ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก 450 ยิ่งห่างไกลยิ่งรักกัน(1)

ตอนที่ 450 ยิ่งห่างไกลยิ่งรักกัน(1)

ตอนที่ 450 ยิ่งห่างไกลยิ่งรักกัน(1)

ตอนที่ 450 ยิ่งห่างไกลยิ่งรักกัน(1)

ฉินมู่หลานได้ยินคำพูดของเซี่ยเจ๋อหลี่ ก็รีบส่ายหัวแล้วบอกกล่าว “ไม่ช้าหรอกค่ะ คุณมาได้ทันเวลาพอดีเลย”

พูดจบก็รีบคว้าแขนของเขา “คุณไม่ได้บอกที่บ้านก่อนเลยว่าจะมา”

“ผมก็ไม่รู้ว่าจะมาได้หรือเปล่า ก็เลยยังไม่ได้บอกพวกคุณ ไม่คิดว่าจะมาได้ทันเวลาพอดี”

ขณะทั้งสองพูดคุยกัน ก็เดินเข้ามาข้างใน

เซี่ยเจ๋อหลี่มาที่นี่ไม่บ่อยนัก เมื่อได้เห็นเรือนสี่ประสานสะอาดเอี่ยมหลังใหม่ ก็อดพูดไม่ได้ “มู่หลาน นี่มองจากแค่ข้างนอกก็สวยแล้วนะ”

“นั่นสิ พวกพ่อยุ่งกันอยู่นานก็ต้องตกแต่งออกมาได้สวยอยู่แล้ว”

ในตอนนั้นเอง พวกเหยาจิ้งจือก็สังเกตเห็นเซี่ยเจ๋อหลี่เหมือนกัน

“อาหลี่ แกมาได้ยังไง”

เหยาจิ้งจือก้าวเดินมาข้างหน้าด้วยความแปลกใจ แววตาฉายปีติเปี่ยมล้น หลังจากนั้นก็บอกให้เขาเข้าไปข้างใน “อาหลี่ แกมาทันเวลาพอดี งานใกล้จะเริ่มแล้ว”

เซี่ยเหวินปิงก็ตบบ่าลูกชายด้วยความดีใจ เจี่ยงสือเหิงกับคนอื่น ๆ ก็เข้ามาทักทายเซี่ยเจ๋อหลี่กัน

กลุ่มคนที่ให้ความสนใจเซี่ยเจ๋อหลี่มากที่สุดคือพวกเพื่อนร่วมห้องของฉินมู่หลาน เมื่อหลายคนเห็นเขา ก็อดหันไปมองเซี่ยปิงหรุ่ยแล้วเอ่ยถามเสียไม่ได้ “นั่นใช่สามีของมู่หลานหรือเปล่า?”

เซี่ยปิงหรุ่ยพยักหน้าแล้วบอกกล่าว “ใช่แล้ว นั่นแหละเซี่ยเจ๋อหลี่ สามีของมู่หลาน พ่อของเด็ก ๆ สองคน”

“ชายหล่อหญิงสวยตามคาด”

เฉินเซี่ยวอวิ๋นอดถอนหายใจเสียไม่ได้ ขณะเดียวกันก็รู้สึกอิจฉาฉินมู่หลานนิดหน่อย ตัวเองก็หน้าตาสะสวยงดงาม สามีก็หล่อเหลา ยามเมื่อทั้งสองยืนอยู่ด้วยกันช่างงดงามราวกับภาพวาด ขนาดลูกทั้งสองคนยังน่ารักเลย

สือหยวนฝูกล่าวตาม “ใช่เลย เป็นคู่ที่เหมาะกันจริง ๆ”

หล่อนรู้สึกว่านี่คือคู่รักตัวอย่าง ทั้งสองมีรูปร่างหน้าตาและฐานะทางบ้านใกล้เคียงกันมาก การแต่งงานแบบนี้จึงจะสามารถครองคู่อยู่กันได้เนิ่นนาน หากเป็นอย่างคู่เหมาชุนเถาที่คนหนึ่งแข็งแกร่งอีกคนอ่อนแอก็คงอยู่กันยืดยาวไม่ได้ เพราะฉะนั้นหล่อนจึงสร้างเงื่อนไขว่าคู่ของเธอจะต้องไม่แตกต่างจากตนมาก และต้องหาผู้ชายที่คล้ายกับหล่อน

