ตอนที่ 696 ตลาดวัสดุก่อสร้างเปิดทำการ(1)
……….
ตอนที่ 696 ตลาดวัสดุก่อสร้างเปิดทำการ(1)
เมื่อได้ยินเซี่ยปิงชิงพูดเช่นนี้ เซี่ยปิงหรุ่ยก็จ้องมองด้วยสายตาไม่พอใจพร้อมกับกล่าวว่า “ฉันพูดความจริงทั้งนั้น ยิ่งไปกว่านั้นต่อให้ฟู่โฮ่วหลิ่นไม่ได้จัดการเรื่องนี้ ฉันก็จัดการกับแม่ลูกคู่นั้นได้อยู่ดี”
เมื่อเอ่ยถึงแม่เลี้ยงและน้องชายต่างมารดาของฟู่โฮ่วหลิ่นแล้ว เซี่ยปิงหรุ่ยก็รู้สึกไม่พอใจขึ้นมา
“พวกเธอไม่รู้หรอกว่าแม่เลี้ยงตัวร้ายของฟู่โฮ่วหลิ่นน่ะน่าขยะแขยงขนาดไหน หล่อนเป็นอดีตคู่หมั้นของพี่ชายแท้ ๆ ของฟู่โฮ่วหลิ่น หลังจากที่พี่ชายของเขาเสียชีวิตไปไม่กี่วัน หล่อนก็ไปคบหากับพ่อแท้ ๆ ของฟู่โฮ่วหลิ่น แล้วก็กลายมาเป็นแม่เลี้ยงของเขาในทันที ผู้หญิงคนนั้นทำแบบนี้ได้ยังไงกัน”
ฉินมู่หลานและเซี่ยปิงชิงก็พอจะทราบเรื่องราวคร่าว ๆ อยู่บ้าง แต่ไม่รู้รายละเอียดมากนัก เมื่อได้ยินเรื่องนี้ก็รู้สึกประหลาดใจ
เซี่ยปิงหรุ่ยเล่าต่อไปโดยไม่สนใจ “ยังไม่หมดแค่นั้น ตั้งแต่ที่แม่เลี้ยงคนนั้นเข้ามาอยู่ในบ้านตระกูลฟู่ หล่อนก็ทำเรื่องน่ารังเกียจมาหลายอย่าง ที่ฟู่โฮ่วหลิ่นไม่กลับมาช่วงหลายปีที่ผ่านมาก็เพราะไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับคนในครอบครัว พอได้ฟังพวกเราเกลี้ยกล่อมถึงได้กลับไปบ้านตระกูลฟู่ สิ่งของที่เป็นของเขา ฉันจะยอมให้แม่เลี้ยงและลูกชายได้ยังไง”
เมื่อเห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจของเซี่ยปิงหรุ่ย ฉินมู่หลานก็อดรู้สึกอยากรู้อยากเห็นไม่ได้
“เธอเคยเจอแม่เลี้ยงของฟู่โฮ่วหลิ่นแล้วเหรอ?”
เซี่ยปิงหรุ่ยพยักหน้า “เคยเจอแล้ว และฉันก็ได้ติดต่อกับฟู่โฮ่วหลิ่นบ่อย ๆ ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะเธอด้วย”
เดิมทีเซี่ยปิงหรุ่ยและฟู่โฮ่วหลิ่นไม่ได้ติดต่อกันแล้ว แต่ครั้งหนึ่งที่เซี่ยปิงหรุ่ยไปที่ถนนคนเดิน ก็ได้พบกับฟู่โฮ่วหลิ่นและแม่เลี้ยงของเขาพอดี เมื่อเห็นฟู่โฮ่วหลิ่นโดนดูถูกต่อหน้าธารกำนัล เซี่ยปิงหรุ่ยก็อดรนทนไม่ไหวและเข้าไปช่วยเหลือ จึงทำให้ทั้งสองได้ติดต่อกันอีกครั้ง
เซี่ยปิงชิงเอ่ยถาม “พี่พูดจริงเหรอ แน่ใจนะว่าเลือกฟู่โฮ่วหลิ่น”
เซี่ยปิงหรุ่ยพยักหน้าพร้อมกับยิ้ม “อืม ฉันว่าเขาดีนะ”
“งั้นก็ตามใจพี่แล้วกัน แต่ฉันว่าพี่ควรบอกพ่อแม่ล่วงหน้าดีกว่า เพราะถ้าบอกทีหลังอาจทำให้พ่อแม่ไม่ประทับใจในตัวฟู่โฮ่วหลิ่น”
