ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิตเล่มที่ 14 บทที่ 395 เจ้ามี ยวี่ ข้าก็มี ยวี่

เล่มที่ 14 บทที่ 395 เจ้ามี ยวี่ ข้าก็มี ยวี่

  ระหว่างกินอาหารเย็น พอได้ยินว่านับตั้งแต่พรุ่งนี้พี่สะใภ้ใหญ่จะอาศัยอยู่ในตัวเมือง เด็กสองคนก็ตกใจเป็นอย่างมาก “พี่สะใภ้ใหญ่ เหตุใดจู่ๆ ท่านถึงไปอาศัยอยู่ในตัวเมือง? เช่นนั้นพวกเราเล่า? ”

        เซี่ยยวี่หลัวยิ้มพร้อมกล่าว “ข้าจะกลับมาทุกสองวัน ยิ่งไปกว่านั้น ในบ้านมีพี่ใหญ่อยู่ พี่ใหญ่ต้องดูแลพวกเจ้าได้เป็นอย่างดีแน่! ”

        เซียวจื่อเซวียนเบ้ปาก หันมองพี่ใหญ่ที่อยู่ด้านข้าง ท่าทางอัดอั้นตันใจเสียยิ่งกว่าอะไร

        “พี่สะใภ้ใหญ่ ข้าอยากไปอยู่ในตัวเมืองกับท่านด้วยเจ้าค่ะ! ” เซียวจื่อเมิ่งกล่าวเสียงใส

        เซียวจื่อเซวียนก็พูดโพล่งออกมา “พี่สะใภ้ใหญ่ ข้าก็อยากไปขอรับ! ท่านอยู่ในตัวเมืองเพียงลำพัง พวกเราไม่วางใจ ให้พวกเราตามไปอยู่กับท่านเถิดขอรับ! ”

        เซียวยวี่ขมวดคิ้วมุ่น กล่าวด้วยท่าทางเย็นชา “อาเซวียน เจ้าต้องไปเรียนหนังสือกับข้า! ” จากนั้นจึงกล่าวกับเซียวจื่อเมิ่ง “เจ้าอายุยังน้อยเกินไป อยู่ข้างนอกอาจส่งผลกระทบได้ พี่สะใภ้ใหญ่มีธุระต้องทำ ไม่สะดวกดูแลเจ้าไปด้วย ตอนกลางวันเจ้าตามพี่รองไปที่ห้องเรียนเถิด”

        เซียวจื่อเซวียนและเซียวจื่อเมิ่งบุ้ยปาก แทบจะร้องไห้อยู่แล้ว!

        ถึงแม้เซี่ยยวี่หลัวไม่อาจทนดูดาย แต่เมื่อลองคิดดูก็ได้แต่ทำเช่นนี้ น้ำดอกไม้ย่อมไม่รอนาง นางต้องใช้น้ำดอกไม้ให้หมด เมื่อถึงครานั้นก็สามารถกลับบ้านได้แล้ว

        “ไม่ต้องห่วง รอให้ข้าทำธุระเสร็จ สักสิบวันหรือครึ่งเดือน พี่สะใภ้ใหญ่ก็จะกลับมาอยู่บ้านด้วยกันทุกวัน พวกเจ้าอย่าได้เป็นห่วง! ” เซี่ยยวี่หลัวปลอบโยนเด็กทั้งสองคน

        เซียวจื่อเมิ่งร่ำไห้สะอื้น “เช่นนั้นพี่สะใภ้ใหญ่ คืนนี้ข้าจะนอนกับท่าน ตอนท่านกลับมา ข้าก็จะนอนกับท่านเจ้าค่ะ! ”

        เซี่ยยวี่หลัวย่อมตอบรับเต็มปากเต็มคำ “ได้ได้ได้ นอนกับข้า นอนกับข้า! ”

        เซียวยวี่ที่อยู่ข้างๆ สีหน้าพลันบึ้งตึงในทันใด นางเป็นภรรยาของเขา คนที่ควรได้นอนกับนาง ก็ควรเป็นเขาเช่นกัน!

