลิงรู้สึกประหลาดใจมากจนพูดไม่ออก
ฉือโถวรอคำตอบจากนาง ครั้นเห็นว่านางไม่ตอบคำถามก็กลัวว่าฟ่านหลิงจะไม่เชื่อ ดังนั้นจึงรีบพูดว่า “เสี่ยวหลิง อย่าได้กังวลไปเลย ข้า… ฉือโถวเป็นคนที่รักษาสัญญา สิ่งที่ข้าพูดกับเจ้า ข้าได้คิดอย่างรอบคอบแล้ว และสิ่งที่ข้าพูด ข้าต้องทำให้ได้”
ฉือโถวยังคงอธิบายต่อไป แต่ยิ่งเขาอธิบายมากเท่าไร ฟ่านหลิงก็ยิ่งตื่นเต้นมากขึ้นเท่านั้น น้ำตาไหลอาบแก้มราวกับแม่น้ำสายเล็ก ๆ สองสายทำให้ดวงตาของนางและหัวใจของชายหนุ่มชุ่มชื่น
ยกเว้นท่านแม่ก็ไม่มีผู้หญิงคนไหนในชีวิตนี้ที่หลั่งน้ำตาเพื่อเขา
ฉือโถวรู้สึกราวกับว่าหัวใจที่มีร่องรอยของการแตกร้าว และมีสายลมแห่งฤดูใบไม้ผลิพัดเข้าสู่หัวใจ… พัดพาหัวใจของเขาให้อบอุ่น
ฟ่านหลิงรู้สึกประหลาดใจและประทับใจมากขึ้น นางร้องไห้สะอึกสะอื้นและตอบรับซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าตนเองรับรู้แล้ว
คำพูดของฟ่านหลิงทำให้ก้อนหินหนักอึ้งในหัวใจของฉือโถวถูกยกออกไป
ในขณะนี้ ใบหน้าที่มืดมนของฟ่านหลิงดูเหมือนจะถูกแต่งแต้มด้วยสีแดงระเรื่อ ขับความงดงามของนางให้เปล่งปลั่ง โดยเฉพาะดวงตากลมโตสีดำคู่นั้นที่มองมาที่เขาอย่างเสน่หา
เมื่อทั้งสองออกไป พวกเขาเห็นฟ่านต้าฉวีและฟ่านอวี้ยืนอยู่ที่ประตูโดยไม่ขยับเขยื้อนราวกับว่าพวกเขาถูกแช่แข็ง
“ท่านพ่อ อวี้เอ๋อร์ เกิดอะไรขึ้นกับกับพวกท่าน?” เมื่อพวกเขาออกไปข้างนอก แต่พวกเขาไม่เห็นฟ่านต้าฉวีและฟ่านอวี้พูดอะไรสักคำ พวกเขาทำเพียงแค่จ้องมองไปข้างนอกด้วยตาที่เบิกกว้าง
เมื่อเห็นการกระทำที่โง่เขลาของพวกเขา ฟ่านหลิงก็รู้สึกประหม่าเล็กน้อย นางรีบเรียกฟ่านต้าฉวีและฟ่านอวี้พลางถามอย่างกระวนกระวาย “ท่านพ่อ อวี้เอ๋อร์ พวกท่านเป็นอะไรไป”
หลังจากถูกเรียก พ่อและน้องชายก็กลับมาได้สติอีกครั้ง เมื่อพวกเขาเห็นฉือโถวและฟ่านหลิง ฟ่านอวี้ก็ชี้นิ้วไปตรงหน้าและพูดด้วยความประหลาดใจ “ท่านพี่ ดูที่ลานบ้านสิ”
ฟ่านหลิงมองไปตามนิ้วของฟ่านอวี้ที่กำลังชี้ออกไป และเมื่อเห็นสิ่งของภายในลานบ้านก็ได้แต่รู้สึกประหลาดใจเกินกว่าจะพูดอะไรสักคำ
“นี่คือ…” จากนั้นนางมองไปที่ฉือโถวข้างกายด้วยสายตาตกใจ
ลานบ้านเล็ก ๆ เต็มไปด้วยของขวัญหมั้นหมายที่ฉือโถวนำมา กล่องไม้หวงฮวาหลีวางซ้อนกันจนเต็มลานบ้าน
ดวงตาของฟ่านหลิงเบิกกว้างและไม่สามารถนับได้ว่ามีกล่องทั้งหมดกี่กล่อง
“ยี่สิบแปด ยี่สิบเก้า สามสิบ สามสิบหก สวรรค์ มีของหมั้นครบสามสิบหกแล้ว สวรรค์” เดิมทีไม่ค่อยมีคนมาบ้านตระกูลฟ่านมากนัก แต่ตอนนี้ด้านนอกถูกห้อมล้อมไปด้วยผู้คนมากมาย ทุกคนต่างตกตะลึงกับสินสอดที่ตระกูลจางมอบให้
สิ่งที่อยู่ข้างในกล่องไม้หวงฮวาหลีนั้นเป็นสิ่งมีค่าหลายสิบตำลึงเงิน
การที่ตระกูลจางมอบสิ่งของมากมายให้สะใภ้มากมายเช่นนี้ แสดงให้เห็นว่าตระกูลจางพอใจกับฟ่านหลิงมากเพียงใด
