ทะลุมิติทั้งครอบครัว 277 ดีดขาหลัง

ตอนที่ 277 ดีดขาหลัง

เด็ก​ลาดตระเวน​พูด​เสริม​ “มีคนนอก​มาด้วย​!”

คิด​ว่า​อา​สามจะลง​จาก​รถ​ ที่ไหนได้​ กลับ​พา​คน​ข้าม​สะพาน​มาด้วย​

หลังจาก​ตะโกน​ออก​ไป​เช่นนี้​ ก็​เห็น​ทุกคน​ประหนึ่ง​เคย​ได้รับ​การ​ฝึก​มา

มีกลุ่มคน​ปรากฏ​ขึ้น​บริเวณ​รอบ​โรง​เพาะปลูก​พริก​อย่าง​รวดเร็ว​

คน​เหล่านั้น​ปีน​บันได​ขึ้นไป​บน​หลังคา​จาก​ทั่วทุกสารทิศ​ โยน​เชือก​ ผ้าห่ม​กับ​ม่าน​ฟางขึ้นไป​วาง​บัง​บน​หลังคา​

ในขณะเดียวกัน​ บรรดา​คน​ที่อยู่​ข้างล่าง​ก็​เอา​รั้ว​ไม้ที่​ซ่งฝูสี่ทำ​กาง​ออก​ วาง​กั้น​ตั้งแต่​ฝั่งตะวันออก​ไป​ยัง​ฝั่งตะวันตก​ของ​โรง​เพาะปลูก​พริก​ ด้านหลัง​ก็​ล้อม​ไว้​เช่นกัน​ เอา​แม่กุญแจ​คล้อง​ไว้​ เหลือ​เพียง​ประตู​ของ​โรง​เพาะปลูก​พริก​ อยู่​ข้างนอก​มองไม่เห็น​ข้างใน​

บรรดา​คนแก่​ที่อยู่​ใน​บ้าน​ใต้ดิน​ก็​ชะโงก​หัว​ออกมา​เอา​หิมะ​ใน​ตะกร้า​วาง​กลบ​ทางเข้า​

นี่​คือ​สิ่งที่​ลุง​ใหญ่​ของ​ซ่งฝูเซิงคิด​ ซ่งฝูเซิงห้าม​อย่างไร​ก็​ไม่ฟัง

ลุง​ใหญ่​คิด​ว่า​ อย่า​หาว่า​พวกเขา​ใจแคบ​ พวกเขา​ก็​แค่​ไม่อยาก​ให้​ใคร​เห็น​ ทางเข้า​ใต้ดิน​มีแต่​หิมะ​ ดู​ก็​รู้​ว่า​ข้างใต้​ไม่มีอะไร​ รอยเท้า​ก็​ไม่มี เอาเป็นว่า​ไม่อยาก​ให้​ใคร​รู้​แม้แต่​นิดเดียว​

แม้แต่​ด้านนอก​ห้อง​ทำ​ขนมเค้ก​ ด้านนอก​หน้าต่าง​กระดาษ​ก็​มีม่าน​ฟางบัง​ไว้​

และ​ที่​เล่น​ใหญ่​ที่สุด​คือ​เอ้อร์​ยา​ที่​กำลัง​อบ​ตัว​ขนมเค้ก​อยู่​ใน​ห้อง​ทำ​ขนม​ของ​ซ่งฝูห​ลิง​ เวลานี้​เหลือ​นาง​อยู่​คนเดียว​ นาง​ก็​เอา​กับ​เขา​ด้วย​

เดิมที​ตะเกียง​ใน​ห้อง​ถูกจุด​สว่าง​ ไฟใน​เตา​ที่​กำแพง​สว่าง​ยิ่งกว่า​ ต่อมา​พอ​ได้ยิน​ว่า​มีคน​เคาะ​ประตู​เตือน​ว่า​มีคนนอก​มานาง​จึงไป​เอา​ม่าน​ฟางลง​

อันที่จริง​กระดาษ​ที่​บุ​หน้าต่าง​ก็​ไม่ได้​โปร่งแสง​ ใคร​จะไป​เห็น​ ทว่า​นั่น​ก็​ไม่ได้​เหมือนกัน​

