ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก 653 บังเอิญ(2)

ตอนที่ 653 บังเอิญ(2)

ตอนที่ 653 บังเอิญ(2)

…………….

ตอนที่ 653 บังเอิญ(2)

“ฉันตัดผมสั้นแล้วไม่สวยเหรอ?”

เซี่ยเจ๋อหลี่เหมือนจะรู้สึกตัวขึ้นมาจึงรีบส่ายหัวกล่าวว่า “ไม่ คุณดูดีทุกแบบเลย” พูดจบก็รีบเปลี่ยนเรื่องไปพูดถึงเรื่องไปกินข้าวกับฟู่โฮ่วหลิ่น

“ไม่คิดว่าถูเฉิงเสียงจะแนะนำให้คุณรู้จักกับฟู่โฮ่วหลิ่น คุณคิดว่าเขานิสัยเป็นยังไง”

“ก่อนหน้านี้เคยได้ยินมาบ้าง รู้ว่าเขาไม่ธรรมดา วันนี้ได้เจอตัวพบว่าเขามีความเป็นตัวเองสูงทีเดียว”

ทั้งสองพูดคุยกันไปเรื่อย ๆ จนเดินมาถึงสวนหลังบ้าน รอจนเล่นกับเด็กๆ สักพักก็พาเด็กๆ เข้าห้องนอน

วันต่อมาเซี่ยเจ๋อหลี่ก็มุ่งหน้าไปที่ค่ายตั้งแต่เช้าตรู่ ส่วนฉินมู่หลาน หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จ ก็พาน้องชายอย่างฉินเคอวั่งไปโรงเรียน

เมื่อเซี่ยปิงหรุ่ยเห็นฉินมู่หลาน เธอก็โบกมือเรียกก่อนจะหันไปพูดว่า “มู่หลาน อาจารย์หลัวบอกว่าพอเธอมาถึง ให้เราไปพบอาจารย์ด้วยกัน อาจารย์ดูเหมือนจะมีเรื่องจะคุย”

“ได้ งั้นพวกเราไปกันเดี๋ยวนี้เลย”

พอคนทั้งสองเดินไปถึงสำนักงานของแผนกเรียน หลัวซงผิงก็หันมาเห็นพวกเธอพอดี ก่อนจะโบกมือเรียกและกล่าวว่า “นักเรียนฉิน นักเรียนเซี่ย มาแล้วเหรอ วันนี้ที่ให้พวกเธอมาหาเพราะอยากจะพูดคุยเรื่องการไปเยี่ยมชมโรงงานผลิตยา เรื่องนี้ที่ครูเคยพูดไว้กับนักเรียนฉินก่อนปีใหม่”

ฉินมู่หลานพยักหน้าเมื่อได้ยิน “ใช่ค่ะ ก่อนหน้านี้อาจารย์หลัวเคยพูดกับฉันแล้ว ทางโรงงานยาซิ่งหลินของเราไม่มีปัญหาอะไรเลย อาจารย์หลัวกำหนดเวลาไว้แล้วหรือยังคะ?”

เมื่อหลัวซงผิงเห็นว่าฉินมู่หลานยังจำได้ ก็อดจะถอนใจด้วยความโล่งอกไม่ได้ “อีกสามวันดีไหม นักเรียนหลายๆ คนสนใจโรงงานของเธอมาก พวกเธอเก่งมากจริงๆ”

“ได้ค่ะ งั้นเอาตามนี้เลยนะคะ อีกสามวันข้างหน้าตอนแปดโมงเช้า เจอกันที่หน้าโรงเรียนค่ะ”

“ตกลง”

หลัวซงผิงพยักหน้าตอบรับอย่างรวดเร็ว

หลังจากนั้นสามวัน ฉินมู่หลานและเซี่ยปิงหรุ่ยก็มาคอยอยู่หน้าประตูโรงเรียนตั้งแต่เช้าตรู่

ในไม่ช้า หลัวซงผิงก็พาเพื่อนนักเรียนทั้งชั้นมาถึง “นักเรียนฉิน นักเรียนเซี่ย พวกเราออกเดินทางได้เลย”

