ตื๊อรักแพทย์หญิง ฉบับท่านอ๋องเล่มที่ 9 บทที่ 267 หอจินหลิง

เล่มที่ 9 บทที่ 267 หอจินหลิง

หลิน​ชิงเวย​เลิกคิ้ว​มอง​เซียว​อี้​ “ดูท่า​แล้ว​ เมื่อคืน​พวก​ท่าน​เข้ากันได้​ไม่เลว​เลย​ทีเดียว​”

เซียว​อี้​ตอบ​อย่าง​ไม่รู้จัก​ละอาย​ว่า​ “ทั้ง​อาหาร​และ​ความปรารถนา​ เมื่อ​อยู่​กับ​เวยเวย​แล้ว​ข้า​ล้วน​ต้อง​อดกลั้น​ ข้า​จึงได้​แต่​ไป​ระบาย​ที่อื่น​”

หลิน​ชิงเวย​หันไป​ถามหลงจู๊​ “เมื่อคืน​เขา​นอน​ที่​ห้อง​ของ​ท่าน​ ขอ​ถามว่า​นำมา​คิด​เป็น​ค่า​ห้องพัก​ของ​ข้า​ได้​หรือไม่​? หาก​ยัง​ไม่พอ​ คืนนี้​เขา​ยัง​นอน​กับ​หลงจู๊​ได้​อีก​คืนหนึ่ง​”

เซียว​อี้​ “…”

หลงจู๊​เอนกาย​แนบ​ไป​กับ​กรอบประตู​พร้อมกับ​รอยยิ้ม​เย้ายวน​ “คุณชาย​ท่าน​นี้​คิดถึง​แม่นาง​เวยเวย​ทุก​ลมหายใจ​เข้าออก​ แต่​แม่นาง​เวยเวย​กลับ​นำ​ท่าน​มาใช้หนี้​ข้า​”

เซียว​อี้​ยิ้ม​ด้วย​สีหน้า​พยับเมฆ​พยับหมอก​สอง​ส่วน​ เรื่อง​เมื่อคืนนี้​เป็น​ความเต็มใจ​ของ​ทั้งสองฝ่าย​ไม่อาจ​ถือ​เป็นเรื่อง​จริงจัง​ได้​ ยาม​นี้​คำพูด​ของ​หลงจู๊​ย่อม​เป็น​คำพูด​หยอกเย้า​เช่นกัน​

เพียงแต่​สิ่งที่​เขา​ใส่ใจ หลิน​ชิงเวย​ไม่สนใจ​

วันนี้​หลังจาก​ฟ้าสางไม่นาน​ข่าว​ที่​เป็นที่​กล่าวขวัญ​ถึงใน​เมือง​แห่ง​นี้​ก็​ถูก​เล่าลือ​ คนงาน​ที่​ทำความสะอาด​ห้องโถง​ชั้นล่าง​ทำงาน​ของ​เขา​ไป​พร้อมกับ​พูดคุย​ถึงเรื่อง​ที่​เขา​ได้ยิน​มาเมื่อเช้านี้​

เรื่อง​มีอยู่​ว่า​ไม่รู้​หัวหน้า​หน่วย​ไป​ล่วงเกิน​ผู้ใด​เข้า​ ถึงกับ​ถูก​ฟัน​แขน​ขาด​ไป​ข้าง​หนึ่ง​ ใน​ยาม​ปกติ​หัวหน้า​หน่วย​ผู้​นี้​นำ​เจ้าหน้าที่​มากมาย​ออกมา​ก่อกรรม​ทำชั่ว​ ทำ​แต่​เรื่อง​ไร้​มโนธรรม​ มาบัดนี้​นับ​ได้​ว่า​กรรมตามสนอง​แล้ว​

