ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก: GOURMET OF ANOTHER WORLD 312 เจ้าต้องชดใช้ให้กับวิหารเทพเจ้าแห่งดินแดนป่ารกชัฏ

ตอนที่ 312 เจ้าต้องชดใช้ให้กับวิหารเทพเจ้าแห่งดินแดนป่ารกชัฏ

“เจ้าไม่คิด​จะชดใช้​อะไร​ให้​วิหาร​เทพเจ้า​แห่ง​ดินแดน​ป่า​รกชัฏ​หน่อย​รึ​”

ปู้​ฟางที่​กำลัง​นอน​อืด​อยู่​บน​เก้าอี้​กลอกตา​ให้​กับ​คำพูด​ถือดี​ของ​ผู้อาวุโส​ซุน​ เขา​เหม่อ​ไป​เมื่อ​ได้ยิน​คำพูด​ขอ​ค่าชดเชย​ให้​วิหาร​เทพเจ้า​แห่ง​ดินแดน​ป่า​รกชัฏ​

“เหตุใด​ข้า​ต้อง​ชดใช้​ให้​วิหาร​เทพเจ้า​แห่ง​ดินแดน​ป่า​รกชัฏ​ด้วย​เล่า​” ปู้​ฟางยืด​ตัวอย่าง​เกียจคร้าน​บน​เก้าอี้​ สายตา​ที่​มอง​ผู้อาวุโส​ซุน​นั้น​นิ่ง​เรียบ​ขณะ​ถามคำถาม​ขึ้น​มา

ผู้อาวุโส​ซุน​ขมวดคิ้ว​ทันทีที่​ได้ยิน​คำตอบ​ของ​ชายหนุ่ม​ องครักษ์​ใน​ชุด​เกราะ​ที่อยู่​ข้างๆ​ ตัวสั่น​ทันที​เมื่อ​เห็น​ว่า​ปู้​ฟางไม่สนใจไยดี​ผู้อาวุโส​ซุน​แม้แต่น้อย​

“เถ้าแก่​ปู้…​ ท่าน​ผู้​นี้​คือ​ผู้อาวุโส​ซุน​จาก​วิหาร​เทพเจ้า​แห่ง​ดินแดน​ป่า​รกชัฏ​ขอรับ​ เขา​เป็น​ผู้ฝึก​ตน​ระดับ​แปด​ขั้น​เทพ​แห่ง​สงคราม​ขอรับ​” องครักษ์​คน​หนึ่ง​เอ่ย​แนะนำ​

ขั้น​เทพ​แห่ง​สงคราม​รึ​ ควรจะ​รู้สึก​ประทับใจ​หรือ​อย่างไร​ มีผู้ฝึก​ตน​ขั้น​เทพ​แห่ง​สงคราม​มากมาย​ที่​ต้อง​มาจบชีวิต​ลง​ใน​ตรอก​แห่ง​นี้​ ปู้​ฟางไม่ได้​กลัว​หรือ​อิจฉา​สิ่งที่​เรียก​ว่า​ขั้น​เทพ​แห่ง​สงคราม​เลย​แม้แต่น้อย​

เหล่า​องครักษ์​เอง​ก็​รู้ดี​ว่า​ร้าน​แห่ง​นี้​แข็งแกร่ง​เพียงใด​ พวกเขา​บอก​ผู้อาวุโส​ซุน​ไป​แล้ว​ว่า​ใน​อดีต​นั้น​เคย​เกิด​อะไร​ขึ้น​ที่นี่​บ้าง​ แต่​ใน​ฐานะ​คน​จาก​วิหาร​เทพเจ้า​แห่ง​ดินแดน​ป่า​รกชัฏ​ ผู้อาวุโส​ซุน​ไม่ใช่ชาย​ที่​เกรงกลัว​สิ่งใด​ เขา​ไม่รู้สึก​เกรงกลัว​ร้าน​เล็ก​ๆ ของ​ฟางฟางแม้ที่นี่​จะมีอสูร​เวท​ใน​ตำนาน​เฝ้าอยู่​ก็ตาม​

“วันนี้​ข้า​มาที่นี่​ตามคำสั่ง​ของ​ผู้นำ​แห่ง​วิหาร​เทพ​เจ้าของ​เรา​ เจ้าสังหาร​ผู้ฝึก​ตน​สอง​คน​จาก​วิหาร​

เทพเจ้า​แห่ง​ดินแดน​ป่า​รกชัฏ​ ถึงอย่างไร​พวก​ข้า​ก็​ทำเป็น​ไม่รู้ไม่เห็น​ไม่ได้​” ผู้อาวุโส​ซุน​พูด​อย่าง​หนักแน่น​

ปู้​ฟางจ้อง​ชาย​ตรงหน้า​ด้วย​สีหน้า​สงบนิ่ง​อยู่​สักพัก​

ผู้อาวุโส​ซุน​เริ่ม​หัว​ใจเต้น​ไม่เป็นจังหวะ​เมื่อ​เห็น​ปู้​ฟางกำลัง​มอง​ตนเอง​อย่าง​พินิจพิเคราะห์​ เขา​กวาดสายตา​มอง​รอบ​ๆ ร้าน​ แล้วก็​ตระหนัก​ได้​ว่า​สถานที่​แห่ง​นี้​อันตราย​เพียงใด​ แม้แต่​เซี่ยต้า​และ​เซี่ยอวี่​ยัง​ต้อง​จบชีวิต​ลง​ที่นี่​ แน่นอน​ว่า​เขา​ยัง​มีสติ​อยู่​กับ​ตัว​พอที่จะ​ไม่บ้าคลั่ง​พุ่ง​เข้า​โจมตี​ร้าน​

แต่​นั่น​ก็​ไม่ได้​แปล​ว่า​เขา​เกรงกลัว​ร้าน​นี้​แต่อย่างใด​ ต่อให้​ตัว​เขา​เอง​โจมตี​ร้าน​ไม่ได้​ วิหาร​เทพเจ้า​แห่ง​ดินแดน​ป่า​รกชัฏ​ย่อม​ต้อง​ล้างบาง​ที่​แห่ง​นี้​ได้​อย่าง​แน่นอน​

ที่​วิหาร​ของ​เขา​มีผู้ฝึก​ตน​ขั้น​เซียน​เทพ​ตัว​จริงอยู่​ และ​ใน​อดีต​พวกเขา​ก็​เคย​สังหาร​อสูร​เวท​ระดับ​เก้า​มาแล้วด้วย​ ด้วยเหตุนี้​ผู้อาวุโส​ซุน​จึงไม่ได้​เกรงกลัว​เมื่อ​รู้​ว่า​ร้าน​เล็ก​ๆ ของ​ฟางฟางมีอสูร​เวท​ระดับ​เก้า​เฝ้าอยู่​

“เจ้าฝอย​จบ​หรือยัง​ ถ้าจบ​แล้วก็​ไป​เสีย​” ปู้​ฟางลุกขึ้น​ยืน​แล้ว​ยืดเส้นยืดสาย​อย่าง​เกียจคร้าน​ พอ​พูด​ขอให้​ผู้อาวุโส​ซุน​ออก​ไป​เสร็จ​ ชายหนุ่ม​ก็​เดิน​ไป​ที่​ครัว​เหมือน​ไม่มีอะไร​เกิดขึ้น​

“เจ้าหนุ่ม​ อย่า​คิด​ว่า​แค่​มีอสูร​เวท​ระดับ​เก้า​จะเพียง​พอให้​เจ้าทำตัว​ไม่เกรงกลัว​เช่นนี้​ได้​… โลก​ใบ​นี้​ช่างกว้างใหญ่​นัก​ และ​อสูร​เวท​ระดับ​เก้า​ก็​ไม่ได้​อยู่ยงคงกระพัน​” ผู้อาวุโส​ซุน​สูด​หายใจเข้า​ลึก​แล้ว​ข่มขู่​ปู้​ฟาง

