ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก 445 ว้าวุ่น(2)

ตอนที่ 445 ว้าวุ่น(2)

ตอนที่ 445 ว้าวุ่น(2)

ตอนที่ 445 ว้าวุ่น(2)

เซี่ยปิงชิงที่อยู่ข้าง ๆ กล่าวตาม “ใช่ เขานี่แหละเจี่ยงสือเหิง ไม่เลวเลยใช่ไหมล่ะ” หลังจากพูดจบ แววตาของหล่อนก็เปล่งประกายอย่างพึงพอใจ คิดว่าสายตาของตนค่อนข้างใช้ได้เลยทีเดียว

เหมาชุนเถาได้ยินแบบนี้ ก็พูดบ่นขึ้น “เขาอายุเยอะขนาดนี้แล้ว แต่กลับรู้สึกว่าดูเด็กกว่าฉันอีก”

เฉินเซี่ยวอวิ๋นกับสือหยวนฝูก็พยักหน้าแล้วพูดขึ้น “ใช่แล้ว เด็กมากจริง ๆ ดูไม่เหมือนเป็นผู้อาวุโสของมู่หลานเลย”

หลังจากนั้นทั้งสองก็มองไปที่ฉินมู่หลานด้วยความสงสัยก่อนจะเอ่ยถาม “มู่หลาน พ่อบุญธรรมของเธออายุเยอะแล้วเหรอ ถึงเขาจะเป็นพ่อบุญธรรมของเธอ แต่ดูจากหน้าตาเขาแล้วเหมือนอายุเยอะกว่าเธอนิดเดียวเอง”

ฉินมู่หลานยังไม่ทันได้ตอบ เซี่ยปิงชิงก็ปิดปากพูดขึ้นก่อนแล้ว

“เจี่ยงสือเหิงก็อายุไม่น้อยแล้วล่ะ เขาอายุเยอะกว่าฉันสิบเจ็ดปีเลยนะ แต่ยังดูเด็กเท่านั้นแหละ”

“นี่…นี่ก็อายุเยอะแล้วนะ แต่ดูหน้าตาเหมือนจะห่างจากพวกเราไม่เท่าไหร่เอง แถมยัง…” ยังหล่อมากด้วย ติดเพียงว่าพวกหล่อนพูดแบบนี้ก็คงไม่ดี รู้สึกว่าคงไม่เหมาะที่จะพูด

มีเพียงเกาซุนชิวเท่านั้นที่หันมองฉินมู่หลานด้วยสีหน้าสงสัยก่อนจะเอ่ยถาม “มู่หลาน พ่อบุญธรรมของเธอชื่อเจี่ยงสือเหิงเหรอ?”

เมื่อได้ยินแบบนี้ ฉินมู่หลานก็หันไปมองด้วยความสงสัย ก่อนจะพยักหน้าแล้วกล่าวว่า “ใช่ พ่อบุญธรรมของฉันชื่อนี้แหละ”

“ถ้าอย่างนั้นเขาก็ทำงานในสถาบันวิจัยเหรอ?”

ฉินมู่หลานได้ยินแบบนี้ก็อดถามไม่ได้ “ซุนชิว เธอรู้จักพ่อบุญธรรมของฉันเหรอ?”

ไม่น่าเป็นไปได้ หากรู้จักกันต้องทักทายกันตั้งแต่แรกแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นพ่อบุญธรรมก็เหมือนจะไม่ได้รู้จักซุนชิวเช่นกัน

เกาซุนชิวได้ฟังคำยืนยัน สีหน้าก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้น

“เป็นรองคณบดีเจี่ยงจริงด้วย ฉันไม่รู้จักเขาก็จริง แต่เคยได้ยินเรื่องเขา เขาเป็นคนยอดเยี่ยมมาก ได้รับรางวัลผลงานทางวิทยาศาสตร์โดดเด่นตั้งแต่อายุยังน้อย ครอบครัวของฉันทุกคนชื่นชมเขามาก ไม่คิดเลยว่าเขาคือพ่อบุญธรรมของเธอ”

