ตอนที่ 641 รายงานตัว
…………….
ตอนที่ 641 รายงานตัว
เมื่อถูเฉิงเสียงได้ยินคังอันเหอพูดเช่นนั้น ใบหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยความไม่เชื่อ เงยหน้ามองภรรยาพร้อมเอ่ยด้วยเสียงสั่นเครือ “อันเหอ จริงเหรอ”
คังอันเหอพยักหน้าหนักแน่น “แน่นอนสิ ฉันจะโกหกเรื่องแบบนี้กับคุณได้ยังไง”
เมื่อได้ยินคำยืนยันของภรรยา ถูเฉิงเสียงก็อดตื่นเต้นดีใจไม่ได้ เดินเข้าไปข้างหน้าแล้วกอดหล่อน
คังอันเหอเห็นดังนั้นก็รีบห้าม “อย่าเพิ่ง ฉันเพิ่งตั้งท้องอ่อนๆ ต้องระวังมาก คุณอย่าคิดที่จะอุ้มฉันไปไหนมาไหนเชียวนะ”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ถูเฉิงเสียงก็พยักหน้ารับอย่างรีบร้อน “ใช่แล้ว คุณไม่ควรขยับตัวมาก”
พอพูดจบ เขาก็เดินวนไปวนมาอยู่ที่เดิม ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น จากนั้นก็หันไปมองคังอันเหอ “อันเหอ เรารีบไปบอกข่าวดีนี้กับคนในครอบครัวกันเถอะ”
แต่คังอันเหอห้ามเขาเอาไว้ “เฉิงเสียง รออีกสามเดือนก่อนดีกว่า”
ถูเฉิงเสียงรับฟังสิ่งที่ภรรยาพูดแล้วก็พยักหน้า “ตกลง เราจะไม่พูดอะไรจนกว่าจะผ่านไปสามเดือนค่อยบอกคนอื่นในครอบครัว”
เพียงแต่ว่าเขาดีใจมากจริงๆ หลังจากที่เริ่มสงบสติอารมณ์ลงแล้ว เขาก็เริ่มจัดการทุกอย่าง ตั้งใจจะทำความสะอาดบ้านให้เรียบร้อย จากนั้นก็จะทำอาหารมื้ออร่อยให้ภรรยากินในตอนเย็น
อีกด้านหนึ่ง เมื่อฉินมู่หลานกลับไปถึงบ้านแล้ว เธอก็เดินเข้าไปที่สวนหลังบ้านทันที
คุณปู่ฉินเห็นหลานสาวกลับมาก็ยิ้มแย้มทักทาย “มู่หลาน เสร็จงานแล้วเหรอ?”
ฉินมู่หลานพยักหน้าพร้อมหัวเราะ “ค่ะ เสร็จแล้วก็แวะไปร้านซิ่งหลินมาครู่เดียว”
คุณปู่ฉินรู้ดีว่าร้านซิ่งหลินของหลานสาวเป็นที่นิยมมากเพียงใด และยังรู้ด้วยว่าที่นั่นมีหมอชราที่มีฝีมือฉกาจคอยตรวจวินิจฉัย เมื่อนึกถึงตัวเองที่อยู่เฉย ๆ ที่บ้านเขาก็ลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดขึ้นว่า “มู่หลาน แม้ฝีมือการรักษาของปู่จะไม่เก่งกาจ แต่ว่าปู่รู้จักสมุนไพรเป็นอย่างดีเลยนะ เอาอย่างนี้ไหม ให้ปู่ไปช่วยจัดยาที่ร้านซิ่งหลินดีหรือเปล่า?”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฉินมู่หลานก็อดประหลาดใจไม่ได้
“คุณปู่คิดดีแล้วเหรอคะ ถ้าไปทำงานที่ร้านซิ่งหลิน ต้องไปทุกวันเลยนะ”
คุณปู่ฉินรีบพยักหน้ากล่าวว่า “ปู่คิดเรื่องนี้มาสักพักแล้ว แต่กลัวว่าฝีมือของปู่มันจะทำให้หลานขายหน้า ปู่ก็เลยยังไม่กล้าพูด แต่ละวันหมกตัวอยู่บ้านมันก็อึดอัดไม่น้อย”