ผู้อาวุโส​ซุน​รู้​กฎ​ของ​ร้าน​แห่ง​นี้​ดี​ เขา​รู้​ว่า​ตนเอง​จะปลอดภัย​แน่นอน​หาก​ไม่ก่อเรื่อง​ก่อน​ ด้วยเหตุนี้​แผนการ​ของ​เขา​ใน​การ​มาเยือน​ร้าน​ครั้งนี้​จึงเพื่อ​มาเตือน​ปู้​ฟางเท่านั้น​ ไม่ใช่มาเพื่อ​ต่อสู้​กับ​อีก​ฝ่าย​แต่อย่างใด​ ตัว​เขา​เอง​ไม่ได้​โง่เง่าไร้สติ​ถึงเพียงนั้น​ ร้าน​นี้​มีอสูร​เวท​ระดับ​เก้า​ขั้น​เซียน​เทพ​อยู่​ แม้แต่​เซี่ยอวี่​ยัง​ต้อง​มาจบชีวิต​ลง​ที่นี่​… หาก​เทียบ​กับ​เซี่ยอวี่​แล้ว​ ตัว​เขา​นั้น​นับว่า​อ่อนแอ​กว่า​มาก​นัก​

“หาก​เจ้ายอมตาม​ข้า​กลับ​ไป​ยัง​วิหาร​เทพเจ้า​แห่ง​ดินแดน​ป่า​รกชัฏ​แต่​โดยดี​ ผู้นำ​แห่ง​วิหาร​เทพเจ้า​คง​ยอม​ทำเป็น​ลืม​เรื่อง​นี้​ไป​เสีย​ ปราบ​ใด​ที่​เจ้ารู้​ความผิด​ของ​ตนเอง​ผู้นำ​ของ​เรา​ก็​คง​ยอม​ยกโทษให้​ แต่​หาก​เจ้าไม่ยอมตาม​ข้า​กลับ​ไป​…”

“ไปให้พ้น​”

ปู้​ฟางเริ่ม​หงุดหงิด​ขึ้น​มา เขา​ไม่อยาก​จะเสีย​น้ำลาย​กับ​คน​เช่นนี้​อีก​ ชายหนุ่ม​รู้สึก​เหมือน​ผู้ฝึก​ตน​จาก​วิหาร​เทพเจ้า​แห่ง​ดินแดน​ป่า​รกชัฏ​ทุกคน​มัวแต่​หมั่นเพียร​ฝึก​พลัง​ปราณ​จน​ลืม​ฝึก​รอย​หยัก​ใน​สมอง​ เซี่ยอวี่​อะไร​นั่น​ก็​เป็น​เหมือน​ผู้อาวุโส​ซุน​เช่นกัน​ คน​ผู้​นั้น​เคย​มาเหยียบ​ที่​ร้าน​แห่ง​นี้​แล้ว​เริ่ม​ก่อเรื่อง​เอง​ คราวนี้​ผู้อาวุโส​ซุน​กลับมา​ชวน​เขา​ไป​ที่​วิหาร​เทพเจ้า​ของตนเอง​เฉย​…

พวก​เจ้าทุกคน​อย่า​ทำให้​ข้า​โกรธ​จะดีกว่า​ ไม่เช่นนั้น​เจ้าดำ​จะเอา​อุ้งเท้า​ตบ​หัว​พวก​เจ้าให้​ตายคาที่​

อยาก​ให้​ข้า​ไป​ที่​วิหาร​เทพเจ้า​แห่ง​ดินแดน​ป่า​รกชัฏ​เพื่อ​สำนึก​ความผิด​ของ​ตนเอง​เนี่ย​นะ​ อยาก​จะหัวเราะ​ให้​ฟัน​ร่วง​หมด​ปาก​

เมื่อ​ผู้อาวุโส​ซุน​ได้ยิน​สิ่งที่​ปู้​ฟางพูด​ เขา​ก็​คิด​เดินหน้า​ข่มขู่​ชายหนุ่ม​ต่อ​

แต่​ก่อนที่จะ​เปิดปาก​อีกครั้ง​ ร่าง​หนึ่ง​ก็​พุ่ง​ออกจาก​ครัว​มายืน​อยู่​ตรงหน้า​เขา​พอดี​ เมื่อ​เห็น​ดวงตา​สีแดง​ของ​ร่าง​นั้น​จ้องมอง​มา ผู้อาวุโส​ซุน​ก็​ตัวสั่น​ขึ้น​มาอย่าง​ช่วยไม่ได้​

“ซวย​แล้ว​!! นี่​มัน​ปีศาจ​โรคจิต​ของ​ร้าน​เล็ก​ๆ แห่ง​ฟางฟางที่​ชอบ​จับ​คน​แก้ผ้า​นี่​นา​!”

“เถ้าแก่​ปู้​โกรธ​แล้ว​! ผู้อาวุโส​ซุน​ ท่าน​รีบ​ไป​เสีย​จะดีกว่า​”

บรรดา​องครักษ์​ใน​ชุด​เกราะ​ตัวสั่น​เมื่อ​เห็น​ร่าง​อ้วน​ของ​เจ้าขาว​ยืน​จังก้า​อยู่​หน้า​ผู้อาวุโส​ซุน​ องครักษ์​คน​หนึ่ง​เอา​มือ​ดึง​แขน​เสื้อ​ผู้อาวุโส​ซุน​ เพื่อ​พยายาม​ดึง​เขา​ออกจาก​ร้าน​

“พวก​เจ้าทุกคน​เป็น​อะไร​ไป​…” ผู้อาวุโส​ซุน​ถูก​องครักษ์​ลาก​ออกจาก​ร้าน​ก่อนที่จะ​มีเวลา​ได้​ตั้งตัว​เสีย​ด้วยซ้ำ​

พอ​ออกจาก​ร้าน​มาได้​ เหล่า​องครักษ์​ก็​เริ่ม​เล่าเรื่อง​ของ​เจ้าขาว​ให้​อีก​ฝ่าย​ฟัง เมื่อ​ฟังจบ​หัวใจ​ของ​ผู้อาวุโส​ซุน​ก็​ตกลง​ไป​อยู่​ที่​ตาตุ่ม​ ร่าง​สั่นสะท้าน​ไป​หมด​ รู้สึก​เหมือน​โดน​ลม​เย็น​คมกริบ​ราว​ใบ​มีด​ซัด​ผ่าน​กาย​

ปีศาจ​โรคจิต​ที่​ชอบ​จับ​คนอื่น​แก้ผ้า​… เป็นตัว​เดียว​กับ​ที่​ฟัน​หัว​เซี่ยต้า​ขาด​ จัด​ได้​ว่า​เป็น​หุ่นเชิด​ที่​น่ากลัว​เป็นอันมาก​

ผู้อาวุโส​ซุน​ยืน​อยู่​ใน​ตรอก​ ความลังเลใจ​วาบ​ผ่าน​ดวงตา​

สุดท้าย​เขา​ก็​ทำได้​เพียง​ถอนหายใจ​ออกมา​

“ใน​เมื่อ​ตัว​ข้า​เอง​ทำ​อะไร​ไม่ได้​ ก็​คง​ต้อง​รอ​ให้​ท่าน​ผู้นำ​แห่ง​วิหาร​เทพเจ้า​ออกโรง​เอง​เสียแล้ว​ เขา​ต้อง​จัดการ​ร้าน​นี้​ด้วย​ตนเอง​ได้​อย่าง​แน่นอน​ ถึงปีศาจร้าย​แห่ง​ลัทธิ​อสุรา​จะกำลัง​ก่อเรื่อง​อยู่​ที่อื่น​ แต่​เกียรติยศ​ของ​วิหาร​เทพเจ้า​แห่ง​ดินแดน​ป่า​รกชัฏ​จะให้​ใคร​มาหยาม​ไม่ได้​เด็ดขาด​”

เหตุการณ์​เล็ก​ๆ ที่​เกิดขึ้น​นั้น​ไม่ได้​มีผลต่อ​การ​ทำมาค้าขาย​ของ​ร้าน​เลย​สักนิด​

วัน​ต่อมา​มนุษย์​อสรพิษ​หญิง​อวี่ฝู​ก็​โบกมือ​ลา​ปู้​ฟางพลาง​ตาม​กลุ่ม​พ่อค้า​แม่ค้า​เร่​ออก​ไป​ นาง​เดินทาง​ออกจาก​นครหลวง​เพื่อ​กลับ​สู่หนองน้ำ​ปราณ​มายา​

