ตอนที่ 668 หล่อนช่างน่าสงสัย(1)
…………….
ตอนที่ 668 หล่อนช่างน่าสงสัย(1)
ได้ยินฉินมู่หลานพูดแบบนี้ กู้วั่งหลานและเซี่ยปิงหรุ่ยก็มีสีหน้าเคร่งเครียดขึ้นมา
“หรือว่าความร่วมมือในครั้งนี้จะมีปัญหา”
“ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าโรงงานยาหุยชุนมีปัญหาหรือเปล่า แต่ว่าโรงงานยาของเราต้องมีปัญหาแน่ๆ สัญญาที่ผู้จัดการกู้เคยเห็นก่อนหน้านี้ไม่ใช่แบบนี้ แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นแบบนี้ แสดงว่าต้องมีคนสับเปลี่ยนสัญญาแน่นอน ถ้าวันนี้เราไม่ทันสังเกตแล้วเซ็นสัญญาฉบับนี้ลงไป โรงงานยาของเราคงจะได้รับความเสียหายมหาศาล”
กู้วั่งหลานย้อนคิดถึงคนงานในโรงงานยาทีละคน ก็รู้สึกว่าทุกคนน่าสงสัยไปหมด
“ไม่ได้ ไม่ทันแล้ว เราไม่มีเวลาตามหาคนสับเปลี่ยนสัญญาแล้ว ตอนนี้คนของโรงงานยาหุยชุนก็มาถึงแล้ว ตอนนี้พวกเรากำลังแย่”
แต่ว่าฉินมู่หลานกลับยิ้มออกมาแล้วพูดว่า “ที่จริงเราไม่ต้องรีบร้อนก็ได้ ถ้าโรงงานยาหุยชุนอยากเซ็นสัญญากับเราจริงๆ ก็น่าจะรอได้ ถ้าพวกเขารอไม่ได้…”
พูดมาถึงตรงนี้ สีหน้าของฉินมู่หลานก็เย็นลง “เราก็ไม่เซ็นสัญญา ก่อนหน้านี้ที่ไม่เซ็นสัญญากับพวกเขา เราก็ยังบริหารกิจการได้ดี”
ได้ยินแบบนี้ กู้วั่งหลานและเซี่ยปิงหรุ่ยก็เริ่มรู้สึกตัว
ใช่แล้ว ครั้งนี้เป็นโรงงานยาหุยชุนที่ต้องการจะเซ็นสัญญากับพวกตน ไม่ใช่โรงงานซิ่งหลินของพวกตนเป็นผู้ริเริ่มต้องการเซ็นสัญญากับพวกเขา ดังนั้นอำนาจการตัดสินใจก็จะอยู่ในมือพวกตน แต่เมื่อครู่พวกตนรีบร้อนกันเกินไป จนลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิท
คิดได้แบบนี้กู้วั่งหลานก็รีบยืนขึ้นแล้วพูดว่า “มู่หลาน งั้นผมจะออกไปต้อนรับคนของโรงงานยาหุยชุนก่อนแล้วกัน”
“ค่ะ”
รอจนกู้วั่งหลานออกไปแล้ว เซี่ยปิงหรุ่ยก็ทนไม่ไหวที่จะหันไปถามฉินมู่หลานว่า “มู่หลาน เธอคิดว่าครั้งนี้ใครเป็นคนกลั่นแกล้งเรา”
“เดี๋ยวค่อยๆ สืบสวนทีหลัง ยังไงก็ต้องหาคนที่กลั่งแกล้งเราได้อยู่แล้ว แสดงว่าปกติเราคงใจดีเกินไป ถึงได้มีคนกล้าทำเรื่องแบบนี้”
เซี่ยปิงหรุ่ยก็พยักหน้าเห็นด้วย “ใช่ คราวนี้ต้องเชือดไก่ให้ลิงดู ให้คนอื่นได้เห็นชัดๆ ว่าถ้าคิดจะทรยศโรงงานยาจะมีจุดจบยังไง”
ฉินมู่หลานเองก็คิดแบบเดียวกัน
ขณะที่กู้วั่งหลานก็ได้รับการต้อนรับจากเจ้าหน้าที่จากโรงงานยาหุยชุนอย่างรวดเร็ว เขายิ้มให้กับผู้มาเยือนในขณะที่พูดว่า “ยินดีต้อนรับครับผู้จัดการหลี่”
เมื่อหลี่ฉีปิงเห็นกู้วั่งหลาน เขาก็ยื่นมือออกมาพร้อมรอยยิ้มและกล่าวว่า “ยินดีที่ได้รู้จักครับ ผู้จัดการกู้”
“เชิญผู้จัดการหลี่ด้านในครับ วันนี้เจ้าของโรงงานของเราก็มาด้วย ไว้พวกเราไปนั่งคุยกันดีๆ ดีกว่านะครับ”