ฉินมู่หลานก็ไม่ลืมว่าเพื่อนร่วมห้องเคยอยากเจอเซี่ยเจ๋อหลี่ หลังจากกินข้าวได้สักพักหนึ่งก็พาเซี่ยเจ๋อหลี่มาหา “อาหลี่ พวกนี้คือเพื่อนร่วมห้องของฉันเอง” พูดจบเธอก็เอ่ยแนะนำชื่อทีละคน หลังจากนั้นก็หันมองจี๋เซียงน้อยแล้วพูดขึ้น “นั่นคือเหมาจี๋เซียงลูกชายของชุนเถาค่ะ”

เซี่ยเจ๋อหลี่ได้ยินแบบนี้ก็ยิ้มทักทายทุกคน “สวัสดีครับ”

“สวัสดีค่ะ”

เฉินเซี่ยวอวิ๋นกับเกาซุนชิวต่างยิ้มแล้วทักทายเซี่ยเจ๋อหลี่ และเหมาชุนเถาก็ให้ลูกชายเรียกเขาว่าคุณอา

“สวัสดีครับคุณอา”

“สวัสดี”

เซี่ยเจ๋อหลี่เห็นว่าจี๋เซียงตัวน้อยเป็นเด็กดี ก็อดลูบหัวเขาเสียไม่ได้

พบกับเพื่อนร่วมห้องหมดแล้วฉินมู่หลานกับเซี่ยเจ๋อหลี่ก็เดินไปโต๊ะอื่นอีก

หลิวเสวียข่ายกับเยว่เจินจูก็มาร่วมงานเช่นกัน เมื่อทั้งสองเห็นฉินมู่หลานกับเซี่ยเจ๋อหลี่ ก็ยิ้มให้พวกเขาแล้วพูดแสดงความยินดี

ว่านจี้อวิ๋นเฝ้ามองจากที่ไกล จากนั้นจึงหันไปถามเริ่นม่านนี “นั่นใช่หลานชายคนโตของตระกูลหลิวหรือเปล่า ผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ เขานั่นใครกัน?”

เริ่นม่านนีหันไปมองหลังจากได้ยินแบบนั้น ก่อนจะส่ายหัวแล้วบอกกล่าว “ไม่รู้จัก อาจจะไม่ได้อยู่แถวนี้ค่ะ แต่ว่าตระกูลหลิวหาคู่ครองดี ๆ ให้ได้แล้วเหรอ ทำไมไม่เห็นได้ยินข่าวลือเลย”

“นั่นสิ ตอนแรกแม่ก็ว่าจะแนะนำหลานสาวของแม่ให้ตระกูลหลิว ไม่คิดเลยว่าจะสายไปแล้ว” ว่านจี้อวิ๋นได้แต่รู้สึกเสียใจ

แต่อารมณ์ของเริ่นม่านนีค่อนข้างซับซ้อน เริ่นม่านลี่น้องสาวของหล่อนเคยอยากแต่งเข้าตระกูลหลิว ทำให้โดนเซี่ยอวี่หรงเอารัดเอาเปรียบ แต่ตอนนี้หลิวเสวียข่ายกลับมีคู่แล้ว

คนอื่นก็สังเกตเห็นเหมือนกัน คุณนายเหยาก็เอ่ยถามแบบเดียวกัน “ผู้หญิงที่นั่งถัดจากหลิวเสวียข่ายมาจจากตระกูลไหนกัน ทำไมฉันไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน”

หลี่เสวี่ยเยี่ยนหันไปมอง ก่อนจะพูดอยู่ข้าง ๆ “นั่นเป็นช่างแต่งหน้าที่มู่หลานจ้างมาประจำอยู่ที่ห้างค่ะ ตอนนี้กำลังทำงานอยู่ในห้างสรรพสินค้า”

“ช่างแต่งหน้า?”

“ใช่ค่ะ ได้ยินว่าเมื่อก่อนหรูฮวนเคยจ้างหล่อนมาเห็นช่างแต่งหน้าให้เมื่อตอนงานแต่ง หลังจากนั้นมู่หลานก็เริ่มถูกใจฝีมือของหล่อน จึงจ้างให้ไปประจำที่ห่างสรรพสินค้า ฝีมือการแต่งหน้าดีมากเลยค่ะ”

