วันนี้ชาวบ้านของหมู่บ้านเหรินจยาทำงานกันตั้งแต่เช้าจรดบ่าย
เมื่อถึงตอนบ่ายก็นำประทัดยาวมาแขวนไว้กับกิ่งไม้ต้นสูงๆ ที่หน้าหมู่บ้าน
จินตนาการได้ว่า อีกครู่หนึ่งเมื่อกลุ่มขบวนจับหมาป่าเข้าหมู่บ้าน คนในหมู่บ้านก็จะตีฆ้องตีกลองร้องป่าวและจุดประทัดต้อนรับ
ในตอนนี้ชาวบ้านได้เปลี่ยนไปสวมเสื้อผ้าที่เรียบร้อย และจัดขบวนยืนต้อนรับกันเสร็จแล้ว
พวกต้าหลังต่างก็อยากมาคอยดูกลุ่มขบวนจับหมาป่ากันให้ได้
ที่ไม่ให้พวกเขามา เพราะที่บ้านได้เลือกคนเข็นรถแล้ว แต่บอกแล้วก็ไม่ฟัง ในที่สุดพวกเขาก็มาจนได้
ต้าหลังยืนกระซิบอยู่ข้างซ่งฝูเซิง “ลุงสาม คาดไม่ถึงว่าหมู่บ้านเหรินจยา เพียงแค่ชั่วคืนเดียวกับช่วงเช้า ก็สามารถเตรียมของได้ครบถ้วนแล้ว”
หลายชายคนโตของท่านลุงซ่งพยักหน้า “ท่านลุงสาม พูดจริงๆ นะ หลี่เจิ้งคนใหม่นี้ดีจริงๆ พวกเราแทบไม่ต้องทำอะไรเลย สิ่งของต่างๆ ก็ไม่ต้องเตรียมเอง ไม่เหมือนหลี่เจิ้งคนก่อน เชอะ เขาไม่สร้างความยากลำบากให้กับเราก็ดีแล้ว ใช่ไหม? ท่านลุงสาม”
เกาเถี่ยโถวแอบเข้ามากระซิบใกล้ๆ เซิงฝูเซิง “ลุงสาม ข้าเข้าใจท่าน”
“หืมม?” ซ่งฝูเซิงสงสัย
เกาเถี่ยโถวยังคงพูดต่อ “มิน่าท่านถึงบอกไม่ต้องกังวลอะไรมากและให้ลุงซ่งฝูสี่ไม่ต้องรีบร้อนทำอ่างน้ำ แค่ตั้งใจทำเต็มที่ก็พอ…
…ท่านคาดการณ์ไว้ล่วงหน้าแล้วใช่ไหม? ว่าหมู่บ้านเหรินจยาจะจัดเตรียมเอง…
…ท่านลุงสาม ครั้งนี้ข้ามองแผนการของท่านออกแล้ว…
…ท่านกับท่านลุงซ่งต่างก็ไม่รับตำแหน่งหลี่เจิ้ง ข้อหนึ่งเป็นเพราะไม่อยากวุ่นวาย ข้อสองเป็นเพราะอยากสนับสนุนหัวหน้าเริ่นที่ไม่ถูกกับเริ่นกงซิ่นให้เข้ารับตำแหน่ง แบบนี้ท่านก็สามารถยืมมีดฆ่าคนได้ เปรียบเสมือนให้เพื่อนไปสังหารศัตรู โดยที่ไม่ต้องออกแรง”
ต้าหลังรีบแย่งพูด “ใช่แล้ว ท่านลุงสาม ท่านมองคนออกจริงๆ …
…รู้ว่าหัวหน้าเริ่นของหมู่บ้านนี้กับเริ่นกงซิ่นไม่ถูกกัน หากหัวหน้าเริ่นเข้ารับตำแหน่งก็จะต้องกดดันเริ่นกงซิ่น และอาศัยโอกาสนี้แก้แค้น…