ผู้ที่มาดูหลายคนเป็นหญิงสาวที่แต่งงานแล้วและยังไม่ได้แต่งงานที่อายุน้อยกว่าฟ่านหลิง เมื่อเห็นว่าฟ่านหลิงกำลังจะแต่งงาน อีกทั้งชายคนนั้นยังมามอบสินสอดให้ด้วยตนเอง และนำสินสอดมาถึงสามสิบหกกล่อง จำนวนนี้ไม่ต้องพูดถึงในเมืองหลิวเจีย แม้แต่ในเมืองรุ่ยเสียนนี่เรียกได้ว่าเป็นสินสอดที่มากเป็นอับดับหนึ่งของเมืองด้วยซ้ำ
ไม่กี่วันก่อน มีครอบครัวที่ร่ำรวยในเมืองหลิวเจียจัดงานมงคล แต่มีสินสอดเพียงสิบแปดกล่อง แต่ถึงอย่างนั้นก็ถือว่าดีมากแล้ว คราวนี้เป็นงานมงคลของฟ่านหลิง หญิงสาวยากจนจากชนบทที่กำลังจะแต่งงาน และสามีของนางก็มาพร้อมสินสอดทองหมั้นมากมาย
ครั้งนี้ฟ่านหลิงราวกับเป็นหนูตกถังข้าวสารจริง ๆ
ผู้หญิงคนหนึ่งที่อายุไล่เลี่ยกับฟ่านหลิงที่แต่งงานและมีลูกแล้ว นางเคยล้อเลียนฟ่านหลิงที่ยังไม่ได้แต่งงาน แต่คราวนี้ทุกอย่างก็เปลี่ยนไปทันที
ด้วยของขวัญหมั้นหมายมากมาย แม้ว่านางจะแต่งงานช้า แต่นางก็มีความสุข
เด็กสาวที่ยังไม่ได้แต่งงานทุกคนมองไปที่ฟ่านหลิงอย่างอิจฉา ฟ่านหลิงมีรูปลักษณ์ธรรมดาและแก่กว่าฉือโถวมาก ทำไมนางถึงได้แต่งงานกับครอบครัวที่ดีเช่นนี้
ฟ่านหลิงมองไปที่กล่องไม้ในลานบ้านด้วยความประหลาดใจ และถามฉือโถวด้วยความสงสัยและตะลึงงัน “ฉือโถว ของเหล่านี้…?”
“ทั้งหมดนี้เป็นของขวัญหมั้นสำหรับเจ้า” ฉือโถวชี้ไปที่สิ่งเหล่านั้นแล้วพูด “ของขวัญหมั้นสามสิบหกชิ้นที่นี่ เสี่ยวหวานเป็นคนจัดการ และบอกว่าเป็นของขวัญสำหรับการแต่งงานของเรา”
“อะไรนะ” ของขวัญหมั้นทั้งสามสิบหกชิ้น เสี่ยวหวานเป็นคนมอบให้อย่างนั้นหรือ
เมื่อนึกถึงกู้เสี่ยวหวาน ฟ่านหลิงก็รู้สึกขอบคุณมาก
“นางกำลังจะไปเมืองหลวงเพื่อฉลองวันเกิดไทเฮา และนางต้องการเข้าร่วมงานแต่งงานของเราก่อนที่นางจะจากไป นางบอกว่าการแต่งงานของเราต้องจัดขึ้นอย่างเร่งด่วน และการเตรียมการก็ต้องรีบเร่ง จากนั้นนางก็จัดการเรื่องสินสอดทองหมั้นสามสิบหกชิ้น โดยบอกว่าเป็นการขอโทษเรา” ฉือโถวยิ้มเมื่อพูดถึงกู้เสี่ยวหวาน ดวงตาของเขาเปล่งประกายแวววับ หากแต่ในแววตายังเจือไปด้วยความโศกเศร้า
ฟ่านหลิงจะไม่มีทางเยาะเย้ยเขาเด็ดขาด
ในวัยแรกรัก ใครจะไม่มีคนที่แอบชอบมาตั้งแต่เด็กบ้าง?
ปีนี้นางอายุยี่สิบแล้ว นับว่าอายุมากแล้ว
เดิมทีเมื่อคิดว่าจะต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวไปจนแก่เฒ่า แต่จู่ ๆ ก็มีชีวิตแต่งงานที่ดีเช่นนี้อย่างไม่คาดฝัน แม้ในความฝันนางก็ไม่เชื่อว่ามันจะเป็นจริง แต่เมื่อมองดูของที่ป้าจางมอบให้ตอนนี้ นางก็รู้แล้วว่ามันไม่ใช่ความฝัน
นางกำลังจะแต่งงาน กำลังจะแต่งงานกับผู้ชายอายุน้อยที่ซื่อสัตย์และอบอุ่น แม้ต่อมาเมื่อนางรู้ว่าเขามีใครในใจ แต่ก็ไม่ได้ทำให้นางเกลียดเขา ตรงกันข้ามความเจ็บปวดจากการรักกลับไม่ได้ทำให้นางรู้สึกสงสาร และอยากจะทะนุถนอมเขาให้มากขึ้น
………………………………………………….