บทที่ 404: ตามที่สัญญาไว้ (1)
หลังจากรอบคัดเลือก ผู้เข้าแข่งขันที่ผ่านเข้ารอบก็ได้กำจัดผู้เข้าแข่งขันที่อ่อนแอกว่าส่วนใหญ่ออกไป และโรเอลก็กำลังจะเผชิญกับการต่อสู้ที่เขาเคยสัญญาไว้ก่อนหน้านี้
เซลิน่า เบส เป็นหนึ่งในผู้แข่งขันที่โรเอลได้พบในรอบคัดเลือก พลังสายเลือดสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ที่เธอได้รับมานั้นทำให้เธอทรงพลังมาก แต่ในขณะเดียวกัน มันก็ทำให้เธอต้องทนทุกข์ทรมานอยู่ในสภาพกระหายเลือดตลอดเวลา
ในฐานะคนที่ต้องทุกข์ทรมานจากพลังทางสายเลือดเหมือนกัน โรเอลจึงเข้าใจสภาพของเซลิน่าได้เป็นอย่างดี แต่เขาไม่เห็นด้วยกับวิธีที่เซลิน่าใช้แก้ปัญหา
ผู้ที่ระงับความกระหายเลือดด้วยการต่อสู้ตามอำเภอใจ มักจะมีจุดจบที่ไม่ค่อยดีนัก พวกเขาอาจจะกลายเป็นนักฆ่าผู้น่าเกรงขาม หรือจะจบลงด้วยการถูกคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งกว่าปลิดชีพก็เป็นไปได้ทั้งนั้น ความกระหายเลือดอย่างแรงกล้า อาจทำให้เธอประเมินความแข็งแกร่งของคู่ต่อสู้ได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ซึ่งทำให้เธอมีโอกาสตายในสนามมากยิ่งขึ้น
ถึงจะพอมีความเป็นไปได้ที่ตระกูลเบสจะควบคุมสายเลือดสัตว์ศักดิ์สิทธิ์แบบอยู่หมัด แต่แรงผลักดันของพลังทางสายเลือดนั้นแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล โดยปกติแล้วบางคนสามารถทำเช่นนั้นได้เมื่ออายุมากขึ้น ขณะที่บางคนเริ่มทำได้เพราะเข้าร่วมการต่อสู้ที่แสนดุเดือด
เมื่อพิจารณาจากพลังทางสายเลือดที่พิเศษกว่าคนอื่น ๆ ของเซลิน่าแล้ว มีแนวโน้มว่าเธอจะอยู่ในกลุ่มหลัง
ซึ่งโรเอลก็มีแผนการสำหรับเรื่องนี้
วิธีที่ดีที่สุดที่เขาสามารถช่วยเซลิน่าได้ก็คือการเอาชนะเธอในการต่อสู้อย่างเหมาะสม และงานประลองนี้เป็นโอกาสที่ดีที่จะทำเช่นนั้น ต้องขอบคุณอุปกรณ์เวททดแทน ที่ทำให้ผู้เข้าแข่งขันสามารถต่อสู้กันเองได้ โดยไม่ทำให้เกิดผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต
อุปกรณ์เวททดแทนที่ใช้สำหรับรอบการประลองจริง มีขีดจำกัดทนรับความเสียหายมากกว่ารอบคัดเลือกถึงห้าเท่า ไม่ใช่แค่เพื่อความปลอดภัยของผู้เข้าแข่งขันเท่านั้น แต่ถือเป็นเกณฑ์ในการเอาชนะด้วยเช่นกัน เทียบได้กับแถบเลือดในเกมก็ว่าได้
ภายในสนามประลองที่ผู้คนพลุกพล่าน โรเอลกับเซลิน่ายืนอยู่ที่ปลายอีกฟากของสนามแข่ง ระหว่างพวกเขามีผู้ตัดสินที่ถือลูกบอลคริสตัลยืนอยู่ ทันทีที่ผู้ตัดสินใส่พลังเวทของเขาลงในลูกบอลคริสตัล ทิวทัศน์ก็สะท้อนออกมาด้านนอกและเริ่มเปลี่ยนไป
ฝูงชนจ้องไปที่ทิวทัศน์ที่เปลี่ยนไปอย่างตั้งใจ โดยรู้ว่ามันสามารถสร้างความแตกต่างระหว่างชัยชนะและความพ่ายแพ้ได้อย่างง่ายดาย
เซลิน่าแสดงความสามารถพิเศษในการต่อสู้ในป่าและการต่อสู้ในยามกลางคืน ในทางกลับกันการโจมตีที่ตรงไปตรงมาของโรเอล ทำให้ภูมิประเทศที่ราบเรียบและเปิดกว้างเป็นประโยชน์ต่อตัวเองมากกว่า
แต่เหมือนกับว่าสวรรค์กำลังเล่นตลกกับโรเอลเสียอย่างนั้น
ทิวทัศน์ที่ฉายออกมาเป็นเนินเขาที่โรเอลค่อนข้างได้เปรียบในช่วงแรก แต่ในวินาทีสุดท้าย ทิวทัศน์ก็เปลี่ยนไปเป็นป่าฝนอันมืดทึบ
“คู่ที่ 14 ป่าราตรีนิรันดร์ ผู้เข้าแข่งขันเตรียมตัวให้พร้อม”
“โอ้วววววว !”
