ท่านป้าสี่โมโหยิ่งนัก “เซียวหมิงจู เจ้าหุบปากเสีย”
เซียวหมิงจูยังคงสั่นเทิ้มอย่างรุนแรง
เซียวหมิงจูยังคงดิ้นรนอย่างหนัก ยังคิดจะกล่าวต่อ ท่านป้าสี่เห็นดังนั้นจึงใช้มือปิดปากนาง ไม่ให้นางตะโกนอีก
สีหน้าของเซียวหยวนเปลี่ยนเป็นขาวซีดก่อนแปรเปลี่ยนเป็นแดงก่ำ เห็นได้ชัดว่าวาจาของเซียวหมิงจูทำให้เขาชอกช้ำใจอย่างหนัก
ท่านป้าสี่เห็นแล้วก็รู้สึกปวดใจและสงสาร “อาหยวน เจ้าอย่าได้เก็บมาใส่ใจ ลูกสาวของข้าไม่รู้ความ”
“ไม่เป็นอะไร ข้ารู้ดี หมิงจูไม่ได้ตั้งใจ! ” เซียวหยวนพยายามฝืนยิ้มออกมา ท่าทางน้อยเนื้อต่ำใจนั่น ท่านป้าสี่เห็นแล้วหัวใจแทบสลาย
ลูกเขยที่ดีถึงเพียงนี้ บุตรสาวของตนเองอาละวาดจนเรื่องราวใหญ่โต ต่อไปต้องนึกเสียใจภายหลังแน่!
“สตรีผู้นี้ช่างไร้หัวจิตหัวใจเสียจริง เมื่อครู่ทุกคนก็เห็นแล้ว เซียวหยวนดีต่อนางถึงเพียงนั้น เพื่อช่วยนางถึงกับยอมเสียทรัพย์สินทั้งหมดที่มี นางกลับกล่าววาจาโหดร้ายเช่นนี้ออกมา”
“ข้าคิดว่าสตรีผู้นี้ไร้หัวใจ ด้านหนึ่งก็เก็บเซียวหยวนไว้ อีกด้านหนึ่งก็คิดอยากได้เซียวยวี่ ทำไมหมู่บ้านของเราถึงมีสตรีที่หน้าไม่อายถึงเพียงนี้”
“ถุย ต่อไปทุกคนอย่าได้แต่งกับสตรีผู้นี้ น่ากลัวเกินไปแล้ว! ”
ท่านป้าสี่ได้ฟังวาจาเหล่านี้ แทบอยากหากำแพงแล้ววิ่งชนให้ตายเสีย
จบกัน จบกัน ชีวิตของเซียวหมิงจูจบสิ้นแล้ว!
เซี่ยยวี่หลัวเห็นเซียวหมิงจูถูกทุกคนก่นด่า ได้แต่ทอดถอนใจ
นี่ไม่ใช่สิ่งที่นางอยากให้เกิด และนางก็ไม่อยากทำร้ายเซียวหมิงจู อย่างไรเสียนางก็เป็นสตรีที่ยังไม่ออกเรือน นางเป็นคนจากยุคปัจจุบัน รู้ว่าคนในยุคสมัยโบราณให้ความสำคัญกับชื่อเสียงมากเพียงใด
หากเพียงแต่…
เซียวหมิงจูสู้ยอมทำลายชื่อเสียงของตัวเองก็คิดจะทำให้เซียวยวี่ติดร่างแหไปด้วย เซี่ยยวี่หลัวจึงไม่มีแก่ใจจะสนสิ่งอื่นใดอีก
“หัวหน้าหมู่บ้าน เซียวยวี่ของข้าเป็นบัณฑิต ประพฤติตามขนบธรรมเนียมอย่างเคร่งครัด วันนี้เขาถูกเซียวหมิงจูปรักปรำ ทั้งยังทำให้เรื่องราวใหญ่โตถึงเพียงนี้ หากวันนี้เรื่องของซินแสสวี่ไม่ถูกเปิดโปง เซียวยวี่ของข้าคงไม่อาจล้างมลทินพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเองได้ หวังว่าวันนี้หัวหน้าหมู่บ้านจะให้ความเป็นธรรมเซียวยวี่ของข้าด้วยเจ้าค่ะ” เซี่ยยวี่หลัวหันมองเซียวจิ้งยี่พลางกล่าว
