ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก 312 โชคดีวันเปิดกิจการ(1)

ตอนที่ 312 โชคดีวันเปิดกิจการ(1)

ตอนที่ 312 โชคดีวันเปิดกิจการ(1)

ตอนที่ 312 โชคดีวันเปิดกิจการ(1)

ฉินมู่หลานจ้องมองอุปกรณ์ตรงหน้า ใบหน้าเต็มไปด้วยความประหลาดใจพลางมองเซี่ยปิงหรุ่ยและเอ่ยถาม “เธอทำอะไรเนี่ย?”

เซี่ยปิงหรุ่ยได้ยินคำพูดนั้นพลันขมวดคิ้วพร้อมกับกล่าว “ไม่ใช่ว่าเธอบอกว่าต้องการสิ่งของเหล่านี้หรอกเหรอ ดังนั้นฉันก็เลยเตรียมให้เธอไง เมื่อโรงงานเครื่องสำอางขนาดเล็กของเธอเปิดทำการ เธอจะได้ไม่ต้องสนใจเรื่องวุ่นวายเหล่านี้อีกและให้ความสนใจกับการค้นคว้าวิจัยยาถึงจะสมเหตุสมผล”

เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ฉินมู่หลานมองเซี่ยปิงหรุ่ยและเอ่ยถามด้วยท่าทางไม่อยากจะเชื่อ “เพื่อไม่ให้ฉันคอยจัดการเรื่องเครื่องสำอาง ดังนั้นเธอเลยนำสิ่งของเหล่านี้มาให้ฉันงั้นเหรอ?”

เซี่ยปิงหรุ่ยพยักหน้าอย่างเป็นธรรมชาติและเอ่ย “ใช่แล้ว ดังนั้นเธอรีบทำการส่งมอบธุรกิจเครื่องสำอางเหล่านั้นของเธอซะ เลิกทำเรื่องเหล่านั้นได้แล้ว”

สุดท้ายฉินมู่หลานก็เกิดความอยากรู้อยากเห็นเล็กน้อย

“ทำไมเธอถึงคะยั้นคะยอให้ฉันค้นคว้าวิจัยยาขนาดนี้ อันที่จริงไม่ง่ายเลยกว่าฉันจะค้นคว้าวิจัยยาพิเศษเหล่านั้นออกมาได้ หากค้นคว้าวิจัยยาชนิดอื่นอีกอาจจะไม่สำเร็จก็ได้”

เมื่อกล่าวเช่นนี้ ใบหน้าของเซี่ยปิงหรุ่ยกลับเต็มไปด้วยความจริงจัง

“กว่าเธอจะสามารถพัฒนายาเหล่านั้นออกมาได้นั้นไม่ง่ายเลย แต่ในเมื่อเธอสามารถพัฒนายาเหล่านั้นออกมาได้ เช่นนั้นก็สามารถพัฒนายาชนิดอื่นได้เช่นกัน เธอยังเด็กมาก ไม่ควรใช้พรสวรรค์อย่างสิ้นเปลือง ควรให้ความสำคัญกับการวิจัยให้มากขึ้น”

เมื่อเห็นท่าทางจริงจังของเซี่ยปิงหรุ่ย ฉินมู่หลานเอ่ยทันใด “วันนี้ฉันเลือกคณะแล้ว ฉันย่อมทำการวิจัยยาต่อไป แต่ถึงอย่างนั้นฉันเองก็ไม่อาจมุ่งความสนใจไปที่สิ่งนั้นได้เสมอไป ฉันยังมีเรื่องอื่นๆ ที่ต้องสะสาง ดังนั้นเธอเองก็ไม่จำเป็นจะต้องทำเรื่องเหล่านี้เพียงเพื่อต้องให้ฉันทำวิจัย”

“พวกเราไม่ใช่เพื่อนร่วมชั้นกันหรอกเหรอ ในเมื่อเธอต้องการความช่วยเหลือ ฉันเองก็มีช่องทางนี้พอดี ไม่ใช่ว่าประจวบเหมาะหรอกหรือ”

เมื่อเห็นเซี่ยปิงหรุ่ยเอ่ยเช่นนี้ ฉินมู่หลานเองก็ไม่เอ่ยอะไรอีก จากนั้นถาม “สิ่งของเหล่านี้ทั้งหมดเท่าไร?”

