ตอนที่ 658 คนซื่อสัตย์
ตอนที่ 658 คนซื่อสัตย์
พ่อแม่ของชุนฟางจะมาเยี่ยมเยือนบ้านเซี่ย คนตระกูลเซี่ยให้ความสำคัญกับเรื่องนี้อย่างมาก
รถของเซี่ยไห่ถูกชนจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้ซ่อม แน่นอนว่าหลินจินซานไม่อาจขับรถไปรับพวกเขาได้
ต่อให้ซ่อมรถเสร็จ เขาก็ไม่กล้าขับอีกแล้ว
ชุนฟางบอกว่าไม่จำเป็นต้องให้หลินจินซานไปรับ พวกหล่อนจะเดินทางมากันเอง
ทุกคนตื่นแต่เช้าตรู่มาเตรียมความพร้อมรอต้อนรับการมาถึงของพ่อแม่ของชุนฟาง
วันนี้เซี่ยอวี่มีนัดซ้อมบทกับลินดา ฟ้าเพิ่งสว่าง ลินดาก็มารับคนไปแล้ว
เซี่ยไห่อยากตามไปด้วย แต่ถูกเซี่ยอวี่เอ็ดมายกหนึ่ง จึงได้แต่อยู่บ้านอย่างสงบเสงี่ยม
ถึงตอนเที่ยง ชุนฟางก็พาพ่อแม่มาถึง
พวกหลินจินซานรอรับอยู่หน้าประตูบ้านอย่างกระตือรือร้น
หลินจินซานรีบเข้าไปรับข้าวของในมือว่าที่พ่อตากับแม่ยาย
คุณแม่เซี่ยได้ยินเสียงดังมาจากหน้าประตูก็เดินออกมา “พ่อชุนฟาง แม่ชุนฟาง พวกคุณมาถึงแล้วเหรอ? รีบเข้ามาเถอะ”
“คุณป้าเซี่ย สวัสดีค่ะ/ครับ”
พ่อแม่ของชุนฟางเป็นคนสัตย์ซื่อ และนี่ยังเป็นครั้งแรกที่มาเยือนบ้านเซี่ย
เมื่อมาถึงหน้าบ้าน เห็นรถยนต์ของเซี่ยไห่จอดอยู่ตรงนั้น สีหน้าของพวกเขาก็ฉายแววอึดอัดใจมาก
พอเข้ามาเห็นเซี่ยไห่ในบ้านก็ยิ่งประหม่ากว่าเดิม
พวกเขารู้ว่าเซี่ยไห่เป็นเถ้าแก่เจ้าของกิจการ รถยนต์คันนั้นก็เป็นของรักของหวงของเขา
ชุนฟางเดินตามหลินจินซานเข้าไป กล่าวทักทายเซี่ยไห่ว่าอารอง
เซี่ยไห่ยิ้มบางพลางขานรับ
“พี่ชาย พี่สะใภ้ เชิญครับ”
เซี่ยไห่มีท่าทางอ่อนโยนเป็นมิตร พ่อแม่ของชุนฟางกลับละล้าละลัง
เซี่ยเหลยกับหลิวกุ้ยอิงเข้ามาต้อนรับ เชิญพวกเขาเข้าไปในห้องรับแขก
“เชิญนั่ง”
เมื่อคนนั่งลง คนทั้งบ้านก็ยกมะม่วง ต้มชา ยกเมล็ดแตงขนมหวาน เทน้ำผลไม้อย่างอบอุ่นเป็นกันเอง
คุณแม่เซี่ยหยิบขนมหวานป้อนให้ถึงปากชุนฟาง
พ่อแม่ของชุนฟางนั่งอย่างสงบเสงี่ยมอยู่ตรงนั้น ท่าทางประหม่ามาก
“พี่ชาย เชิญดื่มน้ำชาก่อน”
“อืม” พ่อของชุนฟางจิบชา สายตามองไปทางหลินจินซานอย่างระมัดระวัง
เขารวบรวมความกล้าลุกขึ้นยืน มองเซี่ยไห่แล้วเอ่ยอย่างตรงไปตรงมา
“เถ้าแก่เซี่ย ต้องขออภัยจริง ๆ ที่วันนั้นทำให้รถของคุณได้รับความเสียหาย” พ่อของชุนฟางบอก “คุณไปซ่อมรถก่อนได้เลย ถึงตอนนั้นต้องใช้เงินเท่าไหร่ผมกับจินซานจะรับผิดชอบเอง”
