ตำนานเทพกู้จักรวาล 780 ต้นกำเนิด

ตอนที่ 780 ต้นกำเนิด

“หาก​ข้า​รู้​ข้อมูล​วงใน​ของ​จักรพรรดิ​สูงส่ง ข้า​ก็​คง​ไม่มา”

หนอนหนังสือ​ดีด​คันเบ็ด​เพื่อ​เย้าแหย่​ลา​ของ​ตน​พลาง​ถอนหายใจ​ “หลังจาก​ยุคสมัย​จักรพรรดิ​สูงส่งถูก​ทำลายล้าง​ แดน​ก่อกำเนิด​ก็​หายสาบสูญ​ และ​มีก็​แต่​ซาก​โบราณ​แห่ง​จักรพรรดิ​สูงส่งที่​หลง​เหลืออยู่​ แม้ว่า​ข้า​อยาก​ที่จะ​ค้นพบ​ความลับ​ของ​ยุคสมัย​นี้ ข้า​ก็​ไม่อาจ​ทำได้​ แม้แต่​กระบี่​เท​วะ​จักรพรรดิ​สูงส่งก็​ไม่รู้เรื่อง​เกี่ยวกับ​ยุคสมัย​จักรพรรดิ​สูงส่งมาก​นัก​ด้วย​อายุ​อัน​อ่อนเยาว์​ของ​นาง​ ครั้งหนึ่ง​ข้า​เคย​พบ​กับ​ผู้รอดชีวิต​จาก​ยุคสมัย​จักรพรรดิ​สูงส่งบางคน​ แต่ทว่า​พวกเขา​ไม่อาจ​อะไร​ให้​กระจ่าง​ชัด​เกี่ยวกับ​ยุคสมัย​ของ​พวกเขา​ได้​ แดน​ก่อกำเนิด​พระ​แม่ธรณี​ปรากฏตัว​ขึ้น​มาใหม่​ จึงเป็นเหตุให้​ข้า​มาที่นี่​”

บน​ผิว​ทะเล​ หมอก​ยิ่ง​มาก​็ยิ่ง​หนา​ทึบ​และ​โหม​ซัด​เข้า​มาหา​พวกเขา​จาก​ทุกทิศทาง​ ทะเล​หยก​ถูก​คลี่​คลุม​ไป​ด้วย​มวล​หมอก​ และ​ก็​ได้ยิน​เสียง​ใคร​บางคน​ร้อง​มาจาก​ข้างหน้า​ “นี่​คือ​สถานที่​อัน​พระ​แม่ธรณี​ร่วงหล่น​ จู่ๆ หมอก​ก็​หนา​ขึ้น​แสดงว่า​จะต้อง​มีบางอย่าง​น่าสงสัย​อย่าง​แน่นอน​! ทุกคน​จะต้อง​ระวังตัว​ให้​มาก​!”

เสียง​นั้น​ดัง​มาจาก​ที่​ไม่ไกล​นัก​ และ​มัน​ก็​คงจะ​มาจาก​เทพเจ้า​พวก​ที่​เร่งรุด​มาที่นี่​จาก​โลก​สวรรค์​แห่ง​อื่นๆ​

ใน​ตอนนั้น​เอง​ ฉิน​มู่ก็​พลัน​เห็น​เงาอัน​ใหญ่​มหึมา​ที่​โฉบ​ผ่าน​ไป​เหนือศีรษะ​ สิ่งที่​ตามมา​คือ​เสียงร้อง​ด้วย​ความ​ตระหนกตกใจ​และ​เสียง​ตะโกน​อัน​เดือดดาล​ คลื่น​น่าสะพรึงกลัว​ของ​ทักษะ​เท​วะ​ซัด​ตามมา​ข้างหลัง​ติดๆ​ และ​จากนั้น​ แสงมีด​และ​แสงกระบี่​บน​ผิ​วทะ​เลก็ระเบิด​ออกมา​!

กิเลน​มังกร​และ​กิเลน​วารี​กระสับกระส่าย​ ทั้งสอง​ตน​อ้า​ปาก​ของ​พวกเขา​เพื่อ​ไอ​สำรอก​ออกมา​ กิเลน​วารี​สำรอก​ลูกแก้ว​กิเลน​อัน​กวาด​ซัดน้ำ​ทะเลใน​บริเวณ​รอบ​ๆ ให้​ก่อ​ขึ้น​มาเป็น​ม่าน​คุ้มกัน​เพื่อ​ป้องกัน​แรง​กระแทก​จาก​ทักษะ​เท​วะ​ของ​เทพเจ้า​