คุณย่าฉินที่อยู่ข้างๆ ก็หันมาทางฉินมู่หลานแล้วพูดว่า “มู่หลาน ให้คุณปู่ไปลองดูเถอะ เขาอยู่บ้านก็น่าเบื่อเปล่า ให้เขาไปช่วยที่ร้านซิ่งหลินดีกว่า”
“จริงเหรอมู่หลาน ถ้าอย่างนั้นปู่เข้าไปพรุ่งนี้เลยนะ”
ที่จริงแล้วหลังจากที่คุณปู่ฉินมาถึงปักกิ่ง เขาก็ไม่ได้อยู่เฉยๆ เวลาว่างก็จะอ่านตำรายาที่หลานสาวให้มา ในยามที่คนอื่นยุ่งจนไม่มีเวลา เขาก็จะช่วยดูแลหลานๆ ให้ เลยทำให้แต่ละวันยังคงรู้สึกมีอะไรทำ แต่ว่าในใจลึกๆ เขาก็ยังอยากกลับไปทำงานเดิมอยู่ดี ในที่สุดวันนี้เขาก็ได้พูดเรื่องนี้กับหลานสาว
“ถูกแล้วมู่หลาน เธอเล่าเรื่องราวของร้านซิ่งหลินให้ฉันฟังหน่อยสิ ไม่งั้นพรุ่งนี้ฉันไปถึงจะได้ไม่รู้ว่าต้องทำตัวยังไง”
เมื่อเห็นว่าคุณปู่ดูตื่นเต้น ฉินมู่หลานก็อดขำไม่ได้ “คุณปู่ไม่ต้องกังวลหรอกค่ะ ทุกคนใจดี คุณปู่ไปถึงก็ไม่ต้องกังวลเลยค่ะ แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่รู้สึกเหนื่อยก็บอกได้นะคะ”
เพราะคุณปู่อายุมากแล้ว ฉินมู่หลานกลัวว่าคุณปู่จะเหนื่อยจนล้มป่วย
ทว่าคุณปู่ฉินกลับหัวเราะร่า “สบายใจได้เลยมู่หลาน ปู่กินยาที่หลานปรุงให้ทุกวัน เดี๋ยวนี้ร่างกายแข็งแรงมาก”
เมื่อเห็นคุณปู่ฉินพูดอย่างมีพลัง ฉินมู่หลานก็หัวเราะตาม “อย่างนั้นก็ดีค่ะ แต่คุณปู่ก็อย่าลืมนะคะ ถ้ามีปัญหาอะไรก็ต้องบอกหนูด้วยนะคะ”
“วางใจเถอะ ถ้ามีอะไรปู่จะบอกนะ”
หลังจากที่ฉินมู่หลานคุยกับผู้อาวุโสได้สักพัก เธอก็ไปเล่นกับลูกๆ จนกระทั่งตอนเย็นเซี่ยเจ๋อหลี่กลับมา เธอก็เล่าเรื่องนี้ให้เขาฟัง
“อะไรนะ…คุณปู่จะไปทำงานที่ร้านซิ่งหลินงั้นเหรอ”
แม้แต่เซี่ยเจ๋อหลี่ก็ยังรู้สึกแปลกใจ แต่ก็คิดว่าถ้าคนแก่มีอะไรทำบ้างก็คงจะดี
หลังจากนั้น ฉินมู่หลานก็เล่าเรื่องที่ถูเฉิงเสียงกับฟู่โฮ่วหลิ่นรู้จักกับกัวอี่เชียนให้เซี่ยเจ๋อหลี่ฟัง “ไม่คิดเลยว่าถูเฉิงเสียงจะรู้จักสองคนนั้นที่มาจากซีหนานด้วย แถมยังดูสนิทสนมกันมาก”
“พวกเขารู้จักกันก็ไม่แปลก ทั้งสามคนเป็นคนปักกิ่ง คาดว่าคงรู้จักกันมานานแล้ว”
“อ๋อ ฟู่โฮ่วหลิ่นกับกัวอี่เชียนเป็นคนปักกิ่งเหรอ แปลกใจจังที่ทุกคนรู้จักกัน แต่ก่อนหน้านี้ฉันได้ยินพวกเขาคุยกันสำเนียงเหมือนคนซีหนาน ฉันเลยนึกว่าพวกเขามาจากซีหนานซะอีก” ฉินมู่หลานพยักหน้าเข้าใจ
พอสายวันรุ่งขึ้น ฉินมู่หลานก็พาคุณปู่ไปร้านซิ่งหลินตั้งแต่เช้า