เมื่อได้ยินดังนั้น หลี่ฉีปิงจึงรีบพยักหน้าและกล่าวว่า “ดีครับ ผมได้ยินมาว่าเจ้าของโรงงานยาซิ่งหลินเป็นเภสัชกร และยาบำรุงร่างกายก็เป็นผลงานการคิดค้นของหล่อนด้วย ไม่รู้ว่าจริงหรือเปล่าครับ”
“แน่นอนว่าจริงครับ เจ้าของโรงงานของเรามีความเชี่ยวชาญทั้งทางด้านการแพทย์และการผลิตยาเป็นอย่างมาก”
เรื่องนี้หลี่ฉีปิงได้ยินมาบ้าง แต่ตั้งแต่เขามาถึงปักกิ่ง เขาก็ยังไม่เคยได้พบตัวจริง จึงไม่รู้ว่าข่าวลือทั้งหมดนั้นเป็นจริงหรือไม่
นอกจากหลี่ฉีปิง แล้วยังมีเจ้าหน้าที่อีกสองคนจากโรงงานยาหุยชุนเดินทางมาด้วยกันด้วย และตอนนี้ทั้งสามคนได้เดินตามกู้วั่งหลานเข้าไปที่สำนักงาน
ในด้านโรงงานยาเองก็รับทราบแล้วว่ามีโรงงานยาจากจินเฉิงต้องการร่วมมือกับพวกเขา หากความร่วมมือในครั้งนี้ประสบความสำเร็จ โรงงานยาของพวกเขาก็จะยิ่งขยายตัวต่อไป
“หวังว่าความร่วมมือในครั้งนี้จะราบรื่น”
“ใช่เลย ถ้าหากความร่วมมือในลักษณะนี้เกิดขึ้นอีกบ่อยๆ การพัฒนาของโรงงานยาของเราก็จะยิ่งก้าวกระโดด”
เซียวหลินก็พยักหน้าตามเมื่อได้ยินความปรารถนาถึงอนาคตของผู้คนรอบข้าง “ใช่เลย ยิ่งโรงงานยาเติบโตยิ่งใหญ่เท่าไหร่ พวกเราก็ยิ่งยุ่งมากขึ้นเท่านั้น”
วันนี้เป็นวันหยุดของหล่อน แต่หล่อนก็ยังเข้ามาทำงาน ทว่าเมื่อหล่อนพูดไปเรื่อย ๆ หล่อนก็สังเกตเห็นสีหน้าของเพื่อนสนิทที่ดูผิดปกติไป “เป็นอะไรไปลี่อิง สีหน้าเธอไม่ค่อยดีเลย ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า?”
หวงลี่อิงรีบส่ายหัวและกล่าวว่า “ฉันไม่เป็นไรหรอก เซียวหลิน เราเข้าไปทำงานกันเถอะ วันนี้ยังมีงานอีกเยอะแยะเลยไม่ใช่เหรอ”
“อื้ม งั้นเราเข้าไปทำงานกันเถอะ เดี๋ยวฉันลองดูว่ามีเวลาคุยกับมู่หลานบ้างไหม ฉันอยากจะถามเธอว่าที่โรงงานรับสมัครคนทำอาหารหรือเปล่า เพราะช่วงนี้ญาติฉันอยากหางานทำ แต่หาไม่ได้เลย”
หวงลี่อิงยิ้มแต่ไม่พูดอะไร พร้อมกับเดินนำหน้าเข้าไปในโรงงาน
ฝั่งของฉินมู่หลาน กู้วั่งหลานก็ได้พาผู้มาเยือนเข้าไปที่ห้องทำงานแล้ว
“ ผู้จัดการหลี่ ท่านนี้คือคุณฉินมู่หลานผู้อำนวยการโรงงานซิ่งหลิน ส่วนท่านนี้คือผู้จัดการเซี่ย เซี่ยปิงหรุ่ย”
หลี่ฉีปิงเคยได้ยินมาก่อนว่าเจ้าของโรงงานยาซิ่งหลินอายุยังน้อย แต่เมื่อได้เห็นฉินมู่หลานด้วยตาตนเอง เขาก็ยังรู้สึกประหลาดใจ เพราะฉินมู่หลานและเซี่ยปิงหรุ่ยที่อยู่ตรงหน้าเขานั้นยังสาวเกินไป พวกหล่อนมีอายุเท่ากับลูกสาวของเขาเลย
อย่างไรก็ตามเขาก็รีบยิ้มแล้วพูดว่า “ยินดีที่ได้รู้จักครับผู้อำนวยการฉิน” เมื่อพูดจบเขาก็หันไปทางเซี่ยปิงหรุ่ย “สวัสดีครับ ผู้จัดการเซี่ย”
“สวัสดีนะคะผู้จัดการหลี่”
ฉินมู่หลานและเซี่ยปิงหรุ่ยก็ยิ้มทักทายกลับอย่างสุภาพเช่นกัน
หลังจากที่ทุกคนนั่งลง หลี่ฉีปิงก็รีบถามว่า “ผู้จัดการกู้ พวกคุณได้ดูสัญญาก่อนหน้านี้แล้วใช่ไหมครับ วันนี้เราจะเซ็นสัญญากันเลยไหม?”
