ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก 638 อธิบาย

ตอนที่ 638 อธิบาย

ตอนที่ 638 อธิบาย

…………….

ตอนที่ 638 อธิบาย

เซี่ยปิงหรุ่ยเห็นฉินมู่หลานมาถึงแล้ว หล่อนจึงรีบเดินเข้าไปหา “มู่หลาน มาถึงเร็วจัง”

ขณะพูดก็สังเกตเห็นเซี่ยเจ๋อหลี่กับกู้วั่งหลานอยู่ด้วย จึงรีบกล่าวทักทาย

เฉินเซี่ยวอวิ๋นกับเกาซุนชิวก็เดินเข้ามาทักทาย แล้วหันมาพูดกับฉินมู่หลานว่า “มู่หลาน ช่วงนี้ร้านซิ่งหลินเป็นที่นิยมไปทั่วปักกิ่งเลยนะ คนที่บ้านฉันอยากจะซื้อแต่ก็หาซื้อไม่ได้”

ใครที่ได้ซื้อยาบำรุงร่างกายไปเป็นของขวัญช่วงปีใหม่จะถือว่าจริงใจมาก พวกหล่อนไปที่ไหนก็ได้ยินแต่คนพูดถึงยาบำรุงร่างกาย

ฉินมู่หลานได้ยินดังนั้นจึงกล่าวพร้อมรอยยิ้มว่า “งั้นเดี๋ยวฉันให้คนแยกเก็บไว้ให้พวกเธอก่อน”

ได้ยินคำนี้ เฉินเซี่ยวอวิ๋นและเกาซุนชิวก็รีบขอบคุณ

“มู่หลาน ขอบคุณมากเลย”

เหมาชุนเถาที่ออกมาจากครัวพอดีเมื่อเห็นทุกคนมาแล้ว จึงรีบกล่าวว่า “พวกเธอมาได้จังหวะพอดี นี่ก็ได้เวลากินข้าวแล้ว ไปรอที่ห้องอาหารก่อนได้เลย”

ฉินมู่หลานกล่าวเสริมว่า “จริงด้วย ไม่รู้ว่าชุนเถาเริ่มเข้าครัวตั้งแต่เมื่อไหร่ พอฉันมาถึงก็ไม่มีอะไรให้ช่วยแล้ว”

เหมาชุนเถากลับหัวเราะ “ฉันทำคนเดียวได้ ไม่ต้องช่วยหรอก”

แต่เป็นเพราะพวกเฉินเซี่ยวอวิ๋นเพิ่งมาที่บ้านหลังเล็กนี้เป็นครั้งแรก จึงยังไม่รีบร้อนอยากกินข้าว เลยขอให้เหมาชุนเถาพาเดินชมไปก่อน

“ได้สิ งั้นฉันจะพาพวกเธอชมรอบๆบ้านก่อน”

เหมาชุนเถาถอดผ้ากันเปื้อนออก ก่อนจะพาเฉินเซี่ยวอวิ๋นกับเซี่ยปิงหรุ่ยเดินชมรอบๆ บ้านทั้งด้านในและด้านนอก

เมื่อชมบ้านเสร็จ เฉินเซี่ยวอวิ๋นก็อดพูดไม่ได้ว่า “ชุนเถา บ้านหลังเล็กๆ ของเธอน่าอยู่จังเลย การจัดวางก็ดีมาก ที่สำคัญคือไม่ไกลจากโรงเรียนของเสี่ยวจี๋เสียงด้วย พวกเธอแม่ลูกอยู่ที่นี่สะดวกมากจริงๆ”

เหมาชุนเถาก็พยักหน้าตอบรับเบาๆ เมื่อได้ยินดังนั้น “ใช่ ฉันก็ว่าสะดวกเหมือนกัน”

“เธอเก่งจังเลยนะที่หาที่นี่เจอ”

เมื่อเห็นเฉินเซี่ยวอวิ๋นเอ่ยชมไม่หยุด เหมาชุนเถาก็รีบโบกมือรัวและพูดว่า “ไม่ใช่ว่าฉันหาเจอหรอกนะ แต่เป็นผู้จัดการกู้ที่ช่วยหาให้ ต้องขอบคุณผู้จัดการกู้มากๆเลย”

