ตอนที่ 674 ความทะเยอทะยาน(1)
…………….
ตอนที่ 674 ความทะเยอทะยาน(1)
ได้ยินเซี่ยปิงหรุ่ยถามแบบนี้ เหมาชุนเถาจึงพูดตรงๆ ว่า “เล่อฉยงเยี่ยนได้หย่ากับสามีคนปัจจุบันของหล่อนแล้ว”
ฉินมู่หลานและเซี่ยปิงหรุ่ยได้ยินแล้วถึงกับหันมามอง
“หย่ากันแล้วเหรอ ไม่ใช่ว่าผู้จัดการอวี๋ชอบเล่อฉยงเยี่ยนมากเหรอ ขนาดไม่ใช่ลูกแท้ๆ ยังยอมรับได้ แล้วทำไมถึงยังหย่ากัน?”
เหมาชุนเถาก็ได้ยินเรื่องนี้มาจากกู้วั่งหลานอีกที
“ได้ยินว่าพ่อแม่ของผู้จัดการอวี๋ยืนกรานจะให้ลูกชายหย่ากับเล่อฉยงเยี่ยน คนแก่หัวโบราณก็อยากได้หลานชายหรือหลานสาวแท้ๆ ซึ่งเล่อฉยงเยี่ยนมีไม่ได้ ก็เลยอยากให้ลูกชายหย่าแล้วไปแต่งงานใหม่”
จริงๆ แล้วความคิดนี้ก็ไม่ได้ผิดอะไร เพราะคนแก่หลายคนก็คิดแบบนี้ บางคนอายุมากหน่อยก็ยิ่งอยากได้แค่หลานชายโดยแทบไม่เหลียวแลหลานสาว
เซี่ยปิงหรุ่ยได้ยินแบบนั้นก็อดไม่ได้ที่จะส่ายหัวแล้วพูดว่า “ดูๆ แล้วถึงผู้จัดการอวี๋จะชอบเล่อฉยงเยี่ยนแค่ไหนก็คงทำอะไรไม่ได้ เพราะว่าพ่อแม่ก็สำคัญ จะให้เลือกระหว่างภรรยากับพ่อแม่ คงเลือกพ่อแม่”
“จะว่าไปก็จริง”
เหมาชุนเถารู้สึกว่าพ่อแม่ของผู้จัดการอวี๋ยังถือว่าไม่เลว เพราะตอนนั้นที่หล่อนให้กำเนิดเสี่ยวจี๋เสียง คนที่บ้านตระกูลซุนก็ยังไล่หลานทั้งคนออกมาได้ แต่ในความโชคร้ายนั้นก็ยังมีความโชคดีที่ภายหลังหล่อนได้มาเจอกับกู้วั่งหลาน
ฉินมู่หลานมองตรงมาที่เหมาชุนเถาแล้วพูดว่า “ชุนเถา ถ้าเธอคิดดีแล้วล่ะก็ จงคบหากับผู้จัดการกู้ให้ดี ตอนที่ผู้จัดการกู้หนุ่มๆ ชีวิตราบรื่น แต่หลังจากนั้นก็ลำบาก จนกระทั่งไม่กี่ปีมานี้เองที่เริ่มสบายขึ้น แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังอยู่ตัวคนเดียว ส่วนเธอเองก็ลำบากไม่แพ้กัน ฉันหวังเพียงให้พวกเธอตั้งครอบครัวที่มีความสุขได้”
เมื่อเหมาชุนเถาได้ยินดังนั้น ก็พยักหน้าอย่างจริงจังแล้วพูดว่า “อื้ม พวกเราจะทำให้ดีที่สุด”
เมื่อเห็นเหมาชุนเถาเป็นแบบนี้ ฉินมู่หลานก็พยักหน้าพร้อมกับยิ้มแล้วพูดว่า “ดีมาก แล้วเราจะรอไปงานแต่งงานของพวกเธอ”
พอพูดถึงเรื่องนี้ เหมาชุนเถาก็พูดถึงแผนของเธอ
“ฉันกับผู้จัดการกู้ต่างก็เคยผ่านการแต่งงานมาแล้ว พวกเราก็เลยคิดว่าไม่อยากจะจัดงานใหญ่ แค่เชิญญาติสนิทมิตรสหายมารวมตัวกันกินข้าวฉลองแบบอบอุ่นก็พอ”
“เอาล่ะ ถ้าพวกเธอเลือกวันได้แล้ว ก็แจ้งให้พวกเรารู้ด้วยนะ”
ฉินมู่หลานกับเซี่ยปิงหรุ่ยพูดด้วยรอยยิ้ม