วันเดียวกัน​นั้น​เอง​ ในที่สุด​โอว​หยาง​เสี่ยว​อี้​ก็​บรรลุ​ปราณ​ระดับ​ห้า​ขั้น​ราชัน​ยุทธการ​ แน่นอน​ว่า​นี่​เป็นผล​จาก​การ​กิน​กระทะ​เทพ​แห่ง​โชคชะตา​เข้าไป​ นาง​ตื่นเต้น​เป็นอันมาก​ที่​ขั้น​ปราณ​แซงหน้า​พี่ชาย​สมองทึบ​สามคน​ได้​สำเร็จ​ ความคืบหน้า​ด้าน​พลัง​ปราณ​นี้​ทำให้​นาง​สามารถ​อวด​เบ่ง​ต่อหน้า​คน​ทั้ง​สามได้​อีก​สักพัก​

ร้าน​เล็ก​ๆ ของ​ฟางฟางยัง​เปิด​ทำการ​ตามปกติ​ ผู้คน​มากมาย​พา​กัน​เข้า​ออกร้าน​ เรียก​ได้​ว่า​ขายดี​เป็น​เทน้ำเทท่า​ แม้จะมีชื่อเสียง​ขึ้น​เรื่อยๆ​ แต่​ก็​ยัง​จัด​ว่า​โด่งดัง​น้อยกว่า​ร้าน​ปักษา​เพลิง​นิรันดร์​ที่​ตั้งอยู่​นอก​ตรอก​มาก​

แต่​ฐาน​ลูกค้า​ของ​ปู้​ฟางเป็น​ชนชั้นสูง​ที่​มีกำลัง​จ่าย​เยอะ​ ซึ่งเป็น​สิ่งที่​ร้าน​ปักษา​เพลิง​นิรันดร์​เทียบ​ไม่ได้​อย่าง​แน่นอน​

ใน​ยาม​ที่​ทุกอย่าง​ดำเนิน​ไป​อย่าง​ราบรื่น​เช่นนี้​ เวลา​ก็​เดินหน้า​ผ่าน​ไป​จน​แทบ​ไม่มีใคร​สังเกต​

อยู่​มาวันหนึ่ง​ ข่าว​ที่​ทำให้​ทั้งเมือง​ต้อง​หวาดหวั่น​ก็​กระจาย​ไป​ทั่ว​ เมื่อ​ชาวเมือง​ได้ข่าว​นี้​ก็​พา​กัน​ตกใจ​ไป​ตาม​ๆ กัน​ ก่อน​จะเริ่ม​เปิดฉาก​วิพากษ์วิจารณ์​กัน​อย่าง​ดุเดือด​ ทุกคน​ต่าง​หวาดกลัว​สิ่งที่​ได้ยิน​

“กองทัพ​ที่​แม่ทัพ​ใหญ่​เซียว​เห​มิงเป็น​คน​นำ​ทัพ​ถึงคราว​ปราชัย​ แม่ทัพ​ใหญ่​เซียว​เห​มิงบาดเจ็บสาหัส​ด้วย​ฝีมือ​ศัตรู​และ​กลับ​นครหลวง​มาด้วย​ความ​อับอาย​”

ข่าว​นี้​แพร่กระจาย​ไป​ทั่ว​นครหลวง​อย่าง​รวดเร็ว​

ลูกค้า​ใน​ร้าน​เล็ก​ๆ ของ​ฟางฟางเอง​ก็​พา​กัน​วิพากษ์วิจารณ์​เรื่อง​นี้​ด้วย​เช่นกัน​ การ​ที่​กองทัพ​ของ​เซียว​เห​มิงปราชัย​ ก็​เรียก​ได้​ว่า​เป็น​ความพ่ายแพ้​ของ​กองทัพ​ประจำ​นครหลวง​ด้วย​เช่นกัน​

ทั้ง​ยัง​แปล​ว่า​กองทัพ​ของ​ราชา​อวี่​สามารถ​พุ่ง​เข้ามา​โจมตี​นครหลวง​ได้​ทันที​อีกด้วย​

นี่​ถือเป็น​หายนะ​สำหรับ​ชาวเมือง​ที่​อาศัย​อยู่​ใน​นครหลวง​เลย​ทีเดียว​ พวกเขา​ไม่ได้​รู้สึก​ถึงเงาตะคุ่ม​ของ​ภยันตราย​มานาน​แล้ว​ และ​มัก​ได้ยิน​ข่าว​ชัยชนะ​ของ​กองทัพ​เซียว​เห​มิงมาตลอด​ เมื่อ​ได้ยิน​ข่าวร้าย​นี้​ ทุกคน​ต่าง​ก็​ตื่นตระหนก​จน​ทำ​อะไร​ไม่ถูก​

ปู้​ฟางไม่ได้​สนใจ​ข่าวสาร​บ้านเมือง​แม้แต่น้อย​ แต่​เขา​ก็​ได้ยิน​การ​แลกเปลี่ยนความคิดเห็น​เกี่ยวกับ​เรื่อง​นี้​จาก​ลูกค้า​ที่​ร้าน​ระหว่าง​กำลัง​นอน​อาบแดด​อยู่​บน​เก้าอี้​ ด้วยเหตุนี้​เขา​จึงเข้าใจ​สถานการณ์​ใน​ตอนนี้​พอตัว​เลย​ทีเดียว​

“ดูเหมือนว่า​เซียว​เห​มิงจะถึงคราว​ปราชัย​แล้ว​…”

ปู้​ฟางพึมพำ​เงียบๆ​ คนเดียว​ เขา​ไม่ได้​แปลกใจ​กับ​ผล​ที่​ออกมา​แต่อย่างใด​ เนื่องจาก​เคย​ต่อกร​กับ​กองทัพ​ราชา​อวี่​ด้วย​ตนเอง​มาแล้ว​เมื่อ​ครั้ง​ที่​ยังอยู่​เมือง​ประจิม​เร้นลับ​ หาก​ทหาร​ใน​กองทัพ​ที่​เขา​ประจำการ​อยู่​ไม่ได้​กิน​กระทะ​เทพ​แห่ง​โชคชะตา​ที่​เขา​ทำ​เข้าไป​ สภาพร่างกาย​และ​พลัง​การต่อสู้​ของ​คน​เหล่านั้น​คง​ไม่เพิ่มพูน​ถึงขีดสุด​ และ​เมือง​ประจิม​เร้นลับ​อาจ​ถูก​ยึด​ไป​แล้วก็​เป็นได้​

ปู้​ฟางไม่ได้​แปลกใจ​แม้แต่น้อย​ที่​เซียว​เห​มิงตกเป็น​ฝ่าย​พ่ายแพ้​ เขา​รู้​ว่า​สำนัก​ลึกลับ​นี้​มีพลัง​อำนาจ​ประหลาด​นอกรีต​ การ​ที่​เซียว​เห​มิงปราชัย​จึงเป็นเรื่อง​ที่​เข้าใจ​ได้​ไม่ยาก​

ทุกวันนี้​เซียว​เยีย​นอ​วี่​และ​เซียว​เยวี่ย​แทบ​ไม่มาที่​ร้าน​เลย​ ส่วน​เซียว​เสี่ยว​หลง​แม้จะยัง​มาฝึก​ทักษะ​การ​ทำอาหาร​อยู่​ แต่​ก็​มีสีหน้า​บูดเบี้ยว​ตลอดเวลา​

ทุกครั้งที่​เซียว​เยวี่ย​มา เขา​จะรีบ​ดื่ม​สุรา​หัวใจ​หยก​เยือกแข็ง​ จ่าย​เงิน​ แล้ว​จากไป​ทันที​

ดู​จาก​สภาพ​คนใน​ตระกูล​เซียว​แล้ว​ ดูเหมือนว่า​ครั้งนี้​เซียว​เห​มิงจะบาดเจ็บสาหัส​จริงๆ​

กองทัพ​ของ​เซียว​เห​มิงล่าถอย​กลับมา​ที่​นครหลวง​แล้ว​เริ่ม​เดินหน้า​ป้องกัน​เมือง​ กล่าว​ได้​ว่า​นครหลวง​ใน​ตอนนี้​ถูก​คุ้มกัน​อย่าง​แน่นหนา​ทีเดียว​

นอก​กำแพงเมือง​ตลบอบอวล​ไป​ด้วย​ฝุ่น​และ​ควัน​ กองทหาร​จำนวนมาก​พุ่ง​เข้าใส่​เมือง​แล้ว​ตั้งแถว​ล้อม​เมือง​เอาไว้​ ถนน​ทุก​สาย​ที่​มุ่งตรง​ไปนอก​นครหลวง​ถูก​ตรึง​กำลัง​ไว้​ทั้งหมด​