เฉินเซี่ยวอวิ๋นเคยช่วยเหมาชุนเถาหาบ้านเช่ามาก่อน ย่อมรู้ดีถึงความลำบากในการหาบ้าน และในตอนนี้เมื่อเหมาชุนเถาสามารถซื้อบ้านหลังเล็กๆแบบนี้ได้ ต้องขอบคุณกู้วั่งหลานอย่างมากจริงๆ

ในขณะที่เซี่ยปิงหรุ่ยที่ไม่เคยรู้เรื่องนี้ พอได้ยินตอนนี้ก็หันไปมองกู้วั่งหลานด้วยความแปลกใจ เดิมทีคิดว่าผู้จัดการกู้ดูเย็นชา ไม่ค่อยสนใจใคร แต่ไม่คิดว่าจะเป็นคนใจดีขนาดนี้

เมื่อทุกคนเยี่ยมชมเสร็จแล้ว เหมาชุนเถาก็รีบพาพวกเธอไปที่ห้องกินข้าว “มากินข้าวกันเถอะ เดี๋ยวกับข้าวจะเย็นชืดหมด”

ฉินมู่หลานและเซี่ยเจ๋อหลี่พาเด็กๆ มากินข้าวพร้อมกัน โชคดีที่ชิงชิงและเฉินเฉินกินข้าวเองได้แล้ว ฉะนั้นทั้งคู่จึงต้องดูแลแค่ถวนถวนและหยวนหยวน แต่พอถึงเวลากินข้าวจริงๆ ฉินมู่หลานก็พบว่าไม่ต้องให้พวกเธอทำอะไรเลย เพราะมีแต่คนคอยป้อนข้าวให้ถวนถวนและหยวนหยวน

“ขอบคุณครับ”

เด็กๆ สองคนขอบคุณด้วยเสียงอันแสนน่ารัก ทำให้คนอื่นๆอดเอ็นดูไม่ได้

หลังกินข้าวแล้ว เกาซุนชิวก็หาโอกาสพูดคุยเรื่องครอบครัวของเกาเชี่ยนเชี่ยนกับฉินมู่หลาน

“มู่หลาน ฉันรู้สึกไม่ดีริงๆ ที่เพิ่งจะรู้ว่าเคอวั่งไปบ้านอารอง แล้วก็..” พูดไปถึงตอนท้าย หล่อนเองก็อายที่พูดเรื่องอารองกับพวกเขา

“ฉันคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าอารองกับพวกเขาจะทำเกินไปขนาดนี้ ทั้ง ๆ ที่เป็นพวกเขาเองที่เรียกเคอวั่งไปทักทายวันปีใหม่ แต่กลับดูถูกเขาซะอย่างนั้น”

ฉินมู่หลานได้ยินดังนั้น ก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “ไม่เป็นไรหรอกซุนชิว เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเธอเลย เธอไม่ต้องอธิบายอะไร”

เมื่อเห็นฉินมู่หลานดูไม่ได้ถือสา เกาซุนชิวก็ยิ่งรู้สึกแย่เข้าไปใหญ่ ในสายตาหล่อน ฉินมู่หลานเป็นคนเก่งมาก ส่วนน้องชายฉินเคอวั่งก็ไม่ได้ด้อยไปกว่ากัน แต่พอได้ยินว่าวันนั้นพวกอารองของหล่อนทำเกินไป แถมยังเป็นอารองเองที่เปิดปากให้เชี่ยนเชี่ยนเชิญมาแล้ว แบบนี้ยิ่งเกินไปเข้าไปใหญ่

เห็นเกาซุนชิวเป็นแบบนี้ ฉินมู่หลานก็อดหัวเราะไม่ได้ “เอาล่ะซุนชิว เธอไม่ต้องขอโทษเลย เชี่ยนเชี่ยนเองก็มาอธิบายแล้วด้วยว่าเธอกับเคอวั่งก็รักกันดี และพวกเขาไม่มีทางห่างเหินกันเพราะพ่อแม่แน่นอน เธอไม่ต้องคิดมาก”

เมื่อได้ยินแบบนี้เกาซุนชิวก็สบายใจ

“งั้นก็ดี จริงๆ ฉันว่าเคอวั่งเก่งจะตาย แต่ไม่รู้ว่าพวกอารองนั้นคิดยังไง”

