ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก: GOURMET OF ANOTHER WORLD 315 ส่งตัวปู้ฟางมาเสียดีๆ

ตอนที่ 315 ส่งตัวปู้ฟางมาเสียดีๆ

ทันทีที่​เซียว​เห​มิงได้ยิน​เสียงคำราม​และ​เสียง​แตร​สงคราม​ เขา​ก็​ผุด​ลุกขึ้น​ยืน​ด้วย​สีหน้า​เคร่งเครียด​

แต่​ตัว​เขา​เอง​ก็​ทำ​อะไร​ไม่ได้​ เพราะ​อึดใจ​ต่อมา​หน้าอก​ก็​พลัน​หนักอึ้ง​แล้ว​เริ่ม​กลับมา​ไอ​อย่าง​หนัก​อีกครั้ง​ เขา​เซถอยหลัง​พลาง​กระอัก​เลือด​สีดำ​ออกมา​ยกใหญ่​ ทันทีที่​เลือด​ออกจาก​ร่าง​ ใบหน้า​ก็​พลัน​ย่ำแย่​กว่า​เดิม​

ดูเหมือนว่า​พิษ​นี้​จะร้ายแรง​มาก​จริงๆ​ แม้แต่​ขั้น​นักพรต​ยุทธการ​ระดับ​เจ็ด​ยัง​อ่อนปวกเปียก​เมื่อ​โดน​เข้าไป​

เซียว​เห​มิงหยิบ​ผลึก​ออกมา​ยื่น​ส่งให้​ปู้​ฟาง จากนั้น​ก็​หันหลัง​เดิน​ออกจาก​ร้าน​ไป​ ใน​ฐานะ​แม่ทัพ​อารักขา​นครหลวง​ เขา​ต้อง​ไป​สู้อยู่​ด่าน​หน้า​แม้ตนเอง​จะถูก​พิษร้าย​ก็ตาม​ นี่​คือ​ศักดิ์ศรี​ที่​เขา​ต้อง​ดำรง​ไว้​ใน​ฐานะ​แม่ทัพ​ใหญ่​

ใน​ท้องพระโรง​

ผู้ฝึก​ตน​มากหน้าหลายตา​มารวมตัวกัน​อยู่​ใน​วังหลวง​ ต่าง​กำลัง​ระดมสมอง​คิด​หา​วิธี​ขับไล่​กองทัพ​ศัตรู​ ไม่มีใคร​คาดคิด​ว่า​จะได้ยิน​เสียง​แตร​เผด็จศึก​เร็ว​ถึงเพียงนี้​

สีหน้า​ของ​จีเฉิงเสวี่ย​ที่นั่ง​อยู่​บน​บัลลังก์​มังกร​เปลี่ยนไป​ทันที​

“บ้า​จริง​! ราชา​อวี่​ เหตุใด​จึงไม่รักษาคำพูด​!”

สีหน้า​ของ​จีเฉิงเสวี่ย​บูดเบี้ยว​ แต่​เขา​เอง​ก็​ไม่ใช่คนเดียว​ที่​มีใบหน้า​เหยเก​ด้วย​ความโกรธ​ ทุก​คนใน​ท้องพระโรง​ต่าง​มีสีหน้า​เช่นเดียวกัน​หมด​

ราชา​อวี่​ได้รับ​การ​หนุน​หลังจาก​ลัทธิ​อสุรา​ซึ่งมีผู้ฝึก​ตน​มาก​ฝีมือ​อยู่​ไม่น้อย​ เหล่า​คนใน​ท้องพระโรง​ต่าง​ก็​ไม่มั่นใจ​ว่า​ตนเอง​จะสามารถ​เอาชนะ​ผู้ฝึก​ตน​จาก​ลัทธิ​อสุรา​ได้​ พวกเขา​ตั้งใจ​ว่า​จะรอ​ให้​ผู้ฝึก​ตน​ขั้น​เซียน​เทพ​จาก​สำนัก​ของ​ตนเอง​มาถึงก่อน​จึงจะเริ่ม​เปิดฉาก​ต่อสู้​ เมื่อ​ขั้น​เซียน​เทพ​มาถึง พวกเขา​ก็​น่าจะ​มีกำลัง​พอ​ต่อกร​กับ​กองทัพ​นอก​กำแพงเมือง​ ทุกคน​ไม่ได้​คาดคิด​ว่า​จะถูก​โจมตี​ก่อนที่​กำลัง​เสริม​จะมาถึง