หลี่เสวี่ยเยี่ยนเคยเห็นตอนที่เยว่เจินจูกำลังแต่งหน้า จึงรู้สึกทึ่งในฝีมือของอีกฝ่าย ตอนแรกเป็นเพียงหญิงสาวหน้าตาบ้าน ๆ คนหนึ่ง แต่เมื่อผ่านมือของเยว่เจินจูแล้วก็กลายเป็นคนสวยขึ้นมาในทันที หล่อนไม่เคยคิดเลยว่าเครื่องสำอางจะมีเวทมนตร์มหัศจรรย์ขนาดนี้

แต่ถึงอย่างนั้นคุณนายเหยาก็ยังขมวดคิ้วต่อ

“อย่างนี้ก็หมายความว่า เยว่เจินจูคนนี้มีฐานะครอบครัวธรรมดาสินะ”

เมื่อได้ยินแบบนี้ หลี่เสวี่ยเยี่ยนก็เข้าใจความหมายที่คุณนายเหยาสื่อได้ในทันที เธอปรายตามองคุณนายเหยา ก่อนจะเอ่ย “คุณยายคะ คุณยายอย่าพูดแบบนี้ต่อหน้ามู่หลานนะคะ หล่อนไม่สนใจเรื่องนี้เลย หล่อนมองคนที่ความสามารถค่ะ”

คุณนายเหยาอ้าปากค้างเมื่อได้ยินแบบนี้ จากนั้นก็ไม่ได้พูดอะไรมาก

นางไม่กล้าตำหนิหลานสะใภ้คนเล็กคนนี้มากเพราะเยี่ยมยอดอยู่แล้ว ตอนนี้ยังเป็นถึงคุณหนูคนโตแห่งตระกูลเซี่ย คิดไม่ถึงเลยว่าเซี่ยฉางชิงจะยอมหย่าเพื่อลูกสาวคนนี้ และในท้ายที่สุดก็ได้เห็นว่าเกิดอะไรขึ้นกับเติ้งซูหลานและเซี่ยอวี่หรง แต่สองแม่ลูกคู่นั้นก็สมควรรับกรรมแล้ว ใครใช้ให้พวกหล่อนจิตใจโหดเหี้ยมขนาดนั้นกัน

ในตอนนี้ ฉินมู่หลานกับเซี่ยเจ๋อหลี่ก็เดินเข้ามา

คุณนายเหยาเห็นทั้งสองกำลังเดินเข้ามาหา ก็รู้สึกเหมือนโชคช่วยนิดหน่อย โชคดีที่ตัวเองไม่ได้พูดอะไร มิฉะนั้นฉินมู่หลานคงได้ยินเข้าแล้ว

“คุณตาคุณยาย ไม่เจอกันนานเลยนะครับ”

เซี่ยเจ๋อหลี่ยิ้มแล้วก้าวเดินเข้าไปเพื่อรินเหล้าหนึ่งจอกให้นายท่านเหยา

นายท่านเหยาได้ยินแบบนี้ก็อดพูดไม่ได้ “ใช่แล้ว ไม่เจอกันนานเลย ตอนนี้พวกเธอยุ่งกันมาก อยากจะเจอหน้าก็แทบไม่ง่ายเลย”

“คุณตาครับ ช่วงนี้ผมได้หยุดประมาณสองสามวัน พรุ่งนี้จะพามู่หลานกับลูก ๆ ทั้งสองคนไปหานะครับ”

“นั่นดีมากเลย”

นายท่านเหยาได้แต่รู้สึกมีความสุข ลูกสาวกับลูกเขยจะมาอยู่ด้วยสองสามวัน ตอนนี้หลานชายคนเล็กก็จะพาครอบครัวไปอยู่ที่บ้านตระกูลเหยาด้วย ในบ้านจะได้กลับมามีชีวิตชีวาครั้งแล้ว

หลังจากนั้นฉินมู่หลานกับเซี่ยเจ๋อหลี่ก็เดินไปโต๊ะอื่นอีก ทักทายแขกทุกคนที่มาร่วมงาน เมื่อมาถึงโต๊ะของตระกูลเสิ่น เสิ่นหรูฮวนก็อดถามไม่ได้ “พี่ใหญ่เซี่ย ช่วงนี้ซวี่ตงยุ่งมากเลยเหรอคะ?”

เมื่อได้ยินแบบนี้ เซี่ยเจ๋อหลี่ก็ยิ้มแล้วบอกกล่าว “ใช่ ช่วงนี้เขายุ่งมาก”

เสิ่นหรูฮวนได้ยินแบบนี้ ก็อดถอนหายใจไม่ได้ “ไม่รู้ว่าปลายเดือนหน้าเขาจะกลับมาได้หรือเปล่า”

“วางใจได้ ตอนนี้เขารีบเร่งทำงานก็เพราะปลายเดือนหน้าจะกลับมาอยู่กับเธอที่ปักกิ่งนี่แหละ”

“จริงเหรอคะ?”