อีก​ด้าน​หนึ่ง​ กิเลน​มังกร​ก็​สำรอก​ลูกแก้ว​ออกมา​สอง​ลูก​ หนึ่ง​นั้น​คือ​ลูกแก้ว​กิเลน​ไฟ และ​อีก​หนึ่ง​คือ​ลูกแก้ว​มังกร​

กิเลน​วารี​มอง​ไป​ที่​เขา​และ​คิดในใจ​ สายเลือด​ของ​เจ้าหมอ​นี่​ไม่บริสุทธิ์​เท่ากับ​ข้า​ กำลัง​ฝีมือ​ของ​เขา​จะต้อง​อ่อนด้อย​กว่า​

ขณะที่​เขา​คิด​อยู่​เช่นนั้น​ เขา​ก็​เห็น​ปราณ​ โลหิต​ และ​พลัง​วัตร​ที่​รวบรวม​อยู่​ใน​ลูกแก้ว​ทั้งสอง​พลัน​คลุ้มคลั่ง​ ลูกแก้ว​สอง​ลูก​มีรัศมี​วา​ครึ่ง​ และ​รังสี​เท​วะ​จำนวน​นับไม่ถ้วน​ออก​ไป​อย่าง​สุ่มๆ จาก​ลูกแก้ว​คู่​ แช่แข็งแรง​กระแทก​ที่อยู่​รอบ​ๆ ตัว​เขา​!

กิเลน​วารี​อ้าปากค้าง​

แสงมีด​และ​เงากระบี่​เหล่านั้น​คือ​เศษซาก​ทักษะ​เท​วะ​ของ​ลั่วอู๋ชวง​และ​ป๋า​ย​ฉวี​เอ๋อ​ พวก​มัน​ถูก​ผู้คน​ข้างหน้า​แตะต้อง​เข้า​ และ​ผล​ที่​ตามมา​ที่​พื้นผิว​ทะเล​ปั่นป่วน​โกลาหล​ เมื่อ​คลื่น​และ​ลม​กลับมา​สงบ​ ข้างหน้า​ก็​มีแต่​ความ​เงียบ​

พวกเขา​เดิน​ต่อไป​อย่าง​ระมัดระวัง​ และ​ไม่นาน​นัก​ พวกเขา​ก็​เห็น​ผู้คน​มากมาย​ยืน​อยู่​บน​แท่ง​เสาอัน​วาง​พาด​เหยียดยาว​เหนือ​ผิว​ทะเล​ พวกเขา​มีสีหน้า​แปลก​พิลึก​และ​ยิ้มแฉ่ง​อย่าง​ไม่หยุด​ปาก​พลาง​มอง​มาที่​กลุ่ม​ฉิน​มู่

หมอก​แผ่​เข้ามา​ และ​ร่างกาย​ของ​พวกเขา​ก็​ราง​เลือน​

เสานั้น​ลอย​อยู่​เหนือ​ผิวน้ำ​ และ​ตรงหน้า​เสาคือ​เผ่า​เทพ​และ​เผ่า​มาร​ ยังมี​ทั้ง​เทพเจ้า​หลาย​ตน​ที่​มีเรือน​กาย​อัน​แข็งแกร่ง​กำยำ​ และ​เปล่ง​เทวา​นุ​ภาพ​และ​มาร​านุ​ภาพ​อัน​เข้มข้น​

ทั้ง​ยังมี​เทพ​และ​มาร​บาง​ตน​ยืน​ล้อม​กัน​เป็น​วงกลม​วง​ใหญ่​ และ​พวกเขา​ก็​หัน​ซ้าย​แล​ขวา​ไปมา​รอบ​ๆ อย่าง​หวาดระแวง​ มีผู้คน​มากขึ้น​ทุกที​ที่​ให้ความสนใจ​ต่อ​แท่ง​เสาอัน​ลอย​อยู่​เหนือ​ผิว​ทะเล​

ฉิน​มู่ขนลุก​ด้วย​ความ​สยอง​จาก​รอยยิ้ม​ของ​เทพ​และ​มาร​พวก​นั้น​ และ​เขา​ก็​ให้​กิเลน​มังกร​หยุด​เดิน​

เทพ​และ​มาร​เหล่านั้น​ยังคง​ฉีก​ยิ้ม​ให้​แก่​พวกเขา​ และ​รอยยิ้ม​ของ​พวก​นั้น​ก็​แข็งทื่อ​อย่าง​บอก​ไม่ถูก​

“พวกเขา​ยิ้ม​อะไร​กัน​” วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​ถามอย่าง​สนใจ​ใคร่รู้​

ขณะที่​เสียง​ของ​เขา​ดัง​ไป​ เทพ​และ​มาร​เหล่านั้น​ก็​ลอย​ขึ้นไป​พร้อมกับ​เสา พวกเขา​ลอย​เหิน​ไป​บน​อากาศ​และ​หายวับ​เข้าไป​ใน​หมอก​