ทางโรงเรียนมีรถเตรียมไว้ให้ ฉินมู่หลานและเซี่ยปิงหรุ่ยจึงขึ้นรถตามไปด้วย ก่อนจะมุ่งตรงไปยังทางตะวันออกของชานเมือง

ทางด้านกู้วั่งหลาน ฉินมู่หลานได้แจ้งเขาไว้ตั้งแต่เมื่อวาน ด้วยเหตุนี้ทางโรงงานยาจึงเตรียมตัวไว้ล่วงหน้า เมื่อเห็นว่าทุกคนมาถึงแล้ว กู้วั่งหลานจึงเชิญชวนทุกคนเข้าไปข้างในอย่างกระตือรือร้น

“เชิญทุกท่านเข้ามาด้านในได้เลย ผมจะพาทุกท่านเยี่ยมชมภายในโรงงานสักหน่อย”

หลัวซงผิงได้ยินดังนั้นจึงรีบหันไปหากู้วั่งหลานแล้วกล่าวว่า “เยี่ยมเลย ขอบคุณผู้จัดการกู้มากนะ”

กู้วั่งหลานส่ายหัวพร้อมรอยยิ้มแล้วกล่าวว่า “ไม่เป็นไรเลยครับ การที่ทุกคนอยากมาเยี่ยมชมโรงงานถือเป็นเรื่องที่ดี”

ในตอนแรกกู้วั่งหลานพาเหล่านักเรียนทำความคุ้นเคยกับโรงงาน จากนั้นก็ให้ทุกคนสวมชุดแล้วเข้าไปในห้องปฏิบัติการ ซึ่งกำลังผลิตยาบำรุงร่างกาย

ก่อนหน้านี้มีนักเรียนที่เคยซื้อยาบำรุงร่างกายอดใจไม่ไหวจึงถามว่า “นี่กำลังผลิตยาบำรุงร่างกายอยู่หรือเปล่า ดูเหมือนกับที่ซื้อจากร้านซิ่งหลินเลย”

ฉินมู่หลานได้ยินดังนั้นจึงพยักหน้าพร้อมรอยยิ้ม “ถูกต้องแล้ว เรากำลังผลิตยาบำรุงร่างกายอยู่ การที่ทุกคนชื่นชอบยาบำรุงร่างกาย ก็ยิ่งเป็นแรงผลักดันให้โรงงานยาซิ่งหลินของเราทำงานหนักยิ่งขึ้น ในอนาคตเราจะทุ่มเทอย่างสุดความสามารถเพื่อวิจัยและพัฒนายาที่ดีต่อไปค่ะ”

หลายคนรู้สึกตื่นเต้นเมื่อได้ยินคำพูดของฉินมู่หลาน

“ถูกต้องแล้ว คุณก็พัฒนายาดีต่อไป เราก็จะเรียนแพทย์เพื่อรักษาและช่วยเหลือผู้คนเช่นกัน”

เซียวหลินเป็นหัวหน้าชั้นเรียน หล่อนกับฉินมู่หลานมักพูดคุยกัน แต่ไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น เมื่อได้เห็นโรงงานยาซิ่งหลินที่ฉินมู่หลานและเซี่ยปิงหรุ่ยร่วมกันก่อตั้งขึ้น ดวงตาก็เต็มไปด้วยความสับสน คนเราช่างต่างกันเหลือเกิน บางคนยังเรียนมหาวิทยาลัยอยู่ แต่บางคนก็มีโรงงานเป็นของตัวเองแล้ว พวกเขาเก่งขนาดนั้นเลยหรือ

ขณะที่เซียวหลินกำลังเหม่อลอย นักเรียนชายคนหนึ่งก็ถามด้วยเสียงแผ่วเบา “เพื่อนร่วมชั้นฉิน พอปิดเทอม เรา…เราสามารถมาทำงานพิเศษที่นี่ได้ไหม เราค่อนข้างคุ้นเคยกับสมุนไพรต่างๆ น่าจะสามารถทำงานที่นี่ได้”

ฉินมู่หลานได้ยินดังนั้นแล้วก็ยิ้มพร้อมพยักหน้าตอบรับว่า “ดีเลย ฉันดีใจมากเลยที่นายจะมาช่วย ถึงตอนนั้นค่าแรงก็คิดตามอัตราแรงงานปกติเลย ไม่เอาเปรียบนายแน่นอน”