ฉินมู่หลานได้ยินดังนั้นก็ยิ้มแล้วพูดว่า “อาจจะมองเรื่องฐานะมากกว่าก็ได้ จริงๆบางทีเรื่องฐานะก็สำคัญ”

เกาซุนชิวส่ายหน้าแล้วพูดว่า “ขอแค่เก่ง เรื่องอื่นไม่สำคัญ”

ในใจหล่อนก็คิดแบบนี้ ว่าในอนาคตหล่อนเองก็อยากจะหาคนเก่งๆและเป็นคนที่ชอบเองจริงๆ ส่วนพ่อแม่ไม่ได้สนใจเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว เทียบกับเชี่ยนเชี่ยนแล้วก็รู้สึกว่าครอบครัวของหล่อนดีกว่ามาก

“มู่หลาน เธอสบายใจได้ วันนี้กลับไปฉันจะไปโน้มน้าวอารองให้เขาเอาอย่างพ่อแม่ฉัน”

“ฮ่าๆ ซุนชิวไม่ต้องหรอก ปล่อยให้เคอวั่งกับเชี่ยนเชี่ยนเป็นไปตามธรรมชาติเถอะ”

เกาซุนชิวกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง เฉินเซี่ยวอวิ๋นก็เดินมา “พวกเธอสองคนซุบซิบอยู่ตรงนี้พูดอะไรกัน มากินผลไม้กัน ชุนเถาเพิ่งปอกแอปเปิ้ลเสร็จ หวานกรอบเชียว”

“ได้ พวกเรากำลังจะไปกันอยู่พอดี”

ว่าจบฉินมู่หลานก็ลุกขึ้นก่อนแล้วเดินนำทางไป

เกาซุนชิวเห็นแล้วก็รีบตามไปติดๆ

หลังจากที่ทุกคนกินผลไม้เสร็จ ก็เตรียมตัวจะกลับบ้านแล้ว

“ชุนเถา ไว้ครั้งหน้าพวกเราค่อยมาใหม่นะ”

ฉินมู่หลานและเซี่ยเจ๋อหลี่พาเด็กๆ กลับบ้าน เพราะถึงเวลาต้องนอนกลางวันแล้วและเด็กๆ ก็เริ่มมีอาการง่วง

“ได้เลย ไว้มาใหม่นะ”

หลังจากนั้นเซี่ยปิงหรุ่ย เฉินเซี่ยวอวิ๋น และเกาซุนชิวก็กลับบ้านกันหมดแล้ว กู้วั่งหลานก็คุกเข่าลงมองจี๋เสียงแล้วพูดว่า “ไว้คราวหน้าลุงจะซื้อของเล่นให้อีกนะ”

“ครับ”

จี๋เสียงยิ้มกว้าง

เหมาชุนเถามองจี๋เสียงด้วยสายตาไม่เห็นด้วยแล้วกล่าวว่า “จี๋เสียง ไม่ได้นะ”

แต่กู้วั่งหลานกลับมองเหมาชุนเถาแล้วพูดว่า “เขายังเด็ก อยู่ในวัยกำลังซนเลย จี๋เสียงก็ถือว่ารู้ความกว่าเด็กคนอื่นๆ อย่าไปห้ามแกเลย”

เหมาชุนเถาอ้าปากค้าง สุดท้ายก็พูดอะไรไม่ออก เพราะคนเป็นแม่ย่อมรู้จักลูกตัวเองดีที่สุด นับตั้งแต่หล่อนและซุนหนานหย่ากัน จี๋เสียงก็เหมือนจะโตขึ้นในชั่วข้ามคืน บางครั้งหล่อนก็ไม่อยากให้ลูกต้องรู้ความเร็วเกินไป

“ได้ งั้นก็ขอบคุณผู้จัดการกู้ด้วยค่ะ”

หล่อนรับรู้ได้ว่ากู้วั่งหลานชอบเด็กจริงๆ และก็ดีกับจี๋เสียงมากด้วย

กู้วั่งหลานลูบหัวจี๋เสียง หลังจากนั้นก็หันกลับแล้วจากไป

ฉินมู่หลานยังไม่ค่อยง่วงนัก จึงซุกตัวอยู่ในอ้อมแขนของเซี่ยเจ๋อหลี่แล้วพูดเบาๆว่า “อีกไม่นานก็เปิดเทอมแล้ว อีกสองวันฉันก็จะต้องไปที่โรงพยาบาลทหารอีกครั้ง”