เซียวจิ้งยี่พยักหน้า “ควรให้ความเป็นธรรมจริง เจ้าเองก็เช่นกัน ข้าต้องให้ความเป็นธรรมกับเจ้าด้วย”
วันนี้เซียวหมิงจูช่างโหดร้ายนัก ใช้ทุกวิถีทางเพื่อให้ได้อยู่กับเซียวยวี่ แม้แต่เรื่องซินแสสวี่ นางก็เป็นผู้บงการอยู่เบื้องหลัง
เพื่อให้บรรลุตามเป้าหมาย นางใช้ทุกวิถีทางอย่างแท้จริง
ทั้งเห็นแก่ตัว และโหดเหี้ยมยิ่งนัก
สตรีเช่นนี้ ผู้ใดแต่งด้วยต้องตกอับไปสามชั่วคนเป็นแน่!
“คนบ้านเซียวซื่อ เจ้าพาตัวหมิงจูของเจ้ากลับไปเสีย นับแต่วันนี้เป็นต้นไป ลงโทษให้นางคุกเข่าในศาลบรรพชน ไปคุกเข่าสิบวัน ห้ามขาดแม้แต่วันเดียว” เซียวจิ้งยี่กล่าว
ท่านป้าสี่ไม่อาจทนได้ “หัวหน้าหมู่บ้าน หมิงจูของข้า…”
“สิบเอ็ดวัน! ” เซียวจิ้งยี่บวกเพิ่มอีกหนึ่งวันโดยไม่คิดด้วยซ้ำ
“ข้า…” ท่านป้าสี่ผงะไป
ทำไมถึงบวกเพิ่มอีกหนึ่งวันเล่า?
“สิบสองวัน! ” เซียวจิ้งยี่กล่าวอย่างเด็ดขาด
ขอเพียงเป็นการขอร้องอ้อนวอนแทนเซียวหมิงจู ต่อให้กล่าวแค่ประโยคเดียว หรือต่อให้แค่คำเดียว เขาก็จะบวกเพิ่มหนึ่งวัน
ท่านป้าสี่ไม่กล้ากล่าวอะไรอีก นางเองก็ไม่กล้าฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้าหมู่บ้าน
ในเรื่องนี้ บุตรสาวของตัวเองช่าง…
นางที่เป็นมารดายังไม่อาจทนดูต่อไปได้!
“หากนางยังไม่รู้จักสำนึก ตามราวีเซียวยวี่ไม่เลิก คิดจะทำร้ายเซี่ยยวี่หลัว คนบ้านเซียวซื่อ เจ้าอย่าหาว่าข้าไม่เตือนเจ้า คนเช่นนี้ หมู่บ้านสกุลเซียวของข้าไม่ต้องการ! ยังมีพวกเจ้า เรื่องในวันนี้ดูเป็นเรื่องสนุกก็แล้วไป ห้ามวิพากษ์วิจารณ์อีก หากเรื่องนี้แพร่ออกไป ชื่อเสียงของทั้งหมู่บ้านสกุลเซียวคงย่อยยับป่นปี้ ถึงเวลาใครยังจะกล้าแต่งกับสตรีจากหมู่บ้านสกุลเซียวของเราอีก! ” เซียวจิ้งยี่เป็นหัวหน้าหมู่บ้าน เข้าใจเหตุผลที่ว่าปลาเน่าตัวเดียวเหม็นไปทั้งข้อง
นี่ไม่ใช่ปัญหาเรื่องชื่อเสียงของเซียวหมิงจูคนเดียว แต่เป็นเรื่องที่เกี่ยวพันถึงทั้งหมู่บ้านสกุลเซียว
หญิงที่ยังไม่ออกเรือนถึงกับใช้เรื่องจับปีศาจในการกำจัดผู้บริสุทธิ์เพื่อให้ได้ผู้ที่ตัวเองชอบมาครอง ทั้งยังคิดจะสังหารผู้อื่นแย่งชิงคนรัก ความโหดเหี้ยมอำมหิตเช่นนี้ ความไร้ยางอายเช่นนี้ เกรงว่าทั่วทั้งเมืองโยวหลันก็ไม่มีเป็นคนที่สอง!