เดิมทีเซี่ยปิงหรุ่ยนั้นต้องการบอกว่าไม่จำเป็น แต่เมื่อเห็นสีหน้าของฉินมู่หลาน สุดท้ายก็ยังต้องเอ่ยราคาออกมา

“เช่นนั้นก็ได้ เธอเอาเลขบัญชีมาให้ฉัน เมื่อถึงเวลาฉันจะโอนเงินให้กับเธอ”

“ตกลง”

เซี่ยปิงหรุ่ยได้ยินคำพูดนั้นก็ไม่ได้เอ่ยปฏิเสธอีก

“เอาล่ะ งั้นฉันมอบสิ่งของเหล่านี้ให้เธอเลยแล้วกัน ฉันขอตัวกลับมหาวิทยาลัยก่อน”

ฉินมู่หลานได้ยินเช่นนั้นก็พยักหน้าและกล่าว “ตกลง รบกวนเธอแล้ว”

เซี่ยปิงหรุ่ยโบกมือไปมาพลางเอ่ย “ไม่มีอะไรลำบากหรอก หลังจากนี้ถ้าเธอยังต้องการอะไรก็สามารถบอกกับฉันได้เลย ทางด้านฉันรู้จักผู้คนไม่น้อย ไม่แน่ว่าอาจจะสามารถช่วยอะไรได้บ้าง”

“ตกลง งั้นก็ตกลงตามนี้”

มีอุปกรณ์เหล่านี้แล้ว ก็ทำให้โรงงานเครื่องสำอางขนาดเล็กมีอุปกรณ์ครบครัน สามารถเลือกวันมงคลเปิดกิจการได้แล้ว

ฉินมู่หลานติดต่อหาลุงเจี่ยง ในไม่ช้าก็มีคนนำอุปกรณ์เหล่านี้ไปยังโรงงาน เมื่อเห็นสิ่งของเหล่านี้ตรงหน้า ลุงเจี่ยงก็เอ่ยอย่างอดไม่ได้ “คุณหนูน้อย คุณยอดเยี่ยมจริงๆ สิ่งของเหล่านี้คงไม่ได้หามาได้ง่ายๆ นะครับ”

“เพื่อนคนหนึ่งของฉันช่วยเหลือและจัดการให้ค่ะ”

“งั้นเพื่อนร่วมชั้นของคุณคงมีเส้นสายที่กว้างขวางมาก”

ฉินมู่หลานพยักหน้าอย่างอดไม่ได้และเอ่ย “ใช่ค่ะ เส้นสายกว้างขวางมากจริงๆ”

ดูเหมือนว่าเส้นสนกลในของตระกูลเซี่ยแห่งซีอานนั้นจะไม่ธรรมดา แม้จะเป็นตระกูลเซี่ยตระกูลหลัก แต่ท่าทางเย็นชาของเซี่ยปิงหรุ่ยที่ปฏิบัติต่อเซี่ยอวี่หรงนั้นทำให้ฉินมู่หลานรู้สึกว่าเพื่อนร่วมชั้นคนนี้ไม่เลวเลย

หลังจากทางด้านโรงงานจัดเก็บสิ่งของเรียบร้อย ลุงเจี่ยงมองฉินมู่หลานและเอ่ยอย่างอดไม่ได้ “คุณหนู โรงงานแห่งนี้อยู่ภายใต้ชื่อโรงงานสารเคมีในชีวิตประจำวัน หลังจากนี้คุณจะเป็นผู้อำนวยการของโรงงานแห่งนี้ แล้วพวกเรายังต้องรับสมัครคนงานหรือเปล่าครับ?”