คนงาน​คน​นั้น​ยัง​พูด​อี​กว่า​ ใต้เท้า​ท่าน​เจ้าเมือง​เป็น​คน​เนรคุณ​ข้าม​แม่น้ำ​แล้ว​รื้อ​สะพาน​ทันที​ เมื่อ​เห็น​เขา​แขน​ขาด​ไป​ข้าง​หนึ่ง​ ไม่อาจ​ทำหน้าที่​ได้​อย่าง​เต็มที่​ จึงยึด​ตำแหน่ง​ของ​เขา​คืน​ไป​ เวลานี้​เขา​กำลัง​ก่อเรื่อง​อยู่​ใน​เรือน​ของ​ใต้เท้า​ท่าน​เจ้าเมือง​ ใต้เท้า​ท่าน​เจ้าเมือง​เกรง​ว่า​เขา​จะก่อเรื่อง​สะเทือนขวัญ​ขึ้น​มาจึงขับไล่​คน​กลับ​ไป​ ซ้ำยัง​สั่งให้​คน​ของ​ศาลา​ว่าการ​และ​คน​ของ​ตน​คุ้มกัน​จวน​ท่าน​เจ้าเมือง​อย่าง​แน่นหนา​

ใน​ยาม​ปกติ​การ​อารักขา​คุ้มกัน​จวน​ท่าน​เจ้าเมือง​เข้มงวด​เป็น​ทุนเดิม​ ด้วย​ท่าน​เจ้าเมือง​แจ่มแจ้งแก่​ใจดี​ว่า​ตนเอง​สร้าง​ความเคียดแค้น​ชิงชังให้​กับ​ชาวบ้าน​ ย่อม​ไม่อาจ​ให้​ชาวบ้าน​ลอบ​เข้าไป​ใน​คฤหาสน์​ของ​เขา​เพื่อ​ทำ​เรื่อง​ไม่ดี​ต่อ​เขา​ มาบัดนี้​ยัง​ดึง​กำลังคน​จาก​ศาลา​ว่าการ​มาคุ้มกัน​เพิ่ม​เพื่อ​ป้องกัน​อย่าง​เข้มงวดกวดขัน​

หลังจาก​หลิน​ชิงเวย​ได้ยิน​เรื่อง​นี้​ จึงเกรง​ว่า​จะเร้น​กาย​เข้าไป​ใน​คฤหาสน์​ของ​ท่าน​เจ้าเมือง​พร้อมกับ​เซียว​อี้​และ​หนี​ออกมา​ได้​ไม่ง่าย​นัก​ เมื่อ​คิดได้​เช่นนั้น​จึงกล่าว​กับ​หลงจู๊​ว่า​ “ข้า​รบกวน​หลงจู๊​ช่วยเหลือ​สัก​เรื่อง​หนึ่ง​”

หอ​จิน​ห​ลิง​แห่ง​นี้​เป็น​แหล่ง​รวม​ศิลปะ​แห่ง​หนึ่ง​ บรรดา​แม่นาง​แต่ละคน​ที่อยู่​ข้างใน​ล้วน​มีรูปโฉม​งดงาม​และ​ความสามารถ​เพียบพร้อม​ แต่​ในความเป็นจริง​อาชีพ​ของ​พวก​นาง​ไม่ต่าง​จาก​หอ​นางโลม​ใน​เมืองหลวง​เท่าใด​นัก​ ขอ​เพียง​แม่นาง​ใน​หอ​ยินยอม​ก็​สามารถ​รับแขก​ร่วม​หลับนอน​กับ​แขก​หรือ​ถูก​ลูกค้า​นำ​ไป​เลี้ยงดู​ได้​

ใน​ยาม​ปกติ​ลำพัง​เพียงแค่​แสดงความสามารถ​หรือ​ศิลปะ​หาเงิน​ไม่ได้​มาก​เท่าใด​นัก​ ขอ​เพียง​ขายตัว​ให้​แขก​ แขก​จึงจะให้​จ่าย​เงิน​หนึ่ง​พัน​ตำลึง​เพื่อ​แลก​กับ​รอยยิ้ม​ของ​หญิง​งาม

