–มุมมองบุคคลที่สาม–
เมืองหลวงโกลโดเนีย วังหลวง
「พระองค์ มันดูเหมือนความวุ่นวายทางใต้สรุปด้วยการตัดสินใจส่วนตัวลอร์ดฮาร์ดเลตต์แล้ว」
หนึ่งในรัฐมนตรีคำนับต่ำๆ
「ฉันรู้ข่าวแล้ว ฉันไม่คิดเริ่มหรือยืดสงครามต่างประเทศด้วย นี่เป็นเรื่องดี」
รัฐมนตรีพูดอย่างดัง
「แต่สงครามแค่หยุดเพราะภัยพิบัติที่คาดไม่ถึง มากกว่านั้น ลอร์ดฮาร์ดเลตต์เอาดินแดนที่เขายืดมาเป็นของเขาเอง! ในฐานะขุนนางที่ได้รับตำแหน่งมาร์เกรฟโดยพระองค์-……」
ราชาจงใจทำเสียงดังตอนเขาวางแก้วที่โต๊ะ รัฐมนตรีหยุดกลางประโยค
「ฉันเคยได้ยินแล้ว งั้นนายจะพูดว่าอะไร? จะบอกให้ฉันลงโทษฮาร์ดเลตต์เหรอ?」
เมื่อตัดสินว่าราชาไม่ได้อยากทำความคิดนั้น รัฐมนตรีผิดหวังเล็กน้อย
ร่างกายของเขาสั่นจากบรรยากาศเครียดๆ
(ฉันคิดว่าฉันจะโชคดีพอที่จะให้ราชากัดประเด็นเมื่อรู้ว่าเขากังวลเรื่องคนทรยศ…… แต่ตอนนี้เขาเอานั่นไว้ทีหลังไม่ได้!)
มีหัวหน้าบริวารหลายคนรอบเขา
ชื่อเสียงมาร์เกรฟฮาร์ดเลตต์เป็นที่รู้กันทั่ว
ถ้ามันจบแบบพยายามเปล่าๆที่นี่ เขารู้ว่าชายคนนั้นที่ถูกกลัวเป็นปีศาจสงครามจะรอแก้แค้น
「มันไม่ได้สำคัญ ว่าเขาเป็นผู้กล้าของสงครามหรือนายพลไร้เทียมทาน ไม่เห็นอำนาจราชานั้นยกโทษให้ไม่ได้ เขาควรถูกลงโทษบางอย่าง」
ราชาเอียงตัวมาข้างหน้าและยิ้มเล็กน้อย
「ถ้าอย่างนั้น มีอะไรในใจ?」
แค่เห็นราชายิ้มก็พอแล้วที่รัฐมนตรีจะพูดอิสระมากขึ้น
「มาร์เกรฟมีดินแดนกว้างและอุดมสมบูรณ์ ถ้าเราเอามันส่วนหนึ่งและแต่งตั้งเป็นดินแดนราชา จากนั้นแบ่งมันในหมู่ผู้ช่วยที่ภักดี มันจะเพิ่มอำนาจราชาสูงขึ้น」
อีริชอดไม่ได้ที่จะอยากตอบโต้ แต่ยั้งไว้เมื่อเขาเห็นสีหน้าราชา
แน่นอน รอยยิ้มราชาไม่ได้ชมชายหน้าเขา
「อุมุมุ…… พูดถึงมีเรื่องให้นายฟัง」
「ฮ๋าา?」
เจอกับการที่ราชาเปลี่ยนประเด็นกระทันหัน รัฐมนตรีหยุดพูดและรู้สึกสับสน
「มีโจรคนหนึ่ง โจรคนนั้นซ่อนตัวได้ดี แต่ก็กลัวความเป็นไปได้ว่าจะถูกจับได้ตอนไหนก็ไม่รู้」
「ค-ครับ……」
「คนนี้จะทำอย่างไรเพื่อให้รู้สึกสบายใจขึ้น? ไม่ใช่มันเพียงพอที่จะขุดรูและซ่อนต่อไปเหรอ?」
รัฐมนตรีรู้สึกว่าคำถามมีความหมายที่เขาไม่รู้ แต่เขาแค่มองข้ามราชาไม่ได้ เขาคิดสุดหัวหาคำตอบ
「คนนั้นจะถูกเจอในที่สุดเมื่อซ่อนอย่างเดียว มันจะดีกว่าที่จะโทษความผิดให้คนอื่น……」