สถานการณ์​ตก​อยู่​ใน​ความวุ่นวาย​ทันที​

จีเฉิงเสวี่ย​ออกจาก​ท้องพระโรง​ไป​ใน​ชุด​นักรบ​ออกศึก​โดย​มีกองทัพ​นำหน้า​ จักรพรรดิ​หนุ่ม​กำลัง​เดิน​ตรง​ไป​ยัง​ประตูเมือง​

แต่​ทันทีที่​ออกจาก​วังหลวง​ เขา​ก็​พบ​เซียว​เห​มิงที่​มีใบหน้า​ซีดเซียว​กำลัง​เดิน​ตรง​มายัง​กองทัพ​

เมื่อ​จีเฉิงเสวี่ย​เห็น​เซียว​เห​มิงที่​ทั้ง​อ่อนแอ​และ​เปราะบาง​ เขา​ก็​ถอนหายใจ​ออกมา​เบา​ๆ จากนั้น​ชายหนุ่ม​ก็​เดิน​ตรง​ไป​ยัง​กำแพงเมือง​ แล้วก็​ปีน​กำแพง​ขึ้นไป​เพื่อ​สังเกตการณ์​กองทัพ​ของ​ราชา​อวี่​

ท่าทาง​ฮึกเหิม​น่าเกรงขาม​ของ​ทหาร​ที่​ล้อม​เมือง​เอาไว้​ทำให้​จีเฉิงเสวี่ย​รู้สึก​กดดัน​ไม่น้อย​ ทหาร​จำนวนมาก​จน​น่ากลัว​ล้อม​กำแพงเมือง​เอาไว้​ และ​กำลัง​โบก​หอก​ของ​ตน​พร้อม​คำราม​อย่าง​มีขวัญ​กำลังใจ​ ใคร​ที่​ได้​เห็นภาพ​นี้​ต่าง​ก็​ต้อง​รู้สึก​กลัว​ขึ้น​มาด้วยกัน​ทั้งนั้น​

จีเฉิงเสวี่ย​ใน​ชุด​เกราะ​สีทอง​ยืน​อยู่​บน​กำแพงเมือง​ เขา​มอง​ไป​ที่​กองทัพ​ขนาดใหญ่​เบื้องล่าง​ด้วย​สีหน้า​เคร่งเครียด​

บรรดา​ทหาร​เบื้องล่าง​ดูเหมือน​จะเงียบเสียง​ลง​เมื่อ​ได้​เห็น​จีเฉิงเสวี่ย​

ราชา​อวี่บน​หลัง​อาชา​เดิน​ออก​มาจาก​กลาง​กองทัพ​ด้วย​ท่วงท่า​สง่างามไม่เร่งรีบ​ เขา​เงยหน้า​ขึ้น​มอง​จีเฉิงเสวี่ย​ที่อยู่​บน​กำแพงเมือง​

“น้องชาย​ข้า​ อย่า​ถือโทษ​กัน​เลย​นะ​ ข้า​อยาก​ให้​เวลา​เจ้าพัก​หายใจ​อยู่​เหมือนกัน​ แต่กลับ​มีสถานการณ์​บางอย่าง​เกิดขึ้น​เสีย​ก่อน​” ราชา​อวี่​พูด​ด้วย​รอยยิ้ม​น้อย​ๆ

ทันทีที่​ได้ยิน​คำพูด​นั้น​ สีหน้า​ของ​จีเฉิงเสวี่ย​ก็​เปลี่ยนเป็น​เย็นชา​ หาก​ไม่ได้​เกรงกลัว​เหล่า​ผู้​มาก​ฝีมือ​ที่​หนุนหลัง​จีเฉิงอวี่​อยู่​ เขา​คง​สั่งให้​กองทัพ​ของ​ตน​พุ่ง​เข้าไป​โจมตี​แล้ว​ แต่​เนื่องจาก​ท่ามกลาง​คน​เหล่านั้น​มีขั้น​เซียน​เทพ​อยู่​ด้วย​ จีเฉิงเสวี่ย​จึงต้อง​ยอม​ทน​อับอาย​ขาย​ขี้หน้า​อยู่​เช่นนี้​