…ท่านมองออกว่าหัวหน้าหมู่บ้านนี้แค้นเคืองหมาป่ามาก หากกลุ่มขบวนจับหมาป่าเข้ามาในหมู่บ้าน เขาจะกระตือรือร้นให้การต้อนรับเป็นอย่างดีมากกว่าใครๆ…
…เมื่อเป็นเช่นนี้ พวกเราก็ไม่จำเป็นต้องเตรียมสิ่งของมากมายแล้ว พวกเราเรียกสถานการณ์แบบนี้ว่า ‘อาศัยช่วงจังหวะได้เปรียบแสวงหาผลประโยชน์’”
หลานชายคนโตของท่านลุงซ่งยังพูดว่า “ท่านลุงสาม ไม่ใช่เพียงแค่นั้น ท่านยังใช้กลยุทธ์หนึ่งเรียกว่า กลยุทธ์ดูไฟชายฝั่ง[1]”
เกาเถี่ยโถวกับต้าหลังรีบพยักหน้า “ใช่แล้ว”
ใช่อะไรกัน
เมื่อสองสามวันก่อนไปเก็บก้อนหินใหญ่บริเวณรอบภูเขา เดินไปก็พูดถึงกลยุทธ์ทางการทหารของซุนจื่อ ตอนนี้เด็กหนุ่มพวกนี่ก็เลยคลั่งไคล้จนแทบจะเป็นบ้าไปแล้ว
คิดว่าเขาใช้แผนการต่อยอด
นี่คิดว่าเขามีสมองถึงขนาดนั้นเลยหรือ?
“ไปๆ พวกเจ้าหุบปากได้แล้ว ถ้าคนในหมู่บ้านได้ยินเข้า พวกเขาจะคิดอย่างไร”
เด็กหนุ่มทั้งสามรีบปิดปากเงียบ แต่ส่งสายตาให้กับลุงสาม ท่านลุงสาม พวกข้าเข้าใจท่าน จะพูดออกมาได้อย่างไรกัน
หลังจากเด็กหนุ่มสามคนก่อกวนซ่งฝูเซิงเสร็จ พวกเขาก็วิ่งตามพ่อของตัวเองไป
ตอนนี้พวกเกาถูฮู่ยืนอยู่หลังรถเข็น แล้วไปรับของที่หมู่บ้านเตรียมไว้ให้
เพียงแต่ว่า ตอนนี้ยังไม่ต้องเข็นรถไป ต้องรอรับ “กลุ่มขบวนจับหมาป่า” ให้ทหารพวกนั้นได้เห็นก่อน ถึงจะเข็นรถตามหลังขบวนไปอีกที
บนรถเข็นมีสิ่งของครบครัน
เมื่อมองไปก็ถึงกับตกตะลึง
พวกเครื่องนอนผ้าห่มนับร้อย
เป็นของใหม่ทั้งหมด แต่ละบ้านต่างก็เอามาให้ มีหลายแบบ
ไม่ได้ให้ฟรีๆ เพราะมีการจ่ายเงินให้แก่ชาวบ้าน
เมื่อจ่ายเงินให้ ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะมีของไม่ครบ
ที่ได้ของไม่ครบ นั่นเป็นเพราะให้เงินไม่พอ
เนื้อหมูที่เชือดใหม่ๆ หัวหมูทั้งหัวที่รมควันเสร็จแล้ว
ไก่ตัวใหญ่ยี่สิบตัว พวกเขาก็เชือดพร้อมกับถอนขนจนเสร็จแล้ว ใช้เชือกแดงมัดขาไก่ไว้
บนรถสองคันมีบะหมี่เส้นเล็กกับข้าวขาว
