ตอนที่ 692 เดินทางกลับ(2)
……….
ตอนที่ 692 เดินทางกลับ(2)
เมื่อเข้ามาข้างในบ้าน ฉินมู่หลานก็พบว่าคุณปู่คุณย่าฉินกับนายท่านเหยาคุณนายเหยาได้ารวมตัวกันอย่างพร้อมหน้า
“มู่หลาน โครงการก่อสร้างตลาดวัสดุก่อสร้างเป็นยังไงบ้าง?”
พอได้ยินนายท่านเหยาถามแบบนี้ ฉินมู่หลานก็เล่าสถานการณ์ให้ฟังโดยละเอียด ท้ายที่สุดก็พูดว่า “ตอนนี้ทางนั้นมีพี่ใหญ่กับเคอวั่งคอยดูแลอยู่ แล้วก็เตรียมงานเบื้องต้นเสร็จสิ้นไปเกือบหมดแล้ว พวกเขาสองคนเก่งอยู่แล้ว ไม่มีปัญหาแน่นอนค่ะ”
พอเห็นฉินมู่หลานพูดแบบนี้ นายท่านเหยาก็ไม่ได้ซักถามอะไรอีก เขาเชื่อในความสามารถของหลานสะใภ้ ถ้าเธอว่าไม่เป็นไรก็คงไม่เป็นไร
คุณย่าฉินไม่ได้คิดมากมาย นางไม่เข้าใจเรื่องอะไรแบบนี้ รู้เพียงหลานสาวกลับมาแล้ว ช่วงที่ไปต่างเมืองคงเหนื่อยยาก “มู่หลาน มื้อเย็นเตรียมไว้เสร็จแล้ว รีบไปกินข้าวเถอะ ถ้ารู้ว่าหนูจะกลับมาวันนี้ ย่าจะได้ทำอาหารที่ชอบไว้ให้”
ได้ยินดังนั้นฉินมู่หลานก็หัวเราะตอบ “ได้ค่ะ จะไปเดี๋ยวนี้ค่ะ”
เมื่อทุกคนมาถึงห้องกินข้าวแล้ว ต่างก็นั่งลงรับประทานอาหารทันที
อาหารการกินแถบเซินเจิ้นช่างต่างจากปักกิ่งโดยสิ้นเชิง เพราะช่วงที่ผ่านมาฉินมู่หลานกินอาหารที่นู่นมาเป็นเวลานาน เธอจึงคิดถึงรสชาติอาหารแถวนี้จริง ๆ เธอกินข้าวไปถึงสองชามจึงวางตะเกียบ
ซูหว่านอี๋เห็นว่าลูกสาวกินจนอิ่มก็รู้สึกดีใจ จากนั้นก็รีบเร่งให้เธอไปพักผ่อน
เหยาจิ้งจือก็พูดตามมาว่า “ใช่แล้วมู่หลาน รีบไปพักผ่อนเถอะ เดินทางมาไกลคงเหนื่อยแย่”
“ค่ะ งั้นพวกเราขอตัวไปห้องก่อนนะคะ”
ฉินมู่หลานและเซี่ยเจ๋อหลี่พาเด็ก ๆ ตรงไปยังเรือนด้านหลัง
“มู่หลาน ไปล้างหน้าล้างตาก่อนสิ แล้วค่อยไปนอนพัก”
“อื้ม”
หลังจากที่ฉินมู่หลานล้างหน้าเสร็จก็ขึ้นเตียงนอน ในตอนแรกเธอยังคิดจะคุยเล่นกับเด็ก ๆ แต่กลับเผลอหลับไปเสียอย่างนั้น
เซี่ยเจ๋อหลี่เห็นภรรยาหลับไปไวขนาดนี้ ก็รู้ว่าเธอคงเหนื่อยจริง ๆ เขาเลยพาเด็ก ๆ คุยเล่นกันเบาๆ จนเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมก็พาเด็ก ๆ เข้านอน
เมื่อฉินมู่หลานตื่นขึ้นมา ก็เป็นเวลาเก้าโมงกว่าแล้วในวันถัดมา
“มู่หลาน เมื่อคืนนอนหลับสบายดีไหม?”
ตอนที่ฉินมู่หลานตื่นขึ้น ซูหว่านอี๋ก็มาพอดี
“แม่คะ เมื่อคืนนอนหลับสบายไหม แล้วเด็ก ๆ กับอาหลี่ล่ะคะ?”
