ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก 673 คบกันแล้ว(2)

ตอนที่ 673 คบกันแล้ว(2)

ตอนที่ 673 คบกันแล้ว(2)

…………….

ตอนที่ 673 คบกันแล้ว(2)

เพื่อนร่วมชั้นเห็นทั้งสองกลับมาต่างก็ทักทาย เนื่องจากเพื่อนร่วมชั้นส่วนใหญ่ไปทำงานหาเงินที่โรงงานยาซิ่งหลินและจดจำความดีของทั้งสองเอาไว้ ถึงกระนั้นก็ได้รู้เรื่องของหวงลี่อิงในช่วงหลัง

เซียวหลินเคยขอโทษฉินมู่หลานไปแล้ว แต่ยังคงรู้สึกผิดอยู่ เมื่อได้พบกับฉินมู่หลานอีกครั้ง หล่อนก็ได้กล่าวขอโทษในเรื่องนี้อีกครั้ง

ฉินมู่หลานรีบโบกมือปฏิเสธพร้อมกล่าวว่า “ไม่เป็นไรหรอก ไม่ใช่ความผิดของเธอ”

“มู่หลาน จากนี้ไปหากจะแนะนำคนมาทำงาน ฉันจะพิจารณาอย่างรอบคอบเป็นพิเศษ แน่นอนว่าจะไม่แนะนำคนที่มาแบบไม่น่าเชื่อถือ สำหรับเรื่องในครั้งนี้ ฉันก็คิดไม่ถึงจริงๆ เพราะหวงลี่อิงกับฉันก็ถือว่าเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันมานาน”

คนอื่นๆ ที่ได้ยินต่างพูดสอดคล้อง “ใช่แล้ว มู่หลาน จากนี้ไปพวกเราจะคัดกรองคนอย่างดี”

เดิมทีเพื่อนร่วมชั้นหลายๆ คนได้คิดไว้แล้วว่าจะแนะนำญาติและเพื่อนของตน แต่หลังจากที่เกิดเรื่องของหวงลี่อิง พวกเขาก็ระมัดระวังตัวมากยิ่งขึ้น สำหรับคนที่ไม่ค่อยรู้จัก พวกเขาต่างพากันคิดว่าจะไปทำความรู้จักเสียก่อนแล้วค่อยตัดสินใจอีกที

ฉินมู่หลานและเซี่ยปิงหรุ่ยได้ยินดังนั้นก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “ดีมากเลย ถ้าอย่างนั้นพวกเราจะรอการแนะนำจากพวกเธอนะ”

อย่างไรก็ตาม พวกเธอคงไม่สามารถฝากความหวังเรื่องการรับสมัครพนักงานไว้กับการแนะนำของเพื่อนร่วมชั้นได้ทั้งหมด และเซี่ยปิงหรุ่ยก็มีแผนแล้ว “มู่หลาน ลองรับคนจากครอบครัวเซี่ยมาทำงานดูไหม?”

ฉินมู่หลานก็มีความคิดนี้เหมือนกัน

“ได้สิ รับคนจากครอบครัวของเธอเข้ามาทำงานน่าจะเหมาะ”

เห็นฉินมู่หลานไม่คัดค้าน เซี่ยปิงหรุ่ยจึงกล่าวขอบคุณพร้อมหัวเราะ “มู่หลาน ขอบคุณนะที่ไว้ใจพวกเรา”

ถ้าเป็นคนอื่นคงจะสงสัยแล้วว่าหล่อนต้องการให้คนของตัวเองเข้ามาทำงานในโรงงานยา

“ไม่ต้องขอบคุณหรอก เดี๋ยวเลิกเรียน พวกเราก็กลับไปหอพัก ดูว่าหยวนฝูกลับมาหรือยัง” สือหยวนฝูลากลับบ้านเพราะมีธุระ พวกเธอเลยไม่รู้ว่าตอนนี้หล่อนกลับมาหรือยัง

ตอนที่ฉินมู่หลานและเซี่ยปิงหรุ่ยกลับมาที่หอพัก ก็พบว่ามีเพียงเหมาชุนเถาคนเดียว

“พวกเธอสองคนมาถูกเวลาเลย ฉันกำลังจะออกไปตามหาพวกเธอพอดี”

พอได้ยินแบบนั้น เซี่ยปิงหรุ่ยก็อดไม่ได้ที่จะถามขึ้นมา “มีอะไรเหรอชุนเถา ถึงได้ตามหาเรา?”