ทุกคน​คิด​ว่า​ ทั้งหมด​นี้​เป็น​ของ​พวกเรา​ ห้าม​ให้​ใคร​เห็น​ทั้งนั้น​ ทาง​ที่​ดี​พวกเขา​อย่า​มาเลย​ดีกว่า​ รบกวน​ชาวบ้าน​ชาว​ช่อง​ พวกเรา​อยู่​กันเอง​ก็ดี​อยู่แล้ว​ ไม่ต้อง​มารบกวน​

เหล่า​ลูกน้อง​ของ​โรงเตี๊ยม​ที่​เจ้านาย​เฉิน​ใช้งาน​ ได้​ติดตาม​รถม้า​มา เมื่อ​มาถึงต่าง​ก็​งงกัน​หมด​

บ้าน​ที่​คน​พวก​นี้​อาศัย​ เหตุใด​ถึงดู​โกโรโกโส​ได้ขนาด​นี้​ สู้บ้าน​ของ​พวกเขา​ไม่ได้​เลย​ด้วยซ้ำ​

นี่​เป็น​สิ่งที่​พวกเขา​นึกไม่ถึง​เลย​จริงๆ​

ต้อง​ทราบ​ก่อน​ว่า​ ครอบครัว​ซ่งฝูเซิงดู​เป็น​คน​ที่​เก่ง​มาก​ใน​สายตา​ของ​ทุกคน​ที่​ตามมา​ด้วย​

ไม่เพียงแต่​จะรู้จัก​ชนชั้นสูง​ อีก​ทั้ง​ตัวเอง​ก็​ยัง​ค้า​ขายของ​ที่​มีราคาแพง​อย่าง​ กระเทียม​เหลือง​ ขนมเค้ก​ มีอย่างไหน​บ้าง​ที่​ไม่ใช่ของ​ที่​คน​ร่ำรวย​กินกัน​ ขาย​แพง​ขนาด​นั้น​ ไม่มีเงินได้​หรือ​

แต่ว่า​ชีวิต​เป็น​แบบนี้​รึ​

ซ่งฝูเซิงไม่รู้​ถึงความตกใจ​ของ​คน​พวก​นี้​ ถ้ารู้​บางที​อาจ​หัวเราะ​พลาง​พูด​

นี่แหละ​ที่​เรียก​ว่า​สร้าง​ครอบครัว​ด้วย​มือเปล่า​

ตั้งแต่​อาหารการกิน​ไป​จนถึง​เครื่องนุ่งห่ม​ ตั้งแต่​ต้น​หอม​หนึ่ง​ต้น​ไป​จนถึง​เส้นด้าย​ที่​ใช้เย็บ​เสื้อผ้า​ พวกเขา​หา​มาจาก​น้ำพักน้ำแรง​ของ​ตัวเอง​ทั้งนั้น​

ครอบครัว​อื่น​ ต่อให้​ยากจน​ข้นแค้น​เพียงใด​ อย่าง​น้อยที่สุด​ก็​ยังมี​สิ่งของจำเป็น​ขั้นพื้นฐาน​ แต่​พวกเขา​ไม่มี

ดังนั้น​ถ้าอยาก​หลุดพ้น​จาก​ความยากจน​อย่าง​สิ้นเชิง​ ใน​ระยะเวลา​อัน​สั้น​ไม่สามารถ​พึ่งพา​แค่​การ​ขาย​ผัก​นอก​ฤดูกาล​กับ​ขนมเค้ก​แค่​ไม่กี่​ก้อน​ได้​ เว้น​เสียแต่​จะจับพลัดจับผลู​ร่ำรวย​ขึ้น​มา แต่​ก็​ถือว่า​พวกเขา​ก้าวหน้า​ไป​เร็ว​มาก​แล้ว​ ให้​เร็ว​กว่า​นี้​ก็​ฝืน​โชคชะตา​แล้ว​