“อาหลี่ไปทำงานแล้ว ส่วนเด็ก ๆ อยู่กับคุณปู่คุณย่า” ซูหว่านอี๋แค่มาดูว่าลูกสาวตื่นหรือยัง เมื่อเห็นว่าเธอตื่นแล้ว ก็เลยรีบเร่งให้เธอไปกินข้าวเช้า
“ค่ะ หนูจะไปเดี๋ยวนี้เลยค่ะ”
ฉินมู่หลานล้างหน้าแปรงฟันเสร็จก็ไปกินข้าวเช้า จากนั้นก็เล่นกับลูก ๆ สักพักก่อนจะไปร้านซิ่งหลิน
“มู่หลาน กลับมาแล้วเหรอ?”
เซี่ยปิงชิงและคังอันเหอเห็นฉินมู่หลานกลับมาก็ดีใจ
“ใช่ กลับมาแล้ว ช่วงนี้เป็นยังไงบ้าง ยุ่งไหม?”
คังอันเหอพยักหน้ารัว ๆ แล้วพูดว่า “ยุ่ง ช่วงนี้ยุ่งมาก ถ้าไม่มีคุณปู่คอยช่วยกันจ่ายยา ฉันคงจะยุ่งจนทำไม่ทัน”
ตอนแรกคนส่วนใหญ่มาเพื่อซื้อยาเฉยๆ แต่พอมาที่ร้านซิ่งหลินแล้วก็รู้ว่ามีหมอประจำร้านอย่างผู้อาวุโสลั่วที่เป็นหมอที่มีฝีมือดีเยี่ยม แม้แต่หมอแผนโบราณในโรงพยาบาลก็ยังเก่งไม่เท่า ดังนั้นคนจำนวนมากจึงมาที่นี่เพื่อรักษาอาการป่วย ยิ่งไปกว่านั้นยังมีฉินมู่หลานเป็นป้ายโฆษณาอีก คนจำนวนมากจึงพากันมาที่ร้านซิ่งหลินราวกับว่าที่นี่เป็นคลินิกรักษา
“มู่หลาน ผู้อาวุโสลั่วน่าจะต้องพักผ่อนสักหน่อยนะ ตั้งแต่มาอยู่ที่ร้านซิ่งหลินเขาก็ยุ่งตลอดเลย”
เมื่อได้ยินเช่นนั้นฉินมู่หลานก็รีบพูดว่า “ต้องพักนะ ต้องพัก”
ผู้อาวุโสลั่วอายุมากแล้ว ถ้าต้องยุ่งอยู่แบบนี้ทุกวัน ฉินมู่หลานก็คงจะต้องเป็นห่วงสุขภาพของเขามาก เมื่อคิดได้ดังนั้น เธอก็หันไปมองผู้อาวุโสลั่วแล้วพูดว่า “คุณปู่ งั้นวันนี้คุณปู่กลับไปพักเถอะค่ะ ปู่น่าจะรู้สึกเหนื่อยมาสักพักแล้ว หนูดูร้านต่อเองค่ะ”
เมื่อได้ยินฉินมู่หลานพูดเช่นนั้นผู้อาวุโสลั่วจึงไม่เกรงใจ
“ได้ งั้นฉันกลับก่อนนะ ช่วงนี้เหนื่อยจริงๆ ตั้งใจว่าจะพักสามวัน”
ผู้อาวุโสลั่วได้ยินดังนั้นก็หัวเราะออกมา “ใช่ ยังเรียกปิงหรุ่ยมาได้นี่นะ ช่วงนี้ก็ไม่รู้ว่าหล่อนกำลังยุ่งอยู่กับอะไร ไม่ได้เจอหล่อนมาหลายวันแล้ว”
หลังจาดพูดคุยกับฉินมู่หลานอีกสองสามประโยค ผู้อาวุโสลั่วก็กลับไป
และในจังหวะนั้นคุณปู่ฉินก็เดินเข้ามาข้างหน้าและพูดด้วยเสียงลังเล “มู่หลาน ถ้ามีคนมาด้วยอาการป่วยเล็กน้อย ปู่ช่วยตรวจอาการได้นะ”
“ได้เลยค่ะ”
ฉินมู่หลานพยักหน้ารับทันที
แม้คุณปู่ฉินจะไม่เชี่ยวชาญในการรักษาอาการที่ซับซ้อน แต่สำหรับอาการทั่วไปแล้วไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน เพราะอย่างไรก็ได้ตรวจคนไข้มานานหลายปี จึงไม่มีปัญหาต่ออาการเล็กน้อยทั่วไป
คุณปู่ฉินไม่คาดคิดว่าหลานสาวจะตอบตกลงทันที ใบหน้าของเขาจึงเต็มไปด้วยความตื่นเต้น