เรื่องของเซียวหมิงจู จะทำลายชื่อเสียงของหมู่บ้านสกุลเซียวทั้งหมู่บ้าน
ท่านป้าสี่กอดเซียวหมิงจูที่ดูไม่มีชีวิตชีวาแม้แต่น้อยไว้ ได้แต่ตอบตกลงไม่หยุด “ข้าเข้าใจ ข้าเข้าใจ ข้าจะควบคุมดูแลนางให้ดี ไม่ให้นางทำผิดอีกแน่นอน! ”
หัวหน้าหมู่บ้านเซียวต้องการกดเรื่องนี้ไว้ เช่นนั้นก็เป็นเรื่องดีอย่างใหญ่หลวง ต่อไปแม้หาคนในหมู่บ้านสกุลเซียวแต่งด้วยไม่ได้ เช่นนั้นก็แต่งไกลหน่อย ไม่มีผู้ใดรู้อดีตของหมิงจู เช่นนั้นก็ได้เหมือนกัน
ท่านป้าสี่รู้จักรุกถอย ย่อมรีบตอบตกลงเซียวจิ้งยี่ทันที
ส่วนเซียวหยวน ได้แต่ปล่อยไป
ท่านป้าสี่จะพยุงเซียวหมิงจูกลับไป ก่อนไปยังหันมองเซียวหยวนด้วยความรู้สึกเสียดายเต็มประดา
เด็กที่ดีถึงเพียงนั้น ต้องเสียไปทั้งอย่างนี้!
ที่ไหนได้ ท่านป้าสี่เพิ่งเดินขึ้นหน้าสองก้าว ก็ได้ยินเสียงหนึ่งดังขึ้นจากด้านหลัง “หัวหน้าหมู่บ้าน หากท่านจะลงโทษก็ลงโทษข้าด้วยเถอะ เรื่องที่หมิงจูทำผิด ข้าก็มีส่วนรู้เห็น! ข้าเองก็ยินยอมรับโทษขอรับ! ”
เซียวหยวนคุกเข่าดังตุ้บ
เซียวจิ้งยี่หัวเราะอย่างเย็นเยียบ “เจ้านึกว่าข้าไม่กล้าลงโทษเจ้าหรือ เซียวหมิงจูเลอะเลือน เจ้าก็เลอะเลือนตาม เจ้าเองก็ไปคุกเข่าในศาลบรรพชน นางคุกเข่ากี่วัน เจ้าก็คุกเข่าตามนั้น! ”
เซียวหยวนตอบรับทันที “ขอรับ! ข้าจะคุกเข่า! ”
ท่านป้าสี่หันกลับไปมอง เห็นเซียวหยวนคุกเข่าอยู่บนพื้น ภายในใจรู้สึกปวดใจนัก “ลูกสาวโง่ของข้ากระทำผิด เจ้าจะรับผิดแทนนางทำไม! ”
เซียวหยวนกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง “ท่านป้าสี่ เรื่องเหล่านั้นข้าเป็นคนทำ หมิงจูเพียงแค่เลอะเลือนไปชั่วขณะ ข้าจะรอจนถึงวันที่นางกลับใจขอรับ”
เมื่อเห็นว่าเรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว เซียวหยวนยังไม่ทอดทิ้งหนีห่างจากบุตรสาวตัวเอง ท่านป้าสี่ซาบซึ้งจนน้ำตาร้อนผ่าวคลอเต็มเบ้าตา “อาหยวน เจ้าช่างเป็นเด็กดีนัก! ”