“ฮิ ฮิ ฮิ…”

เสียงหัวเราะ​ของ​เทพ​และ​มาร​ดัง​มาจาก​ม่าน​หมอก​ บางครั้ง​ก็​มาจาก​ทางซ้าย​ บางครั้ง​จาก​ทางขวา​ บางครั้ง​จาก​ข้างหน้า​ และ​บางครั้ง​ก็​มาจาก​ข้างหลัง​

“มีสัตว์ประหลาด​อยู่​ใน​ทะเล​ พวกเรา​ร่วมมือ​กัน​สู้กับ​ศัตรู​!” เทพ​และ​มาร​ที่​ยืน​รายล้อม​เป็น​วงกลม​ตะโกน​ไป​

ฉิน​มู่มอง​ไป​ที่​หนอนหนังสือ​ และ​หนอนหนังสือ​ก็​กล่าว​ “พวกเขา​มีผู้คน​มากมาย​ และ​ก็​กลายเป็น​เป้า​ใหญ่โต​กว่า​ สัตว์ประหลาด​จะต้อง​โจมตี​พวกเขา​อย่าง​แน่นอน​ พวกเรา​สามารถ​ฉวยโอกาส​นี้​เพื่อ​เล็ด​ลอดผ่าน​เข้าไป​”

ยอด​ฝีมือ​เทพ​และ​มาร​เหล่านั้น​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​เริ่ม​ด่าทอ​อย่าง​หยาบ​ๆ คาย​ๆ หนอนหนังสือ​ขี่​ลา​และ​วิ่ง​ผ่าน​พวกเขา​ไป​อย่าง​เริงร่า​

ฉิน​มู่ให้​กิเลน​มังกร​และ​กิเลน​วารี​ตาม​เขา​ไป​ติดๆ​ เขา​หันหลัง​กลับ​ไปดู​ และ​เทพเจ้า​เหล่านั้น​ก็​ยัง​ยืน​ล้อม​เป็น​วงกลม​พลาง​ด่าทอ​เขา​พวกเขา​อย่าง​ไม่หยุด​ปาก​

ทันใดนั้น​ เงาดำ​มหึมา​ก็​พุ่ง​วาบ​มาใน​หมอก​ และ​หลังจากที่​เงาดำ​โฉบ​ผ่าน​ไป​ พื้นผิว​ทะ​เลก็ว่าง​เปล่า​ เผ่า​เทพ​นับ​ร้อย​ตน​ก่อนหน้านี้​ได้​หาย​ไป​โดย​ไร้​ร่องรอย​!

ฉิน​มู่ตัว​สั่นเทิ้ม​ เมื่อครู่นี้​มีเทพเจ้า​หลาย​ตน​อยู่​ท่ามกลาง​เผ่า​เทพ​และ​เผ่า​มาร​ กระนั้น​พวกเขา​ก็​ยังคง​สาบสูญ​

เขา​รีบ​บอก​วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​ให้​เกาะติด​เขา​เอาไว้​ เขา​ให้​กิเลน​มังกร​และ​กิเลน​วารี​ตาม​ลา​ไป​

เสียงหัวเราะ​คิกคัก​ดัง​มาจาก​รอบข้าง​ และ​มัน​วนเวียน​ไปมา​รอบ​ๆ พวกเขา​ หมอก​ก็​ยิ่ง​หนาแน่น​ขึ้น​เรื่อยๆ​

แสงเท​วะ​เข้ามา​รวม​ใน​ดวงตา​ของ​เขา​ และ​แปร​เปลี่ยนเป็น​ดาราจักร​หนึ่ง​กับ​สรวงสวรรค์​เจ็ด​ชั้น​ เขา​มอง​ไป​รอบ​ๆ ใบหน้า​มากมาย​พลัน​ปรากฏ​ขึ้น​เบื้องหน้า​พวกเขา​

กิเลน​มังกร​กลัว​เรื่อง​พรรค์​นี้​มาก​ที่สุด​ และ​เขา​ก็​แทบจะ​หวีดร้อง​ออกมา​ ใบหน้า​พวก​นี้​ปรากฏ​ออกมา​จากหมอก​ และ​เข้ามา​ห้อม​ล้อมรอบ​ๆ พวกเขา​

ใบหน้า​มากมาย​เป็น​ของ​เผ่า​เทพ​และ​เผ่า​มาร​จาก​ก่อนหน้า​!