บรรยากาศ​กดดัน​หนักอึ้ง​ทับ​โถมเข้าใส่​ทั้ง​นครหลวง​

จีเฉิงอวี่​ใน​ชุด​เกราะ​ขี่ม้า​อสูร​เวท​ สายตา​จับจ้อง​ไป​ที่​นครหลวง​ ดวงตา​ดู​โหยหา​และ​แน่วแน่​เป็น​อย่างยิ่ง​

ชายหนุ่ม​เคย​ประกาศ​ไว้​ว่า​วันหนึ่ง​เขา​จะกลับมา​เพื่อ​ทวง​สิ่งที่​ควร​เป็น​ของ​ตน​คืน​

วันนี้​… เขา​กลับมา​ตาม​คำ​ที่​เคย​ประกาศ​เอาไว้​แล้ว​

ด้านหลัง​ของ​ชายหนุ่ม​มีผู้ฝึก​ตน​ใน​ชุด​คลุม​สีดำ​อยู่​หลาย​คน​

เจ้ามู่เฉิงใน​ชุด​คลุม​ยาว​โค้ง​คำนับ​ชาย​ชรา​ใน​ชุด​คลุม​สีดำ​ด้วย​ความเคารพ​นบนอบ​ ชาย​ชรา​ผู้​นั้น​มีรัศมี​ประหลาด​ที่​อธิบาย​ไม่ถูก​ เขา​ยืน​หลัง​ตรง​อย่าง​ทระนง​พร้อม​เอา​มือ​ไพล่หลัง​

ใน​ท้องพระโรง​ จีเฉิงเสวี่ย​นั่ง​อยู่​บน​บัลลังก์​มังกร​ด้วย​สีหน้า​เคร่งขรึม​ เขา​ไม่ได้​ตื่นตระหนก​แต่อย่างใด​ แม้กองทัพ​ของ​จีเฉิงอวี่​จะมาประจันหน้า​แล้ว​ก็ตาม​ จักรพรรดิ​ต้อง​ดำรง​ตน​เป็น​ผู้ปกครอง​แผ่นดิน​เสมอ​ จีเฉิงเสวี่ย​คือ​จักรพรรดิ​ของ​จักรวรรดิ​วายุ​แผ่ว​ เขา​ต้อง​สงบนิ่ง​ไม่ตื่นตระหนก​ไม่ว่า​จะเกิด​อะไร​ขึ้น​ก็ตาม​ แม้ทุกคน​จะกำลัง​ปั่นป่วน​โกลาหล​ จีเฉิงเสวี่ย​ก็​จะต้อง​ดำรง​จิตใจ​ให้​มั่นคง​สงบนิ่ง​

เบื้องหน้า​เขา​มีขุนนาง​และ​เหล่า​ทหาร​มากมาย​ รวมถึง​ผู้ฝึก​ตน​มาก​ฝีมือ​จาก​หลาย​สำนัก​

ผู้ฝึก​ตน​หลาย​คนมีสี​หน้า​บูดเบี้ยว​บอกบุญไม่รับ​ นั่น​เพราะ​เซียว​เห​มิงไม่ใช่คนเดียว​ที่​ได้รับ​บาดเจ็บสาหัส​ ผู้ฝึก​ตน​ที่​สำนัก​ต่างๆ​ ส่งมาช่วย​เซียว​เห​มิงร​บเอ​งก็​บาดเจ็บ​หนัก​เช่นกัน​ มีแม้กระทั่ง​คน​ที่​เสียชีวิต​ใน​สมรภูมิ​

นับว่า​เป็น​ข่าวร้าย​ที่​ใหญ่หลวง​ยิ่งนัก​

เพราะ​มัน​แปล​ว่า​พลัง​ของ​ผู้ฝึก​ตน​จาก​ลัทธิ​อสุรา​นั้น​แข็งแกร่ง​เหนือ​การ​คาดหมาย​ของ​พวกเขา​ไป​หลาย​ขุม​

“ฝ่าบาท​ ไม่ต้อง​กังวลใจ​ไป​พะ​ย่ะ​ค่ะ​ ผู้นำ​แห่ง​วิหาร​เทพเจ้า​แห่ง​ดินแดน​ป่า​รกชัฏ​กำลัง​รีบรุด​มาที่​จักรวรรดิ​วายุ​แผ่ว​แล้ว​ ผู้นำ​ของ​เรา​เป็น​ขั้น​เซียน​เทพ​ที่​แท้จริง​ ทันทีที่​เขา​มาถึง ไอ้​พวก​ปีศาจร้าย​จาก​ลัทธิ​อสุรา​จะต้อง​สิ้นซาก​อย่าง​แน่นอน​” ผู้อาวุโส​ซุน​พูด​กับ​จีเฉิงเสวี่ย​ที่นั่ง​อยู่​บน​บัลลังก์​มังกร​

จ้าน​คง​ปรายตา​มอง​ผู้อาวุโส​ซุน​ก่อน​จะหันไป​มอง​จีเฉิงเสวี่ย​ “สำนัก​เมฆาขาว​เอง​ก็​ส่งท่าน​หัวหน้า​ขุนพล​ของ​เรา​มาด้วย​เช่นกัน​ ขอ​ฝ่าบาท​จงวางใจ​พะ​ย่ะ​ค่ะ​”

หัวหน้า​ขุนพล​ของ​สำนัก​เมฆาขาว​คือ​ผู้ฝึก​ตน​ที่​แข็งแกร่ง​ที่สุด​รอง​จาก​เจ้าสำนัก​ คน​ผู้​นี้​มีปราณ​ขั้น​เซียน​เทพ​เช่นกัน​

พวกเขา​ประเมิน​ความ​แข็งแกร่ง​ของ​ลัทธิ​อสุรา​ผิด​ไป​ ไม่มีใคร​คาดคิด​ว่า​ผู้ฝึก​ตน​ขั้น​เทพ​แห่ง​สงคราม​มากมาย​และ​ผู้​ที่​ใกล้​จะบรรลุ​ปราณ​ขั้น​เซียน​เทพ​จำนวน​ไม่น้อย​จะกลับมา​ด้วย​สภาพ​บาดเจ็บสาหัส​เช่นนี้​

ทันทีที่​ข่าว​นี้​รู้ถึงหู​สำนัก​เหล่านั้น​ความโกลาหล​ก็​บัง​เกิดขึ้น​ ทุก​สำนัก​ต่าง​ตัดสินใจ​ส่งผู้ฝึก​ตน​ที่​แข็งแกร่ง​ที่สุด​มายัง​จักรวรรดิ​วายุ​แผ่ว​อย่าง​เร่งด่วน​

พวกเขา​ไม่มีทาง​ปล่อย​ให้​ลัทธิ​อสุรา​กลับมา​ยิ่งใหญ่​อย่าง​แน่นอน​ ทุกสิ่ง​ที่​เกิดขึ้น​ใน​อดีต​ภายใต้​การ​กดขี่​ของ​ลัทธิ​อสุรา​เปรียบเสมือน​ฝันร้าย​ ความโหดร้าย​นี้​ยังคง​ฝังอยู่​ใน​จิตใจ​เบื้องลึก​ของ​สำนัก​ที่​ยิ่งใหญ่​ทั้งหลาย​เสมอมา​

ใน​ท้องพระโรง​ ณ นครหลวง​แห่ง​จักรวรรดิ​วายุ​แผ่ว​

จีเฉิงเสวี่ย​ใน​ชุด​คลุมปัก​ลาย​กำลัง​นั่ง​อยู่​บน​บัลลังก์​มังกร​ ใบหน้า​ของ​เขา​ดู​สดชื่น​ขึ้น​กว่า​แต่ก่อน​ แม้นครหลวง​จะยัง​ตก​อยู่​ใน​ความโกลาหล​ ตำแหน่ง​และ​บัลลังก์​ของ​เขา​ยัง​สั่นคลอน​ไม่มั่นคง​ แต่​จักรพรรดิ​หนุ่ม​ก็​ไม่ได้​กังวล​เหมือน​แต่ก่อน​แล้ว​