เมื่อนึกถึงที่ฟู่โฮ่วหลิ่นบอกว่าจะไปที่ซีอานด้วยตัวเอง เซี่ยปิงชิงก็รู้สึกว่าเป็นไปได้ “พวกพี่สองคนไปด้วยกันก็ได้นะ”
เซี่ยปิงหรุ่ยครุ่นคิดอย่างจริงจัง “ก็ดีเหมือนกัน ฉันจะคุยกับฟู่โฮ่วหลิ่นอีกที”
สุดท้ายเซี่ยปิงหรุ่ย เซี่ยปิงชิง เจี่ยงสือเหิงก็กลับไปด้วยกัน ขณะที่ฉินมู่หลานและเซี่ยเจ๋อหลี่ก็กลับบ้านด้วยกัน
“จริง ๆ ไม่คิดเลยว่าปิงหรุ่ยจะคบหากับฟู่โฮ่วหลิ่น”
เซี่ยเจ๋อหลี่เองก็ประทับใจในตัวฟู่โฮ่วหลิ่นมาก
“ฟู่โฮ่วหลิ่นมีความสามารถมาก ก่อนหน้านี้ที่ได้รับบาดเจ็บก็เพราะไปปฏิบัติภารกิจสำคัญ และเมื่อเขาไม่คิดจะกลับซีหนานแล้ว ดังนั้นถ้าอยากจะอยู่ในปักกิ่งก็ทำได้ไม่ยาก ยิ่งกว่านั้นด้วยประสบการณ์ของเขา เมื่อเขามาอยู่ที่นี่ก็จะได้รับการเลื่อนตำแหน่งอย่างแน่นอน”
เมื่อได้ยินเซี่ยเจ๋อหลี่พูด ฉินมู่หลานก็พยักหน้าอย่างเห็นด้วย “แค่ฟู่โฮ่วหลิ่นเป็นคนดีก็พอแล้ว”
แต่สิ่งที่เซี่ยเจ๋อหลี่ไม่คาดคิดก็คือ ในวันถัดมาเขาก็ได้พบกับฟู่โฮ่วหลิ่นในกองทัพ
ถูไคหัวแนะนำทุกคนพร้อมรอยยิ้มว่า “ท่านนี้คือ สหายฟู่โฮ่วหลิ่น พวกคุณคงเคยได้ยินชื่อของเขากันมาแล้ว ต่อจากนี้เขาจะเป็นสมาชิกของเรา พวกคุณทุกคนทำความรู้จักกันไว้ให้ดี”
ตอนท้ายถูไคหัวก็หันไปพูดกับถูเฉิงเสียง “เฉิงเสียง วันนี้นายพาโฮ่วหลิ่นไปทำความคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมที่นี่ให้ทั่ว” เขารู้ว่าหลานชายของเขากับฟู่โฮ่วหลิ่นสนิทกันมาตั้งแต่เด็ก ดังนั้นจึงมอบหมายภารกิจนี้ให้หลานชาย
“ครับ”
ถูเฉิงเสียงรับคำทันที
หลังจากที่ถูไคหวามอบหมายภารกิจเสร็จ ก็ปล่อยให้พวกเขาพาฟู่โฮ่วหลิ่นกลับไป
ระหว่างทาง ถูเฉิงเสียงอดไม่ได้ที่จะหันไปมองฟู่โฮ่วหลิ่นแล้วพูดว่า “นี่ เมื่อคืนเรากินข้าวด้วยกัน แต่นายกลับไม่บอกสักคำว่าวันนี้จะมา ปกปิดมิดชิดขนาดนี้เลย”
ฟู่โฮ่วหลิ่นรีบอธิบายว่า “ไม่ใช่ว่าฉันตั้งใจจะปกปิด แต่ฉันยังไม่ได้กำหนดเวลาที่แน่นอนว่าจะมารายงานเมื่อไหร่ เพราะฉันคิดจะพาปิงหรุ่ยกลับซีอานก่อน แต่ใครจะรู้ว่าจะมีการเปลี่ยนแผน ก็เลยต้องมาที่นี่เร็วกว่าที่คิด”
หลังจากได้ยินคำอธิบายนี้ ถูเฉิงเสียงถึงไม่ซักไซ้อะไรอีก
ฟู่ซวี่ตงที่เดินอยู่ด้านข้างไม่คุ้นเคยกับฟู่โฮ่วหลิ่นนัก เมื่อเห็นว่าแม้แต่เซี่ยเจ๋อหลี่ก็ดูจะคุ้นเคยกับเขามากกว่าจึงถามว่า “พวกนายทั้งสองรู้จักกันเหรอ?”