        แต่เขาไม่ได้กล่าวอะไร เจ้ามีแผนการที่ร้ายกาจ ข้าก็มีแผนการรับมือเช่นกัน ใครจะได้นอนกับอาหลัว ก็ยังไม่แน่!

        เซี่ยยวี่หลัวครุ่นคิดเรื่องลวดลายบนสบู่อยู่ตลอด ระหว่างที่ทั้งคู่อยู่ในห้องหนังสือ เซี่ยยวี่หลัวจึงปรึกษากับเขา

        “เจ้าว่า พวกเราทำลวดลายอย่างไรดี? ”

        “เรื่องอย่างลวดลายนั้นถูกเลียนแบบได้ง่ายมาก เจ้ามิสู้ทำสัญลักษณ์ที่สื่อถึงตนเอง ต่อไปเมื่อผู้อื่นเห็นสัญลักษณ์บนนั้น ก็รู้ได้ว่านั่นเป็นสิ่งที่เจ้าเป็นคนทำ” เซียวยวี่เสนอแนะ

        เซี่ยยวี่หลัวรู้สึกยินดียิ่ง กอดเซียวยวี่ก่อนจุมพิตทีหนึ่ง “จริงด้วย เจ้ากล่าวได้ไม่ผิด ข้าจะทำเครื่องหมายการค้าที่เป็นของเราเอง! ”

        เครื่องหมายการค้า? นั่นคือสิ่งใด?

        เซียวยวี่ฟังไม่เข้าใจ แต่เขาเห็นเซี่ยยวี่หลัวมีสีหน้าท่าทางยินดีเสียเต็มประดา คาดเดาว่าเครื่องหมายการค้านี้ น่าจะเป็นสิ่งที่ดีมากแน่นอน

        เซี่ยยวี่หลัวนั่งลงบนตักเซียวยวี่ หยิบพู่กันขึ้นมาเริ่มวาด

        “คุณชายซูผู้นั้นที่มอบน้ำดอกไม้ให้เรา เงินที่ใช้ซื้อน้ำดอกไม้เหล่านี้ ต่อไปข้าต้องคืนเขาให้ได้! ” เซี่ยยวี่หลัววาดไปพลางกล่าวไปพลาง

        เซียวยวี่พยักหน้า ลูบผมยาวของนาง รู้ว่านางไม่อยากติดหนี้บุญคุณผู้อื่น

        น้ำดอกไม้นับร้อยถัง…

        ฮวาเหนียงบอกไว้ น้ำดอกไม้หนึ่งถังราคายี่สิบกว่าตำลึง มีนับร้อยถัง ก็เป็นเงินสองพันตำลึง!

        ต่อให้ถูกผู้อื่นทิ้งไปจริง ก็ยังเป็นบุญคุณอย่างใหญ่หลวง

        เซี่ยยวี่หลัววาดเสร็จแล้ว เป่าทีหนึ่ง ก่อนยื่นให้เซียวยวี่ดู “เจ้าลองดูว่าเช่นนี้ได้หรือไม่? ”

        เซียวยวี่รับมา รู้สึกเบื้องหน้าสว่างวาบ

        เซี่ยยวี่หลัวเขียนตัวอักษรสองตัว ตัวซูหนึ่งตัว ตัวยวี่หนึ่งตัว ทว่า ถึงแม้จะเป็นเพียงตัวอักษรง่ายๆ สองตัว กลับถูกนางใช้ลายเส้นร่างไว้อย่างงดงาม ตัวอักษรสองตัวราวกับเป็นดอกไม้สองดอกก็มิปาน ดูคล้ายตัวอักษร ทั้งยังดูงดงามราวกับดอกไม้

        เซียวยวี่เอ่ยชมไม่ขาดปาก “ช่างงดงามเหลือเกิน! ตัวอักษรธรรมดาสองตัว ถูกเจ้าเขียนออกมาจนกลายเป็นบุปผาแล้ว”

        เซี่ยยวี่หลัวรู้สึกได้ใจยิ่งนัก นี่เป็นตัวอักษรรูปแบบบุปผา ทั่วทั้งต้าเยว่ มีเพียงหนึ่งเดียว!