“วันเสาร์นี้ฉันอยากจะเชิญพวกเธอไปกินข้าวที่บ้านน่ะ”

พอได้ยินเหมาชุนเถาพูดแบบนี้ เซี่ยปิงหรุ่ยก็ไม่ปฏิเสธ

“ได้สิ”

ฉินมู่หลานพยักหน้าตอบรับทันที “ได้ ฉันกับปิงหรุ่ยจะไป”

พอเห็นว่าพวกเธอตอบตกลง เหมาชุนเถาก็แสดงท่าทางดีใจออกมาอย่างเต็มที่ “เยี่ยมไปเลย งั้นเอาตามนี้นะ”

พอเห็นเหมาชุนเถาปีติยินดีขนาดนี้ เซี่ยปิงหรุ่ยก็อดที่จะรู้สึกอยากรู้ขึ้นมาไม่ได้ “ชุนเถา เกิดอะไรดีๆ ขึ้นหรือเปล่า ทำไมเธอถึงได้ดีใจขนาดนี้ แถมเชิญพวกเราไปกินข้าวอีก”

จู่ๆ เหมาชุนเถาก็หน้าแดง และพูดตะกุกตะกักขึ้นมา “นับได้ว่าเป็นเรื่องดีอยู่นะ ไว้รอพวกเธอมาวันเสาร์จะเล่าให้ฟังเอง”

เดิมทีเซี่ยปิงหรุ่ยแค่ถามเฉยๆ แต่กลับไม่คิดว่าจะมีอะไรจริงๆ คราวนี้หล่อนเริ่มอยากรู้อยากเห็นจริง ๆ แล้ว

แม้แต่ฉินมู่หลานก็อยากรู้

แต่ในเมื่อเหมาชุนเถายังไม่บอก พวกเธอจึงไม่ได้ซักไซ้ เมื่อถึงวันเสาร์ก็คงจะรู้เอง

เช้าวันเสาร์ เซี่ยปิงหรุ่ยก็มาหาฉินมู่หลาน ทั้งสองสาวคุยกันอย่างอยากรู้อยากเห็นระหว่างทาง

“มู่หลาน เธอคิดว่าชุนเถาจะมีเรื่องดีอะไรนะ หรือว่าหล่อนได้รับค่าตอบแทนในการเขียนข้อความโฆษณาเพิ่มขึ้น”

ฉินมู่หลานคิดว่าไม่น่าจะใช่

“ถ้าเป็นเรื่องนั้น ชุนเถาก็คงจะบอกไปแล้ว”

เซี่ยปิงหรุ่ยครุ่นคิดอยู่เหมือนกัน

“เอาเถอะ อีกเดี๋ยวเราก็รู้แล้ว อย่าเพิ่งเดาเลย”

ทั้งสองเดินคุยกันมาเรื่อยๆ จนในที่สุดก็มาถึงบ้านของเหมาชุนเถา

“ชุนเถา เสี่ยวจี๋เสียง พวกเรามาแล้ว”

ทันทีที่ทั้งคู่มาถึงก็ร้องทักด้วยรอยยิ้ม แต่ไม่นานก็พบว่านอกจากเหมาชุนเถากับเสี่ยวจี๋เสียงแล้ว กู้วั่งหลานก็อยู่ที่นี่ด้วย

ฉินมู่หลานกับเซี่ยปิงหรุ่ยเห็นกู้วั่งหลานก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจ

“ผู้จัดการกู้ คุณมาทำอะไรที่นี่คะ หรือว่าชุนเถาก็ชวนคุณมากินข้าวในวันนี้ด้วย?”

