ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก 580 ไม่อยากเชื่อเลย(2)

ตอนที่ 580 ไม่อยากเชื่อเลย(2)

ตอนที่ 580 ไม่อยากเชื่อเลย(2)

ตอนที่ 580 ไม่อยากเชื่อเลย(2)

ฉินมู่หลานคาดไม่ถึงว่าหลี่ปิ่งฉวนจะมาหา และยังอยากให้เธอช่วยทำการผ่าตัดด้วย แต่มีชีวิตมนุษย์เป็นเดิมพัน เธอจึงไม่ลังเล แล้วพยักหน้ากล่าวทันที “ได้ค่ะ เดี๋ยวฉันไปดูอาการพร้อมกับคุณก่อน”

หลังจากพูดจบ ฉินมู่หลานก็รีบหันไปมองหลัวซงผิง แล้วกล่าว “อาจารย์คะ ดูเหมือนว่าวันนี้หนูจะต้องขอลาอีกค่ะ”

พูดจบเธอก็รีบเดินตามหลี่ปิ่งฉวนไปทันที

นอกจากคนจากทางฮ่องกงแล้ว นักเรียนแลกเปลี่ยนคนอื่น ๆ ยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น หลังจากอาจารย์หลายคนแปลให้ฟัง พวกเขาจึงได้ทราบเหตุผล แต่เอลล่าเป็นคนแรกที่สงสัย

“หมอคนนั้นเพิ่งเรียกฉินมู่หลานว่าหมอฉิน หล่อนยังเป็นนักศึกษาอยู่ไม่ใช่เหรอ เป็นหมอตั้งแต่เมื่อไหร่กัน หรือว่าอยากจะให้นักศึกษาทำให้การแลกเปลี่ยนนี้ดูดีขึ้น หมอคนนั้นก็เลยแกล้งแสดงละครให้นักศึกษาไปเป็นหมออย่างนั้นเหรอ”

เมื่อได้ฟังคำพูดของเอลล่า เซียปิงหรุ่ยก็อดกลอกตามองเสียไม่ได้

“เธอนี่ก็ช่างจิตนาการจังเลยนะ มู่หลานยังเป็นนักศึกษา ตอนนี้เธอก็เพิ่งจะอายุยี่สิบต้น ๆ เท่านั้น แต่หล่อนเรียนวิชาแพทย์มาตั้งแต่เด็ก ตอนนี้ทักษะทางการแพทย์จึงพัฒนาไปหลายขุมแล้ว เธอดูสิ โรงพยาบาลปักกิ่งรักษาคนไข้ไม่ได้ จนต้องมาขอให้หล่อนไปผ่าตัดให้”

แต่คนอื่นกลับไม่เชื่อเรื่องนี้เลย

“ไม่มีทาง ถึงหล่อนจะเรียนวิชาแพทย์ตั้งแต่เด็ก จนกระทั่งถึงตอนนี้ก็ไม่มีทางที่จะมีทักษะทางการแพทย์ที่ดีขนาดนี้ได้หรอก” แต่แล้วไม่นาน เอลล่าก็นึกถึงสิ่งที่อาจารย์เพิ่งแปลไปเมื่อสักครู่ เมื่อสักครู่หมอคนนั้นเข้ามาตามตัวฉินมู่หลานให้ไปช่วยผ่าตัด

หลายคนก็กำลังคิดเรื่องนี้ พวกเขารู้สึกเพียงว่าไม่อยากจะเชื่อ

ในตอนนั้นเอง หลินไคจงก็เป็นคนเอ่ยปากเตือนพวกเขา “การผ่าตัดในห้องผ่าตัดหมายเลขหนึ่งกำลังจะเริ่มแล้ว พวกเรารีบเข้าไปกันเถอะ”

แต่อยู่ ๆ เอลล่าก็เอ่ยขึ้น “วันนี้มาชมการผ่าตัด ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็ไปดูฉินมู่หลานผ่าตัดก็เหมือนกันแหละ”

เมื่อไดฟังคำพูดนี้ หลายคนก็มีปฏิกิริยา นอกจากนี้ยังรู้สึกว่าเป็นความคิดที่ดี

โอเว่น อาจารย์ตัวแทนจากมหาลัยอมเริกาก็หันไปมองหลินไคจงแล้วกล่าวว่า “อาจารย์หลิน ผมว่าความคิดของเอลล่าก็ไม่แย่นะครับ พวกเราไปที่นั่นกันเลยเถอะ”