ถูเฉิงเสียงอธิบายพร้อมรอยยิ้ม “ฉันกับโฮ่วหลิ่นรู้จักกันตั้งแต่เด็กแล้ว ส่วนอาหลี่เมื่อคืนมากินข้าวด้วยกัน ดังนั้นก็ถือว่ารู้จักกันแล้ว”
จากนั้นเขาก็เล่าเรื่องที่ฉินมู่หลานรักษาฟู่โฮ่วหลิ่นให้ฟัง
ฟู่ซวี่ตงได้ยินเช่นนั้นแล้วพยักหน้ากล่าวว่า “ถ้าอย่างนั้นตอนนี้เราก็เป็นพี่น้องร่วมสายเลือดแล้ว”
ฟู่โฮ่วหลิ่นเห็นฟู่ซวี่ตงเป็นคนโผงผางเช่นกัน จึงพูดพลางหัวเราะว่า “ใช่แล้ว พี่น้องร่วมสายเลือด”
อีกฟากหนึ่ง ฉินมู่หลานที่พักอยู่ที่บ้านก็ได้รับข่าวจากฉินเคอวั่ง
ตลาดวัสดุก่อสร้างจะเปิดทำการในเร็ว ๆ นี้ ฉินเคอวั่งจึงถามเธอว่าจะไปเซินเจิ้นด้วยไหม
เมื่อคิดถึงน้องชายที่เพิ่งได้มีธุรกิจเป็นครั้งแรก ฉินมู่หลานก็ตั้งใจจะไปอยู่แล้ว จึงบอกเรื่องนี้แก่ซูหว่านอี๋
ซูหว่านอี๋ฟังแล้วก็พูดทันทีว่า “แม่ไปด้วย”
อย่างไรก็ตาม นั่นก็เป็นตลาดวัสดุก่อสร้างที่ลูกชายถือหุ้น ทุกคนควรไปให้การสนับสนุนลูกชาย
เหยาจิ้งจือทราบเรื่องแล้วก็ตัดสินใจที่จะไปเซินเจิ้นเช่นกัน อย่างไรที่นั่นก็มีธุรกิจของลูกชายคนโต ลูกชายคนโตตัดสินใจลาออกจากงานเพื่อไปเสี่ยงโชคที่เซินเจิ้น ไปเยี่ยมหน่อยก็ดี และหลี่เสวี่ยเยี่ยนก็ตัดสินใจที่จะไปด้วยเช่นกัน เพราะตอนนี้อยู่ในช่วงปิดเทอม หล่อนสามารถพาลูกชายอย่างเสี่ยวอวี่ไปด้วยได้
เมื่อเห็นว่ามีคนมากมายจะไปเซินเจิ้น ฉินมู่หลานจึงตั้งใจจะพาชิงชิงและเฉินเฉินไปด้วย อย่างไรก็ตาม คุณนายเหยาคิดว่าถวนถวนและหยวนหยวนยังเล็กเกินไปจึงไม่ให้พาไปด้วย
“มู่หลาน พวกเราจะดูแลถวนถวนและหยวนหยวนให้เอง หนูไปเซินเจิ้นกันเถอะ ทั้งสองยังเด็กไม่ต้องพาไปหรอก”
ซูหว่านอี๋ก็มีความกังวลเช่นกัน “นั่นสิมู่หลาน ให้ถวนถวนและหยวนหยวนอยู่ที่บ้านเถอะ”
ฉินมู่หลานครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็พยักหน้าเห็นด้วย ตั้งใจว่าจะรอให้ทั้งสองโตกว่านี้ แล้วค่อยพาไปเที่ยวไกล ๆ อย่างไรก็ตาม เมื่อนึกถึงเกาเชี่ยนเชี่ยน เธอรู้สึกว่าต้องบอกเรื่องนี้กับอีกฝ่าย
แต่ยังไม่ทันที่ฉินมู่หลานจะออกเดินทาง เกาเชี่ยนเชี่ยนก็มา
“พี่มู่หลาน ฉันได้ยินเคอวั่งพูดว่าตลาดวัสดุก่อสร้างจะเปิดทำการในเร็ว ๆ นี้ ฉันเลยตั้งใจจะไปเซินเจิ้นอีกครั้งเพื่อเข้าร่วมพิธีเปิด”
เมื่อได้ยินเช่นนั้นฉินมู่หลานก็หัวเราะออกมาทันที
“ช่างบังเอิญเสียจริง พวกเราก็ตั้งใจจะพูดเรื่องนี้พอดี พวกเราก็จะไปเซินเจิ้นเหมือนกัน เราไปด้วยกันเลยดีไหม”
“ได้เลย”
หลังจากตกลงเวลากันเรียบร้อย ฉินมู่หลานก็รีบจัดการเรื่องต่าง ๆ ให้เรียบร้อยและค่อยบอกเซี่ยเจ๋อหลี่
พอรู้ว่าฉินมู่หลานจะไปแค่ไม่กี่วัน เซี่ยเจ๋อหลี่ก็พยักหน้า “ได้ พวกคุณไปเซินเจิ้นได้อย่างสบายใจได้เลย ผมจะแวะเวียนกลับมาที่บ้านทุกคืน”
“เอาตามนั้นก็ได้ค่ะ”
ฉินมู่หลานพยักหน้าพร้อมรอยยิ้ม พอเซี่ยเจ๋อหลี่เผลอเธอก็หอมแก้มเขาหนึ่งฟอด สุดท้ายก็หันหลังเดินไป “งั้นฉันกลับก่อนนะ”
เซี่ยเจ๋อหลี่ยิ้มตามหลังฉินมู่หลานที่เดินจากไป
และเมื่อฉินมู่หลานกลับมาถึงบ้าน เธอก็จัดการเก็บของทันที ชิงชิงกับเฉินเฉินก็จะไปด้วย เลยต้องเตรียมของเยอะหน่อย แต่โชคดีที่พวกเขาไปแค่ไม่กี่วัน ฉินมู่หลานจึงจัดการเก็บกระเป๋าลากใบใหญ่ใบเดียว
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
น้องชายเปิดกิจการกันทั้งที ก็ต้องไปให้กำลังใจกันหน่อย
ไหหม่า(海馬)
……….