ก๊อ​บ​ ก๊อ​บ!​

จีเฉิงเสวี่ย​ไม่ได้​เอ่ย​ตอบ​แต่อย่างใด​ ใน​ตอนนั้น​เจ้ามู่เฉิงบน​หลัง​ม้าก็​ปรากฏตัว​ขึ้น​หลัง​จีเฉิงอวี่​ ใบหน้า​เปื้อน​รอยยิ้ม​บางขณะ​มอง​ไป​ที่​จีเฉิงเสวี่ย​ เขา​ส่ายหน้า​พลาง​เดาะ​ลิ้น​อยู่​สักพัก​ ก่อนที่​แสงเย็นเยียบ​จะวาบ​ผ่าน​ดวงตา​

“เจ้ารู้​หรือไม่​ว่า​เหตุใด​เรา​จึงล้อม​เมือง​ของ​เจ้าไว้​ก่อนเวลา​ที่​ตกลง​กัน​ นั่น​ก็​เพราะ​คน​คน​หนึ่ง​ที่อยู่​ใน​เมือง​ของ​เจ้าอย่างไรเล่า​ รีบ​ส่งตัว​เขา​ออกมา​เสีย​ แล้ว​ข้า​อาจจะ​สั่งให้​กองทัพ​ของ​เรา​ล่าถอย​ไป​ก่อน​ วันพรุ่งนี้​เรา​ค่อย​มาเจรจา​กัน​อีกที​”

จีเฉิงเสวี่ย​ขมวดคิ้ว​ นี่​พวก​เจ้าเปิดฉาก​โจมตี​พวก​ข้า​เพียง​เพราะ​คน​คนเดียว​น่ะ​รึ​ จะปรามาส​จักรวรรดิ​วายุ​แผ่ว​เกินไป​แล้ว​

จีเฉิงเสวี่ย​ขุ่นข้อง​กับ​คำพูด​ของ​เจ้ามู่เฉิงมาก​ แต่​ก็​รู้ดี​ว่า​จะระบาย​ความโกรธ​ใส่อีก​ฝ่าย​ไม่ได้​ เขา​จึงต่อย​กำแพงเมือง​เพื่อ​ระบาย​อารมณ์​

“ใคร​”

น้ำเสียง​ของ​จีเฉิงเสวี่ย​ที่​ลอย​ออกจาก​กำแพงเมือง​เต็มไปด้วย​ความ​โกรธเกรี้ยว​ที่​อัด​แน่น​อยู่​ภายใน​

เมื่อ​ได้ยิน​ดังนั้น​ ทั้ง​ราชา​อวี่​และ​เจ้ามู่เฉิงก็​ยิ้ม​หยัน​ออกมา​

“เจ้าน่าจะ​คุ้นเคย​กับ​คน​ผู้​นี้​เป็น​อย่าง​ดี​ เขา​อยู่​ที่​ร้าน​เล็ก​ๆ ของ​ฟางฟาง พวก​ข้า​ต้องการ​ตัว​ปู้​ฟางอย่างไร​กัน​เล่า​” เจ้ามู่เฉิงพูด​ช้าๆ

ทันทีที่​คำพูด​นั้น​หลุด​ออกจาก​ปาก​ เสียง​พูดคุย​เซ็งแซ่ก็​ดัง​ขึ้น​

“อะไร​กัน​ เถ้าแก่​ปู้​น่ะ​รึ​”

สีหน้า​ของ​จีเฉิงเสวี่ย​พลัน​เปลี่ยนไป​ เหตุใด​คน​พวก​นี้​จึงต้องการ​ให้​จักรวรรดิ​วายุ​แผ่ว​ส่งตัว​เถ้าแก่​ปู้​ เถ้าแก่​ปู้​กลาย​ไป​เป็น​เป้าหมาย​ของ​พวกเขา​ได้​อย่างไร​ พ่อครัว​หนุ่ม​ผู้​นี้​เป็น​คนเก็บตัว​จะตาย​ไป​