ในตอนนี้ แม้แต่อาจารย์และนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยอังกฤษก็ต่างเห็นด้วย พวกเขาจึงอยากจะไปมาก

ส่วนทางฝั่งฮ่องกงก็เอ่ยขึ้นทันที “พวกเราไปกันเลยเถอะ”

เมื่อเห็นคนพวกนี้เปลี่ยนใจกะทันหัน ทั้งหลินไคจงและหลัวซงผิงก็รู้สึกลำบากใจนิดหน่อย

แต่พวกเขายังไม่ทันได้พูดอะไร คนพวกนั้นก็มุ่งหน้าไปหาพวกฉินมู่หลานแล้ว

“เอ๊ะ…เดี๋ยวครับ…”

หลินไคจงและหลัวซงผิงตะโกนขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ทุกคนทำเป็นหูหนวก แล้วเดินหน้าต่อไป

เซี่ยปิงหรุ่ยเห็นแบบนี้ ก็ขมวดคิ้วขึ้นทันที แต่หล่อนทราบดีว่าทักษะทางการแพทย์ของฉินมู่หลานดีขนาดไหน จึงตามเข้าไปด้วย

เมื่อเห็นหลายคนเดินไปแล้ว หลัวซงผิงก็กล่าวอย่างกังวลใจ “อาจารย์หลิน จะทำยังไงดี นี่มันวุ่นวายไปหมดแล้ว แล้วก็…” เมื่อพูดถึงตอนท้าย เขาก็หันมองหลินไคจงด้วยความสับสนแล้วเอ่ยถาม “ฉันรู้ว่านักศึกษาฉินเก่งเรื่องยามาก แต่หล่อนผ่าตัดได้ด้วยเหรอ แม้แต่หมอจากโรงพยาบาลปักกิ่งก็ยังมาขอให้ช่วย”

“นายเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาของหล่อน นายยังไม่รู้เลย แล้วฉันจะไปรู้ได้ยังไง”

หลินไคจงถอนหายใจ ก่อนจะกล่าว “เอาล่ะ ทุกคนไปกันหมดแล้ว พวกเรารีบไปดูกันดีกว่า”

อีกด้านหนึ่ง ฉินมู่หลานตามหลี่ปิ่งฉวนไปที่ห้องผ่าตัดหมายเลขสอง หลังจากเธอเตรียมการทุกอย่างเสร็จแล้ว ก็เข้าไปทันที

คนอื่นก็เดินตามกันมา จะเข้าไปด้วยกัน

“เดี๋ยวก่อน พวกคุณจะทำอะไร?”

หลี่ปิ่งฉวนมองทุกคนแล้วห้ามปรามทันที

หวังโหย่วเหรินยิ้มก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า “หมอครับ พวกเราคืออาจารย์และนักศึกษาที่จะมาเข้าชมการผ่าตัดในวันนี้ จึงตั้งใจว่าจะเข้าไปดูข้างในครับ”

หลี่ปิ่งฉวนขมวดคิ้วแล้วมองคนตรงหน้า ก่อนจะเอ่ยว่า “ทำไมผมไม่เห็นทราบเรื่องนี้เลย” แต่ใจเขาก็เชื่ออยู่แล้ว เพราะตรงนี้มีชาวต่างชาติอยู่ด้วย คนพวกนี้คงมเข้าชมการผ่าตัดจริง ๆ

ในตอนนี้ หลินไคจงและหลัวซงผิงก็มาถึงแล้ว พวกเขาอธิบายสถานการณ์ให้หลี่ปิ่งฉวนฟัง จากนั้นก็เอ่ยด้วยความประหม่า “พวกเขาเห็นว่ามู่หลานเป็นนักศึกษาในกลุ่มแลกเปลี่ยนนี้ หลังจากทราบว่าหล่อนจะทำการผ่าตัด จึงอยากมาลองดูสักหน่อยครับ”