“ได้ๆ รอให้พวกเราเลือกวันเรียบร้อยจะแจ้งให้พวกเธอรู้นะ” เหมาชุนเถาปรากฏรอยยิ้มแห่งความสุขบนใบหน้า เห็นได้ว่าหลังจากเธอกับกู้วั่งหลานได้คบหากันแล้วคงมีความสุขจริงๆ
ฉินมู่หลานกับเซี่ยปิงหรุ่ย อยู่พูดคุยกับเหมาชุนเถาอีกสักพักก็กลับ
ในระหว่างทางกลับ เซี่ยปิงหรุ่ยอดไม่ได้ที่จะหันไปมองฉินมู่หลานและพูดว่า “มู่หลาน ฉันไม่ค่อยอยากขัดบรรยากาศเมื่อกี้เลย ฉันเลยไม่ได้พูดเรื่องเล่อฉยงเยี่ยน ตั้งแต่หล่อนหย่าร้างอีกครั้ง หล่อนก็ยิ่งมีเวลาและเหตุผลในการมายุ่งกับผู้จัดการกู้มากขึ้น ฉันกลัวว่าถึงเวลานั้นชุนเถาจะได้รับผลกระทบ”
อย่างไรก็ตามเล่อฉยงเยี่ยนก็รู้สึกว่าเป็นเพราะกู้วั่งหลาน ความสัมพันธ์ระหว่างหล่อนกับอวี้เฉิงอี้ถึงได้เป็นอย่างนี้
ฉินมู่หลานได้ยินดังนั้นก็ยิ้มน้อยๆ แล้วพูดว่า “เรื่องนี้เธอสบายใจได้เลย ผู้จัดการกู้จัดการได้แน่นอน” ยิ่งได้รู้จักกับกู้วั่งหลานนานเท่าใด ก็ยิ่งเห็นถึงความเก่งกาจของเขา ฉะนั้นฉินมู่หลานจึงมั่นใจว่าเรื่องนี้เขาจัดการได้แน่
ได้ยินฉินมู่หลานพูดอย่างนั้น เซี่ยปิงหรุ่ยก็ไม่รู้สึกกังวลอีก
“นั่นก็จริง ตอนนี้ผู้จัดการกู้คบกับชุนเถาแล้ว เรื่องอย่างนี้เขาจัดการได้อยู่แล้ว ถ้าเขาปล่อยให้ชุนเถาเสียใจ พวกเราจะทวงความยุติธรรมให้ชุนเถาเอง”
เห็นเซี่ยปิงหรุ่ยเป็นแบบนี้ ฉินมู่หลานก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มและถามถึงเรื่องส่วนตัวของหล่อน
“ชุนเถาเองก็ได้เจอคู่ครองแล้ว เธอล่ะเมื่อไหร่จะแต่งงาน”
เซี่ยปิงหรุ่ยไม่ได้รีบร้อน หล่อนไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้แม้แต่น้อย
“ในหอพักพวกเรายังมีซุนชิวกับเซี่ยวอวิ๋นที่ยังไม่เจอคู่เหมือนกัน ฉันเลยไม่รีบร้อน”
ฉินมู่หลานแค่ลองถามดู เมื่อเห็นว่าเซี่ยปิงหรุ่ยไม่มีความคิดนั้นเธอจึงไม่ถามต่อ พวกเธอพูดคุยกันไปพลางเดินไปพลาง แล้วก็ไปที่ร้านซิ่งหลินด้วยกัน
และหลังจากที่ฉินมู่หลานมาถึงร้านซิ่งหลิน คุณปู่ฉินก็ได้เล่าเรื่องที่บ้านให้เธอฟัง
“มู่หลาน แม่สามีและพี่สะใภ้ของเธอกลับมาจากเมืองไห่เฉิงแล้ว ถ้าไม่มีอะไรก็กลับบ้านไปหาพวกหล่อนก่อนได้นะ”
ได้ยินเช่นนั้น ฉินมู่หลานก็เผยใบหน้ายินดี
“จริงเหรอคะ งั้นหนูจะรีบกลับไปเดี๋ยวนี้เลย”
เซี่ยปิงหรุ่ยที่อยู่ข้าง ๆ ก็เอ่ย “มู่หลาน รีบกลับไปเถอะ พวกเราจะช่วยดูร้านซิ่งหลินให้”
เซี่ยปิงชิงและผู้อาวุโสลั่วต่างก็ยิ้ม “ใช่ พวกเราก็อยู่ด้วย”
ฉินมู่หลานไม่รีรอและรีบตรงกลับบ้านทันที