เซี่ยไห่คิดไม่ถึงว่าพ่อของชุนฟางจะซื่อสัตย์เช่นนี้ พอเข้ามาก็เอ่ยคำขอโทษทันที
เขาพูดได้เต็มปากว่าจะรับผิดชอบค่าซ่อมรถร่วมกับจินซาน แสดงว่าเป็นคนที่มีความรับผิดชอบ
เซี่ยไห่ทำการค้าเคยพบคนมานับไม่ถ้วน คนประเภทไหนล้วนเคยเห็นมาหมดแล้ว
เขาชื่นชมคนซื่อสัตย์มากที่สุด
“พี่ชาย ดูคุณพูดเข้าสิ ผมจะให้คุณรับผิดชอบค่าซ่อมรถได้ยังไง? ไม่มีอะไรมากหรอก ผมซ่อมเองก็ได้ ไม่ต้องคิดมาก จินซานกลับมาพูดกับพวกเราแล้ว เรื่องนี้มีที่ไปที่มา ต่อไปผมแค่ไม่ให้เขาขับอีกก็พอ”
พ่อของชุนฟางรีบพูดต่อ “ใช่แล้ว ต่อไปอย่าให้เขาขับรถอีก ค่าซ่อมแพงเกินไป ขับส่งเดชไม่ได้หรอก”
ตอนที่หลินจินซานขับรถยนต์ไปสวัสดีปีใหม่ที่บ้านเขา เขาเห็นแล้วก็มือชุ่มเหงื่อไปหมด
หลินจินซานเข้าไปในบ้าน เขาก็ออกไปช่วยเฝ้ารถให้ด้วยตัวเอง เพราะกลัวว่าจะถูกคนเฉี่ยวชนแล้วชดเชยไม่ไหว
คิดไม่ถึงว่าสุดท้ายก็ชนเข้าจนได้
ดังนั้นพ่อของชุนฟางจึงเห็นด้วยอย่างยิ่งกับเรื่องที่ไม่ให้หลินจินซานขับรถอีกแล้ว
เพียงเพื่อภาพลักษณ์จอมปลอม แลกกับการต้องหายใจไม่ทั่วท้องแบบนี้ ไม่คุ้มเลยสักนิด
เมื่อเห็นว่าเซี่ยไห่ไม่ได้กล่าวโทษ พวกเขาค่อยวางใจได้เสียที
คุณแม่เซี่ยกับเซี่ยเหลยยิ้มพูดคลี่คลายบรรยากาศ
“เด็กสองคนนี้มีใจตรงกัน ทุกด้านล้วนเหมาะสมกันขนาดนี้ พวกเราเห็นแบบนี้ก็ดีใจ ครอบครัวฉันชอบชุนฟางมาก จินซานได้แฟนที่ดีขนาดนี้นับว่าเป็นวาสนาของเขา”
แม่ของชุนฟางมองหลินจินซานแวบหนึ่งแล้วเริ่มเอ่ยชมเขา “จินซานก็ไม่เลวเหมือนกัน ขยันขันแข็ง สดใสร่าเริง ชุนฟางของพวกเราเป็นคนสงบเงียบเกินไป ฉันหวังมาตลอดว่าหล่อนจะหาแฟนที่มีนิสัยร่าเริงสักคน คิดไม่ถึงว่าจะพบเข้าจริง ๆ”
หลิวกุ้ยอิงได้ยินว่าว่าที่พ่อตาแม่ยายของหลินจินซานกำลังชมเขา หล่อนก็ยิ้มพูด “ในเมื่อเป็นแบบนี้ก็จัดการเรื่องของเด็กสองคนนี้แต่เนิ่น ๆ เถอะ ผู้ใหญ่อย่างพวกเราจะได้วางใจได้เสียที”
พ่อของชุนฟางเอ่ยเสียงเข้มขรึม “เรื่องนี้พวกเราเคารพความคิดของชุนฟาง พวกเราชอบจินซานเด็กคนนี้มาก แต่ครอบครัวพวกเราเป็นเพียงชนชั้นเงินเดือนธรรมดาเท่านั้น ฐานะทางบ้านก็เป็นแบบนี้
