ยามเซี่ยยวี่หลัวเอื้อนเอ่ยวาจา แววตาแน่วแน่ กล่าวออกมาอย่างชัดถ้อยชัดคำ สีหน้าของเซียวหมิงจูที่อยู่ตรงข้ามพลันเปลี่ยนไปทันที
วาจาของนางสะกิดโดนเบื้องลึกจิตใจของเซียวยวี่ เซียวยวี่ขยับริมฝีปาก อยากกล่าวอะไรบางอย่าง แต่กลับกล่าวไม่ออกแม้แต่คำเดียว
เขาแบกเซี่ยยวี่หลัวไว้ ไม่เห็นใบหน้าของเซี่ยยวี่หลัวอย่างชัดเจน ไม่เห็นสีหน้าของนางยามเอ่ยวาจาเหล่านี้
“เซียวยวี่ ข้ามอบรองเท้าให้เจ้า ยังมีอีกความหมายหนึ่ง เจ้ารู้หรือไม่ว่าคืออะไร? ” เซี่ยยวี่หลัวขยับไปข้างหูเซียวยวี่ เอ่ยถามเสียงเบา
“หืม? ” ลมหายใจอบอุ่นและน้ำเสียงนุ่มละมุน กระตุ้นจนเกิดคลื่นกระเพื่อมไปทั่วตัว เซียวยวี่น้ำเสียงแหบแห้ง
“ข้าอยากเดินต่อไปพร้อมเจ้า” เซี่ยยวี่หลัวกล่าวช้าๆ
เดินพร้อมเจ้าตลอดไป ตราบชั่วฟ้าดินสลาย
ต่อให้วันหนึ่งเจ้าอาจแยกทางไป ช่วงวันคืนแสนหวานเหล่านี้ ก็จะเป็นความทรงจำของนางไปชั่วชีวิต
น้ำเสียงของเซี่ยยวี่หลัวอ่อนละมุน ยามมองเซียวยวี่ ดวงตาก็เปล่งประกายแสงเจิดจรัส!
ชาวบ้านจำนวนไม่น้อยเห็นท่าทางรักใคร่หวานชื่นของพวกเขา ก็รู้สึกโล่งอกไปด้วย “กลับมาแล้วก็ดี! ”
เซียวหมิงจูอยู่ใกล้ ได้ยินเสียงกระซิบพูดคุยระหว่างพวกเขาสองคน
วาจาของเซี่ยยวี่หลัว เซียวหมิงจูได้ยินอย่างชัดถ้อยชัดคำ
และเซียวยวี่ ตั้งแต่ต้นจนจบก็ไม่เคยชายตามองนางแม้แต่ครั้งเดียว
ความอ่อนโยนของเขา มอบให้นางแพศยานั่นหมดแล้ว!
“ทำไมข้าฟังวาจาเหล่านี้แล้วรู้สึกตื้นตันใจเหลือเกิน! ” หญิงชาวบ้านผู้หนึ่งที่อยู่ข้างๆ กล่าวด้วยความตื้นตัน “คิดไม่ถึงว่ารองเท้าคู่หนึ่ง จะมีความปรารถนาที่สวยงามมากมายถึงเพียงนั้น พวกเจ้าดูท่าทางของเซียวยวี่ ดูสิ รู้สึกสุขใจจนแทบจะลอยได้แล้ว! ”
“พวกเรารู้จักแต่ก้มหน้าทำงาน จะกล่าววาจาที่น่าฟังถึงเพียงนี้ออกมาได้อย่างไร พวกเจ้าว่า หากพวกเรากล่าววาจาน่าฟังให้สามีของพวกเราบ้าง จะได้ผลเหมือนกันหรือไม่? ทำให้สามีของพวกเราสุขใจจนแทบลอยได้? ”
เซียวยวี่รู้สึกอิ่มเอมใจจนแทบลอยได้จริงๆ เขาดีใจจนแทบกระโดดโลดเต้น
รองเท้าคู่นั้น ไม่ใช่แค่รองเท้าธรรมดาอีกต่อไป
มันแฝงเร้นด้วยกำลังใจและความคาดหวังของเซี่ยยวี่หลัว กระตุ้นให้เขาก้าวเดินได้ไกลยิ่งขึ้น