“ใช่ เมื่อถึงเวลาทางนี้ก็จะต้องรับสมัครคน ลุงเจี่ยง ทางด้านลุงมีใครที่เหมาะสมต่อตำแหน่งไหนบ้างหรือเปล่าคะ แนะนำเข้ามาได้เลยนะคะ แต่จะอยู่ต่อไปได้หรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของคนผู้นั้น”

“ครับ ผมเข้าใจแล้ว”

ลุงเจี่ยงจัดการด้วยความรวดเร็วเป็นอย่างมาก แนะนำผู้คนที่สามารถเชื่อถือได้จำนวนหลายคนให้กับแผนกรักษาความปลอดภัยของโรงงานเครื่องสำอาง

ส่วนของคนงาน มีเพียงป้าหวังคนเดียวเท่านั้นที่ตรงกับความต้องการของฉินมู่หลาน ทางด้านหวังจาวตี้และซ่งอวี้เฟิ่งก็กลายเป็นคนงานแล้ว

หวังจาวตี้และซ่งอวี้เฟิ่งต่างคาดไม่ถึงเลยจริงๆ ว่าวันหนึ่งตนเองจะกลายเป็นคนงาน ความประหลาดใจนี้ทำให้พวกหล่อนตื่นเต้นมากจนไม่อาจควบคุมอารมณ์ตนเองได้

ส่วนซูหว่านอี๋และเหยาจิ้งจือ ฉินมู่หลานจัดตำแหน่งผู้บริหารให้กับพวกหล่อน

“แม่คะ แม้ว่าพวกเราจะเป็นโรงงานขนาดเล็ก แต่ยังต้องการความใส่ใจจากพวกแม่มากกว่านี้ ในเมื่อโรงงานได้จัดตั้งขึ้นแล้ว ผู้คนก็มากขึ้น ต้องพึ่งการบริหารจัดการที่ดีของพวกแม่แล้วค่ะ”

แรกเริ่มทั้งสองคนต่างกังวลเล็กน้อย แต่เมื่อได้ยินว่าฉินมู่หลานยังต้องไปมหาวิทยาลัยและหล่อนเองก็ไม่ได้มีพละกำลังมากขนาดนั้น ทั้งสองคนพลันรีบเอ่ยรับประกัน “มู่หลาน ลูกวางใจได้เลย พวกเราจะช่วยบริหารให้ดีอย่างแน่นอน หากมีเรื่องที่พวกเราสองคนทำไม่ได้ก็ทำเพียงสอบถามลูกได้ หากยังทำไม่ได้อีก……”

เมื่อเอ่ยคำพูดสุดท้าย เหยาจิ้งจือกล่าว “ฉันสามารถไปสอบถามนายท่านได้”

“ตกลงค่ะ งั้นรบกวนคุณแม่ทั้งสองคนแล้ว”

ฉินมู่หลานเอ่ยด้วยใบหน้าที่ประดับด้วยรอยยิ้ม

เมื่อถึงวันที่โรงงานขนาดเล็กเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ฉินมู่หลานก็ได้เชิญชวนคนสนิทคนเหล่านั้นมาร่วมงานด้วย รวมทั้งหลิวเสวียข่าย

หลังจากหลิวเสวียข่ายร่วมมือกับฉินมู่หลาน เขาได้ตรวจสอบข้อมูลบางอย่างของเธอด้วย ดังนั้นเมื่อเห็นนายท่านเหยาอยู่ที่นี่ เขาเองก็ไม่ได้ตื่นตระหนกมากนัก เพียงแค่ยิ้มและก้าวไปข้างหน้าเพื่อทำการทักทาย

“นายท่านเหยา สวัสดีครับ”

เมื่อนายท่านเหยาเห็นหลิวเสวียข่าย เขาก็ยิ้มพลางพยักหน้า “เสี่ยวหลิว ในอนาคตก็รบกวนนายช่วยดูแลมู่หลานให้มากขึ้นอีกสักหน่อย”

“ที่ไหนกันล่ะครับ เป็นผมที่ต้องพึ่งพาคุณมู่หลานเพื่อสร้างรายได้ให้กับพวกเรา”

“ฮ่าๆ มู่หลานเพิ่งทำสิ่งนี้เป็นครั้งแรก ไม่รู้ว่าจะสามารถตอบสนองต่อความคาดหวังของพวกคุณได้หรือเปล่า ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม สิ่งเหล่านี้คือผลลัพธ์จากความพยายามของหล่อน ต่อให้ไม่สามารถสร้างรายได้ พวกนายก็ไม่สามารถตำหนิสาวน้อยคนนี้ได้” นายท่านเหยาไม่คุ้นเคยกับเครื่องสำอางเหล่านี้ ดังนั้นไม่รู้ว่าสิ่งของเหล่านี้ของหลานสาวนั้นจะสามารถขายได้หรือไม่ ดังนั้นจึงกล่าวเตือนหลิวเสวียข่ายไว้ล่วงหน้า