เซี่ยปิงชิงกับคังอันเหอต่างก็ประหลาดใจที่เห็นคุณปู่ฉิน แต่เมื่อรู้ว่าคุณปู่ฉินจะมาทำงานในร้านซิ่งหลินก็ยิ่งตกใจใหญ่ ทว่าผู้อาวุโสลั่วกลับหันมายิ้มกับคุณปู่ฉินพร้อมพูดว่า “เยี่ยมเลย เราสองคนจะได้คุยกันตามประสาคนแก่”
เมื่อคุณปู่ฉินได้ยินดังนั้นก็ยิ้มพร้อมตอบว่า “ก็จริง แต่หมอชราอย่างฉันฝีมือไม่ถึงขั้น คงไม่ได้วินิจฉัยโรคให้ใครแล้วล่ะ ฉันมาช่วยจัดยาเท่านั้น”
“ปู่คะ ถ้าอย่างนั้นปู่ก็รับผิดชอบเรื่องการจัดยาไปแล้วกัน อันเหอกำลังท้องอยู่พอดี มีปู่มาช่วยก็เบาแรงลงเยอะเลย”
คังอันเหอมองชายชราตรงหน้าก็ไม่รู้ว่าจะเบาแรงลงจริงหรือเปล่า แต่หลังจากผ่านมาไม่กี่วัน หล่อนก็รับรู้ได้ถึงประโยชน์ของการมีคนมาช่วยแล้ว “คุณปู่ฉินคะ พอมีคุณปู่มาช่วย ฉันก็สบายขึ้นเยอะจริงๆ คุณปู่มาได้จังหวะพอดีเลย”
พอได้ยินแบบนั้น คุณปู่ฉินก็หัวเราะออกมาพร้อมพูดว่า “คนแก่อย่างฉันช่วยงานได้ก็ดีแล้ว”
การทำงานในร้านซิ่งหลินนั้นน่าสนุกกว่าอยู่บ้านมาก เวลามีคนมาซื้อยา เขาก็ช่วยจัดยา เวลาว่างเขาก็จะไปขอคำปรึกษากับเซี่ยเหยียนลั่ว มันเยี่ยมมากจริงๆ
พอเห็นว่าคุณปู่มาทำงานที่ร้านซิ่งหลินแล้วมีความสุข ฉินมู่หลานก็วางใจ
แล้วก็ถึงวันเปิดเทอมของเธอและฉินเคอวั่ง
“มู่หลาน มาถึงแล้วเหรอ?”
เซี่ยปิงหรุ่ยมาเจอฉินมู่หลานที่หน้าโรงเรียน จากนั้นก็พาเธอไปที่หอพัก “ไป พวกเราเอาของไปเก็บก่อน แล้วค่อยไปที่ห้องเรียน”
ฉินมู่หลานมีของมาพอสมควรจึงพยักหน้ารับ “ได้ ถ้างั้นพวกเราไปที่หอกันก่อน”
พอไปถึงหอพักก็เห็นว่าเฉินเซี่ยวอวิ๋นกับเกาซุนชิวมาถึงแล้ว ส่วนสือหยวนฝูกับเหมาชุนเถายังไม่มา
เซี่ยปิงหรุ่ยแปลกใจจึงเอ่ยถามว่า “ปกติชุนเถามาเรียนเช้ามาก แต่วันนี้ทำไมยังไม่มา”
เฉินเซี่ยวอวิ๋นที่อยู่ข้างๆ ก็พูดตาม “ใช่แล้ว ในหอเราชุนเถาเป็นคนขยันที่สุดแล้ว ฉันเลยแปลกใจว่าวันนี้ทำไมหล่อนมาช้าจัง”
หลังจากที่ทุกคนเก็บของเสร็จ เหมาชุนเถาและสือหยวนฝูก็ยังไม่มา พวกหล่อนจึงต้องไปลงทะเบียนที่ห้องเรียนก่อน
วันเปิดเทอมวันแรกไม่มีอะไรมาก เมื่อฉินมู่หลานและเซี่ยปิงหรุ่ยรับหนังสือเรียนแล้วก็กลับหอ เฉินเซี่ยวอวิ๋นและเกาซุนชิวก็นั่งรถกลับมาพร้อมกัน และพวกเธอก็เพิ่งรู้ว่าเหมาชุนเถาและสือหยวนฝูได้ลาหยุด
“ไหน ๆ ชุนเถาก็อยู่ไม่ไกล พวกเราไปเยี่ยมหล่อนกันดีกว่า”
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
ให้คุณปู่ทำอะไรบ้างจะได้ไม่เหงา เข้าใจอารมณ์คนแก่ที่อยู่บ้านเหงาๆ ไม่มีอะไรทำเลย
ไหหม่า(海馬)