“อาหลัว ข้าจะเก็บรักษาและทะนุถนอมมันไปชั่วชีวิต!” เซียวยวี่กล่าวด้วยความตื้นตันใจ เซี่ยยวี่หลัวที่อยู่บนหลังมุดเข้าซอกคอเซียวยวี่ด้วยอาการหน้าแดง
เซียวหมิงจูที่ถูกปฏิบัติราวกับเป็นอากาศธาตุจ้องเซี่ยยวี่หลัวเขม็ง แทบอยากเดินขึ้นหน้าไปฉีกเซี่ยยวี่หลัวเป็นชิ้นๆ แล้วทำให้แหลกเป็นผุยผง
เซียวยวี่ไม่เหลียวมองเซียวหมิงจูสักนิด เดินผ่านข้างกายนางไป
ข้างหลังยังมีชาวบ้านอีกสิบกว่าคน คนจำนวนไม่น้อยต่างมองเซียวหมิงจูไม่ละสายตา ไม่รู้ว่านางจะกระทำการใดอีก
“พวกเจ้าลองเดาดู ว่านางจะทำอะไร?” คนบางกลุ่มไม่ได้เห็นเรื่องสนุกของเซียวยวี่และเซี่ยยวี่หลัว มีหรือจะยอมเลิกรา ยอมทนยืนตากแดดมากว่าหนึ่งชั่วยามแล้ว
หลังจากฝนตกหนัก ก็ชะล้างอากาศจนบริสุทธิ์ แม้กระนั้น แสงอาทิตย์ที่สาดส่องจนเคืองตานั่น ก็ยังทำให้รู้สึกร้อนจนกระวนกระวายใจ
ท่านป้าสี่กระวนกระวายใจจนรู้สึกหวาดกลัว
พวกเขาสองสามีภรรยารักใคร่กลมเกลียว บุตรสาวของตัวเองคิดจะไปแทรกระหว่างกลาง ทั้งยังแทรกไม่สำเร็จ
บุตรสาวที่ไม่ได้ความของตัวเอง หากเรื่องในวันนี้แพร่ออกไป ทั้งชีวิตนี้ของเซียวหมิงจูคงย่อยยับป่นปี้
เซียวหยวนยังคุกเข่าอยู่ในศาลบรรพชน หากให้เขารู้ว่าหมิงจูยังเฝ้าคิดถึงแต่เซียวยวี่ อาจจะ…
พอคิดว่าถึงเวลาเซียวหยวนจะรังเกียจหมิงจู พอคิดว่าลูกเขยที่ตัวเองเฝ้ารอคอยมาตลอดจะไม่ใช่ของตัวเองอีก ท่านป้าสี่ก็ว้าวุ่นใจ รีบพุ่งพรวดออกไป อาศัยจังหวะที่อีกฝ่ายไม่ทันตั้งตัว จู่ๆ ก็คุกเข่าดังตุ้บต่อหน้าเซียวยวี่
เซียวยวี่ที่แบกเซี่ยยวี่หลัวตกใจจนรีบขยับออกด้านข้างสองก้าว “ท่านป้าสี่ นี่ท่าน…”
“เซียวยวี่ เจ้าเองก็แต่งภรรยาแล้ว เจ้าก็ใช้ชีวิตกับภรรยาของเจ้าดีๆ ปล่อยหมิงจูของข้าไปได้หรือไม่? อย่ามาข้องเกี่ยวกับนางอีกเลย ได้หรือไม่? นางเป็นสตรีที่ยังไม่ออกเรือน นางยังต้องแต่งงานอีก! ”
ท่านป้าสี่แสดงท่าทางราวกับกำลังวิงวอนร้องขอ
ดวงตาคู่โตของเซี่ยยวี่หลัวฉายประกายแสงระยิบระยับ วาจาของท่านป้าสี่ เหตุใดถึงฟังดูไม่สมเหตุสมผลนัก?
อะไรคือให้เซียวยวี่อย่าไปข้องเกี่ยวกับเซียวหมิงจู คนที่สายตาเฉียบแหลมต่างดูออก ไม่ใช่เซียวยวี่จะข้องเกี่ยวกับเซียวหมิงจู แต่เป็นเซียวหมิงจูต่างหากที่ตามราวีเซียวยวี่ไม่เลิก!