อีกทั้งมีบ้านที่เทแบ่งน้ำมันงามาให้ อีกบ้านเทแบ่งน้ำมันข้าวโพดมาให้ เมื่อเดินครบทั่วทั้งหมู่บ้านก็ไม่ต้องไปซื้อน้ำมันที่อำเภอถงเหยาแล้ว เพราะตอนนี้มีน้ำมันเต็มไหใหญ่
นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายคันรถที่เข็นอ่างน้ำใหม่ ถังน้ำใหม่ รางอาหารม้าใหม่
ช่างไม้ในหมู่บ้านต่างออกมาช่วยกันทำสิ่งเหล่านั้น
ไม่เพียงแค่นั้น ซ่งฝูเซิงยังออกแบบจานไม้ ตะเกียบไม้ให้กับพวกทหารโดยเฉพาะ
หญ้ากับอาหารของม้า
หัวหน้าเริ่นยังให้คนออกไปนอกหมู่บ้านเพื่อซื้ออาหารม้าอย่างดี
ต้นหอมครึ่งคันรถ ซอสครึ่งคันรถ
ผักดองหนึ่งคันรถ เต้าหู้แช่แข็งหนึ่งคันรถ ใช้รถลากแบบมีล้อ
ผักกาดขาว หัวไชเท้า ฟักทอง ใส่ไว้ในถุงหลายถุง
ในหมู่บ้านมีสิ่งของครบถ้วน จึงใช้เวลาแค่หนึ่งคืนกับอีกครึ่งวันเตรียมของได้ครบ
บนรถเข็นทุกคันจะมีกระดาษแดงพับเป็นดอกไม้ใหญ่วางอยู่
เกาเถี่ยโถวมองสิ่งของพวกนี้แล้วพูดขึ้น “เมื่อครู่พวกเราลืมพูดอะไรไป”
“อะไร?”
“ท่านลุงสามยังมีอีกกลยุทธ์หนึ่ง เรียกว่า สามัคคีคือพลัง ปรองดองกันสามารถเป็นพลังสามัคคีกันทำอะไรก็สำเร็จได้ง่าย อย่าว่าแต่ใช้เวลาหนึ่งคืนกับอีกครึ่งวันเลย แค่ใช้เวลาหนึ่งชั่วยาม ก็สามารถหาของได้ครบแล้ว ยิ่งมีคนมาก พลังสามัคคีก็ยิ่งเยอะ ตอนที่พวกเราอพยพลี้ภัยก็เช่นกัน ตอนนี้ก็เช่นเดียวกัน”
ต้าหลัง “อืม พลังการปรองดองของลุงสามข้า ร้ายกาจที่สุด”
ตอนนี้มีเสียงเคลื่อนไหวดังมาจากด้านหน้า พวกเด็กหนุ่มละสายตาชื่นชมซ่งฝูเซิงมามองที่หน้าทางเข้าหมู่บ้านแทน
เวลาผ่านไปช้าๆ ตรงข้างหน้าก็ปรากฏขบวนคน
ในที่สุดขบวนจับหมาป่าก็มาถึงแล้ว
ลูกชายคนโตของหัวหน้าเริ่นรีบส่งสัญญาณมือให้คนที่รอจุดประทัดอยู่ใต้ต้นไม้เตรียมตัว หากเขาโบกมือส่งสัญญาณก็ให้จุดประทัดทันที
และมีคนตะโกนบอกกับกลุ่มชาวบ้านที่รอต้อนรับ “มาแล้ว มาแล้ว ทั้งหมดยืนตัวตรงหน่อย”
ซ่งฝูเซิงคิดในใจ ใครบอกว่าชาวบ้านธรรมดาในยุคโบราณจะทำเรื่องอลังการไม่ได้?