ฝูงชนโห่ร้องด้วยความยินดีและตื่นเต้นเมื่อผู้ตัดสินประกาศผล เซลิน่าเบิกตากว้างด้วยความตื่นเต้นระคนประหลาดใจ เธอไม่คิดว่าตนเองจะโชคดีขนาดนี้ และนี่ทำให้บรรดานักเสี่ยงโชคทั้งหลายย้ายข้างการวางเดิมพันอย่างรวดเร็ว
“50 เหรียญทอง! ฉันขอเดิมพันกับเด็กสาวคนนั้น 50 เหรียญทอง!”
“ฉันด้วย! ไม่มีทางที่เธอจะแพ้งานประลองในคู่นี้แน่!”
ด้วยการมีส่วนร่วมอย่างมากจากนักพนัน ทำให้ยอดเงินรางวัลในกรณีที่โรเอลชนะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
บนอัฒจันทร์ผู้ชม อลิเซียหันไปหาคริสที่อยู่ข้าง ๆ ก่อนจะถามด้วยสีหน้าเป็นกังวลพร้อมคิ้วที่ขมวดมุ่น
“ถ้าจำไม่ผิด ท่านพี่น่าจะเรียนรู้คาถาเวทมองกลางคืนมาแล้วนี่คะ แล้วทำไมทุกคนถึงเดิมพันว่าท่านพี่จะแพ้กันล่ะคะ?”
“ความมืดของป่าราตรีนิรันดร์นั้นอบอวลไปด้วยพลังเวท คาถาเวทมองกลางคืนทั่ว ๆ ไปใช้ไม่ได้หรอก ชิ มีสนามตั้งเยอะแยะทำไมต้องเป็นที่นี่กันนะ…”
คริสพึมพำพร้อมกับขมวดคิ้วด้วยความหงุดหงิด
เธอเอื้อมมือไปหยิบยาสูบในกระเป๋าด้วยความเคยชิน แต่เมื่อสายตาเหลือบมองไปที่อลิเซีย คริสก็ลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะเก็บมันกลับลงไป
บนเวที โรเอลได้แต่ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้
“ดูเหมือนว่าวันนี้จะไม่ใช่วันของเราสินะ”
แม้โรเอลจะรู้สึกท้อแท้กับสนามแข่ง แต่เขาก็ไม่ได้สิ้นหวังอย่างที่คนอื่น ๆ คาดไว้ ตรงกันข้ามเขากลับดูมั่นใจยิ่งกว่าเดิม
หากเป็นหลายเดือนก่อนหน้านี้ โรเอลคงรู้สึกลังเลที่จะต่อสู้กับเซลิน่าในสภาพแวดล้อมเช่นนี้ แต่สิ่งต่าง ๆ เปลี่ยนไปแล้ว จำนวนเทพเจ้าโบราณที่เขามีอยู่เคียงข้างไม่ใช่แค่สอง แต่เป็นสาม!