เซี่ยเจ๋อหลี่ได้ยินดังนั้นก็บีบนวดที่ฝ่ามือฉินมู่หลานแล้วพูดว่า “เดินทางปลอดภัยนะ”

ทั้งสองพูดคุยกันในเรื่องสัพเพเหระ แต่ภาพที่ปรากฏนั้นช่างอบอุ่นเหลือเกิน

จนกระทั่งวันถัดมา เซี่ยเจ๋อหลี่กลับไปแล้ว ส่วนฉินมู่หลานเห็นว่าไม่มีอะไร ก็เลยไปที่โรงพยาบาลทหาร

เมื่อฟู่โฮ่วหลิ่นเห็นฉินมู่หลานเดินเข้ามา เขาก็เอ่ยทักทายด้วยรอยยิ้ม “คุณหมอฉิน คุณมาแล้ว”

ฉินมู่หลานพยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะจับชีพจรของฟู่โฮ่วหลิ่น

ฟู่โฮ่วหลิ่นมองฉินมู่หลานอย่างตื่นเต้นเล็กน้อย

ฉินมู่หลานกลับยิ้มแล้วพูดว่า “ไม่น่าเป็นห่วงแล้วค่ะ ฟื้นตัวดีมาก”

หลังจากนั้นเธอก็พูดเรื่องข้อควรระวังอีกสักเล็กน้อย แต่ที่คาดไม่ถึงก็คือเธอเจอถูเฉิงเสียงอยู่ที่นี่

“พี่สะใภ้ โฮ่วหลิ่น ไม่เป็นอะไรแล้วใช่ไหม”

ฉินมู่หลานเพิ่งรู้ว่าถูเฉิงเสียงก็รู้จักกับฟู่โฮ่วหลินอีกด้วย “ไม่ต้องห่วง ทุกอย่างเรียบร้อยดี”

“อย่างนั้นก็ดี เป็นเพราะพี่สะใภ้ออกโรง ก็ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้”

ฉินมู่หลานได้ยินคำนั้นก็ยิ้ม แต่เธอไม่ได้พูดอะไรมาก เพียงแค่หันตัวแล้วเดินออกจากห้องไป

…………………………………………………………………………………………………………………………

สารจากผู้แปล

ดูท่าทางชุนเถาจะมีรักครั้งใหม่ในไม่ช้าเสียแล้วสิ เพราะดูฝ่ายชายชอบเด็กมากเลย

ไหหม่า(海馬)

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

Score 10
Status: Completed
เมื่อแพทย์สาวมือฉมังพบว่าตนเองได้กลายเป็นหญิงอ้วนผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรในยุค 70 ผู้ไม่เป็นที่รักของสามี เธอจะเปลี่ยนเป็นคนใหม่ที่สามีคลั่งรักได้หรือไม่กันนะ?ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก [嫁七零糙汉后,我双胞胎体质藏不住] ผู้แต่ง : 钰儿 เรื่องย่อ หลังผชิญวรหนักจนวูบ ฉินมู่หลาน แพทย์สาวมือฉมังก็พบว่าตนองได้มาสวมร่างของหญิงอ้วนหลานสาวผู้เชี่ยวชาญด้นสมุนไพรในยุค 70 ผู้ไม่มีอะไรดีสักอย่างนอกจากได้สามีหล่อเหลานิสัยดีผู้แสนเย็นขาจากความลั่งรักของตัวเองจจับเขามาแต่งงด้วยสำเร็จ ซึ่งกรสวมวิญญาณในครั้งนี้เธอได้รับภารกิจหลักสามอย่าง หนึ่งคือสร้างเนื้อสร้างตัว สองคือลดน้ำหนักให้ตนเองทำงานทำการสะดวกขึ้น และสามคือทำให้สามีเป็นฝ่ายคลั่งรักเธอแทน คุณหมอฉินจะทำสำเร็จหรือไม่ จะเปลี่ยนเป็นฉินมู่หลานคนใหม่ที่สามีคลั่งรักได้หรือไม่กันนะ?

Options

not work with dark mode
Reset