หลังจากพูดอย่างนั้น คำพูดรัฐมนตรีชัดขึ้นในหัวและเขาเริ่มเหงื่อแตก
「มีอะไร? พูดที่กำลังจะพูดให้เสร็จ…… หรือให้ฉันพูดมันให้นาย?」
ราชาเอื้อมไปหลังเขาเดี๋ยวนั้น เขามองกองกระดาษจากหลังบัลลังก์ที่มาจากรีเบคก้า หัวหน้าเจ้าหน้าที่ข้อมูล
ราชาเปิดกระดาษก่อนจ้องรัฐมนตรี
「จะอะไรล่ะถ้ามีคนที่จ่ายภาษี 30 ทองกับคนเก็บภาษีและไม่ประกาศการพัฒนาคฤหาสน์…… งั้นใครกัน ที่รู้สึกว่าสืบสวนมันนาน เมื่อรู้ข้อมูลเพื่อสร้างอาชญากรที่ใหญ่กว่า คนนี้ล่ะจะทำยังไง?」
「น-……น่ะ-……นั่น-……」
มันจบแล้ว
ความคิดนั้นเข้ามาในหัวทุกคนทันใด
「เอาไอ้คนทรยศนี้ไป!」
รัฐมนตรีแค่มองลงตอนเขาถูกลากไปโดยไม่ได้ต่อต้าน
หลังจากลองใช้ความระแวงราชาให้ได้เปรียบและสะท้อนโดนตัวเอง เขารู้ว่าอธิบายยังไงก็จะไม่ช่วยเขา
「เจ้าหน้าที่ข้อมูล ช่างเป็นความคิดที่ยิ่งใหญ่」
「ดิฉันซาบซึ้งกับคำเมตตาของท่านค่ะ」
รีเบคก้าคำนับให้ราชาอีกครั้งหลังบัลลังก์
การกำจัดคนไม่รู้ภาษาสมควรเป็นการกระทำเพื่อให้ใจบริสุทธิ์ แต่สีหน้าทุกคนไม่ได้สดใสมากกว่าเดิมมาก
「ฮาร์ดเลตต์อารมณ์ร้อนและใช้ความรุนแรงเร็ว ยังไงก็ตามเขาไม่ใช่คนที่ซ่อนสิ่งที่เขาทำ」
รีเบคก้าพยักหน้ากับคำพูดราชา แต่หัวเราะเบี้ยวๆอยู่ข้างใน
เธอมีเรื่องที่จะทำให้ราชาโกรธพอแล้ว
อย่างไรก็ตามนั่นจะทำให้ราชาสงสัยเธออีกครั้ง
(สำหรับตอนนี้…… มันถูกแล้วที่จะอยู่เงียบๆและไม่พูดอะไร)
จากนั้นพวกเธอทั้งหมดถูกเลิกเฝ้า
「อธิบดีทหาร คิดเรื่องนี้ยังไง?」
「มันยังมีรากเหง้าความเสื่อมทรามที่เราต้องกำจัดให้ทั่วถึง」
อีริชอยู่กับขุนนางใหม่ใกล้ชิดหลังจากออกจากห้องบัลลังก์
เจ้าหน้าที่พลเรือนเป็นส่วนหนึ่งของฝ่ายเคนเน็ธและคนที่ไม่ใช่ทั้งสองฝ่ายคุยเรื่องเดียวกันอยู่
พวกเขาสองคนเข้าห้องทำงานอีริชและประตูปิดข้างหลัง
พวกเขาหนีจากตาและหูคนอื่น
「อธิบดี คิดยังไง?」
「……มันแค่การหลอกเงิน 300 ทอง ที่เขาเก็บไม่ได้ แล้วก็ไม่ได้ประกาศว่าจำนวนเพิ่ม ถ้าเขาตัดสินรัฐมนตรีจากบางอย่างน้อยนิดอย่างนั้น เราจะไม่มีคนให้กำจัดอีก」
「แต่ชายคนนั้นไม่ชอบใครที่เหลี่ยมจัดและฉลาด……」
「เขาเป็นคนที่ทำงานดี นอกจากนี้ เขาเป็นคนขี้ขลาดที่ไข่เท่าเม็ดถั่วเล็กๆ ถ้าแค่ขู่เขาทางอ้อมเขาจะไม่ทำอีก ……ราชาควรรู้เมื่อเขาแต่งตั้งเขาเป็นรัฐมนตรีด้วย」