และ​หง​ห​ลิง​คือ​เจ้าของ​หอ​จิน​ห​ลิง​ ย่อม​ต้อง​มีรูป​โฉมงามปาน​ล่ม​เมือง​ ทุกคน​ต่าง​รู้ดี​ว่า​นาง​และ​ท่าน​เจ้าเมือง​มีความสัมพันธ์​แน่นแฟ้น​ไม่สามัญ ด้วยเหตุนี้​หอ​จิน​ห​ลิง​มีท่าน​เจ้าเมือง​เป็น​ผู้​หนุนหลัง​กิจการ​รุ่งเรือง​ตลอดมา​

แม้กระทั่ง​ใน​ระหว่าง​ที่​เมือง​จิงโจว​อยู่​ใน​สภาวะ​ประสบ​ภัยธรรมชาติ​จาก​หิมะ​ ลูกหลาน​คนใหญ่คนโต​ใน​เมือง​ต่าง​กินดีอยู่ดี​มีอาภรณ์​สวมใส่​ ที่​ควร​หา​ความสำราญ​ใน​ยามค่ำคืน​ก็​หา​ความสำราญ​ใน​ยามค่ำคืน​ ด้วยเหตุนี้​เมื่อ​ถึงยาม​กลางคืน​ใน​ทุกวัน​ ใน​หอ​จิน​ห​ลิง​ล้วน​มีลูกค้า​มาอุดหนุน​ เสียง​เครื่องดนตรี​ไพเราะ​เสนาะ​หู​ ยาก​ที่จะ​ทำให้​ผู้คน​ไม่รู้สึก​ถึงความหรูหรา​และ​ความ​น่าเวทนา​

ยาม​สาย​วันนี้​หลงจู๊​พา​หลิน​ชิงเวย​ไป​ยัง​หอ​จิน​ห​ลิง​ นี่​คง​เป็น​เพราะ​หลิน​ชิงเวย​ขอร้อง​

นาง​ย่อม​ต้อง​แต่งเนื้อแต่งตัว​ประทิน​โฉมอย่าง​พิถีพิถัน​ นาง​สวม​ชุด​กระโปรง​สีเขียว​อ่อน​ บน​ศีรษะ​มีปิ่นปักผม​และ​ปล่อย​ผม​หน้าม้า​ลงมา​ เส้น​ผม​ดำขลับ​สยาย​คลุม​บน​ไหล่​ ดวงตา​ทั้งคู่​ใต้​คิ้ว​สุก​สกาว​ราวกับ​แก้ว​บริสุทธิ์​ งดงาม​ดึงดูดใจ​ราวกับ​หิมะ​ที่​เปล่งประกาย​ท่ามกลาง​ความ​หนาวเย็น​ ประดุจ​สายน้ำ​ใน​ฤดู​สารท​

ทันทีที่​หลงจู๊​เห็น​นางใน​ลักษณาการ​นี้​จึงพูด​คล้าย​ยิ้ม​คล้าย​ไม่ยิ้ม​ว่า​ “มิน่าเล่า​ คุณชาย​ท่าน​นั้น​จึงพูดถึง​แต่​แม่นาง​เวยเวย​ ช่างเป็น​แม่นาง​ที่​ยอดเยี่ยม​ปานนี้​”

หลิน​ชิงเวย​ “หลงจู๊​กล่าว​ชมเกินไป​แล้ว​”

มาถึงหอ​จิน​ห​ลิง​ เดิมที​หลงจู๊​เป็น​คนเก่าคนแก่​ของ​ที่นั่น​ เหล่า​แม่นาง​ข้างใน​ล้วน​รู้จัก​นาง​ทั้งสิ้น​ อีก​ทั้ง​นาง​มาเยือน​ด้วย​ตนเอง​ไม่ว่า​อย่างไร​หง​ห​ลิง​ย่อม​ไม่ขัดขวาง​ ทั้ง​ยัง​ให้​สาวใช้​คนสนิท​ข้าง​กาย​ลงมา​นำทาง​หลงจู๊​และ​หลิน​ชิงเวย​ไป​พบ​นาง​ที่​ห้อง​ด้วย​ตนเอง​