ลุง​ซ่งได้​ฟังจุดประสงค์​ของ​การ​มา ที่แท้​ก็​มาส่งของ​ ฉีก​ยิ้ม​จน​เผย​ให้​เห็น​ฟัน​สึก​ที่อยู่​ใน​ปาก​ หนวดเครา​ก็​สั่น​ตาม​ เขา​ใช้กระบอก​ยาสูบ​ชี้ “ลำบาก​ทุกคน​แล้ว​ รีบ​เข้าไป​ดื่ม​น้ำอุ่น​สิ ไม่ต้อง​เกรงใจ​”

คน​พวก​นั้น​รีบ​โบกมือ​ ไม่เป็นไร​ พวกเขา​เอา​ถุงน้ำ​มาด้วย​ และ​ก็​ต้อง​รีบ​กลับ​เข้า​เมือง​ก่อน​ฟ้ามืด​ มิฉะนั้น​จะเข้า​ประตูเมือง​ไม่ได้​

คน​พวก​นี้​รีบเร่ง​ พอ​พวกเขา​ไป​ คนอื่นๆ​ ก็​เข้าไป​รุมล้อม​ครอบครัว​ซ่งฝูเซิง

มีทุก​คำถาม​ อีก​ทั้ง​ยัง​ยกตัว​หมี่​โซ่ว​ชูขึ้น​ เกา​ถูฮู่เป็น​คน​อุ้ม​เขา​ขึ้น​มา

ตอนนี้​พวกเขา​ใกล้​ชิน​แล้ว​ หมี่​โซ่ว​ก็​คือ​หมี่​โซ่ว​ ไม่มีใคร​แทนที่​ได้​ เป็นตัวแทน​ของ​ความประหลาดใจ​

ซ่งฝูห​ลิง​สรุป​เรื่องราว​ให้​ท่าน​ย่า​ฟัง ขาย​ไป​เท่าไร​ ได้เงิน​เท่าไร​ ไม่มีไม่พอใจ​ นาง​ถามท่าน​ย่า​แค่​ว่า​คิดถึง​นาง​หรือไม่​ ท่าน​ย่า​หม่า​ตอบ​ว่า​ อย่า​พูดมาก​ พูด​เข้า​ประเด็นสำคัญ​หน่อย​ ประเด็นสำคัญ​ก็​คือ​ไม่มีอะไร​ ท่าน​ย่า​รีบ​ๆ หายป่วย​แล้วกัน​

ท่าน​ย่า​หม่า​บอ​กว่า​ ถ้าเช่นนั้น​เรื่องสำคัญ​ของ​นาง​ก็​คือ​ พวก​เจ้ากินข้าว​กัน​แล้ว​หรือยัง​

“กิน​แล้ว​เจ้าค่ะ​ กิน​จน​อิ่ม​แปล้​เลย​ กิน​จน​ต้อง​ฝืน​ยัด​ลง​ไป​”

ท่าน​ย่า​หม่า​คิดในใจ​ กิน​จน​จะอ้วก​แล้ว​ทำไม​เจ้าถึงไม่รู้งาน​ ห่อ​กลับมา​บ้าน​สักหน่อย​ ข้า​จะได้​ชิมบ้าง​

ซ่งฝูห​ลิง​มีหรือ​จะสนใจ​ท่าน​ย่า​ที่​บ่น​นั่น​บ่น​นี่​

ท่าน​ปู่​บอ​กว่า​ กระดาษ​พู่กัน​ชั้นดี​เหล่านั้น​ยัง​ใช้ตอนนี้​ไม่ได้​ วาง​ทิ้ง​ไว้​ก่อน​ ไว้​รอ​ให้​พวก​เด็ก​ๆ เขียนหนังสือ​ได้​ประมาณ​หนึ่ง​แล้ว​ค่อย​ใช้ตอนนั้น​ ยังคง​ต้อง​หาเงิน​ซื้อ​พู่กัน​ราคา​ถูก​ เอา​ของ​ทั้งหมด​ไป​ไว้​ที่​บ้าน​ซ่งฝูเซิง นาง​จึงเข้าไป​ด้วย​ ตาม​ทุกคน​ยก​หีบ​กลับบ้าน​ตัวเอง​