「มันดูเหมือนวิธีที่ราชาคิดเปลี่ยนจากที่เขาเป็นก่อนหน้า」
อีริชพยักหน้าเงียบๆ
(ตอนนี้ ราชาขังคนที่มีความสามารถด้วยโทษและการหลอกที่ไม่มีค่าแม้ว่าขุนนางมือสะอาดมันหายากเท่าพ่อค้าไม่โลภ)
「รัดนี่และอาร์กจากฝ่ายเราถูกขัง เหตุผลเพราะพวกเขาเกี่ยวกับการประเมินบุคลากรทหารและรีบเลื่อนตำแหน่งคนในครอบครัวตัวเอง…… พวกเขาถูกสงสัยที่ทำแบบนั้น」
「นั่นอ้างอะไรไม่ได้ แต่นั่นคือทั้งหมดที่พวกเขาทำ ฉันดูผู้บัญชาการที่ดูแลทหารลหายพันอยู่…… ฉันแน่ใจว่าคนพวกนี้คุมได้แค่ไม่กี่ร้อย เรื่องมันสรุปได้โดยการเรียกพวกเขามาและดุพวกเขาเล็กน้อย」
「ในทางกลับกัน อย่างเดียวกันเกิดขึ้นบ่อยกับอธิบดีกิจการรัฐบาล….. ไม่ ฝ่ายเคนเน็ธ」
ชายพูดให้ถูกเมื่อเขาอีริชตอบสนองกับตำแหน่งทางการ
「เพราะพวกเขาเป็นศูนย์รวมของเจ้าหน้าที่พลเรือนล่ะนะ การติดสินบนและซ่อนทรัพย์สินผูกกับงานพวกเขามากกว่า ฉันเห็นว่าเขากังวลได้ตอนนี้」
อีริชหัวเราะเบาๆ
ลูกน้องหัวเราะแบบไม่ค่อยกล้าและรีบถอนหายใจ
「แต่ท่านมีคนฟ้องบ่อยไม่ได้ สุดท้ายมันจะเปิดเผยไปถึงทุกคน」
หลายเรื่องราวแสดงออกว่าขุนนางภักดีฟ้องคู่แข่งให้ได้เปรียบส่วนตัว
แต่การทำแบบนั้นมีมากขึ้นไม่นานและดังสำหรับคนฝ่ายเดียวกันที่จะทำใส่กันเอง
「ฉันได้ยินว่าเจ้าหน้าที่ข้อมูลวิ่งไปทั่วและถูกใช้งานเพื่อยืนยันข่าวลือเล็กๆ」
「มันไม่ได้ง่ายเหมือนที่มันเป็นอยู่ตลอด…… การคุยเกี่ยวกับฝ่ายฉันหรือฝ่ายเคนเน็ธมันไม่เอนไปทางไหน」
อีริชมองออกไปนอกหน้าต่างที่ถูกดัดแปลงให้มีสองชั้นไม่นานนี้
ผิวเผิน มันเพื่อเลี่ยงไม่ให้ข้อมูลลับสุดยอดออกไปหาสายลับของประเทศอื่น
แต่ในความเป็นจริงมันเพื่อหยุดเจ้าหน้าที่ข้อมูลไม่ให้เอาหูแนบหน้าต่างและฟัง
「ตอนนี้ฉันรู้สึกเหมือนอยากทำอะไรก็ได้กับดินแดนฉันเหมือนเขา รวมผู้หญิงเยอะๆและซั่มหมู่ทุกคืน……」
「ถ้าท่านทำบางอย่างแบบนั้นกระทันหัน ท่านอาจถูกสงสัยว่าเริ่มก่อกบฏ」
การถอนหายใจยาวของอีริชดังมาอีกครั้ง
หลังจากราชาเสร็จหน้าที่ เขานั่งกินอาหาร
เขากินคนเดียวมาตลอดถ้าเขาไม่ได้กินกับคนอื่น แต่หลังๆมันไม่เหมือนกัน
「โรซาริโอ้ อาหารโปรดเธอทั้งหมดถูกเตรียมมาวันนี้ ได้โปรดกินให้เต็มอิ่ม」