ชื่อ​ของ​ปู้​ฟางเป็นที่รู้จัก​กัน​ดี​ภายใน​นครหลวง​ ผู้ฝึก​ตน​ทุกคน​บน​กำแพงเมือง​ต่าง​รู้ดี​ว่า​ปู้​ฟางผู้​นี้​คือ​ใคร​

ร้าน​เล็ก​ๆ ของ​ฟางฟางนั้น​มีอสูร​เวท​ขั้น​เซียน​เทพ​อยู่​ แล้ว​พวกเขา​จะไป​พา​ตัว​หมอ​นั่น​มาได้​อย่างไร​กัน​เล่า​

แม้จะอยาก​ทำ​ แต่​ปู้​ฟางก็​คง​ไม่เชื่อฟัง​พวกเขา​เหมือน​เด็กอมมือ​ฟังคำสั่ง​ผู้ใหญ่​อย่าง​แน่นอน​

“ลืม​ไป​ได้​เลย​! ข้า​ไม่ส่งตัว​ปู้​ฟางให้​แน่​” จีเฉิงเสวี่ย​ปฏิเสธ​อย่าง​เด็ดขาด​

ไม่ว่า​จะเป็น​ความสามารถ​ใน​การ​ทำอาหาร​ ความ​แข็งแกร่ง​ หรือ​ปูมหลัง​ ไม่มีสิ่งใด​เลย​ที่จะ​ทำให้​จีเฉิงเสวี่ย​พา​ตัว​ปู้​ฟางมามอบให้​คน​พวก​นี้​ได้​ ปู้​ฟางถือเป็น​คน​พิเศษ​ใน​นครหลวง​ ชายหนุ่ม​ไม่อยู่​ใน​การควบคุม​ของ​อาณาจักร​แต่อย่างใด​

เจ้ามู่เฉิงดูเหมือน​จะคาด​เอาไว้​แล้ว​ว่า​จีเฉิงเสวี่ย​จะต้อง​ตอบ​เช่นนี้​ เขา​จึงทำ​เพียง​โบกมือ​ปัด​คำตอบ​ของ​จักรพรรดิ​หนุ่ม​ทิ้ง​ไป​เท่านั้น​

“ไม่ส่งตัว​เขา​มาก็​ไม่เป็นไร​ เจ้าแค่​ต้อง​ให้​เขา​คืน​ของ​ที่​เขา​ชิงไป​กลับมา​ก็​พอ​”

ของ​รึ​ ของ​อะไร​กัน​

ทุกคน​บน​กำแพงเมือง​งุนงง​กับ​คำพูด​ของ​เจ้ามู่เฉิงเป็นอันมาก​ ไม่มีใคร​รู้​ว่า​อีก​ฝ่าย​กำลัง​พูดถึง​อะไร​

ทันใดนั้น​องครักษ์​โลหิต​ทั้งสอง​ก็​กระโจน​ออกจาก​กองทัพ​มาลอย​อยู่​กลางอากาศ​ ดวงตา​ของ​พวกเขา​เย็นเยียบ​ราวกับ​กำลัง​มอง​ทะเล​เลือด​เบื้องหน้า​ตนเอง​

“ส่งไอ้​หมอ​นั่น​มาแล้ว​ข้า​จะไว้ชีวิต​พวก​เจ้า มิเช่นนั้น​พวก​เจ้าก็​ต้อง​ตาย​กัน​หมด​ตรงนี้​” หนึ่ง​ใน​องครักษ์​เอ่ย​เตือน​ด้วย​น้ำ​เสียงแหบ​พร่า​

ทุกคน​บน​กำแพงเมือง​โกรธขึ้ง​ทันทีที่​ได้ยิน​ โดย​เฉพาะคน​จาก​วิหาร​เทพเจ้า​แห่ง​ดินแดน​ป่า​รกชัฏ​และ​สำนัก​ชื่อดัง​อื่นๆ​ ทุกคน​จ้อง​สอง​คน​นั้น​ด้วย​โทสะ​ที่​เผาไหม้​อยู่​ใน​ดวงตา​

“ไอ้​พวก​มาร​จาก​ลัทธิ​อสุรา​!”