เหยาจิ้งจือและหลี่เสวี่ยเยี่ยนเห็นฉินมู่หลานกลับมา ต่างก็ยินดี “มู่หลาน ทำไมกลับมาเร็วจัง พวกเรายังคิดว่าเธอน่าจะกลับมาตอนเย็นเสียอีก”
“ได้ยินคุณปู่บอกว่าพวกแม่กลับมาแล้ว หนูก็รีบกลับมาเลยค่ะ”
ระหว่างที่ทุกคนกำลังพูดคุย ซูหว่านอี๋ก็เดินเข้ามา เห็นฉินมู่หลานกลับมาก็รีบเอ่ย “มู่หลาน ลูกกลับมาพอดีเลย จิ้งจือและเสวี่ยเยี่ยนกลับมาแล้ว ไปเรียกตากับยายมาสิ เย็นนี้พวกเราจะได้กินข้าวด้วยกัน”
“ได้ค่ะ”
หลี่เสวี่ยเยี่ยนรีบรั้งฉินมู่หลานเอาไว้ “มู่หลาน อย่าเพิ่งไปเลย ฉันกำลังจะกลับพอดี เดี๋ยวจะแวะไปเรียกคุณตาคุณยายมาให้ แล้วก็เสี่ยวอวี่อีกคน แล้วเดี๋ยวยังไงให้พวกท่านพักที่นี่สักคืน ค่อยกลับพรุ่งนี้เช้าก็ได้”
ฉินมู่หลานได้ยินดังนั้นก็ไม่ได้เกรงใจ
“พี่สะใภ้ งั้นฉันรบกวนด้วยนะคะ”
“อื้ม ฉันจะไปที่บ้านตระกูลเหยาเลยแล้วกัน”
เมื่อหลี่เสวี่ยเยี่ยนจากไป เหยาจิ้งจือก็ดึงฉินมู่หลานมานั่งพร้อมกับพูดด้วยความตื่นเต้นว่า “มู่หลาน คราวนี้ฉันกับเสวี่ยเยี่ยนทำสำเร็จแล้ว เซ็นสัญญากับห้างอื่นได้แล้ว เหลือแค่เตรียมของตั้งร้านเสร็จก็เปิดขายได้ วันเปิดร้านนี่ขายดีมากเลย หลังจากนั้นก็ขายดีไม่แพ้กัน แม่ว่าแม่กับเสวี่ยเยี่ยนจะไปที่อื่นอีก ขยายเคาน์เตอร์เครื่องสำอางไปที่ห้างอื่น
ความสำเร็จในครั้งนี้ทำให้เหยาจิ้งจือมั่นใจมากขึ้น พร้อมกับมีความความทะเยอทะยานที่สูงขึ้น รู้สึกว่าโรงงานเครื่องสำอางของหล่อนสามารถพัฒนาไปได้ไกลกว่านี้
พอได้ยินดังนั้น ฉินมู่หลานก็พูดขึ้นด้วยรอยยิ้มว่า “แม่กับพี่สะใภ้เก่งมากเลยค่ะ”
พอได้ยินคำชมจากลูกสะใภ้ เหยาจิ้งจือก็เขินเล็กน้อย
“ก็ไม่ได้เก่งอย่างที่เธอว่าหรอกนะ เพราะเธอเป็นคนสาธิตให้ดูตอนแรก พวกเราก็ทำตามอย่างเดียว”
ถึงจะพูดแบบนั้น แต่เหยาจิ้งจือกับหลี่เสวี่ยเยี่ยนก็เก่งมากจริงๆ ฉินมู่หลานจึงเอ่ยชมต่อ “ก็เพราะแม่กับพี่สะใภ้มีฝีมือด้วย ไม่อย่างนั้นแค่จะทำตามอย่างเฉยๆ ก็คงไม่ได้”
พอเห็นลูกสะใภ้พูดแบบนั้น ความมั่นใจของเหยาจิ้งจือก็เพิ่มมากขึ้น และหล่อนก็พูดถึงความคิดของตัวเอง
“มู่หลาน แม่ว่าเราเปิดเคาน์เตอร์เพิ่มได้นะ ที่ไห่เฉิงก็ได้ได้ หรือจะเป็นเซินเจิ้น กว่างโจว หรือจินเฉิงก็ได้ ถ้ามีเคาน์เตอร์เครื่องสำอางเพิ่มขึ้น เราก็สามารถขายเครื่องสำอางให้กับคนได้มากขึ้น ส่วนเรื่องการส่งออก เราก็ขายให้กับหลายๆ ประเทศ จะได้รับเงินตราต่างประเทศเพิ่มขึ้น”
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
เรื่องของชุนเถาโล่งไปแล้วหนึ่ง เมื่อไหร่จะถึงเรื่องของปิงหรุ่ยบ้างน้า
ไหหม่า(海馬)