สีหน้าของเสิ่นหรูฮวนดูแปลกใจ พลางมองไปที่เซี่ยเจ๋อหลี่อย่างไม่ค่อยเชื่อนัก

เซี่ยเจ๋อหลี่พยักหน้าแล้วบอกกล่าว “จริงแน่นอน ฉันจะโกหกเธอทำไมกัน”

“ดีจังเลย”

เมื่อเห็นเซี่ยเจ๋อหลี่พูดจริงจัง เสิ่นหรูฮวนก็รู้สึกมีความสุขขึ้นมา

แม้แต่ถงทิงผิงที่อยู่ข้าง ๆ ก็อดพูดพร้อมรอยยิ้มเสียไม่ได้ “ตอนนี้หายกังวลแล้วสินะ ซวี่ตงมาอยู่ตอนคลอดด้วยได้”

นายท่านเสิ่นกับเสิ่นหรูฮุ่ยก็มีความสุขเหมือนกัน หลังจากทั้งครอบครัวพูดคุยกับเซี่ยเจ๋อหลี่ต่ออีกสักพัก ก็ปล่อยให้เขาไปทำธุระต่อ

ทางด้านฉินมู่หลานกับเซี่ยเจ๋อหลี่กำลังดื่มอวยพรให้แขกทุกโต๊ะ อีกด้านหนึ่ง ซูหว่านอี๋กับสามีและเหยาจิ้งจือกับสามีก็กำลังทักทายแขกเช่นกัน หลังจากนั้นเหยาจิ้งจือก็พาเซี่ยเหวินปิงไปที่โต๊ะของนายท่านเหยา

ตอนแรกคนก็ไม่ได้มากมายนัก หลังจากกินเสร็จแล้ว ทุกคนก็เริ่มทยอยกลับไป

เจี่ยงสือเหิงกับเซี่ยปิงชิงกลับไปเป็นคู่สุดท้าย ทั้งสองหันมองทุกคนก่อนจะอดพูดเสียไม่ได้ “ทุกคนย้ายมาบ้านใหม่แล้ว บ้านเก่าก็เหมือนโดนทิ้งร้างไว้เลย”

……………………………………………………………………………………

สารจากผู้แปล

คุณนายเหยาอย่าดูคนที่ฐานะมากนัก เดี๋ยวจะเป็นแบบกรณีตระกูลเซี่ยนะ

ไม่ร้างหรอกปิงชิง เดี๋ยวก็ไปมาหาสู่กันได้

ไหหม่า(海馬)

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

Score 10
Status: Completed
เมื่อแพทย์สาวมือฉมังพบว่าตนเองได้กลายเป็นหญิงอ้วนผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรในยุค 70 ผู้ไม่เป็นที่รักของสามี เธอจะเปลี่ยนเป็นคนใหม่ที่สามีคลั่งรักได้หรือไม่กันนะ?ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก [嫁七零糙汉后,我双胞胎体质藏不住] ผู้แต่ง : 钰儿 เรื่องย่อ หลังผชิญวรหนักจนวูบ ฉินมู่หลาน แพทย์สาวมือฉมังก็พบว่าตนองได้มาสวมร่างของหญิงอ้วนหลานสาวผู้เชี่ยวชาญด้นสมุนไพรในยุค 70 ผู้ไม่มีอะไรดีสักอย่างนอกจากได้สามีหล่อเหลานิสัยดีผู้แสนเย็นขาจากความลั่งรักของตัวเองจจับเขามาแต่งงด้วยสำเร็จ ซึ่งกรสวมวิญญาณในครั้งนี้เธอได้รับภารกิจหลักสามอย่าง หนึ่งคือสร้างเนื้อสร้างตัว สองคือลดน้ำหนักให้ตนเองทำงานทำการสะดวกขึ้น และสามคือทำให้สามีเป็นฝ่ายคลั่งรักเธอแทน คุณหมอฉินจะทำสำเร็จหรือไม่ จะเปลี่ยนเป็นฉินมู่หลานคนใหม่ที่สามีคลั่งรักได้หรือไม่กันนะ?

Options

not work with dark mode
Reset