「ขอขอบคุณอย่างนอบน้อมค่ะพระองค์」
โรซาริโอ้ ผู้หญิงคนเดียวเท่านั้นที่ได้รับความชอบราชาและมีสิทธิพิเศษอยู่ข้างเขาได้
ปรกติคนรักไม่ถูกอนุญาตให้ทำอะไรพวกนี้ แต่ผู้หญิงคนนี้จะไปทำเรื่องส่วนตัวด้วยกันตลอด จากกินอาหารถึงอาบน้ำ และแม้แต่บนเตียง
ราชาชูมือเพื่อหยุดคนรับใช้ที่วางจานหน้าสาว
คนรับใช้มองหน้ากันอย่างงงๆเพราะราชาทำบางอย่างที่คนรับใช้ทำปรกติ แต่ไม่ได้พูดอะไรสักอย่าง
โรซาริโอ้เอื้อมไปเอาซุป ถ้วยหลุดมือและน้ำกระจายไปทุกที่ ช้อนตกเสียงดังและกลิ้งไปบนโต๊ะและเสื้อผ้าราชาโดนน้ำร้อน
เมื่อผู้หญิงคำนับต่ำๆ คนรับใช้ที่พร้อมห่อไหล่เพื่อทนการตะโกนโมโหที่เลี่ยงไม่ได้
เพราะมันจะไม่แปลกที่โดนโทษประหารตรงนั้นเลยถ้าคนรับใช้ทำแบบเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม ราชาทำสีหน้าตรงข้าม อ่อนโยนและพูดในเสียงนุ่ม
「เป็นผู้หญิงสิ้นหวังจริงๆ โดนลวกมั้ย?」
「ไม่ค่ะ หนูจะขอโทษได้ยังไง…… อา」
ราชาเอาโรซาริโอ้มากอดและลูบหัว
「มันช่วยไม่ได้ เธอซุ่มซ่ามและไม่ฉลาด เธอเป็นผู้หญิงที่ทำอะไรไม่ได้โดยไม่มีฉัน น่าน่า ฉันไม่โกรธไม่ว่าจะทำอะไร ทั้งหมดที่เธอต้องทำคือเชื่อฟังฉัน ฉันจะทำให้เธอมีความสุขแน่นอน」
「เป็นเกียรติค่ะ พระองค์ หนูเป็นผู้หญิงโง่ๆ แต่หนูหวังว่าท่านจะเก็บหนูไว้ข้างๆตลอดไป」
ไม่มีอะไรถูกแสดงออกมาจากตาโรซาริโอ้ที่ปิดมันตอนเธอถูกราชากอด
ใกล้เมืองสีขาว
แคมป์กองทัพจักรวรรดิ
ฤดูหนาวที่กำลังมา
หิมะไม่หยุดลงมาเมื่อมันเริ่มตก มันจะกองขึ้นมาและย้อมทุกย่างให้ขาว
ผู้บัญชาการจักรวรรดิมองกันอย่างไม่มั่นใจพร้อมสีหน้าบูดๆ
「ฉันได้ยินว่าฤดูหนาวสหพันธรัฐมันหนาว แต่ไม่ถึงขนาดนี้」
「ทหารทาสกลายเป็นไม่มีประโยชน์เลย เพราะเปลือยกึ่งหนึ่ง พวกเขาเคลื่อนที่ดีๆในความหนาวไม่ได้」
「ไม่ใช่แค่นั้น ทหารจากกองทัพหลักติดไข้และป่วยตามๆกัน」
พวกเขามีข้อมูลเกี่ยวกับความหนาวของฤดูหนาวสหพันธรัฐ
ดังนั้น ประเทศบ้านจักรวรรดิเสนอขนสัตว์ที่ส่วนใหญ่ไม่จำเป็นให้ทหารธรรมดาและแม้แต่เตรียมไม้เพื่อใช้ทำกองไฟ
อย่างไรก็ตามนั่นจะหมายถึงพวกยามประจำเขต และไม่ต้องพูดถึงทหารทาส จะต้องทนฤดูหนาวที่โหดร้าย
「แต่ทหารทาสขยับแม้แต่กระดิกยังไม่ได้ ไม่ต้องพูดถึงสู้ และเริ่มตายในพวกที่อ่อนแอกว่าแล้ว」
「มากกว่านั้น ทหารเริ่มโดนไหม้…… น้ำแข็งกินเหมือนที่นักโทษสงครามพูดถึง….. มีพวกเขาที่โดนอย่างนี้มากขึ้นเรื่อยๆ」
รับแรงกดดันจากความเงียบทั้งหมด ชายคนหนึ่งก้าวมาข้างหน้า
「พระองค์แซพเนส ผมเข้าใจว่าเราอีกก้าวเดียวก็จะได้เมืองสีขาวแล้ว แต่ถ้าแบบนี้เราสู้ดีๆไม่ได้ ให้เราได้ถอยทัพชั่วคราวไปทางใต้และรอฤดูหนาวผ่านไปก่อนพยายามพิชิตมันอีกครั้ง……」
「เจ้าโง่!!!!」
แซพเนสตะโกนอย่างโกรธเคือง
「ส่วนเหนือและส่วนตะวันออกของสหพันธรัฐที่เรายึดไม่ได้ฟื้นกำลังทหารทุกเวลา ถ้าเรารอจนกว่าฤดูใบไม้ผลิ พวกเขาเตรียมสู้เราได้! เราจะยังยึดเมืองสีขาวได้มั้ยตอนนั้นน่ะ!?」
「นั่นจริง แต่-……」
เจ้าหน้าที่ระดับสูงและผู้บัญชาการคิดอะไรไม่ออก
ในที่สุดพวกเขาฝ่าการป้องกันของเมืองสีขาวไม่ได้แม้ว่าจะโจมตีไม่หยุด
เพิ่มความหนาวเข้าไปกับความจริงนั้น มันไม่ได้ดูเป็นไปได้ที่จะยึดเมืองสีขาว
อย่างไรก็ตามมีเหตุผลว่าแซพเนสพูดอย่างนั้น
เหตุผลที่จักรวรรดิสู้อย่างได้เปรียบท่วมท้นได้เพราะพวกเขาได้กำลังใจที่ชนะศึกแรก
ถ้าสหพันธรัฐทำตัวสงบลงและร่วมมือกัน พวกเขารวมกำลังใจได้แม้ว่าสู้ในหลังบ้านตัวเอง
(ศัตรูจะได้เปรียบถ้าเราเอาเวลาให้เขา……)
(และยิ่งเราอยู่ในฤดูหนาว ศัตรูยิ่งได้เปรียบ……)
「ฉันเข้าใจว่าพวกนายทั้งหมดพูดอะไร แต่โจมตีให้น้อยลงจะเป็นสิ่งที่ศัตรูต้องการ เราจะเดินหน้าด้วยการโจมตีต่อไปเหมือนที่วางแผนไว้」
「「ครับท่าน!」」
พวกเขารู้ว่าพวกเขาสู้ดีๆไม่ได้
แต่มันชัดว่าอะไรจะยิ่งแย่ลงถ้ายิ่งนานไป
พวกเขาจะโจมตีให้เบาลงไม่ได้
「พร้อมบุกได้แล้ววววว!!」
「พวกนาย ยืนขึ้นได้แล้ว! อย่างน้อยพวกนายอุ่นได้ถ้าขยับตัว!」
ผู้บัญชาการตะโกนและบังคับให้ทหารทาสที่สั่นหงั่กๆเรียงแถว
มีกลุ่มหนึ่งที่ไม่ขยับแม้ว่าได้ยินคำสั่งดุดัน
กลุ่มนั้นเป็นทหารที่ตั้งแคมป์ยอดภูเขา ที่โดนลมแรงบ่อย
「พวกโง่เอ๊ย พวกนายก็รู้ไม่เคารพคำสั่งจะโดยประหาร! หยุดสั่นแล้วยืนขึ้น!」
ไม่นานผู้บัญชาการก็รู้ว่าเขาไม่ได้ยินเสียงฟันกระทบ
「พวกเขาไม่ได้สั่น งั้นก็รีบเข้าและ-……」
เขาเข้าหาพวกเขาพร้อมยกแส้…… จากนั้นทำตก
「พ-พวกเขาทั้งหมดตาย? ……น่าเศร้า……」
ทหารทาสที่น่าสงสารกอดกันในรูระหว่างโอบไหล่กัน แต่สุดท้ายตายเพราะหนาว
การเดินทางที่ไม่ขาดเรื่องเล่า
???