เรื่องรถชนคราวก่อน จินซานคงเล่าให้พวกคุณฟังแล้ว พวกเราก็ไม่สะดวกจะพูดอะไรมากกับญาติบางคน เอาเป็นว่าครอบครัวของพวกเราก็เป็นแบบนี้ ผมรู้ว่าฐานะของพวกคุณดีกว่าพวกเรามาก ดังนั้นพวกเราจึงหวังว่าพวกคุณจะใคร่ครวญให้รอบคอบ ถ้าจินซานเลือกลูกสาวของพวกเราจากใจจริง มันก็จะกลายเป็นเรื่องชั่วชีวิต ไม่อาจมีความคิดแบบอื่นอีกแล้ว ไม่อย่างนั้นคนเป็นพ่ออย่างผมคงจะรับปากไม่ได้”
หลิวกุ้ยอิงพูด “พวกเราก็เคยลำบากมาก่อนเหมือนกัน จินซานเติบโตมาในหมู่บ้านชนบท ปีก่อนเพิ่งเข้ามาอยู่ในเมือง เขามีชื่อในทะเบียนบ้านเขตชนบท[1] แต่ว่าเด็กคนนี้สมองไว เอาการเอางาน ตอนนี้ทำงานอยู่ในห้องเต้นรำของอารองของเขา ฉันคิดว่าเด็กสองคนนี้เป็นคนขยันขันแข็ง ทั้งยังเหมาะสมกันมาก ต่อไปพอแต่งงานแล้ว ขอแค่พวกเขาตั้งใจทำงานจะต้องมีชีวิตที่ไม่แย่แน่นอน”
ในฐานะที่หลิวกุ้ยอิงเป็นแม่ของหลินจินซาน คำพูดของหล่อนได้แฝงความนัยไว้ชัดเจนอย่างมาก ว่าฐานะทางบ้านของตระกูลเซี่ยจะดีแค่ไหนก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับหลินจินซานมากนัก
พ่อแม่ของชุนฟางไม่มีความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ สิ่งที่พวกเขาให้ความสำคัญคือนิสัยใจคอของคนผู้นั้นต่างหาก
“ได้ ในเมื่อเด็กสองคนนี้มั่นใจว่าเป็นกันและกันแล้ว พวกเราที่เป็นผู้ใหญ่ก็มีแต่จะอวยพรให้พวกเขา”
พ่อแม่ของชุนฟางเป็นคนซื่อสัตย์มาก แม้จะดูธรรมดา แต่พวกเขาจิตใจดีใช้ชีวิตเรียบง่าย ทัศนคติก็ดี
การพบหน้ากันครั้งนี้ คนสกุลเซี่ยรู้สึกดีกับพวกเขามาก
“พี่ชาย พี่สะใภ้ ชุนฟางคงเล่าเรื่องของจินซานให้พวกคุณฟังแล้วใช่ไหมคะ?” หลิวกุ้ยอิงคิดว่าในเมื่อเจรจาเรื่องมงคลกันเรียบร้อยแล้ว ก็ควรให้พ่อแม่ของชุนฟางรับรู้เรื่องชาติกำเนิดของหลินจินซานเอาไว้ด้วย
ได้ยินคำพูดของหลิวกุ้ยอิงแล้ว พ่อของชุนฟางพยักหน้า “เล่าแล้ว จินซานเป็นเด็กน่าสงสารจริง ๆ”
คุณแม่เซี่ยได้ยินคำของหลิวกุ้ยอิงก็พูดอย่างไม่พอใจ “กุ้ยอิง จะพูดเรื่องนี้ขึ้นมาทำไม? เสี่ยวเหลยเห็นจินซานเป็นเหมือนลูกชายแท้ ๆ ในสายตาฉัน จินซานก็คือหลานชายคนโต ต่อไปชุนฟางก็คือหลานสะใภ้ของฉัน แต่งเข้ามาแล้วก็เป็นคนในครอบครัวของเรา”
คุณแม่เซี่ยรีบแสดงจุดยืน “พวกคุณวางใจเถอะ พวกเราจะไม่บกพร่องต่อชุนฟางแน่นอน”