หง​ห​ลิง​ผู้​นี้​นับว่า​เป็น​สตรี​โฉมงามประดุจ​หยก​อย่าง​แท้จริง​คน​หนึ่ง​ เมื่อ​หลิน​ชิงเวย​ก้าว​เข้าไป​เห็น​นาง​นั่ง​อยู่​หน้า​โต๊ะ​ประทิน​โฉมกำลัง​นั่ง​แต้ม​ชาด​อยู่​หน้า​กระจก​

ภายใน​ห้อง​มีเตาไฟ​ให้​ความอบอุ่น​ บน​ร่าง​ของ​นาง​สวม​กระโปรง​สีแดง​ชุด​หนึ่ง​ เป็น​สีแดง​สดร้อน​แรงขับ​กับ​ผิว​และ​เหมาะสม​กับ​ชื่อ​ของ​นาง​อย่างยิ่ง​ เพียงแต่​ไม่รู้​ว่า​ถ่าน​เงิน​ไร้​ควัน​ที่อยู่​ใน​เตาไฟ​นี้​จะเพียงพอ​ซื้อ​เสบียงอาหาร​ให้​กับ​ชาวบ้าน​ธรรมดา​ได้​มาก​เท่าใด​

ถ่าน​เงิน​ใน​ฤดูหนาว​มีราคา​สูงยิ่งยวด​ เนื่องมาจาก​เป็น​ถ่าน​ที่​ส่งให้​ทาง​วังหลวง​ใช้เป็นหลัก​ เมื่อ​เผาถ่าน​ชนิด​นี้​จะไร้​ควัน​ไร้​หมอก​ เจ้านาย​ใน​วังหลวง​ล้วน​ใช้ถ่าน​เงิน​ นอก​วัง​นั้น​หาก​มิใช่ครอบครัว​ใหญ่​ที่​มีฐานะ​ดี​จริงๆ​ แล้ว​ล้วน​ไม่อาจ​ใช้ถ่าน​ชนิด​นี้​มาสร้าง​ความอบอุ่น​ได้​

หง​ห​ลิง​ผู้​นั้น​หัน​กาย​กลับมา​เห็น​หลิน​ชิงเวย​ใน​แวบ​แรก​ ประจวบ​เหมาะกับ​เห็น​สายตา​ของ​หลิน​ชิงเวย​ที่​ตก​อยู่​บน​ถ่าน​บริเวณ​มุมห้อง​ นาง​ลุกขึ้น​เดิน​เข้า​มาหา​หลงจู๊​ทักทาย​ด้วย​เสียง​นุ่มนวล​ประดุจ​เส้น​ไหม​ “นี่​มิใช่พี่สาว​หรอก​หรือ​ วันนี้​พี่สาว​ไย​มีเวลาว่าง​มาหา​ข้า​ถึงที่นี่​ได้​?”

“ขอ​เพียง​น้องสาว​ไม่รังเกียจ​ว่า​ข้า​มารบกวน​ก็​พอแล้ว​” หลงจู๊​ไป​จาก​ที่นี่​เป็นเวลา​หลาย​ปี​แล้ว​ ความฟุ่มเฟือย​ของ​ที่นี่​ดูเหมือน​จะไม่เข้ากับ​นาง​สัก​เท่าใด​นัก​

หง​ห​ลิง​ “พี่สาว​พูด​อัน​ใด​กัน​ พี่สาว​ยินดี​มาที่นี่​ ข้า​ดีใจ​แทบ​ไม่ทัน​ บังเอิญ​เหลือเกิน​ท่าน​ข้า​สอง​คน​ไม่ได้​พบกัน​นาน​แล้ว​ ยาม​นี้​ยังมี​เวลา​อีก​นาน​กว่า​จะมืด​ พวกเรา​พี่น้อง​สอง​คน​จะได้​คุย​กัน​”

ความคิด​ของ​หลงจู๊​ว่องไว​ปราดเปรียว​จึงถามขึ้น​ด้วย​น้ำเสียง​และ​สีหน้า​ปกติ​ว่า​ “อย่างไร​กัน​ คืนนี้​น้องสาว​มีแขก​ผู้สูงศักดิ์​หรือ​?”