เกาซุนชิวก็คิดไม่ถึงว่าวันนี้จะได้เจอเจี่ยงสือเหิงที่พ่อของตนเคยพูดถึงมาก่อน ผู้ชายคนนี้ดูแตกต่างจากภาพในจินตนาการไปโดยสิ้นเชิง หล่อนคิดว่าเจี่ยงสือเหิงจะรูปร่างหน้าตาพอ ๆ กับพ่อหรือคุณอาของเธอ ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะยังดูหนุ่มและหล่อเหลา ต่างกับพ่อของหล่อนอย่างสิ้นเชิง ถึงแม้จะเป็นคนรุ่นเดียวกัน

เมื่อคิดได้แบบนี้ หล่อนก็หันไปมองและถามฉินมู่หลาน “มู่หลาน พ่อบุญธรรมของเธอหมั้นตอนไหนเหรอ ฉันเคยได้ยินพ่อบอกว่ารองคณบดีเจี่ยงยังไม่มีคนรัก”

“ไม่นานมานี้เอง ช่วงที่เราปิดเทอมกัน”

เพียงแต่ฉินมู่หลานไม่ทราบมาก่อนเลยว่าพ่อบุญธรรมได้เลื่อนตำแหน่งแล้ว “ตอนนี้พ่อบุญธรรมของฉันเป็นถึงรองคณบดีแล้ว แต่กลับไม่บอกเลย”

“เหมือนจะแค่สองวันเอง เป็นไปได้ว่าคำสั่งยังไม่ถ่ายทอดลงมา เพราะฉะนั้นรองคณบดีเจี่ยงจึงยังไม่พูดอะไร”

เมื่อได้ยินแบบนี้ ฉินมู่หลานก็เหลือบมองเกาซุนชิวอีกครั้ง ดูเหมือนว่าฐานะของคนในครอบครัวหล่อนจะไม่ธรรมดา รู้แม้กระทั่งคำสั่งของเบื้องบนที่ยังไม่ถ่ายทอดลงมา แต่เธอก็ไม่ได้ถามเซ้าซี้ต่อไป

เฉินเซี่ยวอวิ๋นเหลือบเกาซุนชิวด้วยท่าทางสงบนิ่ง รู้ว่าเกาซุนชิวเป็นคนปักกิ่งโดยกำเนิด แต่ครอบครัวของอีกฝ่ายทำงานอะไรหล่อนยังไม่ทราบแน่ชัดเลย ก่อนหน้านี้ที่หล่อนจะส่งบัตรคำเชิญงานเลี้ยงวันเกิดให้ก็ไม่พบที่อยู่บ้านของเกาซุนชิวเลย ในตอนนั้นเองหล่อนจึงทราบว่าฐานะครอบครัวของเกาซุนชิวคงไม่ธรรมดา และวันนี้ก็ได้ยืนยันแล้ว

ในตอนนั้นเอง อยู่ ๆ เซี่ยปิงชิงก็เปิดปากพูดขึ้น “ทำไมเธอถึงสนใจเจี่ยงสือเหิงมากจัง”

คำพูดนี้หลุดออกไป บรรยากาศก็เข้าสู่ความเงียบงันทันที

เกาซุนชิวก็รีบยิ้มพลางโบกมือแล้วบอกลก่าวว่า “ฉันไม่ได้สนใจหรอก แค่คนที่บ้านชอบพูดถึงเขาอยู่บ่อย ๆ เพราะฉะนั้นฉันจึงได้ฟังเรื่องของเขามาเยอะ”

เมื่อเห็นเกาซุนชิวพูดแบบนั้น เซี่ยปิงชิงก็ไม่พูดอะไรอีก แต่หล่อนเองก็ไม่สามารถอธิบายได้ว่าเพราะเหตุใด อยู่ ๆ ตนก็รู้สึกไม่ค่อยดีนิดหนอย

คนพวกนี้ไม่ใช่เพื่อนร่วมห้องของหล่นออยู่แล้ว เซี่ยปิงชิงจึงรีบลุกขึ้นแล้วกล่สวว่า “พวกเธอคุยกันไปเถอะ ฉํนขอตัวก่อนนะ”