“สร้างภูมิประเทศจำลองเรียบร้อย จะเริ่มนำผู้เข้าแข่งขันเข้าสู่สนามประลอง”
โรเอลพบว่าตัวเองถูกปกคลุมไปด้วยแสงจ้า และเมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้ง ก็พบว่าตัวเองนั้นรายล้อมไปด้วยความมืดมิด
…
ด้วยการตรวจสอบสนามรบอย่างรวดเร็ว โรเอลก็พบว่าภูมิประเทศของป่าราตรีนิรันดร์นั้นแย่กว่าที่เขาคาดไว้
เศษแสงดาวบนท้องฟ้าเป็นแหล่งกำเนิดแสงเพียงแหล่งเดียวในสนามแข่งนี้ ต้นไม้โดยรอบมีความสูงปานกลาง แต่มีพุ่มไม้อยู่มากแทน นี่เป็นสภาพแวดล้อมที่เหมาะสำหรับสัตว์ป่าที่จะล่าเหยื่อโดยแท้
โรเอลพยายามรวบรวมพลังเวทเข้าไปในดวงตา เพื่อให้รับรู้สภาพแวดล้อมรอบตัวให้ดียิ่งขึ้น แต่มันก็ไม่เป็นผล เพราะทั้งหมดที่เขาได้ยินนั้นมีเพียงเสียง ‘ครูด’ เป็นครั้งคราวที่ดังมาจากสัตว์ร้ายที่เดินด้อม ๆ มองๆ อยู่บนพื้นดิน
ในสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวยนี้ โรเอลตัดสินใจหยิบไม้เท้าอสรพิษเก้าหัวออกมาในทันที
มันเป็นปรัชญาของโรเอลที่จะไม่ใช้คาถาเวทโดยประมาท สิ่งแรกที่เขามักจะทำในสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคยคือการประเมินสภาพแวดล้อมของตนเอง
โรเอลเคยได้ดูการต่อสู้ครั้งก่อนของเซลิน่า ซึ่งทำให้เขาเข้าใจคร่าว ๆ ถึงความสามารถของเธอ เซลิน่านั้นสามารถเจาะผ่านอุปสรรคใด ๆ ก็ตาม จนแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะป้องกันการโจมตีของเธอ ทำให้คู่ต่อสู้ของเธอทั้งสองคนถูกปิดฉากในการโจมตีครั้งเดียว
อย่างไรก็ตาม หลังจากวิเคราะห์คุณสมบัติและความสามารถในการโจมตีสูงสุดของเซลิน่าแล้ว โรเอลก็สรุปได้ว่าไม้เท้าอสรพิษเก้าหัวคือวิธีรับมือที่ดีที่สุด
โล่หินของเปตราและเกราะเวทของโรเอลล้วนใช้พลังเวทเป็นหลัก ซึ่งหมายความว่าเซลิน่าสามารถผ่าทะลุพวกมันได้ง่ายดายไม่ต่างอะไรกับผ่าเนย อย่างไรก็ตามไม้เท้าอสรพิษเก้าหัวถูกสร้างขึ้นจากซากสัตว์อสูรโบราณ อสรพิษเก้าเศียรมีความสามารถ ‘การฟื้นฟูอย่างไม่หยุดยั้ง’ ดังนั้นมันจึงไม่ใช่แค่การป้องกันด้วยพลังเวทเท่านั้น
การโจมตีของเซลิน่าไม่สามารถเจาะทะลุมันมาได้ง่าย ๆ แน่
โรเอลใส่พลังเวทลงในไม้เท้าอสรพิษเก้าหัว จากนั้นมันจึงเรืองแสงจาง ๆ ออกมา หัวงูอันน่าสะพรึงกลัวทั้งเก้าพุ่งออกมาจากไม้เท้าและขดอยู่รอบตัวโรเอล ชวนให้นึกถึงราชองครักษ์ที่กำลังปกป้องกษัตริย์
หลังจากนั้นเขาก็ปล่อยพลังเวทสีเหลืองจาง ๆ สร้างโดมหินขึ้นที่ขอบด้านนอกสุด
เมื่อการป้องกันของโรเอลเริ่มขึ้น เขาก็หลับตาลงเพื่อเริ่มรับรู้สภาพแวดล้อมรอบ ๆ ตัว
ขณะเดียวกันที่ปลายอีกด้านของป่าเซลิน่าก็เริ่มนำพลังเวทของเธอออกมาเช่นกัน