นาง​อยาก​ดู​ว่า​ข้างใน​หีบ​มีอะไร​บ้าง​ ตอน​อยู่​โรงเตี๊ยม​ไม่ได้​เปิด​ดู​ นี่​ขน​กลับมา​บ้าน​แล้วก็​ต้อง​ขอ​คุ้ย​ดู​สักหน่อย​

“อ๊า”​ เฉียน​เพ่​ย​อิง​ตกใจ​ “ร้อง​ทำไม​”

“ท่าน​แม่” ซ่งฝูห​ลิง​เรียก​ท่าน​แม่ รู้สึก​ว่า​เรียก​ท่าน​แม่ก็​ไม่มีประโยชน์​ ท่าน​แม่ของ​นาง​ไม่รู้เรื่อง​พวก​นี้​ จึงถือ​กระดาน​ใน​มือ​ออก​ไปหา​ท่าน​พ่อ​ ซ่งฝูเซิงคุย​กับ​ลุง​ซ่งอย่าง​คร่าวๆ​ เสร็จ​กลับมา​พอดี​ “มีอะไร​รึ​”

“ท่าน​พ่อ​ อ๊า​ ดู​สิ ท่าน​ดู​สิว่า​นี่​คือ​อะไร​” ซ่งฝูห​ลิง​ทำ​ประหนึ่ง​ได้​สมบัติ​ล้ำค่า​

กระดาน​เหมียว​หง​ ซึ่งก็​คือ​กระดาน​ฝึก​เขียน​อักษร​ จะมีอักษร​นูน​ออกมา​ วาง​กระดาษ​เหมียว​หง​ไว้​ด้านบน​ จากนั้น​ก็​ฝึก​เขียน​ตาม​อักษร​ที่อยู่​ข้างล่าง​ได้​

ซ่งฝูห​ลิง​เดา​ว่า​ นี่​น่าจะเป็น​ของ​ที่​ลู่​พั่น​ใช้ตอน​เด็ก​

นาง​ดีใจ​ที่​สามารถ​ฝึก​เขียน​อักษร​ได้​แล้ว​

นาง​ลาก​ซ่งฝูเซิง จะให้​ท่าน​พ่อ​ของ​นาง​ไปดู​ของ​ใน​หีบ​อย่าง​ละเอียด​ด้วยกัน​ให้ได้​

สอง​พ่อ​ลูก​นั่งลง​ตรงหน้า​หีบ​ ซ่งฝูห​ลิง​เอา​ลูกคิด​มาไว้​ข้าง​ตัว​ หยิบ​หนังสือ​ขึ้น​มา “ท่าน​พ่อ​ หนังสือ​พวก​นี้​เป็น​แบบเรียน​เริ่มต้น​หรือเปล่า​” จากนั้น​ก็​หยิบ​หนังสือ​ใน​หีบ​ขึ้น​มาหนึ่ง​เล่ม​ “พวก​นี้​ก็​ด้วย​รึ​” รู้สึก​ว่า​ตัวเอง​เสียง​สูงเกินไป​ นาง​ลด​เสียง​ลงมา​หน่อย​แล้ว​พูด​ต่อ​ “รีบ​ดู​ให้​ข้า​หน่อย​ หนังสือ​พวก​นี้​เป็น​ตำรา​บทกลอน​โบราณ​ใช่หรือไม่​”

ซ่งฝูเซิงรับ​มาเปิด​ดู​แล้ว​พยักหน้า​

ซ่งฝูห​ลิง​รีบ​เอา​หนังสือ​ไป​กอด​ไว้​ เยี่ยม​ไป​เลย​ นาง​เรียน​เอง​ได้​แล้ว​

นาง​อยาก​เรียน​ด้วยตัวเอง​มานาน​แล้ว​ แต่​อยากได้​หนังสือ​กลับ​ไม่มีหนังสือ​ อยาก​ฝึก​เขียน​พู่กัน​แต่​ก็​เขียน​ได้​เหมือน​หมา​ตะกุย​ อีก​ทั้ง​ท่าน​พ่อ​ของ​นาง​ก็​ยุ่ง​มาก​