เมื่อได้ยินดังนั้น ชายหนุ่มคนนั้นดีใจเป็นอย่างมากและมองไปที่ฉินมู่หลานด้วยความรู้สึกขอบคุณอย่างเต็มเปี่ยมแล้วกล่าวว่า “ขอบคุณมากจริงๆ”

ฐานะทางบ้านของเขาไม่ค่อยดีนัก ถึงแม้ว่าตอนเรียนมหาวิทยาลัยจะมีทุนช่วยเหลือ แต่ทางบ้านก็ยังคงลำบากอยู่ แต่ถ้าหากว่าเขาสามารถทำงานพิเศษเพื่อหารายได้เสริมได้ด้วยล่ะก็ นั่นก็คงจะเป็นเรื่องที่ดีที่สุด

เมื่อคนอื่นๆได้ยินเช่นนั้น ต่างนึกได้และหันมามองฉินมู่หลานเป็นตาเดียวกันพลางกล่าวว่า “เพื่อนร่วมชั้นฉิน พวกเราอยากเข้ามาทำงานในโรงงานด้วย พอจะเป็นไปได้หรือเปล่า?”

ฉินมู่หลานไม่ได้คาดคิดว่าจะมีผู้คนมากมายอย่างนี้สนใจจะเข้ามาทำงานในโรงงานผลิตยา เธอยินดีต้อนรับทุกคนที่มา พร้อมกับกล่าวด้วยรอยยิ้มที่เป็นมิตรว่า “ได้อยู่แล้ว ทุกคนอยากมาทำงาน ฉันก็มีงานให้ทำ แต่จะขอแจ้งให้ทราบก่อนว่าหากว่าทุกคนเข้ามาทำงานที่นี่ จะต้องเชื่อฟังการจัดสรรงานและต้องฟังผู้จัดการกู้กับหัวหน้างานท่านอื่นๆ ด้วย”

“ไม่มีปัญหา”

ทุกคนต่างก็ตอบกลับว่าไม่มีปัญหา เพราะไม่ว่าจะไปทำงานที่ไหน ก็ต้องมีการเชื่อฟังหัวหน้างานอยู่แล้ว

หลัวซงผิงที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็เฝ้าดูอยู่ เมื่อเห็นว่าฉินมู่หลานไม่ได้ปฏิเสธใครเลย แถมยังยินยอมให้เพื่อนๆ ทั้งห้องเข้ามาทำงานอีก ก็รู้สึกเกรงใจอยู่ไม่น้อย

“นักเรียนฉิน ขอโทษที่ทำให้เธอลำบากใจ ครูไม่คิดเลยจริงๆ ว่าทุกคนจะคิดอยากทำงานพิเศษกันแบบนี้ ครูเองก็ไม่ทราบเรื่องนี้มาก่อน”

เมื่อได้ยินคำพูดดังกล่าว ฉินมู่หลานก็หัวเราะพลางโบกมือปฏิเสธ “อาจารย์หลัว จะต้องขอโทษอะไรกันคะ ฉันต้องขอบคุณท่านอาจารย์ด้วยซ้ำ เพราะโรงงานเรากำลังต้องการคนงานอยู่พอดี ถ้าพวกนักศึกษาจะมาช่วยจริงๆ นั่นก็คงจะเป็นเรื่องที่ดีที่สุดเลยค่ะ”

เมื่อได้ยินเช่นนั้นหลัวซงผิงก็ยังคงรู้สึกลังเลอยู่ไม่หาย

“จริงเหรอ”

“จริงสิคะ”

เซี่ยปิงหรุ่ยที่อยู่ข้างๆ ก็รีบพูดตาม “อาจารย์หลัว คำพูดของมู่หลานเป็นความจริงค่ะ ตอนนี้พวกเรากำลังคิดจะรับสมัครงานอยู่พอดี แต่ถ้าพวกนักศึกษาเต็มใจมาทำงานด้วย เราก็ไม่ต้องรับคนเพิ่มมากมายนักแล้ว”

เมื่อเห็นเซี่ยปิงหรุ่ยพูดเช่นนั้น หลัวซงผิงถึงได้รู้สึกสบายใจขึ้นมาบ้าง

กว่าที่ผู้จัดการกู้พาชมโรงงานจนทั่ว เวลาก็ใกล้เที่ยงเที่ยงแล้ว ฉินมู่หลานจึงเชิญทุกคนไปทานอาหารที่โรงอาหาร