“หมิงจูของข้าอายุยังน้อย ไม่รู้ความ หากนางทำอะไรผิดไปย่อมเป็นเพราะถูกคนยั่วยุ! นางเป็นเด็กใสซื่อบริสุทธิ์ เมื่อตั้งใจในสิ่งใด ก็จะดีต่ออีกฝ่ายด้วยใจจริง ใครจะรู้ว่าอีกฝ่ายเพียงแค่หยอกนางเล่น นางช่างโง่นัก! ”
เซียวหมิงจูไม่ใช่คนโง่ เห็นมารดาของตนเองใส่ร้ายเซียวยวี่ จึงคิดจะโต้แย้ง แต่พอลองครุ่นคิดอย่างรวดเร็ว จึงกลืนคำโต้แย้งเหล่านั้นกลับเข้าไป ทำไมนางต้องโต้แย้งด้วย?
“ท่านแม่ ลูกรู้สึกเจ็บช้ำใจนัก! เขาเป็นคนบอกว่าเขาจะแต่งงานกับข้า แต่เขากลับไปแต่งกับเซี่ยยวี่หลัว ไม่เอาข้าแล้ว” เซียวหมิงจูร้องไห้ “โฮ” ทันที ท่าทางราวกับถูกบุรุษมากรักหลายใจทำให้เจ็บช้ำน้ำใจ
ทุกคน “…”
หมายความว่า ก่อนหน้านี้เซียวหมิงจูและเซียวยวี่ต่างมีใจให้กัน ทั้งคู่จะพูดคุยเรื่องแต่งงานกันอยู่แล้ว แต่เซียวยวี่กลับไปแต่งกับเซี่ยยวี่หลัว? หลังจากแต่งงานแล้ว ยังจงใจเก็บเซียวหมิงจูไว้อีก?
เหตุใดปกติถึงดูไม่ออกเลยว่าเซียวยวี่จะเป็นคนเช่นนี้!
ท่านป้าสี่ผ่อนลมหายใจยาวด้วยความโล่งอก ยังดีที่บุตรสาวของตัวเองไม่โง่
“เจ้าช่างโง่นัก คนอื่นกล่าวอะไรก็เชื่อตามนั้น เจ้าเป็นหญิงสาวที่ยังไม่ออกเรือน เจ้ารู้หรือไม่ วันนี้เจ้าทำเรื่องโง่เขลา หากเป็นคนที่รู้ ย่อมรู้ว่าเจ้ากับเซียวยวี่ต่างมีใจให้กัน แต่หากไม่รู้เรื่องนี้ชั่วชีวิตนี้เจ้าก็หมดสิ้นแล้ว บุรุษบางประเภท มองดูเหมือนเป็นสุภาพบุรุษ แต่กลับมากรักหลายใจ ร่ำเรียนแล้วก็คิดการซับซ้อน พวกเราไหนเลยจะรู้เท่าทัน! ”
เซียวหมิงจูร่ำไห้แทบขาดใจ ถูกท่านป้าสี่กอดไว้ในอ้อมอก เงยหน้าขึ้นมองเซียวยวี่ เอ่ยถามด้วยน้ำตาอาบเต็มใบหน้า “พี่อายวี่ ท่านลืมความรักระหว่างเราก่อนหน้านี้แล้วหรือ? ”
“พอแล้ว! ”
เซียวยวี่โมโหจนใบหน้าขึ้นสีแดงก่ำก่อนแปรเปลี่ยนเป็นขาวซีด เขาไม่เข้าใจว่าเหตุใดเซียวหมิงจูถึงกลายเป็นเช่นนี้
“ท่านถูกบังคับให้แต่งกับเซี่ยยวี่หลัว ท่านไม่ชอบนางแม้แต่น้อย คนที่ท่านชอบคือข้าต่างหาก! ”
เมื่อเห็นเซียวหมิงจูกล่าวเกินจริงไปไกล เซียวยวี่ใบหน้าแดงก่ำ รีบอธิบายกับเซี่ยยวี่หลัว “อาหลัว ข้าเปล่า…”
ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้เขาโดนบังคับให้แต่งกับเซี่ยยวี่หลัว แต่ก็ไม่เคยบอกกล่าวเรื่องภายในบ้านตัวเองกับคนนอก ยิ่งไม่มีทางเอ่ยถึงความสัมพันธ์ระหว่างเขาและเซี่ยยวี่หลัว
นางเป็นลูกหลานของผู้มีพระคุณ ต่อให้ไม่รัก ก็ไม่มีทางนินทาว่าร้ายตามอำเภอใจ
“ข้าเชื่อเจ้า!” เซี่ยยวี่หลัวกล่าวกับเซียวยวี่ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม