ตื๊อรักแพทย์หญิง ฉบับท่านอ๋องบทที่ 258 ลงมือเอาชีวิตเขา

บทที่ 258 ลงมือเอาชีวิตเขา

คำพูด​เพียง​ประโยค​เดียว​หยุด​ฝีเท้า​ของ​เซียว​อี้​ได้​สำเร็จ​ สายตา​ของ​เขา​เสมือน​แสงไฟใน​ตะเกียง​ จดจ้อง​ใบหน้า​ของ​หลิน​ชิงเวย​

เซียว​อี้​ยินยอม​เดิน​ไป​ยัง​มุมกำแพง​ในที่สุด​ เขา​ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน​ “ถือว่า​เจ้าเหี้ยมโหด​”

สุดท้าย​หลิน​ชิงเวย​ปรุงยา​ถอนพิษ​ใส่ลง​ไป​ใน​น้ำ​ให้​เขา​ดื่ม​ลง​ไป​ ยามดึก​หลิน​ชิงเวย​นอน​อยู่​บน​เตียง​เตา​อย่าง​เป็นสุข​ แม้จะเป็น​ค่ำคืน​อัน​ยาวนาน​ที่​เต็มไปด้วย​ความ​เหน็บ​หนาว​ก็ตาม​ สำหรับ​เซียว​อี้​ซึ่งเป็น​ผู้ฝึก​ยุทธ​แล้ว​ไม่ถือ​เป็นเรื่อง​ลำบาก​อัน​ใด​เช่นกัน​

ทว่า​ถือเป็น​โชคดี​ที่​เขา​นั่งขัดสมาธิ​พิง​มุมกำแพง​หลับตา​พักผ่อน​ ไม่ได้​สอด​ตัว​เข้าไป​ใน​ผ้าห่ม​นอน​อยู่​บน​เตียง​เตา​แล้ว​หลับ​ลึก​เช่น​หลิน​ชิงเวย​ กลางดึก​เขา​ได้ยิน​เสียง​เคลื่อนไหว​อยู่​ภายนอก​เรือน​ จึงลืมตา​ทั้งคู่​ขึ้น​ท่ามกลาง​ความมืด​

หลังจากนั้น​ไม่นาน​ชิงห​ลัน​ที่อยู่​ใน​อ้อมกอด​ของ​หลิน​ชิงเวย​ก็​ส่งเสียง​ของ​การ​ป้องกันตัว​ดัง​ฟ่อ​ๆ ออกมา​ หลิน​ชิงเวย​จึงลุกขึ้น​มานั่ง​ นาง​รีบ​ลง​จาก​เตียง​ หยิบ​ปิ่น​หยก​ที่​นาง​ใช้รวบ​ผม​วาง​ลง​บน​โต๊ะ​ แน่นอน​แล้ว​ว่า​คืนนี้​คง​ไม่ได้​อยู่​กัน​อย่าง​สงบสุข​ หาก​ด้วยเหตุนี้​ต้อง​ทำให้​สอง​สามีภรรยา​ครอบครัว​ชาวนา​ต้อง​ได้รับ​ความเสียหาย​อัน​ใด​ ปิ่น​หยก​อันนี้​เป็น​ของ​ชั้นดี​นำ​ไป​ขาย​แลก​เปลี่ยนเป็น​เงินได้​ ต่อให้​นำ​เงิน​มาสร้าง​เรือน​ใหม่​ก็​ยัง​พอ​มีเหลือเฟือ​

หลิน​ชิงเวย​และ​เซียว​อี้​ออกจาก​เรือน​หลัง​นี้​อย่าง​รวดเร็ว​ ไหน​เลย​จะคิด​ว่า​จะเผชิญหน้า​กับ​คน​ที่​ติด​ตามมา​เหล่านั้น​ ทั้งสองฝ่าย​ต่าง​ตะลึงงัน​ ต่อมา​อีก​ฝ่าย​ดึง​ดาบ​ออกมา​ฟาดฟัน​ใส่เซียว​อี้​ทันที​

พวกเขา​ต้อง​การสังหาร​เซียว​อี้​จริงๆ​ หาไม่​แล้ว​เหตุใด​จึงไล่ล่า​ตามมา​ไม่ยอม​เลิกรา​เช่นนี้​

วร​ยุทธ​ของ​เซียว​อี้​ไม่สามัญเช่นกัน​ เขา​ล้ม​คน​ชุด​ดำ​ได้​คน​หนึ่ง​ พลิก​มือ​กลับมา​แย่ง​กระบี่​ใน​มือ​ของ​คน​ชุด​ดำ​ ต่อมา​เขา​ลากตัว​หลิน​ชิงเวย​เข้ามา​และ​ทาบ​คม​กระบี่​ยาว​ลง​บน​ลำคอ​ของ​หลิน​ชิงเวย​

นี่​เป็น​การข่มขู่​โดย​ไม่ต้อง​เอ่ย​วาจา​ ส่งผล​ให้​คน​ชุด​ดำ​ทั้งหมด​ที่อยู่​นั่น​ถึงกับ​ชะงักงัน​ พวกเขา​ไม่กล้า​วู่วาม​ แขน​ของ​เซียว​อี้​โอบ​ผ่าน​หน้าอก​ของ​นาง​ กด​หัวไหล่​ของ​นาง​เอาไว้​ เขา​พูดเสียงต่ำ​ข้าง​หู​ว่า​ “ยาม​นี้​เจ้าเป็น​ยันต์​คุ้มภัย​ของ​ข้า​ พวกเรา​ออก​ไป​ทาง​ภูเขา​ด้านหลัง​”

หาก​เป็น​เมื่อก่อน​ ไม่ว่า​เซียว​อี้​จะเป็น​หรือ​ตาย​หลิน​ชิงเวย​ไม่แม้แต่​จะกะพริบตา​สักครั้ง​ ทว่า​ยาม​นี้​แตกต่าง​ออก​ไป​ เซียว​อี้​ล่วงรู้ความลับ​ขอ​งอ​วิ๋น​หนาน​อ๋อง​ไม่น้อย​ มีเขา​ร่วม​เดิน​ทางลง​ใต้​ไป​ด้วย​ โอกาส​ที่จะ​ตามหา​ตัว​เซียว​เยี่ยนพบ​ยิ่ง​มีมากขึ้น​

ยาม​นี้​พวกเขา​ทั้งสอง​ถือได้ว่า​ลงเรือลำเดียวกัน​แล้ว​ และ​มีผลเสีย​ผลดี​เฉก​เช่นเดียวกัน​

หลิน​ชิงเวย​ไม่ได้​ดิ้นรน​ต่อสู้​ขัดขืน​ นาง​เดินผ่าน​ตัวเรือน​ภายใต้การควบคุม​ของ​เซียว​อี้​ เมื่อ​ไป​ถึงด้านหลัง​ของ​เรือน​ เรือน​ของ​ชาวนา​สร้าง​พิง​กับ​ภูเขา​ ด้านหลัง​ก็​คือ​ภูเขา​ลูก​ใหญ่​ที่​ปกคลุม​ไป​ด้วย​ป่า​หิมะ​สีขาว​ ทันทีที่​เข้าไป​ข้างใน​ โอกาส​รอด​ย่อม​มีมากขึ้น​เช่นกัน​

เมื่อ​เดิน​ไป​ถึงด้านหลัง​ของ​เรือน​ คน​ชุด​ดำ​กลุ่ม​นั้น​จึงค่อยๆ​ ก้าว​ตามมา​ทีละ​ก้าว​โดย​รักษา​ระยะห่าง​ไว้​สามก้าว​

หลิน​ชิงเวย​กวาดตา​มอง​ไป​รอบ​ๆ เห็น​วัว​ตัว​หนึ่ง​ถูก​ผูก​อยู่​กับ​เสาต้น​หนึ่ง​ด้านหลัง​เรือน​ คาด​ว่า​เจ้าของบ้าน​เพิ่งจะ​ใช้วัว​ตัว​นี้​ไป​ลาก​สิ่งของ​มา และ​ยัง​ไม่ทัน​ได้​ปลด​รถม้า​ออก​ เชือก​ของ​รถม้า​ผูก​อยู่​บน​ตัว​ของ​วัว​ตัว​นั้น​ รถม้า​คัน​นั้น​จอด​อยู่​ข้าง​กำแพง​ ด้วยเหตุนี้​จึงไม่มีน้ำหนัก​อัน​ใด​

หลิน​ชิงเวย​บังเกิด​ความคิด​ขึ้น​ชั่วขณะ​ นาง​ฉวยโอกาส​ที่​เซียว​อี้​ไม่ทัน​ได้​ป้องกันตัว​เสแสร้ง​แสดงท่าที​ขัดขืน​ดิ้นรน​ต่อสู้​ เซียว​อี้​นั้น​ตะลึงงัน​จน​ไม่ได้​ป้องกัน​ ชั่วขณะ​นั้น​คน​ชุด​ดำ​เห็น​แล้วจึง​รีบ​พุ่ง​โผน​เข้ามา​ หาก​ให้​พวกเขา​ได้เปรียบ​ เซียว​อี้​ย่อม​ไม่มีจุดจบ​ที่​ดี​เป็นแน่​

ทว่า​หลิน​ชิงเวย​กลับ​ยก​มือขึ้น​ในเวลานี้​ ชั่ว​ขณะที่​พวกเขา​เข้ามา​ใน​ระยะ​ประชิดตัว​ นาง​ยก​มือขึ้น​สาด​ผง​แป้ง​ชนิด​หนึ่ง​ใส่หน้า​พวกเขา​

ผง​แป้ง​นั้น​กำจาย​อยู่​ทั่ว​ใน​ชั้น​บรรยากาศ​และ​เข้าไป​ใน​จมูก​ของ​คน​ชุด​ดำ​ คน​ชุด​ดำ​เดิน​ถอยหลัง​สอง​ก้าว​พร้อมกับ​ไอ​โขลก​เสียงต่ำ​ กระทั่ง​พวกเขา​คิด​จะโจมตี​อีกครั้ง​กลับ​พบ​ว่า​ร่างกาย​ของ​ตน​อ่อนปวกเปียก​ปราศจาก​เรี่ยวแรง​ ไม่อาจ​รวบรวม​พลัง​ลมปราณ​ได้​!

แต่​คน​ชุด​ดำ​เจ็ด​แปด​คน​ย่อม​เป็นไปไม่ได้​ที่​ต้อง​พิษ​ในเวลาเดียวกัน​ทั้งหมด​ ที่​เหลือ​อีก​สอง​สามคน​เงื้อ​กระบี่​ขึ้น​ โจมตี​เข้ามา​อีกครั้ง​ เซียว​อี้​ผลัก​หลิน​ชิงเวย​ออก​ไป​อีก​ทาง​หนึ่ง​ รับมือ​กับ​ศัตรู​สามคน​แบบ​หนึ่ง​ต่อ​สาม เมื่อ​ประมือ​กับ​ฝ่ายตรงข้าม​ หลิน​ชิงเวย​วิ่ง​ไป​ที่​รถม้า​ที่​จอด​อยู่​ข้าง​กำแพง​ ปลด​วัว​ตัว​นั้น​ออก​แล้ว​หยิบ​สายบังเหียน​พร้อมกับ​แส้ฟาด​ลง​ไป​บน​ร่าง​ของ​วัว​

ทันทีที่​วัว​หนุ่ม​ได้รับ​ความเจ็บปวด​มัน​ส่งเสียงร้อง​ขึ้น​ ต่อมา​มัน​วิ่ง​ออก​ไป​ข้างนอก​ คน​ชุด​ดำ​ขวาง​ทางออก​เอาไว้​ วัว​สีดำ​ตัว​นั้น​พุ่ง​เข้า​ชน​พวกเขา​อย่าง​มิเกรงอกเกรงใจ​ พวกเขา​รีบร้อน​หลบหลีก​ไป​ด้าน​ข้าง​เป็น​พัลวัน​ ส่วน​เซียว​อี้​ได้โอกาส​จังหวะ​นี้​กระโดด​ขึ้น​รถม้า​ แล้ว​บังคับ​รถม้า​ให้​ออก​ไป​จาก​ที่นี่​

คน​ชุด​ดำ​ไหน​เลย​จะยอม​รามือ​เพียงเท่านี้​ ม้าของ​พวกเขา​ล้วน​หยุด​รอ​อยู่​ไม่ไกล​จาก​ที่นี่​ ด้วย​แต่ละคน​ล้วน​เป็น​ผู้เชี่ยวชาญ​ใน​การ​ขี่ม้า​ทั้งสิ้น​ เพียง​ชั่วครู่​ก็​ไล่ตาม​มาทัน​

หลิน​ชิงเวย​และ​เซียว​อี้​นั่ง​อยู่​บน​รถม้า​ ที่​ไล่​ตามมา​ด้านหลัง​คือ​ม้าเร็ว​สี่ตัว​ ความเร็ว​ของ​วัว​ดำ​ตัว​หนึ่ง​ไหน​เลย​จะสู้ม้าเร็ว​ของ​ฝ่ายตรงข้าม​ได้​เล่า​ สายลม​เยียบ​เย็น​ที่​พัดผ่าน​ผิวหน้า​เสมือน​คม​มีด​ที่​กรีด​ลง​บน​ใบหน้า​ของ​หลิน​ชิงเวย​ นาง​แจ่มแจ้งแก่​ใจดี​ว่า​ความเร็ว​เช่นนี้​ใช้ไม่ได้​ ต้อง​เร็ว​กว่า​นี้​จึงจะดี​

นาง​หัน​กลับมา​มอง​เซียว​อี้​แวบ​หนึ่ง​ เห็น​ท่าทาง​ของ​เซียว​อี้​ผิดปกติ​เช่นกัน​ เซียว​อี้​เอ่ย​ขึ้น​อย่าง​อ่อนแรง​ “เมื่อ​สักครู่​เจ้าสาด​สิ่งใด​ใส่พวกเขา​?”

“ผง​กระดูกอ่อน​”

“ให้​ตาย​เถอะ​ มัน​ลอย​ตาม​ลม​เข้า​จมูก​ของ​ข้า​ด้วย​”

“…” หลิน​ชิงเวย​เงียบขรึม​ “ท่าน​ควบคุม​สักหน่อย​ หลังจากนี้​หนึ่ง​ชั่ว​ยาม​ก็​จะดีขึ้น​เอง​” นาง​หันกลับ​ไป​มอง​เงาร่าง​ของ​ม้าที่​พุ่ง​ทะยาน​เข้าใกล้​มาทุกที​ๆ ทาง​ด้านหลัง​ คิดในใจ​ว่า​หาก​เซียว​อี้​ตก​อยู่​ใน​มือ​ของ​พวกเขา​ในเวลานี้​ อีก​ทั้ง​ฝ่ายตรงข้าม​มีกำลัง​มากกว่า​ ย่อม​มีความเป็นไปได้​อย่างยิ่ง​ที่จะ​ถูก​สับ​เป็น​ชิ้นๆ​

หลิน​ชิงเวย​มอง​ท่าทาง​กะปลกกะเปลี้ย​เพลีย​แรง​ของ​เซียว​อี้​อีกครั้ง​ ณ วินาที​นี้​นาง​รู้สึก​ว่า​เซียว​อี้​ดู​ราวกับ​ศรี​ภรรยา​ร่างกาย​อ่อนแอ​เปราะ​บางคน​หนึ่ง​

หลิน​ชิงเวยยก​ยิ้มมุมปาก​ให้​เห็น​รอยยิ้ม​อัน​ชั่วร้าย​เปี่ยม​ไป​ด้วย​ความมั่นใจ​ นาง​เอ่ย​กับ​เซียว​อี้​ “จับ​แน่น​ๆ ละ​” พูด​แล้ว​นาง​ก็​หยิบ​เข็ม​เงิน​ออกมา​สามเล่ม​ แทง​เข้าไป​ที่​ลำคอ​ของ​วัว​อย่าง​รุนแรง​

เมื่อ​วัว​สีดำ​ได้รับ​ความเจ็บปวด​ หลังจาก​แผด​เสียงร้อง​ออกมา​ด้วย​ความเจ็บปวด​ก็​วิ่ง​พุ่ง​ไป​ข้างหน้า​ราวกับ​เพิ่ง​ได้รับ​เลือด​อย่างไร​อย่างนั้น​

อย่า​ได้​ปรามาส​พละกำลัง​ของ​วัว​ดำ​ มัน​มีร่างกาย​ที่​แข็งแกร่ง​และ​มีความอดทน​เป็นเลิศ​ ส่วน​คน​ชุด​ดำ​ด้านหลัง​นาง​ต้อง​พิษ​ผง​กระดูกอ่อน​ของ​นาง​ ส่งผล​ให้การ​ควบม้า​ของ​พวกเขา​ไม่บ้าคลั่ง​เช่น​หลิน​ชิงเวย​

เมื่อ​วัว​สีดำ​วิ่ง​ทะยาน​ขึ้น​มาแทบ​ไม่คิด​ชีวิต​ หลิน​ชิงเวย​รับรู้​ได้​เพียง​ว่า​รถม้า​ที่อยู่​ใต้​ร่าง​ของ​ตน​กำลังจะ​แตกสลาย​ ก้น​ของ​นาง​กระแทก​จน​เจ็บ​ไป​หมด​ ดวงตา​ทั้งคู่​กระแทก​กระเทือน​จน​พร่า​เลือน​ ท้อง​ไส้ปั่นป่วน​ขาด​เพียง​ไม่ได้​อาเจียน​ออกมา​เท่านั้น​

เคราะห์ดี​ที่​เซียว​อี้​รวบรวม​พละกำลัง​ที่​เหลืออยู่​ไม่มาก​จับตัว​รถม้า​อย่าง​แน่นหนา​ หาไม่​แล้ว​เพียง​ชั่วครู่​ย่อม​ถูก​สลัด​ตกลง​ไป​ เขา​กล่าวว่า​ “เจ้าไม่ต้องการ​ชีวิต​แล้ว​หรือ​!”

หลิน​ชิงเวย​ “หาก​ต้องการ​เอาชนะ​เมื่อ​ตกอยู่ในอันตราย​ ย่อม​ไม่เลือก​วิธีการ​ หาก​วัว​สีดำ​ตัว​นี้​วิ่ง​แล้ว​กระโดด​ลง​หน้าผา​ นั่น​ย่อม​ถือเป็น​ชะตาชีวิต​ที่​ถูก​กำหนด​ของ​ข้า​และ​ท่าน​เช่นกัน​”

ทว่า​ตลอด​เส้นทาง​สาย​นี้​ทั้งสอง​ข้างทาง​ล้วน​เป็นแนว​เทือกเขา​ที่​ประกอบ​ไป​ด้วย​ภูเขา​ลูก​ใหญ่​ที่​ซ้อน​ตัว​ลดหลั่น​กัน​ไป​ ความเป็นไปได้​ที่จะ​ปรากฏ​ให้​เห็น​หน้าผา​นั้น​มีน้อย​มาก​ กลัว​แต่​วัว​สีดำ​ตัว​นี้​จะลนลาน​ตื่นตระหนก​จน​ไม่เลือก​เส้นทาง​แล้ว​วิ่ง​ไปหา​สถานที่​อันตราย​ด้วย​ตนเอง​ ทว่า​เรื่อง​มาถึงขั้น​นี้​แล้ว​ระยะทาง​ยาว​ไกล​อยู่​ข้างหน้า​ ศัตรู​ไล่​ตามมา​ด้านหลัง​ ยังมี​ที่​ให้​พวกเขา​ทั้งสอง​ได้​หลบ​ซ่อนตัว​อีก​หรือ​

ต่อมา​ไม่รู้​ว่า​วิ่ง​มาไกล​แค่​ไหน​ และ​ไม่รู้​ว่า​วิ่ง​มาถึงสถานที่​แห่งใด​ ภูเขา​หิมะ​สอง​ข้างทาง​ค่อยๆ​ ผ่าน​คลอง​จักษุ​ไป​ หิมะ​ที่​ปกคลุม​สอง​ข้างทาง​เริ่ม​น้อยลง​ กระทั่ง​วิ่ง​เข้าไป​ใน​ป่า​แห่ง​หนึ่ง​

คน​ชุด​ดำ​ด้านหลัง​ไล่​ตามมา​ไม่ปล่อย​ เมื่อ​วัว​สีดำ​คลุ้มคลั่ง​ขึ้น​มาจะดูเบา​ไม่ได้​เลย​ มัน​ทิ้ง​ระยะห่าง​จาก​ม้าของ​คน​ชุด​ดำ​นั้น​ไม่ใกล้​และ​ไม่ไกล​

ผืนป่า​แห่ง​นี้​หนาแน่น​ไป​ด้วย​ต้นไม้​ แสงสว่าง​ที่​ลอดผ่าน​เข้ามา​จึงน้อย​ไป​ด้วย​ วัว​สีดำ​ไม่รู้จัก​เส้นทาง​ ทั้ง​ยังมี​ต้นไม้​ขวางทาง​ มัน​จึงวิ่ง​สะเปะสะปะ​ชน​โน่น​ชน​นี่​ หลิน​ชิงเวย​และ​เซียว​อี้​นั่ง​โอน​ไป​เอน​มาอยู่​บน​รถม้า​ ไม่ง่ายดาย​นัก​ที่​พวกเขา​ทั้งสอง​คน​สามารถ​ยืนหยัด​มาได้​จนถึง​เวลานี้​

ตื๊อรักแพทย์หญิง ฉบับท่านอ๋อง

ตื๊อรักแพทย์หญิง ฉบับท่านอ๋อง

Score 10
Status: Completed
เพราะไม่อยากแต่งไปเป็นนางสนมที่ถูกลืม “หลินเสวี่ยหรง” จึงได้วางยา “หลินชิงเวย” พี่สาวของตนให้ขึ้นเกี้ยวเจ้าสาวแทน ทั้งยังตามมาวางยากำหนัดนางอีกถึงในวัง เพื่อใส่ร้ายว่านางคบชู้ ทำให้ ‘หลินชิงเวย’ หญิงสาวยุคปัจจุบันที่ทะลุมิติเข้าร่างมาต้องตกกระไดพลอยโจรไปมีอะไรกับหนุ่มนิรนามที่มาช่วยนางไว้ จนถูกจับได้ว่าคบชู้สู่ชาย ทำให้นางโดนเนรเทศไปอยู่ตำหนักเย็น แม้นางจะทำใจ ยอมอยู่อย่างสงบในตำหนักเย็น ทว่าโลกใบนี้ ไม่ปล่อยให้นางมีความสุขง่ายๆ เช่นนั้น นางจึงต้องใช้ปัญญาและความสามารถทางแพทย์ปกป้องตัวเอง ผนวกกับการได้พบกับชายผู้ยิ่งใหญ่เย็นชาปากไม่ตรงกับใจอย่าง “เซ่อเจิ้งอ๋อง” การได้พบกับเขาทำให้นางค่อยๆ พบความหวัง ที่จะได้กลับมามีอิสรภาพอีกครั้ง! หลินชิงเวย: ท่านอ๋อง ท่านมองลำคออันขาวผ่องของข้าด้วยดวงตาที่เบิกกว้างเช่นนั้น นี่ข้ากำลังปลุกอารมณ์ของท่านหรือ ? เซ่อเจิ้งอ๋อง: คงไม่มีผู้ใดคาดคิดว่าเจ้าจะเป็นสตรีที่ไร้ยางอายเช่นนี้ !

Options

not work with dark mode
Reset