กู้วั่งหลานพยักหน้าพร้อมกับตอบด้วยรอยยิ้มว่า “ใช่ครับ วันนี้ผมก็มาด้วย”

ก่อนหน้านี้ผู้จัดการกู้ก็เคยมากินข้าวที่บ้านเหมาชุนเถาแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นเขากับเหมาชุนเถาก็เคยร่วมงานกันเล็ก ๆ น้อย ๆ อยู่หลายครั้ง การที่เหมาชุนเถาจะเชิญเขามากินข้าวก็เป็นเรื่องปกติ

“ผู้จัดการกู้ งั้นพวกเราต้องกินเยอะๆ กันนะคะ”

ผู้จัดการกู้หัวเราะแต่ไม่ได้พูดอะไร

ขณะนั้นเสี่ยวจี๋เสียงก็ดึงแขนผู้จัดการกู้ แล้วเงยหน้าพูดขึ้นว่า “ลุงกู้ครับ เล่นกับผมหน่อยได้ไหม”

“ได้สิ”

ผู้จัดการกู้มีความอดทนกับเด็กๆ มากจริงๆ เขาเล่นกับเสี่ยวจี๋เสียงอย่างตั้งใจมาโดยตลอด

พอเห็นผู้จัดการกู้เป็นเช่นนี้ เซี่ยปิงหรุ่ยก็อดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นว่า “ผู้จัดการกู้นี่ชอบเด็กจริงๆ เลยนะคะ”

“นั่นน่ะสิคะ”

ฉินมู่หลานก็พูดตามมาประโยคหนึ่ง

ในจังหวะนั้น เหมาชุนเถาก็ยกถ้วยน้ำแกงที่เป็นอาหารอย่างสุดท้ายมาแล้วเอ่ย “มากินข้าวกัน”

ฉินมู่หลานและเซี่ยปิงหรุ่ยเดินไปที่ห้องกินข้าว ส่วนผู้จัดการกู้ก็จูงมือเสี่ยวจี๋เสียงเดินเข้าไปด้วยเช่นกัน เขาเดินไปนั่งข้างๆ เหมาชุนเถาอย่างเป็นธรรมชาติ ส่วนเสี่ยวจี๋เสียงก็นั่งข้าง ๆ เขาอีกที

ฉินมู่หลานเห็นดังนั้นก็เผลอขมวดคิ้วเล็กน้อย

ส่วนเซี่ยปิงหรุ่ยที่อยู่ข้างๆ กลับไม่ทันสังเกตเห็นอะไรเลย

เหมาชุนเถาสังเกตเห็นท่าทางของผู้จัดการกู้เช่นกัน ทันทีที่เห็นเขาเป็นเช่นนี้ สีหน้าก็แดงระเรื่อขึ้นมาทันที ก่อนจะหันไปมองฉินมู่หลานและเซี่ยปิงหรุ่ย

เซี่ยปิงหรุ่ยโดนจ้องจนมึนงงและอดไม่ได้ที่จะถามขึ้นว่า “เป็นอะไรไปล่ะชุนเถา?”

ฉินมู่หลานมองเหมาชุนเถาเพื่อรอให้หล่อนเปิดปากเช่นกัน

เหมาชุนเถาสูดหายใจเข้าลึกๆ จากนั้นก็พูดกับทั้งสองคนว่า “มู่หลาน ปิงหรุ่ย ฉัน…ฉันกับผู้จัดการกู้คบกันแล้วนะ”

“อะไร…อะไรนะ…?”

เซี่ยปิงหรุ่ยได้ยินดังนั้น สีหน้าก็เต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อ หล่อนชี้ไปที่กู้วั่งหลานและเหมาชุนเถาด้วยอาการมึนงงสับสน

ส่วนฉินมู่หลานพอจะเดาได้ก่อนหน้านี้แล้ว จึงไม่แปลกใจมากนัก เธอหันกลับไปมองเหมาชุนเถาอย่างจริงจัง แล้วถามว่า “พวกเธอคบกันจริงเหรอ จริงจังถึงขั้นแต่งงานเลยเหรอ?”