“ของ​พวก​นี้​ต้อง​เอาไว้​ให้​หมี่​โซ่ว​ใช้หัด​เรียน​หรือเปล่า​” ซ่งฝูเซิงพูด​

“ข้า​ไม่สน​ ขอ​ข้า​ยืม​ใช้ก่อน​” เป็นครั้งแรก​ที่​ซ่งฝูห​ลิง​รู้สึก​ว่า​แม่ทัพ​เล็ก​คน​นั้น​เป็น​คนดี​

หลังจากที่​ซ่งฝูเซิงกับ​ภรรยา​มองหน้า​กัน​ก็​เอา​มือ​เท้าสะเอว​มอง​บุตรสาว​ เห็น​บุตรสาว​ทำ​หน้า​ดีอกดีใจ​ ก่อนหน้านี้​ตอน​อยู่​ใน​รถ​ยัง​พูดว่า​ง่วง​แล้ว​ กลับบ้าน​ไป​จะนอน​เลย​ ทว่า​ดู​จาก​ตอนนี้​เหมือน​อยาก​ลอง​ฝึก​เขียน​อักษร​มากกว่า​

เขา​คิดในใจ​ ต้อง​ถึงขนาด​นี้​หรือไม่​ มีประโยชน์​อะไร​

แสดงให้เห็น​ว่า​ ถึงแม้ซ่งฝูเซิงจะสืบทอด​ความเก่ง​ของ​ร่าง​เดิม​ เขียน​อักษร​ได้ดี​เหมือน​ร่าง​เดิม​ ชอบ​เอ่ย​บทกลอน​ออกมา​บ่อยๆ​ เหมือน​ร่าง​เดิม​ ทว่า​กระบวนการ​คิด​ของ​เขา​ก็​ยังคง​เหมือน​ตอน​ยุค​สมัยปัจจุบัน​ที่​ไม่ชอบ​เรียนหนังสือ​ เห็น​หนังสือ​แล้ว​ไม่อยาก​เข้าใกล้​

พอ​ออก​ไป​นอกบ้าน​ซ่งฝูเซิงก็​เห็น​หมี่​โซ่ว​กับ​พวก​เด็ก​ๆ ไม่รู้จัก​หนาว​กัน​ กำลัง​ห้อมล้อม​เรียก​ลูก​ม้าด้วย​ความดีใจ​ “เสี่ยว​หง​ เสี่ยว​หง​” เขา​คิดในใจ​ เจ้าสิ่งนี้​ไม่มีประโยชน์​ยิ่งกว่า​

เอา​ตัวปัญหา​กลับมา​แล้ว​หนึ่ง​

ถ้าปล่อย​ให้​มัน​หิว​จน​ป่วย​ตาย​ หลังจากนั้น​หมี่​โซ่ว​เสียใจ​ยัง​ไม่พอ​ หาก​ทาง​นั้น​ถามขึ้น​มาก็​ดูจะ​ไม่ค่อย​ดี​

แต่​ถ้าทำ​ตามใจ​มัน​ล่ะ​ ไอ๊ห​ยา​ ซ่งฝูเซิงเดิน​เข้าไป​อย่าง​ยอมรับ​ชะตากรรม​ จูงเสี่ยว​หง​ ต่อให้​บ่น​แค่​ไหน​ก็​ต้องหา​ที่อยู่​ให้​มัน​ ต้อง​เปิด​โรงเลี้ยง​ก่อน​

วัวนม​สอง​ตัว​อยู่​ใน​โรงเลี้ยง​วัวนม​กัน​อย่าง​ปกติ​สุข​ ทั้งสอง​ตัว​รูปร่าง​บึกบึน​ ยัง​ได้​ถลึงตา​มอง​เสี่ยว​หง​อีกด้วย​ แต่​เสี่ยว​หง​กลับ​เอาแต่ใจ​ ยืน​อยู่​ตรง​ประตู​เป็น​ตาย​ก็​ไม่เข้าไป​

“นี่​คือ​บ้าน​ของ​เจ้า”