เหตุผล​ก็​มิใช่สิ่งใด​อื่น​ นอก​เสีย​จากว่า​จักรวรรดิ​วายุ​แผ่ว​ใน​ตอนนี้​มีกลุ่ม​อำนาจ​ที่​แข็งแกร่ง​มากมาย​หนุนหลัง​อยู่​ เป็น​กลุ่ม​อำนาจ​ที่​หาก​เป็น​สมัยก่อน​จีเฉิงเสวี่ย​เอง​ก็​ยัง​ไม่กล้า​ที่จะ​นึกถึง​ด้วยซ้ำ​

วิหาร​เทพเจ้า​แห่ง​ดินแดน​ป่า​รกชัฏ​ สำนัก​เมฆาขาว​แห่ง​หนองน้ำ​ปราณ​มายา​ สำนัก​เจดีย์​นภา​กระจ่าง​แห่ง​ดินแดน​แสน​ภูผา​ และ​กลุ่ม​อำนาจ​ที่​ยิ่งใหญ่​ใน​ตำนาน​อีก​มากมาย​ ล้วน​ส่งผู้ฝึก​ตน​ฝีมือดี​มาช่วย​จักรวรรดิ​วายุ​แผ่ว​กัน​ทั้งนั้น​ใน​ตอนนี้​

ถือเป็น​โชคดี​ที่​ได้มา​อย่าง​ไม่คาดคิด​โดยแท้​ จักรวรรดิ​วายุ​แผ่ว​กำลัง​เผชิญ​กับ​อันตราย​ใหญ่หลวง​ หลาย​มณฑล​และ​หลาย​เมือง​ใน​อาณาจักร​ถูก​กองทัพ​ของ​ราชา​อวี่​ยึด​ไว้​ได้​ เหตุผล​เดียว​ที่​ราชา​อวี่​กำ​ชัย​ซ้ำแล้วซ้ำเล่า​ใน​การศึก​ เป็น​เพราะ​มีกลุ่ม​อำนาจ​ทรงพลัง​หนุน​หลังเขา​อยู่​เช่นกัน​

ผู้ฝึก​ตน​จาก​จักรวรรดิ​วายุ​แผ่ว​แข็งแกร่ง​ไม่พอที่จะ​ต้านทาน​อำนาจ​ของ​กองทัพ​ราชา​อวี่​ แม้แต่​เซียว​เห​มิงเอง​ก็​ยัง​พ่ายแพ้​ย่อยยับ​ใน​การ​ต่อกร​กับ​กองทัพ​ของ​จีเฉิงอวี่​ครั้งแรก​

จีเฉิงเสวี่ย​เพิ่ง​ได้​รู้​แผนการ​ของ​ราชา​อวี่​เมื่อไม่นานมานี้​ ดูเหมือนว่า​ราชา​อวี่​จะเข้า​ร่วมกับ​กลุ่ม​อำนาจ​ชั่วร้าย​ต้องห้าม​ ซึ่งเป็น​ลัทธิ​ที่​ร้ายกาจ​มาก​ จน​ทำให้​ทั้ง​วิหาร​เทพเจ้า​แห่ง​ดินแดน​ป่า​รกชัฏ​และ​สำนัก​ทรงอำนาจ​อื่นๆ​ ต้อง​ร่วมมือ​เพื่อ​จุดประสงค์​เพียง​หนึ่งเดียว​ นั่น​คือ​การ​โค่นล้ม​ลัทธิ​ชั่วร้าย​นั้น​ให้​หาย​ไป​จาก​โลก​ใบ​นี้​จน​สิ้นซาก​

ใน​ตอนนี้​ท้องพระโรง​ได้รับ​การ​คุ้มกัน​โดย​กลุ่ม​อำนาจ​ที่​ทรงพลัง​เรียบร้อย​แล้ว​ ความ​คุ้มครอง​นี้​ทำให้​สีหน้า​ของ​จีเฉิงเสวี่ย​ผ่อนคลาย​ลง​

แต่ละ​กลุ่ม​อำนาจ​ส่งผู้ฝึก​ตน​มาปกป้อง​นครหลวง​อย่าง​น้อย​หนึ่ง​คน​ แม้แต่​คน​ที่​อ่อนแอ​ที่สุด​ยังมี​ปราณ​ระดับ​เจ็ด​ขั้น​นักพรต​ยุทธการ​เลย​ทีเดียว​ และ​มีหลาย​คน​ที่​เป็น​ถึงขั้น​เทพ​แห่ง​สงคราม​ ด้วย​จำนวน​ของ​ผู้ฝึก​ตน​ที่อยู่​ใน​นครหลวง​ตอนนี้​ จีเฉิงเสวี่ย​จึงรู้สึก​มั่นคง​เหมือน​ดัง​ภูเขา​สูงใหญ่​

“องค์​จักรพรรดิ​ ท่าน​ตรึกตรอง​เรื่อง​นั้น​ดีแล้ว​หรือ​…”

ชาย​ที่​ร่าง​ทั้ง​ร่าง​ปูด​โปน​ไป​ด้วย​มัด​กล้าม​มอง​จีเฉิงเสวี่ย​ซึ่งกำลัง​นั่ง​อยู่​บน​บัลลังก์​มังกร​ ดวงตา​ของ​คน​ผู้​นั้น​เป็นประกาย​ราวกับ​มีสายฟ้า​แล่น​พัวพัน​อยู่​ภายใน​

เจ้าของ​คำถาม​คือ​ผู้ฝึก​ตน​จาก​วิหาร​เทพเจ้า​แห่ง​ดินแดน​ป่า​รกชัฏ​ คน​ผู้​นี้​มีพลัง​ปราณ​อยู่​ใน​ขั้น​เทพ​แห่ง​สงคราม​ ใบหน้า​ของ​เขา​ยาม​มอง​ไป​ที่​จีเฉิงเสวี่ย​ไม่ได้​มีแวว​เกรงกลัว​หรือ​ริษยา​แต่อย่างใด​ เรื่องราว​ทางโลก​นั้น​ไม่อาจ​ทำให้​คน​ของ​วิหาร​เทพเจ้า​แห่ง​ดินแดน​ป่า​รกชัฏ​สนใจ​ได้​แม้แต่น้อย​

“ผู้อาวุโส​ซุน​ ไม่ใช่ว่า​ข้า​ไม่อยาก​ทำตาม​คำขอ​ของ​ท่าน​ แต่ว่า​… ร้าน​เล็ก​ๆ ของ​ฟางฟางนั้น​ไม่มีใคร​เข้าไป​ยุ่มย่าม​ด้วย​ได้​จริงๆ​” ความ​จนปัญญา​ฉาย​ชัด​อยู่​บน​ใบหน้า​ของ​จีเฉิงเสวี่ย​

“องค์​จักรพรรดิ​ ความตาย​ของ​ผู้อาวุโส​เซี่ยอวี่​จาก​วิหาร​เทพเจ้า​แห่ง​ดินแดน​ป่า​รกชัฏ​เกี่ยวข้อง​กับ​ร้าน​นั้น​ มีหลาย​คน​เห็น​ผู้อาวุโส​เซี่ยอวี่​ต่อสู้​กับ​ผู้ฝึก​ตน​จากร้าน​แห่ง​นั้น​” ผู้อาวุโส​ซุน​มีสีหน้า​เย็นชา​ ใน​ฐานะ​ผู้อาวุโส​คน​หนึ่ง​จาก​วิหาร​เทพเจ้า​แห่ง​ดินแดน​ป่า​รกชัฏ​ เขา​จะมองข้าม​ความจริง​ที่ว่า​ผู้ฝึก​ตน​สอง​คน​จาก​สำนัก​ตนเอง​เสียชีวิต​ลง​เพราะ​ร้านอาหาร​แห่ง​นี้​ไม่ได้​โดย​เด็ดขาด​

วิหาร​เทพเจ้า​แห่ง​ดินแดน​ป่า​รกชัฏ​ส่งเขา​มาเพื่อ​ปกป้อง​จักรพรรดิ​แห่ง​อาณาจักร​วายุ​แผ่ว​ก็​จริง​ แต่​ตัว​เขา​เอง​ยัง​ได้รับ​อีก​ภารกิจ​หนึ่ง​ด้วย​ นั่น​คือ​การสืบสวน​หา​สาเหตุ​การตาย​ของ​ผู้อาวุโส​ทั้งสอง​