“มู่หลาน คิดไม่ถึงว่าที่นี่จะมีโรงอาหารด้วย”

เหล่านักเรียนในชั้นต่างอดไม่ได้ที่จะมองไปที่ฉินมู่หลานด้วยสายตาเต็มไปด้วยความชื่นชม ทุกคนยังคงใช้เวลาในการอ่านหนังสืออย่างหนัก ขณะที่เพื่อนร่วมชั้นของพวกเขาได้สร้างโรงงานยาขึ้นมาแล้ว ช่างเป็นความแตกต่างที่ยิ่งใหญ่เหลือเกิน

แต่ทุกคนก็รู้ดีถึงความสามารถของฉินมู่หลาน ดังนั้นจึงมีเพียงความชื่นชมและอิจฉาเท่านั้น นอกเหนือจากนั้นก็ไม่มีอะไรอีกแล้ว

หลังจากที่ทุกคนรับประทานอาหารที่โรงอาหารเสร็จแล้ว ก็ต่างแยกย้ายกันกลับไป

เมื่อกลับมาถึงโรงเรียน หลัวซงผิงก็อดไม่ได้ที่จะถามฉินมู่หลาน เกี่ยวกับเรื่องนักเรียนไปทำงานที่โรงงาน

ฉินมู่หลานรู้ดีว่าหลัวซงผิงกำลังกังวล จึงรีบตอบพร้อมรอยยิ้มว่า “อาจารย์หลัว อีกสองวันฉันจะร่างข้อตกลงฉบับหนึ่ง สำหรับนักเรียนที่ไปทำงาน เมื่อร่างเสร็จแล้วจะนำมาให้ดูนะคะ”

เมื่อได้ยินดังนั้น หลัวซงผิงก็รีบพยักหน้าตอบว่า “ได้สิ”

และฉินมู่หลานลงมืออย่างรวดเร็ว เมื่อร่างข้อตกลงเสร็จแล้ว ก็รีบนำไปให้หลัวซงผิงตรวจสอบ

หลังจากหลัวซงผิงอ่านจบก็วางใจลงอย่างสิ้นเชิง “มู่หลาน งั้นคงต้องรบกวนทางโรงงานด้วยนะ”

………………………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

ไม่ต้องไปประกาศรับสมัครพนักงานที่ไหนแล้ว เพื่อนร่วมชั้นอาสามาทำงานเยอะขนาดนี้

ไหหม่า(海馬)

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

Score 10
Status: Completed
เมื่อแพทย์สาวมือฉมังพบว่าตนเองได้กลายเป็นหญิงอ้วนผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรในยุค 70 ผู้ไม่เป็นที่รักของสามี เธอจะเปลี่ยนเป็นคนใหม่ที่สามีคลั่งรักได้หรือไม่กันนะ?ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก [嫁七零糙汉后,我双胞胎体质藏不住] ผู้แต่ง : 钰儿 เรื่องย่อ หลังผชิญวรหนักจนวูบ ฉินมู่หลาน แพทย์สาวมือฉมังก็พบว่าตนองได้มาสวมร่างของหญิงอ้วนหลานสาวผู้เชี่ยวชาญด้นสมุนไพรในยุค 70 ผู้ไม่มีอะไรดีสักอย่างนอกจากได้สามีหล่อเหลานิสัยดีผู้แสนเย็นขาจากความลั่งรักของตัวเองจจับเขามาแต่งงด้วยสำเร็จ ซึ่งกรสวมวิญญาณในครั้งนี้เธอได้รับภารกิจหลักสามอย่าง หนึ่งคือสร้างเนื้อสร้างตัว สองคือลดน้ำหนักให้ตนเองทำงานทำการสะดวกขึ้น และสามคือทำให้สามีเป็นฝ่ายคลั่งรักเธอแทน คุณหมอฉินจะทำสำเร็จหรือไม่ จะเปลี่ยนเป็นฉินมู่หลานคนใหม่ที่สามีคลั่งรักได้หรือไม่กันนะ?

Options

not work with dark mode
Reset