ใบหน้า​ของ​เทพ​และ​มาร​วนเวียน​รอบ​พวกเขา​พลาง​ฉีก​ยิ้ม​พิลึกกึกกือ​ เสียงหัวเราะ​คิกคัก​ที่​แปลกประหลาด​ทุกชนิด​ดัง​มาจาก​รอบทิศทาง​

ทันใดนั้น​ประตู​สีดำ​สนิท​ก็​ปรากฏ​ขึ้น​มาข้าง​หลังเขา​ และ​ประตู​ก็​เปิด​ออก​ ใบหน้า​พวก​นั้น​ผ่าน​เข้าไป​ใน​ประตู​ กระนั้น​ก็​ยังคง​ลอย​เต้น​ไปมา​รอบตัว​พวกเขา​ได้​

ฉิน​มู่หัวใจ​ตก​วูบ​และ​เขา​กล่าว​ด้วย​เสียงต่ำ​ “พวก​มัน​คือ​ซากศพ​ ไม่มีชีวิต​อยู่​!”

ประตู​น้อม​สวรรค์​ของ​เขา​สามารถ​คร่า​ดวงวิญญาณ​และ​จิตวิญญาณ​ดั้งเดิม​ของ​ผู้อื่น​ กระนั้น​ใน​เมื่อ​ใบหน้า​เหล่านี้​ยังคง​อยู่ดี​หลังจากที่​ผ่าน​เข้าไป​ใน​ประตู​น้อม​สวรรค์​ ก็​หมายความว่า​พวก​มัน​ไม่มีดวงวิญญาณ​!

หนอนหนังสือ​เหลือบมอง​ไป​ยัง​ประตู​น้อม​สวรรค์​และ​กล่าว​ด้วย​ความ​แตกตื่น​ “ประตู​ของ​เจ้าดูเหมือน​จะลึกล้ำ​อย่าง​สุดขีด​ขั้ว​”

เขา​นำ​เอา​ขิม​ออกมา​เรือน​หนึ่ง​และ​ดีด​มัน​สอง​ที​ เสียง​กระอัก​ทุ้ม​ๆ ดัง​ออกมา​จากหมอก​หนา​ และ​ใบหน้า​เหล่านั้น​ก็​เริ่ม​จะบิดเบี้ยว​ การ​หมุน​วน​ของ​พวก​มัน​หยุด​ลง​ไป​ และ​แสงเจิดจ้า​มากมาย​ก็​ส่อง​ออกมา​จุด​แสงสอง​จุด​นั้น​ ราวกับว่า​มีดวงตะวัน​เล็ก​ๆ สอง​ดวง​ที่​ก่อ​เกิดขึ้น​มาใน​หมอก​ แสงอัน​เสียดแทง​ส่อง​ออกมา​

“ฮี่ๆ ที่แท้​ก็​เป็นยอด​ฝีมือ​!” กลิ่น​เหม็น​ฉุนเฉียว​ส่งออก​มาจาก​บริเวณ​ใกล้​ๆ กับ​ดวงตะวัน​

หนอนหนังสือ​ดีด​สามสาย​ใน​รวดเดียว​ เสียง​ขิม​ดัง​สนั่นหวั่นไหว​ และ​ตัวโน้ต​ทั้ง​สามก็​ก่อ​ขึ้น​มาเป็น​เส้น​เดียว​ก็​ดับ​แสงตะวัน​ทั้งสอง​ดวง​ เสียง​ฉาด​ของ​วัตถุ​หนัก​ตกลง​ไป​ใน​ผิวน้ำ​ดัง​มา

หมอก​ใน​บริเวณ​โดยรอบ​ค่อยๆ​ จางลง​ไป​ และ​ทุกคน​ก็​กลับมา​มองเห็น​รอบข้าง​อีกครั้ง​

ฉิน​มู่และ​วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​มอง​ไป​รอบ​ๆ และ​พวกเขา​ก็​เห็น​หนวด​ราก​มหึมา​มากมาย​ลอย​อยู่​เหนือ​ผิวน้ำ​ บน​หนวด​ราก​เหล่านั้น​มีปุ่ม​ดูด​ที่​มีขนาด​กว้าง​วา​ครึ่ง​ และ​แต่ละ​ปม​ดูด​นั้น​ก็​ดูด​ติด​เทพ​ไม่ก็​มาร​เอาไว้​!

เทพเจ้า​เหล่านั้น​ยังคง​หอบ​หายใจ​อย่าง​หนักหน่วง​ กระนั้น​พวกเขา​ก็​แสงสีหน้า​ราวกับว่า​หายใจไม่ออก​

พวกเขา​ส่งเสียง​โหยหวน​ออกมา​ และ​ใบหน้า​ของ​พวกเขา​ก็​เหี่ยวแห้ง​ลง​ไป​อย่าง​รวดเร็ว​ แม้กระทั่ง​กาย​เนื้อ​ของ​พวกเขา​ก็​ซูบ​ลง​ๆ ทุกที​ จนกระทั่ง​กลายเป็น​ศพ​แห้ง​ซาก​

หนอนหนังสือ​ผู้​ซึ่งอยู่​บน​หลัง​ลา​ ดีด​แครอท​ให้​กระเด้ง​ ลา​ก็​เดิน​ไป​ข้างหน้า​ต่อ​ด้วย​การ​ไล่ตาม​แครอท​ไป​

ฉิน​มู่รีบ​ตาม​ไป​ และ​เมื่อ​เขา​มายัง​จุด​ที่​แสงดับ​หาย​ เขา​ก็​เห็น​ศีรษะ​กลม​ๆ มหึมา​ที่​เหมือนกับ​เกาะ​อัน​กว้าง​ร้อย​ลี้​ลอย​อยู่​บน​ผิวน้ำ​ ที่​ยอด​ของ​ศีรษะ​นั้น​ถูก​เฉือน​ตัดออก​ และ​ดวงตา​ใน​สมอง​อัน​เปลือยเปล่า​ไร้​กะโหลก​นั้น​ก็​ดูเหมือน​จะถูก​เฉือน​ตัด​ไป​โดย​สิ่งมีคม​บางอย่าง​!

มีศพ​ของ​เผ่า​เทพ​และ​เผ่า​มาร​อยู่​ทั่ว​ทุกหน​แห่ง​ และ​พวก​มัน​ก็​ห้อย​ลง​มาจาก​หนวด​ราก​อัน​หยาบ​หนา​ เหลือ​แต่​ผิวหนัง​กลวง​เปล่า​เอาไว้​

ฉิน​มู่และ​คณะ​ผ่าน​สิ่งมหึมา​ระดับ​จ้าว​พิภพ​นี้​ไป​ และ​เขา​ก็​เงย​ศีรษะ​มองดู​ พบ​ว่า​พวก​ตน​มาถึงชายฝั่ง​แล้ว​

ตรงหน้า​พวกเขา​คือ​ขุนเขา​เท​วะ​ และ​มัน​ก็​มีรัศมี​อัน​เหี้ยมโหด​ที่​หมุน​วน​ไป​รอบ​ๆ ยอดเขา​

ฉิน​มู่เหลียวหลัง​กลับ​ไป​มอง​ และ​สิ่งประหลาด​นั่น​ก็​ค่อยๆ​ จมลง​ไป​ใน​ทะเล​ หาย​ลับ​ไป​อย่าง​ไร้​ร่องรอย​

“กำลัง​ฝีมือ​ของ​ครึ่ง​เทพ​ตน​นี้​แข็งแกร่ง​อย่าง​สุดขีด​ขั้ว​ แต่​พี่​ท่าน​ก็​สามารถ​สังหาร​เขา​ไป​ได้​เพียงแค่​ดีด​เครื่องสาย​ไม่กี่​เส้น​ โน้ตดนตรี​ขิม​ของ​ท่าน​ได้​ย่างกราย​สู่เต๋า​ ข้า​สงสัย​ยิ่งนัก​ว่า​ใน​ด้าน​เพลง​ขิม​แล้ว​ ท่าน​จัด​ว่า​อยู่​อันดับ​เท่าไร​ใน​โลก​หล้า​” ฉิน​มู่ถาม

หนอนหนังสือ​เงย​ศีรษะ​มอง​ไป​ยัง​รัศมี​อัน​อำมหิต​สอง​เส้น​และ​กล่าว​ “ความสามารถ​ที่​ล้ำเลิศ​ที่สุด​ของ​ข้า​คือ​ศิลปะ​ทั้ง​สี่ ข้า​ได้​อุทิศ​ความพากเพียร​ไป​กับ​พวก​มัน​มาก​ ความสามารถ​รอง​ลงมา​ระดับ​สอง​ของ​ข้า​คือ​อาวุธ​ ข้า​ละ​เล่น​กับ​พวก​มัน​จนกระทั่ง​ข้า​บรรลุ​ความสำเร็จ​ไม่มาก​ไม่น้อย​ ความสามารถ​ชั้นหนึ่ง​ของ​ข้า​สามารถ​จัด​ได้​เป็น​อันดับ​หนึ่ง​หรือ​สอง​ ส่วน​ความสามารถ​ชั้นสอง​ของ​ข้า​ที่​ข้า​ละ​เล่น​ไป​เรื่อยเปื่อย​นั้น​ เป็น​เพียง​ระดับ​สามัญธรรมดา​ ขิม​ของ​ข้า​เคย​แพ้​อยู่​ครั้งหนึ่ง​ ข้า​พ่ายแพ้​ให้​กับ​จักรพรรดิ​แดง​ฉีเสีย​อวี๋”​

สีหน้า​ของ​เขา​หมองหม่น​ไป​และ​กล่าว​ “ความสามารถ​ของ​หญิง​ผู้​นั้น​ไม่ธรรมดา​ ความสำเร็จ​ของ​นางใน​ศิลป์​แห่ง​ขิม​ถึงกับ​เหนือ​ล้ำ​ไป​กว่า​ข้า​”

กำลัง​ฝีมือ​ของ​จักรพรรดิ​แดง​วิเศษ​โดดเด่น​ และ​นาง​เป็นยอด​ยุทธ​ฝีมือ​แกร่ง​ขั้น​บัลลังก์​จักรพรรดิ​ ฉิน​มู่เคย​ได้​รับฟัง​ทำนองเพลง​ขิม​ของ​นาง​มาก่อน​ และ​เมื่อ​ครั้งนั้น​ ตอนที่​เขา​และ​พุทธเจ้า​ท้าว​สักกะ​ได้​หลบหนี​ออกจาก​พุทธ​เกษตร​ จักรพรรดิ​แดง​ฉีเสีย​อวี๋​ก็ได้​ส่งท่วงทำนอง​หงส์​เพลิง​หาคู่​สมเพื่อ​ไล่ล่า​พวกเขา​มาข้าม​โลก​มิติ​ เพียงแค่​ท่วงทำนอง​ขิม​อย่าง​เดียว​ก็​เพียง​พอที่จะ​ทำให้​พุทธเจ้า​ท้าว​สักกะ​ได้รับบาดเจ็บ​

หนอนหนังสือ​ผู้​นี้​ถึงกับ​สามารถ​ต่อสู้​กับ​นาง​ด้วย​ขิม​ปะทะ​ขิม​ และ​ไม่เสียชีวิต​ นี่​แสดงถึง​ฝีมือ​ของ​เขา​!

“เดิมที​ข้า​คิด​ว่า​ขิม​ของ​ข้า​สามารถ​นับ​เป็น​อันดับ​หนึ่ง​ และ​บัดนี้​เมื่อ​ข้า​มาคิด​ๆ ดู​แล้ว​ หมากล้อม​ของ​ข้า​ก็​น่าจะเป็น​อันดับ​หนึ่ง​เสีย​มาก่อน​ อันดับ​ความ​เชี่ยวชาญ​ของ​ข้า​ควรจะ​เรียก​ไป​จาก​หมากล้อม​ อักษร​วิจิตร​ ภาพเขียน​ และ​ขิม​”

หนอนหนังสือ​ขี่​ลา​และ​ปีน​ไต่​ขุนเขา​เท​วะ​ เขา​โบ​กวี​พัด​ขนนก​และ​กล่าว​ด้วย​รอยยิ้ม​ “จ้าว​ลัทธิ​ฉิน​ เจ้าคิด​อย่างไร​กับ​อันดับ​ของ​เจ้าใน​เรื่อง​ขิม​และ​หมากล้อม​”

ฉิน​มู่ถอนหายใจ​และ​กล่าว​ “ข้า​ไม่มีความเข้าใจ​ใน​สอง​เรื่อง​นี้​เลย​สัก​นิดเดียว​”

หนอนหนังสือ​กล่าว​ด้วย​รอยยิ้ม​ “ข้า​คิด​ว่า​จ้าว​ลัทธิ​ฉิน​ผู้ยิ่งใหญ่​จะเก่งกาจ​ไป​ทุก​เรื่องราว​เสีย​อีก​ ไม่คาดคิด​เลย​ว่า​เจ้าก็​จะมีเรื่อง​ที่​ไม่รู้​ด้วย​เช่นกัน​”

ฉิน​มู่นำ​เอา​พู่กัน​ออกมา​และ​กล่าว​ด้วย​รอยยิ้ม​ “ใน​เมื่อ​ฝีมือ​อักษร​วิจิตร​ของ​ท่าน​เป็น​อันดับ​สอง​ ท่าน​สามารถ​เขียน​ถ้อยคำ​ให้​ข้า​สัก​สอง​สามคำ​ได้​หรือไม่​”

หนอนหนังสือ​ยก​พู่กัน​ขึ้น​มา “มัน​จะยาก​ตรง​ไหนล่ะ​ เจ้าอยาก​ให้​ข้า​เขียน​อะไร​”

“เขียน​แค่​ว่า​ ฉิน​เฟิงชิง”