「มันเหนื่อยแล้ว มันแน่นกันเกินไป!!」
「ทุกคน ฉันขอโทษจริงๆ……」
ข้างในรถเกวียนที่ปกคลุมผ้ามุ่งหน้าไปตะวันออกในทุ่งหิมะ มาดามอ้วนอ้าแขนขาเหมือนตัวอักษร ‘大’ และบ่นเหนื่อยในเสียงดัง
พวกเธอเดินค่อนข้างไกลด้วยตัวเองมาก่อนขึ้นรถม้า แต่นั่นก็เหมือนกันกับผู้โดยสารทั้งหมด ผู้ช่วยที่อุ้มเด็กขอโทษสุดกำลัง
「อืม แน่นอนว่าเธอขวาง……」
「แล้วก็รถม้าช้าเมื่อเธอสองขึ้นมาด้วย จะหนักได้ถึงแค่ไหนนกัน?」
เมื่อเหนื่อยสุดยอดแล้ว มาดามหลับตรงนั้นแขนขาที่ยืดใช้พื้นที่เยอะในรถม้าแคบ ทำให้ผู้โดยสารอื่นขมวดคิ้ว
「มาดาม! ไม่คิดว่าท่านเอื้อเฟื้อมากกว่านี้ได้เหรอ…… อ๊าา!」
ผู้ช่วยพยายามเขย่ามาดามแต่คุณนายตดดังสนั่นและกลิ่นสุดย่ำแย่เต็มรถมาอย่างเร็ว
สีหน้าของผู้โดยสารอื่นยิ่งแย่หนักขึ้น
「……ฉันขอโทษมากๆค่ะ」
「ปรกติ เธอจะถูกโยนออกไปนานแล้ว……」
หนึ่งในชายเข้าหามาดามที่กรนช้าๆ
「เธอยังดูมีประโยชน์นิดหน่อย」
ชายอีกคนถอดผ้าคลุมนอกและเข้าหามาดามใกล้
ผู้โดยสารอื่นก็ล้อมมาดามและยื่นมือ
และดังนั้นเองมาดามและผู้ช่วยก็…… ไม่ได้โดนข่มขืนอย่างโหดร้าย
「มันอุ่นจริงๆ」
「ใช่ ฉันไม่ต้องใส่ผ้านอกเลย」
「ควันมันออกมาจากร่างเธอเลยล่ะ」
「ถ้าเราคิดว่ารถม้านี้เป็นรถม้าชั้นสูงที่มีเตาร้อน เราทนอะไรก็ได้แหละนะ」
รถม้าอาจมีผ้ากันลม แต่ปรกติแล้วพวกเขายังต้องทนความหนาวของฤดูหนาวอันขมขื่น
อะไรที่ทำกันทั่วคือผู้โดยสารจะอัดใกล้กันในรถม้าที่มุ่งหน้าไปดินแดนกว้างใหญ่ และพยายามไม่ทางใดก็ทางหนึ่งให้รอดจากฤดูหนาวที่โหดร้ายนี้
ยกเว้นตอนนี้ ข้างในรถม้ารู้สึกเหมือนเริ่มฤดูใบไม้ผลิ แม้ความอุ่นมากับความรู้สึกชื้นเล็กน้อย
กลางทั้งหมดนั้นที่ห้อมล้อมความอุ่นคือมาดามอ้วน ที่นอนเหงื่อแตก
「มาดาม ไขมันที่ไม่จำเป็นที่เก็บมารายวันมันมีประโยชน์แล้ว」
「ม-มันร้อนอ่ะ…… ฉันหยุดเหงื่อแตกไม่ได้เลย…… บุ่ฮิ๊……」
สองสาวและเด็กน้อยหนึ่งคนมุ่งหน้าไปตะวันออก
พวกเธอฝ่าเส้นทางไปเพื่อไปเจอผู้ชายที่รัก
แปลโดย: wayuwayu
tipme : tipme.in.th/wayuwayutl
patreon (Ebook): patreon.com/wayuwayu
ได้โปรดโดเนทเพื่อสนับสนุนผู้แปล ด้วยการช่วยเหลือของท่านจะทำให้แปลต่อไปได้เรื่อยๆ ขอบคุณครับ
ติดตามข้อมูลข่าวสาร, ติดต่อ: http://linktr.ee/wayuwayu