วิหาร​เทพเจ้า​แห่ง​ดินแดน​ป่า​รกชัฏ​จะถูก​หยาม​เหยียด​ไม่ได้​โดย​เด็ดขาด​ ใน​เมื่อ​ร้าน​แห่ง​นั้น​กล้า​สังหาร​ผู้ฝึก​ตน​ขั้น​เทพ​แห่ง​สงคราม​ไป​ถึงสอง​คน​ โดย​ที่หนึ่ง​ใน​นั้น​ยังมี​ร่างกาย​อยู่​ใน​ขั้น​เซียน​เทพ​ด้วย​ ร้าน​แห่ง​นั้น​จึงควร​เตรียม​ตั้ง​รับ​การตอบโต้​จาก​วิหาร​เทพเจ้า​แห่ง​ดินแดน​ป่า​รกชัฏ​ให้​ดี​

จีเฉิงเสวี่ย​เอง​ก็​รู้เรื่อง​นี้​ดี​ เรื่อง​นี้​ทำให้​เขา​รู้สึก​ปวดเศียรเวียนเกล้า​เสีย​เหลือเกิน​ ใน​สายตา​ของ​เขา​ ร้าน​ของ​ปู้​ฟางเปรียบเสมือน​ระเบิดเวลา​ที่​พร้อม​จะระเบิด​ได้​ทุกเมื่อ​ ใครก็ตาม​ที่​ไป​ขวางทาง​เถ้าแก่​ปู้​ย่อม​จบ​ไม่สวย​ทุกราย​ไป​ เขา​ไม่ต้องการ​ให้​วิหาร​เทพเจ้า​แห่ง​ดินแดน​ป่า​รกชัฏ​เข้าไป​ยุ่มย่าม​กับ​ร้าน​นั้น​อีก​

“องค์​จักรพรรดิ​ ข้า​ไม่สนใจ​หรอ​กว่า​ท่าน​มีความเห็น​อย่างไร​กับ​เรื่อง​นี้​ ใน​เมื่อ​เจ้าของร้าน​ที่ว่า​นั่น​เพิ่ง​กลับ​เข้า​เมือง​มา ข้า​ก็​จะไป​คาดคั้น​เอา​คำอธิบาย​จาก​เขา​เอง​ก็แล้วกัน​ ต่อให้​ร้าน​นั้น​มีอสูร​เวท​ใน​ตำนาน​ปกป้อง​อยู่​ ก็​จะมาหยาม​วิหาร​เทพเจ้า​แห่ง​ดินแดน​ป่า​รกชัฏ​ของ​ข้า​ตามใจชอบ​ไม่ได้​” ผู้อาวุโส​ซุน​พูด​เสียง​เย็น​

ดู​ก็​รู้​ว่า​ชาย​ผู้​นี้​ไม่ได้​สนใจ​สิ่งที่​จีเฉิงเสวี่ย​พูด​แม้แต่น้อย​ พอ​พูด​จบ​ ชาย​ร่าง​กำยำ​ก็​หันหลัง​แล้ว​เดิน​ออกจาก​ท้องพระโรง​ไป​ทันที​ จีเฉิงเสวี่ย​ที่นั่ง​อยู่​ใน​ท้องพระโรง​รู้สึก​กระอักกระอ่วน​และ​ไม่พอใจ​เล็กน้อย​ที่​ผู้อาวุโส​ซุน​ไม่ยอม​ฟังตน​

ใน​ท้องพระโรง​หลวง​ตอนนี้​มีผู้ฝึก​ตน​จาก​กลุ่ม​อำนาจ​อื่น​อยู่​ด้วย​เช่นกัน​ อย่างเช่น​ จ้าน​คง​จาก​สำนัก​เมฆาขาว​ ผู้ฝึก​ตน​ขั้น​นักพรต​ยุทธการ​จาก​ดินแดน​แสน​ภูผา​ และ​ผู้ฝึก​ตน​คนอื่นๆ​

จีเฉิงเสวี่ย​รู้สึก​โกรธ​แต่​ก็​ทำ​อะไร​ไม่ได้​แม้แต่น้อย​ เนื่องจาก​เขา​ไม่มีอำนาจ​พอที่จะ​ไป​ห้าม​ผู้​ที่​แข็งแกร่ง​กว่า​ได้​

….

รุ่งอรุณ​มาเยือน​

ปู้​ฟางตื่นขึ้น​ อาบน้ำอาบท่า​ จากนั้น​ก็​เดิน​เข้า​ห้องครัว​มา อวี่ฝู​ตื่น​แล้ว​และ​กำลัง​ฝึก​ทักษะ​การ​ใช้มีด​ของ​ตนเอง​อยู่​ เมื่อ​นาง​เห็น​ปู้​ฟางเดิน​เข้ามา​ก็​ทักทาย​อีก​ฝ่าย​ด้วย​รอยยิ้ม​ทันที​

ปู้​ฟางพยักหน้า​ให้​นาง​ก่อน​จะเดิน​ไป​ที่​เตา​ของ​ตน​ ชายหนุ่ม​หยิบ​มีด​ทำครัว​หนักอึ้ง​ออกมา​แล้ว​เริ่ม​ฝึก​ทักษะ​การ​ใช้มีด​ แม้เขา​จะอยู่​ใน​จุดสูงสุด​ของ​ทักษะ​นี้​แล้ว​ แต่​ก็​ยังคง​ฝึกซ้อม​เป็นประจำ​เหมือน​อย่างเคย​

พอ​ฝึก​การ​ใช้มีด​เสร็จ​ ชายหนุ่ม​ก็​เริ่ม​ฝึก​การแกะสลัก​ต่อ​ ทักษะ​การแกะสลัก​กลุ่ม​ดาว​กระบวย​ใหญ่​ของ​เขา​ยัง​ไม่นับว่า​ยอดเยี่ยม​ ด้วยเหตุนี้​ชายหนุ่ม​จึงตั้งใจ​กับ​การพัฒนา​ทักษะ​นี้​เป็นพิเศษ​

หลังจาก​ฝึก​ไป​สักพัก​ เขา​ก็​เริ่ม​เตรียม​ซี่โครง​เปรี้ยวหวาน​ตาม​กิจวัตร​

สิ่งที่​ได้​เรียนรู้​ใน​กองทัพ​ทำให้​ทักษะ​การ​ทำอาหาร​ของ​ชายหนุ่ม​ดีขึ้น​พอสมควร​ เขา​รู้​ว่า​ตนเอง​ยัง​มีข้อบกพร่อง​อยู่​ไม่น้อย​ จึงทำให้​รู้สึก​ว่า​ต้อง​ตั้งใจ​มากกว่า​ที่​เคย​

ไม่นาน​นัก​กลิ่น​ซี่โครง​เปรี้ยวหวาน​ก็​หอม​ฟุ้งไป​ทั้ง​ครัว​

เมื่อ​ปู้​ฟางบีบ​ส้มลง​บน​ซี่โครง​ อาหาร​ทั้ง​จาน​ก็​ส่งกลิ่นหอม​ชวน​หลงใหล​ออกมา​ กลิ่น​นั้น​สามารถ​ทำให้​ทุกคน​ที่อยู่​ใน​ร้าน​ท้องร้อง​โครก​ได้​

เขา​เปิด​ประตู​ร้าน​ออกมา​แล้ว​วาง​จาน​ซี่โครง​เปรี้ยวหวาน​ลง​ตรงหน้า​เจ้าดำ​

สอง​วัน​ที่ผ่านมา​เป็น​วันที่​เจ้าดำ​มีความสุข​ที่สุด​ ตอนที่​ปู้​ฟางไป​ทำ​ภารกิจ​ใน​กองทหาร​อยู่​ครึ่ง​เดือน​ ปาก​ของ​เจ้าดำ​นั้น​แทบ​ไม่ได้​ใช้งาน​ มัน​อยู่​โดย​ไม่มีซี่โครง​เปรี้ยวหวาน​ไม่ได้​จริงๆ​

ปู้​ฟางลูบ​ขน​นุ่ม​ของ​เจ้าดำ​เล็กน้อย​ก่อน​จะเดิน​กลับ​เข้า​ร้าน​ไป​ เขา​ไป​นั่ง​เหยียด​อยู่​บน​เก้าอี้​ รอ​ให้​เซียว​เสี่ยว​หลง​มาถึง วันนี้​ปู้​ฟางจะตรวจ​ความคืบหน้า​เรื่อง​ทักษะ​การ​ทำอาหาร​ของ​ทั้ง​เซียว​เสี่ยว​หลง​และ​อวี่ฝู​ ตอนที่​เขา​เดิน​เข้าไป​ใน​ครัว​ ทั้งสอง​ก็​พร้อม​ที่จะ​แสดง​ฝีมือ​การ​ใช้มีด​และ​การแกะสลัก​ให้​ดู​แล้ว​