หนอนหนังสือ​เขียน​ชื่อ​ของ​ฉิน​มู่ลง​ไป​บน​กระดาษ​ และ​ฉิน​มู่ก็​รับ​พู่กัน​กับ​กระดาษ​กลับมา​ เขา​เพ่ง​พิศดู​ถ้อยคำ​เหล่านี้​อย่าง​ละเอียด​ และ​สายตา​ของ​เขา​ก็​กระเพื่อม​สั่น​ไหว​ “หมู่บ้าน​ไร้กังวล​อยู่​ที่ไหน​”

หนอนหนังสือ​หัน​ศีรษะ​กลับมา​และ​กล่าว​ด้วย​รอยยิ้ม​ “ความคิด​ของ​จ้าว​ลัทธิ​นี่​กระโดด​ไป​กระโดด​มาจริงๆ​ พวกเรา​กำลัง​สนทนา​เรื่อง​ศิลป์​ทั้ง​สี่อยู่​ชัด​ๆ แล้ว​ทำไม​จู่ๆ เจ้าก็​เริ่ม​พูดถึง​หมู่บ้าน​ไร้กังวล​ เจ้าทำให้​ข้า​ฉงน​ฉงาย​”

“ท่าน​เคย​ไป​ที่​หมู่บ้าน​ไร้กังวล​มาก่อน​ และ​ท่าน​อาจจะ​เพิ่ง​ออก​มาจาก​ที่นั่น​ด้วยซ้ำ​!”

ฉิน​มู่นำ​เอา​ปูม​บันทึก​สาแหรก​ตระกูล​ออกมา​และ​เปิด​ไป​ยัง​จุด​ที่​มีชื่อ​ของ​เขา​อยู่​ “บน​เรือ​ของ​พ่อ​ข้า​ ข้า​ได้​เห็น​ลายมือ​ของ​ท่าน​ ชื่อ​หลาย​ชื่อ​ใน​ปูม​บันทึก​ตระกูล​ฉิน​ท่าน​เป็น​คนเขียน​! และ​บน​หน้า​สุดท้าย​พ่อ​ของ​ข้า​เขียน​ชื่อ​ข้า​ลง​ไป​ ลายมือ​ของ​เขา​คล้าย​กับ​ท่าน​มาก​ เห็นได้ชัด​ว่า​เขา​เรียน​ภาพเขียน​และ​อักษร​วิจิตร​มาจาก​ท่าน​ และ​พยายาม​ที่จะ​เลียนแบบ​ท่าน​! ท่าน​มาจาก​หมู่บ้าน​ไร้กังวล​!”

เขา​พลัน​ตื่นเต้น​ขึ้น​มา “ครูบา​สวรรค์​จื่อ​ซี หมู่บ้าน​ไร้กังวล​อยู่​ที่ไหน​กัน​แน่​ จักรพรรดิ​ก่อ​ตั้งอยู่​ที่นั่น​หรือไม่​ ทำไม​เขา​ถึงไม่ปรากฏตัว​ออกมา​ตลอดเวลา​สอง​หมื่น​ปี​ที่​ผ่านพ้น​”

หนอนหนังสือ​เงียบ​ไป​ และ​นาง​ก็​พลัน​แย้มยิ้ม​ “ทายาท​แห่ง​จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​มิใช่ชนชั้น​ธรรมดา​สามัญเลย​จริงๆ​ ข้า​นั้น​ได้​เขียน​ชื่อ​หลาย​ชื่อ​ใน​ปูม​บันทึก​ตระกูล​ฉิน​ก็​จริงอยู่​ แต่​ข้า​ไม่เคย​เขียน​ชื่อ​ของ​เจ้า เจ้าให้​ข้า​เขียน​ชื่อ​เจ้านั้น​เป็นการ​จู่โจมที่​ข้า​ไม่ทัน​ตั้งตัว​เลย​จริงๆ​ เพราะ​ข้า​ก็ได้​ลืม​ไป​แล้ว​ว่า​ข้า​เคย​สอน​ภาพเขียน​และ​อักษร​วิจิตร​ให้​แก่​ฉิน​หา​นเจิน”​

นาง​หันหน้า​กลับมา​มอง​ฉิน​มู่ด้วย​สายตา​เวทนา​เล็กน้อย​ นาง​ส่าย​ศีรษะ​ “เจ้าอย่า​อยาก​จะกลับ​ไป​ที่​หมู่บ้าน​ไร้กังวล​เลย​ ปล่อยวาง​ความคิด​นี้​ไป​เถอะ​และ​มีชีวิต​อยู่​ให้​ดี​ ข้า​ได้​พบ​เจ้าและ​เจ้าก็​ไม่เลว​เลย​สักนิด​ เจ้าไม่ได้​ทำให้​จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​เสียชื่อ​…ลวี่เจิง​ พวกเรา​ไป​กัน​เถอะ​!”