“จริงเหรอ”
“จริงสิคะ” ฉินมู่หลานพูดพลางหัวเราะ “เดี๋ยวมีคนไข้มา ให้คุณปู่มาช่วยจับชีพจร”
คุณปู่ฉินกระตือรือร้นอย่างมาก รอจนกระทั่งมีคนมา เขาก็เริ่มช่วยตรวจอาการให้ทันที แต่คุณปู่มีขอบเขต เขาจะจ่ายยาให้ก็ต่อเมื่อมั่นใจเต็มที่เท่านั้น แต่ถ้ายังไม่แน่ใจนัก เขาก็จะให้อาหารมาตรวจอาการอีกครั้ง
เมื่อถึงเวลานั้น ฉินมู่หลานก็จะอธิบายอาการของคนไข้ให้เขาฟังอย่างละเอียด
แต่แขกที่มาวันนี้หลายคนมักจะซื้อยาโดยตรง คนไข้ที่มาให้ตรวจอาการนั้นมีไม่มากนัก ดังนั้นคุณปู่ฉินจึงรู้สึกสบายๆ ยิ่งไปกว่านั้น ฉินมู่หลานก็รู้สึกสบายๆ เช่นกัน
เมื่อคังอันเหอเห็นว่าวันนี้เป็นวันที่ได้พักอย่างแท้จริง จึงพูดกับฉินมู่หลานพลางหัวเราะ “มู่หลาน นับตั้งแต่ที่เธอกลับมา เหมือนว่าเธอดูผ่อนคลายขึ้นนะ”
“รู้สึกผ่อนคลายก็ดีนะ พวกเธอทุกคนจะได้รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น”
“ก็จริง”
พอใกล้ถึงเวลานัด ฉินมู่หลานก็กลับบ้านพร้อมกับคุณปู่ฉิน ช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ฉินมู่หลานไปที่ร้านซิ่งหลินทุกวันเพื่อช่วยคุณปู่ฉินในการตรวจรักษาคนไข้
ช่วงไม่กี่วันนี้คุณปู่ฉินมีความสุขมาก นอกจากได้ช่วยตรวจรักษาคนไข้แล้ว ยังได้เรียนรู้สิ่งต่าง ๆ มากมายจากหลานสาวด้วย
ส่วนฉินมู่หลาน แม้ในวันแรกที่ไปร้านซิ่งหลินจะรู้สึกผ่อนคลายอยู่บ้าง แต่หลังจากนั้นไม่กี่วันเธอก็ยุ่งมากและรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยที่เซี่ยปิงหรุ่ยไม่ได้มาเลย
“ช่วงนี้ปิงหรุ่ยหายไปไหนถึงไม่มาที่ร้านซิ่งหลินเลย”
เซี่ยปิงชิงยักไหล่และพูดว่า “ฉันก็ไม่รู้ว่าหล่อนยุ่งอยู่กับอะไร ฉันเองก็ไม่ได้เจอหล่อนหลายวันแล้ว ว่าจะไปลองดูที่หอพักของหล่อนเพื่อดูว่าพักนี้หล่อนกำลังยุ่งอยู่กับอะไร”
อย่างไรก็ตาม พูดไม่ทันขาดคำ เซี่ยปิงหรุ่ยก็มาถึง
“ปิงหรุ่ย พวกเรากำลังพูดถึงเธออยู่พอดีเลยแล้วเธอก็มา ช่างบังเอิญจริงๆ”
คังอันเหอเห็นเซี่ยปิงหรุ่ยก็อดไม่ได้ที่จะพูดหยอกล้อ
เซี่ยปิงหรุ่ยเดินเข้ามาในร้านก็เห็นฉินมู่หลานที่มีสีหน้าเต็มไปด้วยความยินดี “มู่หลาน กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่?”
“กลับมาหลายวันแล้ว เธอหายไปไหนมา ไม่เห็นมาที่ร้านซิ่งหลินเลย”
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
ปิงหรุ่ยกำลังคบกับใครอยู่หรือเปล่านะ เห็นลับๆ ล่อๆ แบบนี้
ไหหม่า(海馬)
……….