กู้วั่งหลานยังไม่ทันได้พูดอะไรเลย ฉินมู่หลานก็พูดขึ้นพร้อมกับรอยยิ้ม
“อย่าเพิ่งรีบร้อนสิคะผู้จัดการหลี่” พูดเสร็จเธอก็หยิบสัญญา 2 ฉบับนั้นยื่นให้แล้วพูดว่า “พวกคุณลองดูสัญญานี้กันใหม่อีกรอบนะคะ”
หลี่ฉีปิงได้ฟังแล้วก็เต็มไปด้วยความสงสัย
“มีอะไรเหรอครับ หรือว่าพวกคุณไม่พอใจกับข้อกำหนดของสัญญา” เมื่อพูดจบ สีหน้าของเขาไม่ค่อยดีนัก ในครั้งนี้โรงงานยาหุยชุนของพวกเขาเต็มไปด้วยความจริงใจ มีข้อเสนอที่ดีมาก หากว่าโรงงานยาซิ่งหลินยังไม่พอใจอีก ความร่วมมือในครั้งนี้ก็คงจะดำเนินต่อไปไม่ได้แล้ว
ฉินมู่หลานไม่ได้พูดอะไร เธอเพียงแค่ให้หลี่ฉีปิงตรวจสอบสัญญาอย่างละเอียด
เธอต้องการดูว่าเรื่องราวในครั้งนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับโรงงานยาหุยชุนหรือไม่
อย่างไรก็ตาม หลี่ฉีปิงกลับไม่มีปฏิกิริยาใดๆ เลย เขาท่องจำสัญญานี้ได้ขึ้นใจโดยไม่ต้องดูเลย “ผู้อำนวยการฉินครับ สัญญานี้เป็นสัญญาที่โรงงานยาของเราเป็นคนจัดทำขึ้น ดังนั้นผมจึงคุ้นเคยกับสัญญานี้มากและไม่จำเป็นต้องดูอีกแล้ว หากมีจุดใดที่พวกคุณไม่พอใจ ก็สามารถพูดออกมาได้เลยครับ”
แม้ว่าเขาจะพูดแบบนั้น แต่สีหน้าของเขาก็แสดงออกมาอย่างชัดเจนว่า หากอีกฝ่ายมีความคิดเห็นใดๆ พวกเขาก็จะไม่ยอมรับ
“ผู้จัดการหลี่ คุณคุ้นเคยกับมันมากขนาดนั้นเลยเหรอคะ งั้นลองดูอีกครั้งสิคะ ตรงกลางของหน้าที่สอง ข้อตกลงเหล่านั้นเป็นข้อกำหนดที่โรงงานยาของคุณมีต่อโรงงานยาของเราใช่ไหมคะ?”
เมื่อเห็นฉินมู่หลานพูดแบบนั้น หลี่ฉีปิงจึงก้มลงดูที่สัญญาในที่สุด เมื่อเห็นจุดที่ฉินมู่หลานพูดถึง สีหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยความไม่เชื่อ “นี่…นี่มันไม่ถูกต้อง สัญญาที่โรงงานยาของเราให้ไปมันไม่ได้เป็นแบบนี้”
ตอนนี้เขาถึงได้รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ ไม่แปลกใจที่โรงงานยาซิ่งหลินไม่รีบเซ็นสัญญา ถ้าเซ็นสัญญานี้ไปโรงงานยาซิ่งหลินคงต้องได้รับความเสียหายอย่างหนัก แต่สัญญาที่โรงงานยาหุยชุนให้มานั้นไม่ใช่แบบนี้
พอได้ยินหลี่ฉีปิงพูดแบบนี้ เจ้าหน้าที่อีกสองคนที่อยู่ด้านหลังก็หันมามองตาม และทั้งสองมองด้วยความประหลาดใจ
แต่ว่าฉินมู่หลานคอยสังเกตคนทั้งสามฝั่งตรงข้ามอยู่ตลอด จึงไม่พลาดที่จะเห็นปฏิกิริยาของคนที่อยู่ทางขวามือของหลี่ฉีปิง แววตาของคนผู้นั้นฉายแววเสียดายอย่างชัดเจน
พอเห็นแบบนี้ ฉินมู่หลานก็รู้ได้เลยว่าเรื่องในครั้งนี้โรงงานยาหุยชุนก็มีส่วนผิดด้วย
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
ใครบ้างนะที่เป็นนาตาชาในสัญญาความร่วมมือครั้งนี้
ไหหม่า(海馬)