        “เจ้าดูตัวอักษรซูนี่ คือซูจากชื่อคุณชายซู ถึงแม้คุณชายซูผู้นั้นมอบน้ำดอกไม้ให้เราโดยไม่คิดเงิน แต่ข้าจะติดหนี้บุญคุณผู้อื่นมากมายถึงเพียงนี้ไม่ได้ โรงผลิตนี้ ถือเสียว่าข้าเปิดร่วมกับเขา ต่อไปหาเงินได้ หากเขาไม่ร่วมทุนกับเรา ข้าก็จะค่อยๆ คืนเงินให้เขาไป ยังมีคำว่ายวี่นี้ ถึงแม้จะเป็นยวี่ของข้า แต่ก็เป็นยวี่ของเจ้าด้วย…”

        เซียวยวี่เม้มปากแย้มรอยยิ้ม

        ตัวอักษรยวี่ของเขา มีตัวยวี่นี้อยู่ด้วย

        ในชื่อของอาหลัว ก็มียวี่เช่นเดียวกัน

        บังเอิญถึงเพียงนี้ หรือจะเป็นลิขิตสวรรค์ ให้พวกเขาได้อยู่ด้วยกันชั่วชีวิต

        “เป็นอย่างไร? ” เซี่ยยวี่หลัวเห็นเซียวยวี่ไม่กล่าวอะไร จึงเอ่ยถาม

        “เยี่ยมมาก! ” เซียวยวี่ย่อมไม่มีอะไรจะกล่าว เรื่องที่อยู่ในสมองภรรยาของเขา เขาไม่จำเป็นต้องสอน

        เขารู้ว่านางจะทำเช่นนี้

        ไม่ติดหนี้บุญคุณผู้อื่น ไม่ละโมบ ไม่เอารัดเอาเปรียบ นี่คือการปฏิบัติตนที่อาหลัวยึดมั่นมาตลอด

        สตรีเช่นนี้ ไม่ต้อยต่ำไม่ผยอง ทำให้รู้สึกรักเสียยิ่งกว่าอะไร รักจนแทบคลั่ง

        เซี่ยยวี่หลัวกำลังแก้ตัวอักษรให้ดีขึ้นและงดงามขึ้น เซียวยวี่หยิบตำราขึ้นมาอ่าน

        มือซ้ายจับเส้นผมเซี่ยยวี่หลัวไว้ นิ้วชี้เกี่ยวเส้นผมของนางขึ้นมาหมุนวน ก่อนวางลง แล้วจึงหมุนวนอีก เล่นอย่างเพลิดเพลิน ในภายหลังเขาถือโอกาสวางตำราลง ผูกเส้นผมของเซี่ยยวี่หลัวไว้กับเส้นผมของเขา

        เซี่ยยวี่หลัวไม่ทันรู้ตัว เซียวยวี่เห็นเส้นผมของทั้งคู่ถูกผูกไว้ด้วยกัน ก็รู้สึกพึงพอใจยิ่ง หยิบตำราขึ้นมาพลิกเปิดหน้าอ่านต่อ

        “พี่สะใภ้ใหญ่ ท่านยังไม่นอนหรือเจ้าคะ? ” จู่ๆ เสียงเจื้อยแจ้วของเซียวจื่อเมิ่งก็ดังขึ้นจากด้านนอก เซี่ยยวี่หลัวตกใจแทบตาย

        เซียวจื่อเมิ่งหลับไปตื่นหนึ่ง ลุกขึ้นมาไม่พบพี่สะใภ้ใหญ่ จึงวิ่งเข้ามายังห้องของพี่ใหญ่

        ไฟในห้องของพี่ใหญ่สว่างอยู่จริง พี่ใหญ่อยู่ พี่สะใภ้ใหญ่ก็อยู่ด้วย!