บ้าน​เจ้าน่ะ​สิถึงเป็น​แบบนี้​ บ้าน​ข้า​ไม่ใช่แบบนี้​ เสี่ยว​หง​ถอยหลัง​ไป​อีก​ หันหน้า​ไป​อีก​ทาง​

“เจ้านี่​นะ​” ซ่งฝูเซิงสอง​มือ​เท้าสะเอว​

“ท่าน​ลุง​ ให้​เสี่ยว​หง​ไป​อยู่​โรงเลี้ยง​ที่​ดีกว่า​นี้​หน่อย​ดีกว่า​” หมี่​โซ่วก​อด​ขา​ท่าน​ลุง​

ปรึกษา​กับ​หมี่​โซ่วอ​ยู่​สักพัก​ ซ่งฝูเซิงไม่รู้​ว่า​ทำไม​ตัวเอง​ถึงได้​จูงม้าตัว​นี้​กลับบ้าน​มา

เฉียน​เพ่​ย​อิง​เห็น​แล้วก็​งง ให้​อยู่​ไหน​นะ​ ห้องครัว​รึ​

“ท่าน​ป้า​ ข้า​ขอร้อง​ เสี่ยว​หง​อยู่​ไม่ได้​จริงๆ​ หมี่​โซ่ว​เห็น​มากับ​ตา​ คอกม้า​ของ​มัน​ดีกว่า​บ้าน​ของ​พวกเรา​”

ท่าน​ย่า​หม่า​กอด​ผักกาด​ขาว​เดิน​เข้ามา​ข้างใน​ได้ยิน​พอดี​ นาง​คิดในใจ​ เดี๋ยว​นะ​ ให้​อาศัย​อยู่​ใน​ห้องครัว​ แค่​คืน​เดียว​ใช่ไหม​

ทันใดนั้น​ เสี่ยว​หง​ที่​กิน​น้ำผึ้ง​เสร็จ​ก็​ดีด​ขา​หลัง​ อาละวาด​ไม่พอใจ​

ไม่มีใคร​รู้​ว่า​มัน​ต้องการ​สื่อ​อะไร​ หมี่​โซ่ว​เริ่ม​ลนลาน​ สีหน้า​เป็นกังวล​แต่​ก็​ทำ​อะไร​ไม่ถูก​

หมายความว่า​อะไร​น่ะ​หรือ​ ถึงเวลา​กิน​ผลไม้​แล้ว​

ยาม​นี้​ของ​ทุกวัน​มัน​จะต้อง​กิน​ผลไม้​ตรงเวลา​

ซ่งฝูห​ลิง​เดิน​ถือ​ผ้าขนหนู​ออกมา​ บิด​เอว​เล็กน้อย​ “อยาก​โดน​ใช่ไหม​”

มหัศจรรย์​มาก​ พอ​ลูก​ม้าได้ยิน​ก็​หยุด​ทันที​ แต่​จากนั้น​ก็​ดีด​ขา​หลัง​ต่อ​ทำ​ราวกับ​ไม่ได้ยิน​อะไร​ทั้งนั้น​

ทะลุมิติทั้งครอบครัว

ทะลุมิติทั้งครอบครัว

Score 10
Status: Completed

เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งกลับพบว่าตนเองอยู่ในยุคสมัยที่ไม่เคยคุ้น

สิ่งรอบกายดูโบราณล้าหลัง กระทั่งอายุของร่างที่อาศัยอยู่ยังอ่อนเยาว์กว่าตัวจริงหลายปี

ยังไม่ทันได้เตรียมใจไฟสงครามก็ลุกโหม สิ่งแรกที่ต้องทำเมื่อมาถึงยุคโบราณที่ไม่มีจริงในประวัติศาสตร์โลกก็คือ…การลี้ภัย!

แต่ไม่เป็นไร ไม่ว่ามีปัญหาจะยิ่งใหญ่แค่ไหนก็ไม่หวั่น เพราะคนอื่นทะลุมิติมาแค่คนเดียว แต่เราทะลุมากันทั้งครอบครัว!

Options

not work with dark mode
Reset