ท่านป้าสี่ส่งตัวเซียวหมิงจูไปศาลบรรพชน
พอเห็นว่าตัวเองเพิ่งได้ออกไป ครู่เดียวก็ต้องกลับมาอีก เซียวหยวนไม่มีความรู้สึกไม่พอใจใดๆ ตรงกันข้าม ภายในใจกลับได้ใจเสียยิ่งกว่าอะไร
ท่านป้าสี่ที่อยู่ข้างๆ ส่งบุตรสาวตัวเองเข้าไปด้วยหยาดน้ำตาคลอเต็มเบ้า เซียวหมิงจูคุกเข่าอยู่บนฟูกด้วยอาการเหม่อลอย ตัวนางอ่อนปวกเปียกราวกับโคลนเหลวก็มิปาน
เดิมทีท่านป้าสี่อยากปลอบโยนนาง แต่ก็ไม่รู้ว่าควรกล่าวอะไร ได้แต่พาเซียวหยวนไปอีกด้านหนึ่ง “อาหยวน ปกติพวกเรามาที่ศาลบรรพชนไม่ได้ หมิงจูเด็กโง่คนนั้น ต้องฝากเจ้าแล้ว เจ้าต้องช่วยป้าสี่ดูแลนางให้ดี! ”
เซียวหยวนพยักหน้า “ท่านป้าสี่ ท่านวางใจได้ขอรับ ข้าจะดูแลหมิงจูอย่างดีแน่นอน! ”
ต้องดูแลอย่างดีแน่
ท่านป้าสี่รู้สึกตื้นตันใจยิ่งนัก “หากหมิงจูสามารถปล่อยวางจากเรื่องนี้ได้ หากเห็นถึงความหวังดีที่เจ้ามีต่อนาง เช่นนั้นก็คงดี”
เซียวหยวนหันกลับไปมองเซียวหมิงจู “นางเห็นแน่นอนขอรับ! ”
ท่านป้าสี่ไปแล้ว ก่อนไปยังเหลียวซ้ายแลขวาอย่างไม่อาจตัดใจได้ เมื่อเห็นเซียวหยวนมีสีหน้าสงสารเห็นใจขณะอยู่ข้างกายบุตรสาวตัวเอง ภายในใจก็ยังเต็มไปด้วยความหวัง
หากช่วงเวลาสิบสองวันนี้ สามารถทำให้หมิงจูเห็นถึงความดีของเซียวหยวน สามารถทำให้ทั้งสองคนได้ครองคู่กัน นั่นก็เป็นเรื่องดีที่สามารถหลีกหนีจากหายนะจนได้รับความสุข
ท่านป้าสี่ลงกลอนประตูจากด้านนอก
เซียวหมิงจูล้มนั่งบนฟูก แววตาไร้อารมณ์ ประหนึ่งคนไร้ชีวิตอย่างไรอย่างนั้น
เซียวหยวนนั่งบนฟูกที่อยู่ตรงข้าม มือคู่กอดเข่า เอียงศีรษะ เมื่อครู่แววตายังเต็มไปด้วยประกายสงสารเห็นใจ แต่ในเสี้ยววินาทีที่ประตูปิดลง แววตาพลันแปรเปลี่ยนเป็นเย็นชาไร้ความรู้สึก เซียวหยวนจ้องมองเซียวหมิงจูที่นั่งตัวอ่อนปวกเปียกประหนึ่งโคลนเหลวด้วยแววตาเย็นเยียบ ตวัดมุมปากเผยรอยยิ้มลำพองใจ