        เซี่ยยวี่หลัววางพู่กันลงด้วยอาการลนลาน เพิ่งรู้ตัวว่านางยังนั่งอยู่บนตักเซียวยวี่ จึงรีบลุกขึ้นอย่างลุกลี้ลุกลน “นอนนอนนอน มาแล้ว มาแล้ว! ”

        นางเพิ่งกระโดดลุกขึ้น หนังศีรษะก็รู้สึกเจ็บแปลบ

        เซียวยวี่ก็ส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บเช่นกัน

        เซี่ยยวี่หลัวหันกลับไป เห็นเส้นผมของตัวเองและเส้นผมของเซียวยวี่พันกันอยู่

        “เกิดอะไรขึ้น อยู่ดีๆ เหตุใดเส้นผมจึงพันกันได้? ” เซี่ยยวี่หลัวคิดมาตลอดว่าเส้นผมของตัวเองนุ่มลื่น อยู่ดีๆ เกิดปมขึ้นมาได้อย่างไร? เกิดปมยังไม่เท่าไร แต่เหตุใดจึงพันกับเส้นผมของเซียวยวี่ได้?

        เซียวยวี่คลำหนังศีรษะที่ถูกดึงจนเจ็บ แสร้งทำเป็นกล่าวด้วยท่าทีสงสัย “จริงด้วย เหตุใดจึงพันกันได้เล่า? ”

        เซี่ยยวี่หลัวแกะออกจึงพบว่า เช่นนี้ใช่พันกันที่ไหน เห็นได้ชัดว่า… ถูกคนผูกติดกันไว้!

        “เจ้าเป็นคนผูกติดกันไว้หรือ? ” เซี่ยยวี่หลัวกดเสียงให้ต่ำเพื่อเอ่ยถามเซียวยวี่

        เซียวยวี่รู้ว่าตัวเองปิดบังไม่ได้แล้ว เขาจึงพยักหน้า ขานตอบทีหนึ่ง “ใช่”

        “ทำไมถึงซุกซนนัก ราวกับเด็กก็มิปาน! ” เซี่ยยวี่หลัวแก้ปมไปพลาง เอ่ยถามด้วยรอยยิ้มไปพลาง

        ยังดีที่นางไม่ได้ออกแรงมากเกินไป มิเช่นนั้น ผมกระจุกนี้คงถูกดึงจนหลุด

ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต

ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต

Score 10
Status: Completed

จะเกิดอะไรขึ้น! เมื่อจู่ๆ บล็อกเกอร์สาวอาหารรสเลิศอย่าง “เซี่ยยวี่หลัว”

ต้องทะลุมิติมาเป็นนางร้ายสุดเหี้ยมในนิยายที่เธอเคยอ่าน

เป็นทั้งคนใจร้าย ปากร้าย เอาแต่ใจ แถมยังทุบตีเด็ก

ยัยคนนี้นี่มันปีศาจตัวไหนมาเกิดกันล่ะเนี่ย?

เป็นเพราะนางทำให้ครอบครัวที่อบอุ่น ต้องอยู่ไม่เป็นสุขถึงเพียงนี้

สามีทรมานใจ น้องสามีก็หวาดกลัว

ถึงเวลาต้องเปลี่ยนนางร้ายผู้นี้เสียใหม่ เซี่ยยวี่หลัวจะเป็นคนดีแล้ว!

และจะดูแลเลี้ยงน้องของสามีให้ดีที่สุดด้วย แต่ขอร้องเถอะสามี อย่าหย่ากับข้าเลยนะ!

ทำอาหารเหรอ? ข้าทำได้

ปลูกผักทำสวน? ข้าทำได้

คัดตำรา? ข้าก็ทำได้

เซี่ยยวี่หลัว Talk

“ที่ทำทุกอย่างนี้เพราะอยากมีชีวิตอยู่จนจบเรื่องหรอกนะ ไม่ได้คิดจะขโมยบทนางเอกเสียหน่อย” xoxo

Options

not work with dark mode
Reset