ใบหน้า​ของ​หง​ห​ลิง​ปรากฏ​ให้​เห็น​ความ​หยิ่งผยอง​ นาง​ตอบ​เสียง​เกียจคร้าน​ “มิใช่ใต้เท้า​ท่าน​เจ้าเมือง​หรอก​หรือ​ สามวัน​ตาม​สี่วัน​เชิญให้​ข้า​ไป​ที่​จวน​ของ​เขา​สัก​เที่ยว​ นี่​ข้า​ไม่ไป​ไม่ได้​แล้ว​”

คำพูด​นี้​ฟังดู​แล้ว​เหมือน​อับ​จนปัญญา​ แต่​สีหน้า​ของ​นาง​ไม่ได้​มีความอับ​จนปัญญา​แม้สัก​กระผีก​ ในทางกลับกัน​สิ่งที่​หลิน​ชิงเวย​เห็น​ก็​คือ​ความ​โอ้อวด​อย่าง​ชัดเจน​

หลงจู๊​กล่าวว่า​ “พี่สาว​มีคำพูด​จะตักเตือน​ ไม่รู้​ว่า​น้องสาว​จะฟังหรือไม่​? มาบัดนี้​ใน​เมือง​ของ​เรา​กำลัง​โจษจัน​ ชาวบ้าน​ใน​เมือง​ไม่มีสัก​คน​ไม่เคียดแค้น​ชิงชังท่าน​เจ้าเมือง​ เหตุใด​เจ้ายัง​ต้อง​กระชับ​ความสัมพันธ์​กับ​ท่าน​เจ้าเมือง​?”

หง​ห​ลิง​หัวเราะ​ “กระชับ​ความสัมพันธ์​? ความสัมพันธ์​ใช่ข้า​ต้องการ​จะตัดสัมพันธ์​ก็​ทำได้​หรือ​? ใต้เท้า​ท่าน​เจ้าเมือง​เป็น​บ่อ​เงิน​บ่อ​ทอง​ของ​หง​ห​ลิง​ หง​ห​ลิง​เป็น​เพียง​สตรี​ใน​หอ​คณิกา​ มีความสามารถ​อัน​ใด​ที่จะ​ตัดสินใจ​ด้วย​ตนเอง​?”

หลงจู๊​กล่าวว่า​ “แต่​ทั้งๆ ที่​เจ้ารู้​ว่า​เงิน​ที่​เขา​นำมา​ให้​เจ้าล้วน​เป็น​เงิน​ที่​เขา​ขูดรีด​มาจาก​พวก​ชาวบ้าน​ มาบัดนี้​ทาง​ราชสำนัก​ส่งเงิน​บรรเทาทุกข์​ลงมา​ ทว่า​กลับ​ไม่เห็น​เขา​ช่วยเหลือ​ชาวบ้าน​ แต่กลับ​นำ​เงิน​จำนวนมาก​มาทุ่ม​ให้​กับ​เจ้า มโนธรรม​ใน​ใจของ​เจ้า เจ้าทำใจ​ได้​หรือ​?”