ยังไม่ทันที่เหมาชุนเถาจะพูดอะไร กู้วั่งหลานก็พูดขึ้นทันทีว่า “แน่นอน ผมมองถึงขั้นแต่งงานอยู่แล้ว ผมว่าชุนเถาเป็นคนพิเศษมาก พวกเราสองคนเข้ากันได้ดี ผมเลยจีบหล่อน อยากให้หล่อนคบกับผม และหลังจากที่หล่อนคิดทบทวนในหลายๆ อย่าง ในที่สุดหล่อนก็ตกลงคบกับผม”

“พวกเธอ…พวกเธอ..”

เซี่ยปิงหรุ่ยยังคงรู้สึกเหลือเชื่อ

เมื่อฉินมู่หลานได้ยินกู้วั่งหลานพูดเช่นนั้น เธอก็รู้สึกโล่งใจ

“อย่างนั้นก็ดี ขอแสดงความยินดีด้วยนะ”

การแต่งงานครั้งแรกของเหมาชุนเถาไม่ได้ประสบความสำเร็จ เธอจึงหวังว่าเหมาชุนเถาจะได้พบกับความสุขของหล่อนได้ อีกอย่างกู้วั่งหลานก็เป็นคนดีมาก ถ้าทั้งสองคนคบหากันมันอาจจะดีก็ได้

“มู่หลาน ขอบคุณนะ”

เมื่อเห็นฉินมู่หลานแสดงความยินดีกับพวกเขา เหมาชุนเถาและกู้วั่งหลานต่างก็พูดขอบคุณกันยกใหญ่

ในที่สุดเซี่ยปิงหรุ่ยก็ตั้งสติได้ รีบแสดงความยินดีกับทั้งสองคน

“ขอบคุณปิงหรุ่ยด้วยนะ”

เหมาชุนเถาพูดเรื่องของหล่อนกับกู้วั่งหลานเสร็จแล้วก็รู้สึกโล่งใจ จากนั้นจึงเชิญฉินมู่หลานและเซี่ยปิงหรุ่ยให้กินข้าว

กู้วั่งหลานคอยดูแลเหมาชุนเถาและเสี่ยวจี๋เสียงอย่างดี พอกินข้าวเสร็จ เขาก็ยังคงเล่นกับเสี่ยวจี๋เสียงต่อ

และในที่สุดเซี่ยปิงหรุ่ยก็ได้โอกาสซักถามเหมาชุนเถา

“ชุนเถา เธอคิดดีแล้วใช่ไหมที่คบหากับผู้จัดการกู้ แล้วอดีตภรรยาของเขาล่ะ?”

………………………………………………………………………………………………………………………..

สารจากผู้แปล

เปิดตัวคบกันเรียบร้อย เหลือแค่กันท่าภรรยาเก่าแล้วล่ะ

ไหหม่า(海馬)

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

Score 10
Status: Completed
เมื่อแพทย์สาวมือฉมังพบว่าตนเองได้กลายเป็นหญิงอ้วนผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรในยุค 70 ผู้ไม่เป็นที่รักของสามี เธอจะเปลี่ยนเป็นคนใหม่ที่สามีคลั่งรักได้หรือไม่กันนะ?ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก [嫁七零糙汉后,我双胞胎体质藏不住] ผู้แต่ง : 钰儿 เรื่องย่อ หลังผชิญวรหนักจนวูบ ฉินมู่หลาน แพทย์สาวมือฉมังก็พบว่าตนองได้มาสวมร่างของหญิงอ้วนหลานสาวผู้เชี่ยวชาญด้นสมุนไพรในยุค 70 ผู้ไม่มีอะไรดีสักอย่างนอกจากได้สามีหล่อเหลานิสัยดีผู้แสนเย็นขาจากความลั่งรักของตัวเองจจับเขามาแต่งงด้วยสำเร็จ ซึ่งกรสวมวิญญาณในครั้งนี้เธอได้รับภารกิจหลักสามอย่าง หนึ่งคือสร้างเนื้อสร้างตัว สองคือลดน้ำหนักให้ตนเองทำงานทำการสะดวกขึ้น และสามคือทำให้สามีเป็นฝ่ายคลั่งรักเธอแทน คุณหมอฉินจะทำสำเร็จหรือไม่ จะเปลี่ยนเป็นฉินมู่หลานคนใหม่ที่สามีคลั่งรักได้หรือไม่กันนะ?

Options

not work with dark mode
Reset