ทันทีที่​พวกเขา​รู้​ว่า​องครักษ์​โลหิต​เป็น​ใคร​ หัวใจ​ของ​ทุกคน​ก็​เย็นเฉียบ​เหมือน​น้ำแข็ง​ พวกเขา​เคย​เจอ​คน​จาก​ลัทธิ​อสุรา​มาก่อน​ ทั้ง​ยังมี​บันทึก​มากมาย​ที่​เขียน​เรื่อง​ของ​ลัทธิ​นี้​เอาไว้​ ทุกคน​รู้ดี​ว่า​ระบบ​ภายใน​ของ​ลัทธิ​อสุรา​เป็น​อย่างไร​ ผู้​ที่​มีพลัง​ปราณ​แข็งแกร่ง​สอง​คน​นี้​อยู่​ใน​ชุด​คลุม​สีแดง​เลือด​ ซึ่งจะเป็น​ใคร​ไป​ไม่ได้​นอกจาก​องครักษ์​โลหิต​ของ​ลัทธิ​อสุรา​

องครักษ์​โลหิต​ทุกคน​มีปราณ​อยู่​ใน​ระดับ​สูงสุด​ของ​ขั้น​เทพ​แห่ง​สงคราม​ พวกเขา​อยู่​ห่าง​จาก​การ​บรรลุ​ปราณ​ขั้น​เซียน​เทพ​เพียง​ครึ่ง​ก้าว​เท่านั้น​ เพียงแค่​ก้าว​อีก​ก้าว​เดียว​ พวกเขา​ก็​จะได้​เป็น​ขั้น​เซียน​เทพ​ทันที​

ตอนที่​ลัทธิ​อสุรา​รุ่งโรจน์​ พวกเขา​มีองครักษ์​โลหิต​หลาย​สิบ​คน​ ใน​ตอนนั้น​ดินแดน​ทางใต้​ตก​อยู่​ภายใต้​การปกครอง​ของ​ลัทธิ​อสุรา​ ผู้ฝึก​ตน​จาก​สำนัก​ต่างๆ​ จึงคุ้นเคย​กับ​องครักษ์​โลหิต​เป็น​อย่าง​ดี​

คน​พวก​นี้​แข็งแกร่ง​พอที่จะ​ฆ่าทุกคน​ที่อยู่​บน​กำแพงเมือง​ทิ้ง​ได้​

ทุกคน​กลัว​องครักษ์​โลหิต​จับ​ขั้ว​หัวใจ​ ความกลัว​และ​ความ​หวั่นเกรง​นี้​นับวัน​มีแต่​จะเติบโต​ขึ้น​เรื่อยๆ​

“ฝ่าบาท​… เรา​ควร​ให้​เถ้าแก่​ปู้​มอบ​สิ่งนั้น​คืน​พวกเขา​นะ​พะ​ย่ะ​ค่ะ​ พลัง​ของ​สอง​คน​นี้​น่ากลัว​โดยแท้​…”

บน​กำแพงเมือง​ ขุนนาง​คน​หนึ่ง​ทน​แรงกดดัน​จาก​องครักษ์​โลหิต​ไม่ไหว​อีกต่อไป​ เขา​ขา​สั่น​ไป​หมด​จน​ควบคุม​ไม่ได้​จน​ต้อง​เอ่ยปาก​แนะนำ​จีเฉิงเสวี่ย​

พอ​มีคน​เปิดปาก​พูด​คน​แรก​ ทุกคน​ก็​ตามน้ำ​ทันที​ บรรดา​ขุนนาง​พา​กัน​ขอร้อง​จีเฉิงเสวี่ย​ให้​ปู้​ฟางส่งของ​คืน​ไป​

หาก​พวกเขา​จะสามารถ​ทำให้​สงคราม​เกิดขึ้น​ช้าลง​ได้​ด้วย​การคืน​ของ​ ก็​ไม่เห็น​มีสิ่งใด​ให้​ต้อง​ตัดสินใจ​ต่อ​ คำตอบ​คือ​จะคืนให้​อย่าง​แน่นอน​