หัวหน้าเริ่นส่งสัญญาณมือให้ซ่งฝูเซิงเดินนำหน้าไปรับขบวนก่อน
แต่ซ่งฝูเซิงยื่นมือเชื้อเชิญให้หัวหน้าเริ่นเดินนำออกไปรับขบวนก่อน เพราะหัวหน้าเริ่นเป็นผู้อาวุโส ส่วนเขาจะเดินตามหลังไป
ทั้งสองคนต่างก็ให้เกียรติอีกฝ่ายเดินนำหน้าไปก่อน สุดท้ายหัวหน้าเริ่นก็เป็นคนเดินนำหน้าไปก่อน โดยมีเซิงฝูเซิงเดินตามหลัง
เริ่นกงซิ่นเห็นเหตุการณ์ในครั้งนี้ก็กัดฟันกรอดๆ อย่างโมโห
พวกเจ้าสองคนแสร้งทำเป็นให้เกียรติกัน คนคู่นี้ช่างเสแสร้งนัก
มองไม่ผิด เริ่นกงซิ่นก็อยู่ในกลุ่มนี้ด้วย
ก่อนหน้าเขาป่วย ไม่มา ไม่ให้ความร่วมมือ ถ้ามีความสามารถ ก็แบกเขาไปหน้าหมู่บ้านก็แล้วกัน
ไม่คาดคิดว่าหัวหน้าเริ่นกลับไม่สร้างความลำบากใจให้กับเขา อีกทั้งทำท่าถอนหายใจอย่างโล่งอก
เริ่นกงซิ่นรู้สึกว่าเขาน่าจะต้องมีแผนการอะไรบางอย่างแน่ๆ
เมื่อไม่ให้เขาไป เขาก็อยากจะไป
ดังนั้นวันนี้เขาจึงมา เขามาอยู่ในขบวนต้อนรับและจ้องมองหัวหน้าเริ่นกับซ่งฝูเซิงด้วยความแค้นเคือง
ให้ตำแหน่งพิเศษกับพวกเจ้าสองคนยืนอยู่ตรงกลาง ทำเหมือนกับว่า หากพวกเจ้าไม่เดินออกมาก็จะไม่เห็นพวกเจ้าอย่างนั้นแหละ และทำให้เขาเห็นเหตุการณ์ต่างฝ่ายต่างให้เกียรติกันจนเขารู้สึกสะอิดสะเอียน
ไม่ยอมแพ้ เหมือนมีอะไรมาสะกิดตลอดเวลา
เริ่นกงซิ่นคิด ควรที่จะเป็นเขาออกไปต้อนรับมากกว่า
“มาดูเร็ว พวกเขาขี่ม้ากันมาทั้งหมดเลย”
“สวมเสื้อผ้าแบบเดียวกัน ทำไมไม่เหมือนกับทหารท้องถิ่นที่ข้าเคยเห็นมาก่อน ข้าเคยเห็นมาก่อน แต่การแต่งกายไม่ได้เป็นแบบนี้ ทหารที่มาคงไม่ใช่พวกนายทหารทั้งหมดหรอกนะ?”
“คงไม่ใช่หรอก แค่มาจับหมาป่าเอง”
“พวกเจ้ารีบมาดูเร็ว ด้านหลังลากอะไรมา”
พวกป้าอ้วนพึมพำ “สมกับที่มาจากเมืองเฟิ่งเทียน น่าตาหล่อเหลา” นางสังเกตไม่เหมือนคนอื่นจนถูกแม่สามีมองค้อน
พวกป้าอ้วนรีบปิดปากเงียบ ทำไมถึงปากพล่อยเผลอพูดความในใจออกมาได้นะ
ถึงแม้นางจะไม่ใช่ผู้หญิงเรียบร้อย แต่นางก็ทราบดีว่าสตรีไม่สามารถพูดถึงบุรุษได้ เพราะจะดูเหมือนว่านางไม่เป็นกุลสตรี
โดยรวมแล้ว ขบวนกลุ่มจับหมาป่าช่างดูเก่งกาจมากเหลือเกิน
———————————-
[1] กลยุทธ์ดูไฟชายฝั่ง การใช้โอกาสที่ศัตรูเกิดการแตกแยก วุ่นวาย สร้างผลประโยชน์ให้ตนเอง