เด็กสาวต้องทุ่มสุดตัวกับการต่อสู้ครั้งนี้อย่างจริงจัง สัญชาตญาณแห่งสัตว์กำลังบอกเธอว่าโรเอลเป็นศัตรูตัวฉกาจที่น่าหวั่นใจสุดที่เคยพบมา ซึ่งเธออาจตายได้หากประมาทเขามากเกินไป
สาเหตุส่วนหนึ่งที่เซลิน่าค้นหาคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่ง ก็เป็นเพราะว่าผลข้างเคียงของสายเลือดสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ แต่ยิ่งไปกว่านั้น เธอยังต้องการแรงกระตุ้นจากการต่อสู้ เพื่อค้นหาแรงกระตุ้นที่จะควบคุมพลังสายเลือดของตัวเอง… เช่นเดียวเป้าหมายในการมีชีวิต
คนอื่น ๆ มองว่าเซลิน่าเป็นคนบ้าที่คลั่งไคล้การต่อสู้นองเลือด แต่ความจริงแล้วสิ่งที่เธอต้องการคือความพ่ายแพ้ เธอกำลังมองหาคนที่มีพลังพอที่จะบดขยี้เธออย่างสมบูรณ์
แม้จะเป็นเวลาไม่นานเท่าไหร่ที่ทั้งสองคนได้พบกัน แต่โรเอลก็เป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่เธอสามารถพูดคุยได้ด้วยจิตใจที่สงบ เซลิน่าดีใจที่โรเอลเข้าใจความคิดของเธอ และสัญญาว่าจะต่อสู้กับเธอด้วยทั้งหมดที่อีกฝ่ายมี ยิ่งไปกว่านั้นสนามแข่งนี้ยังถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเธอโดยเฉพาะ
ไม่ว่าเซลิน่าจะเอาชนะโรเอลที่เป็นศัตรูที่แข็งแกร่งที่สุดที่เคยเผชิญหน้าด้วย หรือพ่ายแพ้แม้จะมีความได้เปรียบท่วมท้น แต่ก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่จะเป็นโอกาสที่หาได้ยากสำหรับเธอ
และเธอก็ต้องใช้มันอย่างเต็มที่ โดยการทุ่มสุดตัว
หัวใจของเซลิน่าเต้นเร็วขึ้น เลือดของเธอสูบฉีดไปทั่วทุกอณูของร่างกายอย่างรวดเร็ว เสียงกระหึ่มดังก้อง จากนั้นหูและหางของสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ก็งอกออกมาจากร่างกาย ดวงตาเปล่งประกายวาววับดุจสัตว์ป่า พร้อมกับจิตใจที่เต็มไปด้วยเสียงที่ไม่ลงรอยกัน
ความกระหายเลือดกระตุ้นให้เซลิน่าตามล่าเหยื่อและฉีกมันเป็นชิ้น ๆ แต่ก็ยังหลงเหลือเศษเสี้ยวของเหตุผลเอาไว้อยู่บ้าง เพื่อทำสิ่งที่เธอไม่เคยคิดจะทำ… การประเมินศัตรู
เซลิน่ารู้ว่ามันยากสำหรับโรเอลที่จะเป็นฝ่ายบุกในสนามแข่งนี้ ดังนั้นเธอจึงสรุปได้ว่าโรเอลจะใช้กลยุทธ์การป้องกันและสวนกลับ เด็กสาวจึงคิดหาวิธีการรับมือเอาไว้ล่วงหน้า
“กรรรร!!!!!”
เซลิน่าปล่อยเสียงคำรามของสัตว์ป่าดังก้องไปทั่วป่าอันมืดมิด
เด็กสาวบังคับสัตว์อสูรในป่าให้ยอมจำนนด้วยพลังของสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ โดยจัดกลุ่มสัตว์อสูรอย่างรวดเร็วเป็นกองทัพ และส่งพวกมันให้ไปทลายการป้องกันของโรเอล
หลังจากเสร็จสิ้น เซลิน่าก็ซ่อนตัวอยู่ในเงามืดอย่างเงียบ ๆ อดทนรอเวลาให้โรเอลเผยตัว
“น...นั่นมัน…”
“ยัยนั่นสามารถควบคุมสัตว์อสูรได้งั้นเหรอ?”
“นี่มันบ้าไปแล้ว ! การประลองคู่นี้รู้ผลแล้วชัด ๆ!”