“เอ๊ะ…เธอจะไปทำอะไร”

เซี่ยปิงหรุ่ยเห็นหล่อนกำลังจะไป จึงอดตะโกนถามไม่ได้

เซี่ยปิงชิงกล่าวโดยไม่ได้หันหลังกลับมามอง “แน่นอนว่าก็ต้องมีธุระสิ”

หลังจากเซี่ยปิงชิงกลับมาถึงลานบ้านของตัวเองแล้ว ก็ลงมือปรุงยาพิษสูตรใหม่ทันที แต่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น หล่อนจึงไม่สามารถสงบสติอามณ์ลงได้เลย สุดท้ายก็ลุกขึ้นยืนด้วยความโมโห แล้วเดินไปที่ห้องทำงานของเจี่ยงสือเหิง

เจี่ยงสือเหิงแปลกใจนิดหน่อยเมื่อเห็นเซี่ยปิงชิงมาหา แต่ในไม่ช้าสายตาของเขาก็เต็มไปด้วยความอ่อนโยน

“คุณมาทำไม ไม่ได้อยู่คุยกับพวกมู่หลานเหรอ”

“ทำไมคะ คุณไม่อยากเจอฉันเหรอ”

เจี่ยงสือเหิงก็มองออกว่าเซี่ยปิงชิงไม่ค่อยมีความสุขนัก เขาจึงรีบพาคนเข้าไปนั่งแล้วเอ่ยถาม “ทำไมเหรอ หรือว่ามีเรื่องไม่พอใจอะไรหรือเปล่า คุณถึงอารมณ์ไม่ดี”

“เหอะ…ฉันอารมณ์ไม่ค่อยดีจริงนั่นแหละ”

“หรือว่าเพื่อนร่วมห้องของมู่หลานพูดอะไรกับคุณหรือเปล่า?” เขานึกถึงเรื่องนี้เป็นเรื่องแรก เพราะก่อนหน้านี้เซี่ยปิงชิงกำลังนั่งคุยอยู่กับพวกสาว ๆ แต่อยู่ ๆ ก็ไม่มีความสุขขึ้นมาเสียอย่างนั้น

เซี่ยปิงชิงเหลือบมองเจี่ยงสือเหิงครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยถาม “เมื่อกี้คุณได้สนใจพวกเพื่อนร่วมห้องของมู่หลานบ้างไหมคะ?”

“ไม่ได้สนใจขนาดนั้น เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอ?”

“เหอะ…ได้ยินว่านายจะได้เลื่อนตำแหน่งเป็นรองอธิการบดี พวกเราไม่มีใครรู้เลย”

เมื่อได้ยินแบบนี้ สีหน้าของเจี่ยงสือเหิงก็ดูแปลกใจ “เรื่องนี้ยังไม่ได้ถ่ายทอดลงมาเลย คุณรู้ได้ยังไง”

“เพื่อนร่วมห้องของมู่หลานคนหนึ่งเพิ่งบอก”

เจี่ยงสือเหิงขมวดคิ้วแล้วเอ่ยถาม “เพื่อนร่วมห้องคนไหน?”

“ทำไม คุณอยากรู้จักเขาเหรอ?”

เจี่ยงสือเหิงมองเซี่ยปิงชิงด้วยความสับสน ก่อนจะเอ่ย “ไม่ใช่อยู่แล้ว ผมก็แค่สงสัยว่าหล่อนรู้เรื่องนี้ได้ยังไง”

ตอนแรกเจี่ยงสือเหิงยังคิดไม่ออก แต่ตอนนี้เมื่อได้ยินน้ำเสียงกระแนะกระแหนราวกับอิจฉาของเซี่ยปิงชิง แววตาของเขาก็ฉายแววความแปลกใจ “ปิงชิง คุณ..หรือว่าคุณไม่มีความสุขเพราะผู้หญิงคนอื่นสนใจผม”

“ใช่แล้ว…”