ใบหน้าสัตย์ซื่อของพ่อชุนฟางประดับไว้ด้วยรอยยิ้ม น้ำเสียงอบอุ่น “พวกเราเชื่อ พวกคุณเป็นคนสมถะจิตใจดีมาก จุดนี้เป็นเรื่องที่พวกเราให้ความสำคัญมากที่สุด ชุนฟางเป็นเด็กน่ารัก เมื่อก่อนผลการเรียนไม่ค่อยดี ต่อมาไปเรียนรู้วิชาชีพในร้านตัดผมของรัฐ เรียนได้ครึ่งปีแต่แค่สระผมยังไม่สะอาด หลังจากนั้นก็มาทำงานกับเถ้าแก่หลิน หล่อนจึงค่อยเรียนจนจบหลักสูตร ตอนนี้มีหน้าที่การงานที่มั่นคง เรื่องนี้ต้องขอบคุณเถ้าแก่หลิน”
หนี่งปีมานี้ เงินเดือนแต่ละเดือนของชุนฟางเทียบเท่าได้กับเงินเดือนของพวกเขาสองสามีภรรยาแล้ว
ได้ยินว่าคำนวณตามสัดส่วนรายได้ของร้านตัดผม
สำหรับครอบครัวคนธรรมดาของพวกเขาแล้ว การที่ลูกสาวมีรายได้แบบนี้เป็นเรื่องน่ายินดีอย่างยิ่ง
ตอนนี้ยังคบหากับพี่ชายของเถ้าแก่หลินอีก
ว่าที่พ่อแม่สามียังมีกิจการเป็นของตัวเอง
ทั้งครอบครัวไม่มีใครอยู่ว่างสักคน แต่ละคนล้วนมีฝีมือหาเงินได้
ดังนั้นจึงทำให้พวกญาติ ๆ ที่อยากมาพึ่งพาใบบุญแต่ไม่สำเร็จต่างอิจฉาตาร้อน
จนทำให้รถยนต์ของเซี่ยไห่ไปชนเสียหาย
ที่มาเยี่ยมเยือนวันนี้ พวกเขาตั้งใจมาอธิบายและขอโทษเซี่ยไห่
พ่อแม่ของชุนฟางได้ยินเรื่องชาติกำเนิดของหลินจินซานจากปากชุนฟางแล้ว
พวกเขารู้ว่าเซี่ยไห่ไม่ใช่อาแท้ ๆ ของหลินจินซาน
คนหนุ่มสาวชอบเป็นจุดสนใจ จะหลงใหลในชื่อเสียงหน้าตา พวกเขาเข้าใจได้
พวกเขายังเข้าใจว่าหลินจินซานอยากให้ครอบครัวพวกเขามีหน้ามีตาจึงเอารถของเซี่ยไห่ไปขับ
แต่กลับเอารถไปชนเข้า
พ่อแม่ของชุนฟางกลัวว่าเซี่ยไห่จะไม่พอใจหลินจินซานเพราะเรื่องนี้
ดังนั้น พวกเขาจึงมาขอโทษ อธิบายความเป็นมาของเรื่องราว ถ้าจำเป็น พวกเขาก็จะช่วยออกค่าซ่อมรถร่วมกับหลินจินซาน
คิดไม่ถึงว่าเซี่ยไห่จะใจกว้างไม่ถือสาหาความเช่นนี้
ดูออกว่าคนตระกูลเซี่ยปฏิบัติต่อหลินจินซานเฉกเช่นผู้เยาว์ในบ้านอย่างแท้จริง
เมื่อเป็นเช่นนี้ ต่อไปลูกสาวของพวกเขาแต่งเข้าไปแล้วก็คงสามารถปรับตัวเข้ากับครอบครัวใหม่ได้
พ่อแม่ของชุนฟางยังสังเกตบรรยากาศการอยู่ร่วมกันระหว่างคนตระกูลเซี่ยอย่างกลมกลืน
ในภาพรวมแล้ว พวกเขาพึงพอใจมาก
พ่อของชุนฟางถามเซี่ยเหลย “จริงสิ เถ้าแก่หลินไม่ได้มาหรือครับ?”
………………………………………………………………………………………………………………………
[1] จีนแบ่งทะเบียนบ้านเป็นแบบเขตเมืองและเขตชนบท แต่ละแบบจะได้รับสวัสดิการแตกต่างกัน
สารจากผู้แปล
ครอบครัวชุนฟางดูซื่อสัตย์ดีนะคะ แต่งกันแล้วไม่น่าจะเดือดร้อนนัก
ไหหม่า(海馬)