เซียว​เสี่ยว​หลง​รู้สึก​คับแค้น​แน่​นอก​ที่​ตนเอง​พ่ายแพ้​ใน​ครั้ง​ที่แล้ว​ คราวนี้​เขา​มีเพียง​เป้าหมาย​เดียว​เท่านั้น​ ซึ่งก็​คือ​การ​เอา​ชัยชนะ​มาครอบครอง​ให้ได้​

“บท​ทดสอบ​วันนี้​ไม่มีอะไร​มาก​ จงใช้ทักษะ​การ​ใช้มีด​และ​การแกะสลัก​ของ​เจ้าทำ​เต้าหู้​บุปผา​พัน​ชั้น​”

เขา​เอา​มือ​ไพล่หลัง​ มอง​ทั้งสอง​ด้วย​สีหน้า​สงบ​พลาง​ประกาศ​บท​ทดสอบ​ออกมา​

เต้าหู้​บุปผา​พัน​ชั้น​รึ​

เซียว​เสี่ยว​หลง​และ​อวี่ฝู​เหม่อ​ไป​ชั่วครู่​ นั่น​มัน​อาหาร​ที่​ทำให้​ทักษะ​การ​ใช้มีด​อัน​แสน​ยอดเยี่ยม​ของ​เถ้าแก่​ปู้​เป็นที่รู้จัก​ไป​ทั่ว​นครหลวง​มิใช่หรือ​ อาหาร​จาน​นี้​ไม่เพียง​ทดสอบ​ทักษะ​การ​ใช้มีด​ของ​พวกเขา​เท่านั้น​ แต่​ยัง​วัด​ทักษะ​การแกะสลัก​อีกด้วย​

ใคร​จะไป​คิด​ว่า​เถ้าแก่​ปู้​จะตั้ง​มาตรวัด​เอาไว้​สูงถึงเพียงนี้​

เซียว​เสี่ยว​หลง​และ​อวี่ฝู​หันมา​มองหน้า​กัน​ พอ​สายตา​ของ​ทั้งสอง​สบ​กัน​ พวกเขา​ก็​เห็น​แวว​นัก​สู้ใน​ดวงตา​ของ​อีก​ฝ่าย​ทันที​

พอ​ปู้​ฟางหยิบ​เต้าหู้​อุ่นๆ​ ออก​มาจาก​ตู้​ ทั้งสอง​ก็​เริ่ม​แข่งขัน​กัน​อย่าง​จริงจัง​

ครึ่ง​เดือน​ที่ผ่านมา​นี้​เซียว​เสี่ยว​หลง​ไม่ได้​แอบ​อู้​เลย​แม้แต่น้อย​ ปู้​ฟางเห็น​สิ่งนี้​ได้​จาก​ทักษะ​การ​ใช้มีด​ว่า​ชายหนุ่ม​มุ่งมั่น​ตั้งใจ​มาก​เพียงใด​ เนื่องจาก​มัน​ไม่ได้​ดู​ยิ่งหย่อน​ไป​กว่า​อวี่ฝู​เลย​

ส่วน​อวี่ฝู​เอง​ก็​จัด​ว่า​น่าประทับใจ​ไม่น้อย​ มนุษย์​อสรพิษ​หญิง​ตน​นี้​มีความมุ่งมั่น​แรงกล้า​ นาง​ตั้งใจ​เป็นอย่างมาก​ที่จะ​ศึกษา​ศิลปะ​การ​ทำอาหาร​ นอกจากนี้​ยังมี​ความสามารถ​ใน​การ​ใช้มีด​ที่​ยอดเยี่ยม​อีกด้วย​

ทั้งสอง​ทำ​จิตใจ​ให้​สงบ​แล้ว​เริ่ม​เพ่ง​สมาธิทั้งหมด​ไป​ที่​การ​ทำ​เต้าหู้​บุปผา​พัน​ชั้น​

นี่​เป็น​การแข่งขัน​ที่จะ​ทดสอบ​ความสามารถ​ใน​การ​ใช้มีด​และ​การแกะสลัก​ของ​พวกเขา​ไป​ในเวลาเดียวกัน​

แม้การ​ทดสอบ​นี้​จะยาก​ แต่​ไม่นาน​ทั้งสอง​ก็​ทำ​เสร็จ​ ถึงจะมีข้อผิดพลาด​อยู่​บ้าง​ แต่​ก็​ยัง​จัด​ว่า​ยอดเยี่ยม​ดีงาม​ เต้าหู้​บุปผา​พัน​ชั้น​ของ​คน​ทั้งคู่​สวยงาม​ละเอียดลออ​มาก​ทีเดียว​

เต้าหู้​ที่​อ่อนนุ่ม​เป็นชั้นๆ​ เหมือน​ขนสัตว์​ลอย​อยู่​ใน​น้ำ​ ความงาม​ของ​มัน​เรียก​ได้​ว่า​สวย​จน​แทบ​จับใจ​

แต่​ผล​ที่​ออกมา​ก็​ทำให้​เซียว​เสี่ยว​หลง​ต้อง​เข่า​ทรุด​ด้วย​ความสิ้นหวัง​ เขา​แพ้​ให้​อวี่ฝู​ซึ่งมีทักษะ​การ​ใช้มีด​ที่​ละเอียดอ่อน​งดงาม​กว่า​เล็กน้อย​

บทลงโทษ​ก็​คือ​ ต่อไปนี้​ชายหนุ่ม​จะต้อง​ใช้มีด​แสน​หนักอึ้ง​ของ​ปู้​ฟางใน​การ​ฝึก​ทักษะ​การ​ทำอาหาร​

พอ​อวี่ฝู​เห็น​สีหน้าบอกบุญไม่รับ​ของ​เซียว​เสี่ยว​หลง​ นาง​ก็​หัวเราะ​คิกคัก​ออกมา​

“วันนี้​พอแล้ว​! แข่ง​เสร็จ​แล้ว​ เจ้าทั้งสอง​คน​ไป​ฝึก​การ​ทำอาหาร​ต่อ​ได้​” ปู้​ฟางพูด​ด้วย​น้ำเสียง​สงบ​ จากนั้น​ก็​หันหลัง​กลับ​ตั้ง​ท่าจะ​ออกจาก​ครัว​ไป​

แต่​ก่อนที่​ชายหนุ่ม​จะเดิน​ออก​ไป​ อวี่ฝู​ก็​พูด​บางอย่าง​ขึ้น​มา

“เถ้าแก่​ปู้…​ ข้า​… ข้า​มีเรื่อง​เล็กน้อย​อยาก​จะขอร้อง​เจ้าค่ะ​” อวี่ฝู​พูด​ด้วย​น้ำเสียง​ลังเล​เล็กน้อย​

“หืม”​ ปู้​ฟางหัน​กลับมา​มอง​หญิงสาว​ด้วย​สายตา​งุนงง​

“เมื่อ​สอง​สามวันก่อน​ข้า​ได้รับ​จดหมาย​จาก​ท่าน​พ่อ​ ท่าน​อยาก​ให้​ข้า​กลับ​ไป​ที่​เผ่า​มนุษย์​อสรพิษ​เนื่องจาก​มีเรื่องใหญ่​เกิดขึ้น​…”

ปู้​ฟางเข้าใจ​ทันที​ ดูเหมือนว่า​นาง​จะอยาก​พัก​สักหน่อย​

แน่นอน​ว่า​เรื่อง​นี้​ไม่เป็นปัญหา​อยู่แล้ว​ ปู้​ฟางไม่ใช่พ่อครัว​ชั่วร้าย​ที่จะ​กักขัง​มนุษย์​อสรพิษ​หญิง​เอาไว้​ให้​เป็น​ทาส​ไป​ตลอด​เสียหน่อย​