เซี่ยปิงชิงพูดโพล่งออกมาโดยไม่ทันได้คิด แต่เมื่อคำพูดนั้นหลุดออกจากปาก ตัวหล่อนเองก็ยังต้องรู้สึกตกตะลึง ตอนแรกหล่อนกับเจี่ยงสือเหิงมีข้อตกลงแลกเปลี่ยนกัน แต่ว่า…ตอนนี้หล่อนกลับทนเห็นผู้หญิงคนอื่นให้ความสนใจกับเจี่ยงสือเหิงไม่ได้เสียด้วยซ้ำ

เมื่อเห็นเซี่ยปิงชิงดูงุนงงนิดหน่อย เจี่ยงสือเหิงก็อดจับมือหล่อนเสียไม่ได้

“ปิงชิง คุณ…กำลังหึงเหรอ?”

เจี่ยงสือเหิงถามอย่างระมัดระวัง ถึงแม้ว่าจะเพิ่งเดาออก แต่เขาก็กลับว่าตัวเองน่าจะเดาผิด

เซี่ยปิงชิงได้ยินคำพูดของเจี่ยงสือเหิง ก็รีบผลักเขาออก หลังจากนั้นก็รู้สึกสิ้นหวังและหนีไป “ฉัน..ฉันยังมีอย่างอื่นต้องทำ ขอตัวก่อนนะ”

พูดจบก็รีบวิ่งหนีไปภายในชั่วพริบตา

มองเซี่ยปิงชิงที่วิ่งหนีกลับไป มุมปากของเจี่ยงสือเหิงก็ยกขึ้นเล็กน้อย หากเซี่ยปิงชิงปฏิเสธออกมาตามตรงในตอนนี้ เขาอาจผิดหวัง แต่ตอนนี้สาวน้อยไม่ได้ปฏิเสธ กลับหนีเขาไปแทน แสดงให้เห็นว่าเธอกำลังสนใจในตัวเขา และรู้สึกหึงจริง

เมื่อคิดแบบนี้ เจี่ยงสือเหิงก็ไม่สามารถทนนั่งนิ่งได้อีกต่อไป เขารีบลุกขึ้นยืนแล้ววิ่งไปทางลานบ้านของเซี่ยปิงชิง เขารู้สึกว่าวันนี้ความสัมพันธ์ของพวกเขาสามารถเดินหน้าต่อได้แล้ว

……………………………………………………………………………………

สารจากผู้แปล

หึงเข้าแล้วล่ะปิงชิง หึงโหดมากด้วย ถึงกับปรุงยาพิษเตรียมเล่นงานกันทีเดียว

ไหหม่า(海馬)

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

Score 10
Status: Completed
เมื่อแพทย์สาวมือฉมังพบว่าตนเองได้กลายเป็นหญิงอ้วนผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรในยุค 70 ผู้ไม่เป็นที่รักของสามี เธอจะเปลี่ยนเป็นคนใหม่ที่สามีคลั่งรักได้หรือไม่กันนะ?ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก [嫁七零糙汉后,我双胞胎体质藏不住] ผู้แต่ง : 钰儿 เรื่องย่อ หลังผชิญวรหนักจนวูบ ฉินมู่หลาน แพทย์สาวมือฉมังก็พบว่าตนองได้มาสวมร่างของหญิงอ้วนหลานสาวผู้เชี่ยวชาญด้นสมุนไพรในยุค 70 ผู้ไม่มีอะไรดีสักอย่างนอกจากได้สามีหล่อเหลานิสัยดีผู้แสนเย็นขาจากความลั่งรักของตัวเองจจับเขามาแต่งงด้วยสำเร็จ ซึ่งกรสวมวิญญาณในครั้งนี้เธอได้รับภารกิจหลักสามอย่าง หนึ่งคือสร้างเนื้อสร้างตัว สองคือลดน้ำหนักให้ตนเองทำงานทำการสะดวกขึ้น และสามคือทำให้สามีเป็นฝ่ายคลั่งรักเธอแทน คุณหมอฉินจะทำสำเร็จหรือไม่ จะเปลี่ยนเป็นฉินมู่หลานคนใหม่ที่สามีคลั่งรักได้หรือไม่กันนะ?

Options

not work with dark mode
Reset