ภายในน้ำเสียงของนายท่านเหยานั้นเป็นการยืนยันความพยายามของฉินมู่หลานและแสดงถึงท่าทางของเขา หากเครื่องสำอางขายไม่ออก เขาก็ไม่ต้องการเห็นหลานสาวต้องทนทุกข์กับความคับข้องใจ

หลิวเสวียข่ายได้ยินเช่นนั้นกลับยิ้มพลางเอ่ย “เครื่องสำอางของคุณมู่หลานนั้นดีมาก จะต้องไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน”

เมื่อเห็นหลิวเสวียข่ายกล่าวเช่นนี้ นายท่านเหยาก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ขณะเดียวกันก็สังเกตเห็นว่าเครื่องสำอางอะไรนั่นที่หลานสาวค้นคว้าวิจัยออกมานั้นอาจจะเป็นสิ่งของที่ยอดเยี่ยม เขาเคยได้ยินเรื่องบางอย่างของหลิวเสวียข่าย ในเมื่อได้รับการยืนยันจากเขา คาดว่าคงจะไม่มีปัญหา ดังนั้นเขายิ้มพลางพยักหน้าและหัวเราะพร้อมกับเอ่ย “ใช่ จะต้องไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน”

ฉินมู่หลานเห็นว่าทั้งสองคนพูดคุยกันสักพักใหญ่แล้ว จึงพาหลิวเสวียข่ายเยี่ยมชมโรงงานขนาดเล็ก

“หัวหน้าหลิว แม้ว่าโรงงานเครื่องสำอางนี้เพิ่งจะก่อตั้ง แต่พวกเราจะพยายามสร้างผลิตภัณฑ์ และรับรองว่าสินค้าจะต้องเพียงพอต่อความต้องการอย่างแน่นอน”

หลิวเสวียข่ายมองโรงงานขนาดเล็กตรงหน้า แม้ว่าจะพื้นที่จะน้อย แต่อุปกรณ์กลับทันสมัยเป็นอย่างมาก สิ่งของก็ครบครันมาก เพียงแต่จำนวนพนักงานยังไม่เพียงพอ

“คุณมู่หลาน ทางโรงงานต้องรับสมัครพนักงานเพิ่มไหมครับ?”

…………………………………………………………………………………………………………………………

สารจากผู้แปล

นับถือปิงหรุ่ยมาก วิธีใช้เงินแก้ปัญหาช่างสุดจริง

ไหหม่า(海馬)

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

Score 10
Status: Completed
เมื่อแพทย์สาวมือฉมังพบว่าตนเองได้กลายเป็นหญิงอ้วนผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรในยุค 70 ผู้ไม่เป็นที่รักของสามี เธอจะเปลี่ยนเป็นคนใหม่ที่สามีคลั่งรักได้หรือไม่กันนะ?ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก [嫁七零糙汉后,我双胞胎体质藏不住] ผู้แต่ง : 钰儿 เรื่องย่อ หลังผชิญวรหนักจนวูบ ฉินมู่หลาน แพทย์สาวมือฉมังก็พบว่าตนองได้มาสวมร่างของหญิงอ้วนหลานสาวผู้เชี่ยวชาญด้นสมุนไพรในยุค 70 ผู้ไม่มีอะไรดีสักอย่างนอกจากได้สามีหล่อเหลานิสัยดีผู้แสนเย็นขาจากความลั่งรักของตัวเองจจับเขามาแต่งงด้วยสำเร็จ ซึ่งกรสวมวิญญาณในครั้งนี้เธอได้รับภารกิจหลักสามอย่าง หนึ่งคือสร้างเนื้อสร้างตัว สองคือลดน้ำหนักให้ตนเองทำงานทำการสะดวกขึ้น และสามคือทำให้สามีเป็นฝ่ายคลั่งรักเธอแทน คุณหมอฉินจะทำสำเร็จหรือไม่ จะเปลี่ยนเป็นฉินมู่หลานคนใหม่ที่สามีคลั่งรักได้หรือไม่กันนะ?

Options

not work with dark mode
Reset