แม้ร้าน​ของ​ปู้​ฟางจะมีอสูร​เวท​ขั้น​เซียน​เทพ​เฝ้าอยู่​ แต่​พวกเขา​ก็​แค่​ต้อง​ไป​ขอร้อง​ให้​ปู้​ฟางส่งของ​คืน​เท่านั้น​ ไม่ได้​เป็นการ​ล่วงเกิน​ร้าน​เสียหน่อย​นี่​ ถูก​ไหม​เล่า​

“เงียบ​! หาก​ตอบรับ​คำขอ​นี้​ แล้ว​เรา​จะเอาหน้า​ไป​ไว้​ที่ไหน​ การ​ส่งเถ้าแก่​ปู้​ให้​คน​พวก​นี้​ก็​ไม่ต่าง​อะไร​กับ​การ​เหยียบย่ำ​ศักดิ์ศรี​ของ​จักรวรรดิ​วายุ​แผ่ว​”

จีเฉิงเสวี่ย​โบก​แขน​ใน​ชุด​เกราะ​สีทอง​ไปมา​ เขา​ตะโกน​ใส่ทุกคน​ที่อยู่​รอบกาย​ด้วย​ความ​เกรี้ยวโกรธ​ รู้สึก​ผิดหวัง​ใน​ตัว​ขุนนาง​ไม่น้อย​

แม้เขา​จะไม่ได้​บอก​ใคร​ว่า​ตนเอง​ติด​หนี้บุญคุณ​ปู้​ฟางอยู่​ ลำพัง​ตัวตน​แสน​ลึกลับ​ของ​ชายหนุ่ม​ก็​เป็น​สิ่งที่​คน​จะไป​ยั่วยุ​ไม่ได้​แล้ว​ จีเฉิงเสวี่ย​ไม่ใช่คนบ้า​ใบ้​ไร้​สมอง​ ไม่มีทาง​ที่​เขา​จะยอม​ตกลง​ส่งตัว​ปู้​ฟางให้​ศัตรู​อย่าง​แน่นอน​

ผู้อาวุโส​ซุน​จาก​วิหาร​เทพเจ้า​แห่ง​ดินแดน​ป่า​รกชัฏ​เปิดปาก​พูด​ขึ้น​มา ดวงตา​ของ​เขา​เต็มไปด้วย​แวว​ชั่วร้าย​

“ฝ่าบาท​ เรา​ไม่ควร​ทำลาย​ทั้ง​อาณาจักร​ทิ้ง​เพื่อ​คน​เพียง​คนเดียว​ หาก​เรา​สามารถ​ทำให้​คน​พวก​นี้​เลื่อน​การ​โจมตี​ไป​ได้​ นครหลวง​ก็​จะยัง​อยู่รอด​ปลอดภัย​จนกว่า​ผู้นำ​แห่ง​วิหาร​เทพเจ้า​จะมาถึง หาก​พวกเขา​โจมตี​ตอนนี้​ เรา​ย่อม​พ่ายแพ้​แน่นอน​”

ผู้อาวุโส​ซุน​อาฆาตแค้น​ปู้​ฟางเป็น​ทุนเดิม​อยู่แล้ว​ นี่​เป็น​โอกาส​อัน​ดี​ที่จะ​ได้​กำจัด​ปู้​ฟางให้​พ้น​ทาง​ไป​เสีย​ เขา​จึงรู้สึก​ยินดี​ปรีดา​พร้อม​ยอม​ช่วย​ลัทธิ​อสุรา​ใน​คราวนี้​

“ไม่มีทาง​ เรา​ส่งตัว​เขา​ไป​ไม่ได้​ จะส่งใคร​ไป​ก็ได้​ แต่​ไม่ใช่ปู้​ฟาง” จีเฉิงเสวี่ย​ตัดสินใจ​แล้ว​ พูด​แล้ว​ไม่คืนคำ​

สีหน้า​ของ​ผู้อาวุโส​ซุน​เย็นชา​ขึ้น​มาทันที​

“ฝ่าบาท​… การ​จะส่งตัว​เขา​ให้​ศัตรู​หรือไม่​นั้น​ไม่ใช่สิ่งที่​ท่าน​จะตัดสินใจ​ได้​ หาก​เรา​ไม่สามารถ​ถ่วงเวลา​จนกว่า​ผู้นำ​แห่ง​วิหาร​เทพเจ้า​จะมาถึง จักรวรรดิ​วายุ​แผ่ว​คง​ได้​ล่มสลาย​คามือ​ของ​ท่าน​เป็นแน่​” ผู้อาวุโส​ซุน​เดือด​พล่าน​ยืนกราน​หนักแน่น​