“เช่นนั้น​ก็​รีบ​ไป​แล้​วจะ​ได้​รีบ​กลับมา​ แม้จะอยู่​ที่​เผ่า​ก็​อย่า​ลืม​ฝึกฝน​ทักษะ​การ​ทำอาหาร​อยู่​เสมอ​เล่า​ เจ้ายัง​ต้อง​แข่ง​กับ​เสี่ยว​หลง​อยู่​” ปู้​ฟางพูด​อย่าง​จริงใจ​

ความ​กระวนกระวาย​พลัน​หาย​ไป​จาก​ใบหน้า​ขอ​งอ​วี่ฝู​ นาง​ผ่อน​ลมหายใจ​ยาว​ออกมา​ จากนั้น​ก็​พยักหน้า​หงึกหงัก​อย่าง​ตื่นเต้น​

แต่​ภายใต้​ท่าทาง​ตื่นเต้น​ดีใจ​ของ​อวี่ฝู​กลับ​แฝงไป​ด้วย​ความกังวล​ บิดา​ของ​นาง​อยาก​ให้​นาง​กลับ​ไป​ทั้งที่​รู้​ว่า​นาง​กำลัง​ฝึก​วิชา​กับ​เถ้าแก่​ปู้​อยู่​ แปล​ว่า​เรื่อง​นี้​ต้อง​เป็นเรื่อง​เร่งด่วน​และ​สำคัญ​จริงๆ​

แล้ว​เรื่อง​ใด​กันที่​ทำให้​บิดา​ของ​นาง​ถึงกับ​ต้อง​เรียก​นาง​กลับ​ไป​

ปู้​ฟางหันหลัง​เดิน​ออกจาก​ครัว​ไป​ ลูกค้า​เริ่ม​หลั่งไหล​เข้า​ร้าน​มา เนื่องจาก​ถึงเวลา​เปิดร้าน​แล้ว​

วันนี้​โอว​หยาง​เสี่ยว​อี้​ไม่ได้มา​ที่​ร้าน​อย่าง​ผิดวิสัย​ น่าจะเป็น​เพราะ​เมื่อวาน​นาง​กิน​กระทะ​เทพ​แห่ง​โชคชะตา​เข้าไป​ ตอนนี้​จึงกำลัง​พยายาม​บรรลุ​ขั้น​ปราณ​อยู่​

แต่​เรื่อง​นี้​ก็​ไม่ได้​เป็น​อุปสรรค​อะไร​

ปู้​ฟางเอกเขนก​อยู่​บน​เก้าอี้​ด้วย​สีหน้า​สบายใจ​ นานๆ​ ที​จะลุกขึ้น​เพื่อ​ทำอาหาร​ที่​เตรียม​ยาก​ หลังจาก​ทำ​เสร็จ​เขา​ก็​จะกลับมา​นั่งเล่น​ที่​เก้าอี้​ทันที​

เนื่องจาก​อาหาร​ที่​ทำ​ยาก​ทั้งหลาย​มีราคาแพง​ จึงไม่ค่อย​มีคน​สั่งเท่าไร​

ชายหนุ่ม​รู้สึก​ดีใจ​ที่​ตนเอง​มีเวลาว่าง​ เขา​เลื้อย​ตัว​ไป​บน​เก้าอี้​ นึกถึง​วิธี​การพัฒนา​อาหาร​จาน​ต่างๆ​ ใน​ร้าน​ นอกจากนี้​ยัง​นึกถึง​การ​ทำให้​รสชาติ​ของ​แต่ละ​จาน​ดีขึ้น​ และ​วางแผน​เรื่อง​อื่นๆ​ ด้วย​

ดู​จาก​จำนวน​คน​ที่​เข้ามา​ใน​ร้าน​ ดูเหมือนว่า​วันนี้​เขา​จะขายดี​พอตัว​

ทันใดนั้น​คน​กลุ่ม​ใหญ่​ก็​เดิน​มาถึงหน้า​ร้าน​ของ​เขา​

ดวงตา​ที่​ปิด​อยู่​ครึ่งหนึ่ง​ของ​ปู้​ฟางเปิดกว้าง​ทันที​แม้เจ้าตัว​จะยังคง​เลื้อย​อยู่​บน​เก้าอี้​ก็ตาม​ ดวงตา​ของ​เขา​มอง​ไป​ที่​กลุ่มคน​เหล่านั้น​ รู้สึก​ประหลาดใจ​เล็กน้อย​

นั่น​เพราะ​กลุ่มคน​ตรง​หน้าเป็น​องครักษ์​ใน​ชุด​เกราะ​ คน​เหล่านี้​เคารพ​ปู้​ฟางพอตัว​เลย​ทีเดียว​ เพราะ​ชื่อเสียง​ของ​ร้าน​เขา​เป็นที่รู้จัก​กัน​ดี​ใน​นครหลวง​

แต่​เมื่อ​มองดู​อีกครั้ง​ ปู้​ฟางก็​เห็น​ชาย​ร่าง​กำยำ​ที่​ยืน​อยู่​ด้านหน้า​ ชาย​ผู้​นั้น​มอง​เขา​ด้วย​สีหน้า​เย็นชา​

หือ​ ปู้​ฟางเลิกคิ้ว​ขึ้น​เล็กน้อย​พลาง​จ้อง​กลับ​ไป​เช่นกัน​

เมื่อ​ทั้งสอง​ประสาน​สายตา​กัน​ ก็​ราวกับ​กำลัง​เกิด​การต่อสู้​ปลุกปล้ำ​ขึ้น​กลางอากาศ​ แม้คน​หนึ่ง​จะยืน​ตรง​อีก​คน​นอน​อืด​อยู่​บน​เก้าอี้​ แต่​ทั้งสอง​ก็​ดูเหมือน​จะพร้อม​เข้า​ห้ำหั่น​กัน​ทันที​

หลังจาก​มอง​ชาย​ร่าง​กำยำ​ด้วย​มัด​กล้าม​อยู่​นานสองนาน​ ปู้​ฟางก็​กลอกตา​บน​แล้ว​ตัดสินใจ​เลิก​สนใจ​อีก​ฝ่าย​

ตอนนั้น​เอง​คน​ผู้​นั้น​ก็​เปิดปาก​พูด​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​ต่อให้​บรรยาย​ว่า​หยาบคาย​ไร้​มารยาท​ก็​ยัง​ฟังดูดี​เกินไป​

“เจ้าน่ะ​หรือ​เจ้าของ​ร้านอาหาร​ที่​สังหาร​ผู้อาวุโส​สอง​คน​จาก​วิหาร​เทพเจ้า​แห่ง​ดินแดน​ป่า​รกชัฏ​ ใน​เมื่อ​เจ้ากล้า​ฆ่าคน​จาก​สำนัก​ข้า​ จะไม่คิด​ชดใช้​อะไร​หน่อย​รึ​”

ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก: GOURMET OF ANOTHER WORLD

ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก: GOURMET OF ANOTHER WORLD

Score 10
Status: Completed

ตอนที่ 1 – 200 อ่านนิยาย
( อ่านต่อข้างล่าง )


ในโลกแฟนตาซีมีผู้ฝึกยุทธสามารถแยกภูเขาและลำธารด้วยคลื่นพลังที่แผ่ออกมาจากฝ่ามือ และทำลายแม่น้ำได้จากลูกเตะ มีร้านอาหารเล็กๆตั้งอยู่

เป็นที่ๆมีพลังแห่งชีวิตนับไม่ถ้วนที่อยู่ภายใน

ที่นี่ท่านจะได้ลิ้มรสข้าวผัดที่ทำมาจากไข่ของนกฟินิกส์และข้าวเลือดมังกร

ที่นี่ท่านสามารถดื่มเหล้าแรงที่ทำมาจากผลสีชาดและน้ำจากน้ำพุแห่งชีวิต

ที่นั่นท่านสามารถลิ้มรสเนื้อย่างของวัวระดับเก้าที่โรยพริกไทยดำ

อะไรนะ? อยากจะลักพาตัวพ่อครัว? นี่ไม่มีทางเป็นไปได้ เพราะมีสัตว์แห่งเทพระดับสิบ เฮลฮาวน์เฝ้าอยู่ที่ทางเข้า

พ่อครัวยังมีหุ่นยนต์ที่ฆ่านักฆ่าระดับเก้าด้วยมือข้าเดียว และยังมีกลุ่มผู้หญิงที่บ้าคลั่งหิวโหยที่จะต้องเอาชนะให้ได้


 

Options

not work with dark mode
Reset