หลังจากหลี่ปิ่งฉวนทราบว่าเรื่องเป็นมาอย่างไร ก็ลังเลขึ้นมาสักพัก

เขาไม่มีทางเลือก จึงต้องไปตามฉินมู่หลาน เขาเองก็ยังไม่ค่อยมั่นใจในการผ่าตัดครั้งนี้เช่นกัน ว่าฉินมู่หลานจะทำผิดพลาดหรือเปล่า หากไม่ประสบความสำเร็จ แล้วให้ชาวต่างชาติเข้าไปชม คงมีผลกระทบแง่ลบตามมา

ขณะที่หลี่ปิ่งฉวนกำลังครุ่นคิดเรื่องนี้ พยาบาลคนหนึ่งก็เดินออกมา เมื่อเห็นเขาก็รีบเอ่ยทันที “หมอหลี่คะ ข้างในจะเริ่มผ่าตัดแล้วค่ะ หมอไม่เข้าไปเหรอคะ”

เมื่อได้ฟังคำพูดนี้ แววตาของหลี่ปิ่งฉวนก็สว่างวาบ

ในเมื่อหมอฉินจะเริ่มทำการผ่าตัดแล้ว ถ้าอย่างนั้นแสดงว่าการผ่าตัดในครั้งนี้คงไม่มีอะไรผิดพลาด เขาจึงยิ้มแล้วมองคนตรงหน้าก่อนจะเอ่ยว่า “ได้ครับ ถ้าอย่างนั้น พวกคุณก็เข้าไปชมเถอะครับ”

หลังจากทุกคนทำความสะอาดเรียบร้อย ก็พากันเข้าไปในห้องผ่าตัด

ฉินมู่หลานเห็นพวกเขาเข้ามาก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย สิ่งแรกที่เอ่ยถามก็คือ “ก่อนพวกเขาจะเข้ามาในห้องผ่าตัด ทำความสะอาดเรียบร้อยแล้วใช่ไหม?”

“ไม่ต้องห่วงครับ ทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว”

เมื่อได้ยินแบบนี้ ฉินมู่หลานก็รู้สึกโล่งใจ จากนั้นก็หันมองทางหลี่ปิ่งฉวนแล้วเอ่ยว่า “หมอหลี่ พวกเราเริ่มกันเลยค่ะ”

“ครับ”

หลี่ปิ่งฉวนก้าวเดินมาข้างหน้าทันที แล้วยืนข้างฉินมู่หลาน เพื่อคอยช่วยเธอ

………………………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

เข้าไปหลายคนแบบนี้ทำความสะอาดกันดีๆ นะ ไม่งั้นปนเปื้อนแล้วมีผลต่อการผ่าตัด เดี๋ยวมู่หลานก็ซวยอีก

ไหหม่า(海馬)

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

Score 10
Status: Completed
เมื่อแพทย์สาวมือฉมังพบว่าตนเองได้กลายเป็นหญิงอ้วนผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรในยุค 70 ผู้ไม่เป็นที่รักของสามี เธอจะเปลี่ยนเป็นคนใหม่ที่สามีคลั่งรักได้หรือไม่กันนะ?ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก [嫁七零糙汉后,我双胞胎体质藏不住] ผู้แต่ง : 钰儿 เรื่องย่อ หลังผชิญวรหนักจนวูบ ฉินมู่หลาน แพทย์สาวมือฉมังก็พบว่าตนองได้มาสวมร่างของหญิงอ้วนหลานสาวผู้เชี่ยวชาญด้นสมุนไพรในยุค 70 ผู้ไม่มีอะไรดีสักอย่างนอกจากได้สามีหล่อเหลานิสัยดีผู้แสนเย็นขาจากความลั่งรักของตัวเองจจับเขามาแต่งงด้วยสำเร็จ ซึ่งกรสวมวิญญาณในครั้งนี้เธอได้รับภารกิจหลักสามอย่าง หนึ่งคือสร้างเนื้อสร้างตัว สองคือลดน้ำหนักให้ตนเองทำงานทำการสะดวกขึ้น และสามคือทำให้สามีเป็นฝ่ายคลั่งรักเธอแทน คุณหมอฉินจะทำสำเร็จหรือไม่ จะเปลี่ยนเป็นฉินมู่หลานคนใหม่ที่สามีคลั่งรักได้หรือไม่กันนะ?

Options

not work with dark mode
Reset