จีเฉิงเสวี่ยตก​อยู่​ใน​สถานการณ์​กลืนไม่เข้าคายไม่ออก​ ไม่รู้​จะเลือก​ทาง​ไหน​ดี​

“องค์​จักรพรรดิ​ เรา​ไม่ควร​ส่งตัว​เถ้าแก่​ปู้​ให้​คน​พวก​นี้​นะ​พะ​ย่ะ​ค่ะ​…”

เซียว​เห​มิงทนไม่ไหว​อีกต่อไป​ แม้ใบหน้า​ของ​เขา​จะซีดเผือด​ แต่​เขา​ก็​ยัง​ยืดตัว​ขึ้น​พูด​ต่อต้าน​ผู้อาวุโส​ซุน​

แม่ทัพ​ใหญ่​ยัง​พูด​ไม่ทัน​จบ​ ผู้​อา​วู​โสซุน​ก็​เหลือบตา​มอง​อีก​ฝ่าย​จากนั้น​ก็​สะบัด​แขน​เสื้อ​ใส่ เซียว​เห​มิงถูก​ส่งลอย​ไป​ใน​อากาศ​ทันที​ด้วย​พลัง​ของ​ผู้อาวุโส​ซุน​ เขา​กระอัก​เลือด​ออกมา​อีก​ยกใหญ่​

“เจ้าไม่มีสิทธิ์​ออกความเห็น​ พวก​เจ้าทุ​กค​น.​.. ไป​ที่​ร้าน​เล็ก​ๆ ของ​ฟางฟางเดี๋ยวนี้​! ไป​บอก​ปู้​ฟางให้​ส่งสิ่งนั้น​มา แล้​วจะ​ยิ่ง​ดี​ถ้าไม่ได้​ส่งมาแค่​ของ​แต่​ตัว​ก็​มาด้วย​”

ผู้อาวุโส​ซุน​ชี้นิ้ว​ใส่ขุนนาง​ที่​ยืน​อยู่​ด้านหลัง​จีเฉิงเสวี่ย​ด้วย​สีหน้า​เย็นชา​ ทุกคน​ตัวสั่น​งันงก​ท่ามกลาง​เสียง​ตะโกน​ออกคำสั่ง​ของ​เขา​

ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก: GOURMET OF ANOTHER WORLD

ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก: GOURMET OF ANOTHER WORLD

Score 10
Status: Completed

ตอนที่ 1 – 200 อ่านนิยาย
( อ่านต่อข้างล่าง )


ในโลกแฟนตาซีมีผู้ฝึกยุทธสามารถแยกภูเขาและลำธารด้วยคลื่นพลังที่แผ่ออกมาจากฝ่ามือ และทำลายแม่น้ำได้จากลูกเตะ มีร้านอาหารเล็กๆตั้งอยู่

เป็นที่ๆมีพลังแห่งชีวิตนับไม่ถ้วนที่อยู่ภายใน

ที่นี่ท่านจะได้ลิ้มรสข้าวผัดที่ทำมาจากไข่ของนกฟินิกส์และข้าวเลือดมังกร

ที่นี่ท่านสามารถดื่มเหล้าแรงที่ทำมาจากผลสีชาดและน้ำจากน้ำพุแห่งชีวิต

ที่นั่นท่านสามารถลิ้มรสเนื้อย่างของวัวระดับเก้าที่โรยพริกไทยดำ

อะไรนะ? อยากจะลักพาตัวพ่อครัว? นี่ไม่มีทางเป็นไปได้ เพราะมีสัตว์แห่งเทพระดับสิบ เฮลฮาวน์เฝ้าอยู่ที่ทางเข้า

พ่อครัวยังมีหุ่นยนต์ที่ฆ่านักฆ่าระดับเก้าด้วยมือข้าเดียว และยังมีกลุ่มผู้หญิงที่บ้าคลั่งหิวโหยที่จะต้องเอาชนะให้ได้


 

Options

not work with dark mode
Reset