รอยยิ้ม​บน​ใบหน้า​ของ​หง​ห​ลิง​แปร​เปลี่ยนเป็น​เย็นชา​เล็กน้อย​ นาง​หันมา​มอง​หลงจู๊​และ​พูดว่า​ “เดิมที​พวกเรา​ที่​เป็น​หญิง​ใน​หอ​คณิกา​ก็​มีชีวิต​ไม่ง่ายดาย​อยู่แล้ว​ ไม่ว่า​บุรุษ​คนใด​ ไม่ว่า​จะรูปงาม​หรือ​ขี้ริ้ว​ จิต​ใจดี​หรือ​ชั่วร้าย​ ขอ​เพียง​พวกเขา​มีเงิน​มาก​พอ​ก็​สามารถ​ครอบครอง​ร่างกาย​ของ​พวกเรา​ กุม​ชะตาชีวิต​ของ​พวกเรา​ได้​ มโนธรรม​เมื่อ​อยู่​ใน​หอ​คณิกา​มีประโยชน์​อัน​ใด​? สิ่งที่​พวกเรา​ทำได้​คือ​ป้องกัน​ตนเอง​ เงิน​ที่​หา​ได้​ล้วน​อาศัย​ความงาม​และ​ร่างกาย​ใน​วัยสาว​แลก​มาทั้งสิ้น​ หรือ​เมื่อ​มีลูกค้า​เข้ามา​ ข้า​ยัง​ต้อง​ถามเขา​อีก​หรือว่า​เงิน​ของ​เขา​มาจาก​ที่ใด​กัน​?” หยุด​ไป​ครู่หนึ่ง​ นาง​กลับ​หัวเราะ​ออกมา​ “พี่สาว​ ท่าน​คง​ไม่ได้​ไร้เดียงสา​เกินไป​กระมัง​ คนใน​ใต้​หล้า​นี้​มีผู้ใด​บ้าง​ไม่ชอบ​เงิน​ มีผู้ใด​รังเกียจ​เงิน​มาก​? ข้า​ไม่สน​ว่า​เงิน​ของ​ท่าน​เจ้าเมือง​มาจาก​ที่ใด​ ขอ​เพียง​เขา​ยินดี​ที่จะ​จ่าย​เงิน​ให้​กับ​ข้า​ ข้า​ก็​จะไป​ปรนนิบัติ​เขา​ วันนี้​พี่สาว​ตั้ง​ใจมาเยือน​คง​มิใช่ด้วย​ต้องการ​มาพูด​กับ​ข้า​เรื่อง​นี้​กระมัง​?”

ตื๊อรักแพทย์หญิง ฉบับท่านอ๋อง

ตื๊อรักแพทย์หญิง ฉบับท่านอ๋อง

Score 10
Status: Completed
เพราะไม่อยากแต่งไปเป็นนางสนมที่ถูกลืม “หลินเสวี่ยหรง” จึงได้วางยา “หลินชิงเวย” พี่สาวของตนให้ขึ้นเกี้ยวเจ้าสาวแทน ทั้งยังตามมาวางยากำหนัดนางอีกถึงในวัง เพื่อใส่ร้ายว่านางคบชู้ ทำให้ ‘หลินชิงเวย’ หญิงสาวยุคปัจจุบันที่ทะลุมิติเข้าร่างมาต้องตกกระไดพลอยโจรไปมีอะไรกับหนุ่มนิรนามที่มาช่วยนางไว้ จนถูกจับได้ว่าคบชู้สู่ชาย ทำให้นางโดนเนรเทศไปอยู่ตำหนักเย็น แม้นางจะทำใจ ยอมอยู่อย่างสงบในตำหนักเย็น ทว่าโลกใบนี้ ไม่ปล่อยให้นางมีความสุขง่ายๆ เช่นนั้น นางจึงต้องใช้ปัญญาและความสามารถทางแพทย์ปกป้องตัวเอง ผนวกกับการได้พบกับชายผู้ยิ่งใหญ่เย็นชาปากไม่ตรงกับใจอย่าง “เซ่อเจิ้งอ๋อง” การได้พบกับเขาทำให้นางค่อยๆ พบความหวัง ที่จะได้กลับมามีอิสรภาพอีกครั้ง! หลินชิงเวย: ท่านอ๋อง ท่านมองลำคออันขาวผ่องของข้าด้วยดวงตาที่เบิกกว้างเช่นนั้น นี่ข้ากำลังปลุกอารมณ์ของท่านหรือ ? เซ่อเจิ้งอ๋อง: คงไม่มีผู้ใดคาดคิดว่าเจ้าจะเป็นสตรีที่ไร้ยางอายเช่นนี้ !

Options

not work with dark mode
Reset