นาง​ดีด​แครอท​ และ​ลา​นั้น​ก็​พลัน​กระโจน​ทะยาน​ไป​ยัง​ยอด​สุด​ของ​แท่น​ประหาร​เทพ​ ลา​นั้น​ร้อง​ฮวี้​ออกมา​ และ​ร่าง​ของ​เขา​ก็​สั่นเทิ้ม​แปลง​เป็น​เทพ​เจ้าหัว​ลา​ ด้วย​ร่างกาย​อัน​เต็มไปด้วย​มัด​กล้าม​ เขา​ยื่นมือ​ทั้งสอง​ออก​ไป​เพื่อ​คว้า​จับ​รัศมี​อำมหิต​บน​แท่น​ประหาร​เทพ​เอาไว้​!

รัศมี​อัน​อำมหิต​ทั้งสอง​คือ​มีด​ปริศนา​ประหาร​เทพ​แห่ง​ปราสาท​สวรรค์​นี้​ พวก​มัน​ถูกลา​จับ​เหวี่ยง​ไปมา​ราวกับ​มังกร​ยักษ์​สอง​ตัว​ และ​เขา​ก็​ใช้มัน​ฟาด​ผ่า​ภูเขา​!

แท่น​ประหาร​เทพ​ถูก​ผ่า​ออก​เป็น​สอง​เสี่ยง​ และ​โลหิต​สด​ก็​พลัน​พวยพุ่ง​ออก​ไป​อย่าง​ดุเดือด​จาก​ขุนเขา​เท​วะ​ ใน​เพียง​ไม่กี่​ชั่ว​อึดใจ​ แท่น​ประหาร​เทพ​ตรงหน้า​ก็ได้​กลายเป็น​ทะเล​โลหิต​ที่​กีด​ขวางทาง​ไป​ต่อ​ข้างหน้า​!

“ฉิน​เฟิงชิง นี่​ไม่ใช่สถานที่​ที่​เจ้าจะเข้ามา​ได้​ กลับ​ไป​ซะ!”

เสียง​ของ​หนอนหนังสือ​ดัง​มาจาก​ข้างหน้า​ “หากว่า​เจ้าไม่เฉลียวฉลาด​จน​เกินไป​ ข้า​ก็​ยังคง​พา​เจ้าติดตาม​ไป​แสวง​ประสบการณ์​ด้วย​ได้​ แต่ทว่า​ เจ้านั้น​ฉลาด​เกินไป​ ดังนั้น​กลับบ้าน​ไป​เถอะ​!”

ฉิน​มู่มอง​ตรง​ไป​ข้างหน้า​ และ​เขา​เห็น​ทะเล​เลือด​ขยายตัว​กว้าง​ขึ้น​ทุกที​ๆ รัศมี​อำมหิต​อัน​ถูก​บดขยี้​กระจาย​เกลื่อน​ไป​ทุกหนทุกแห่ง​ใน​ทะเล​ และ​พวก​มัน​ก็​ก่อ​รูป​ขึ้น​มาเป็น​ภาพ​เงาของ​มาร​ร้าย​และ​สัตว์ประหลาด​ต่างๆ​ ทำให้​ใครก็ตาม​ยาก​จะข้าม​พ้น​!

ฉิน​มู่เอง​ก็​มีมีด​ปริศนา​ประหาร​เทพ​ และ​เขา​รู้​ถึงต้นกำเนิด​ของ​แท่น​ประหาร​เทพ​ แท่น​ประหาร​เทพ​นี้​เป็น​ของ​เลียนแบบ​แท่น​ประหาร​เทพ​ใน​สภาสวรรค์​หลง​ฮั่น​ อัน​สามารถ​ดูดกลืน​ปราณ​และ​โลหิต​ของ​เทพเจ้า​ได้​ ใครก็ตาม​ที่​มีบาดแผล​แม้เพียง​เล็กน้อย​บน​แท่น​ประหาร​เทพ​ ปราณ​และ​โลหิต​ของ​พวกเขา​ทั้งหมด​ก็​จะถูก​มีด​เท​วะ​และ​ขุนเขา​เท​วะ​ช่วงชิง​ไป​

ครั้งหนึ่ง​จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​เคย​กล่าวว่า​ยุคสมัย​จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​เป็น​ยุค​ที่​เหี้ยมโหด​ที่สุด​ เทพเจ้า​อัน​ถูก​ส่งขึ้นไป​ตัดหัว​นั้น​มีจำนวน​นับไม่ถ้วน​ และ​มัน​ก็​กระจ่าง​ชัด​ใน​บัดนี้​ว่า​รัศมี​อำมหิต​ที่​เกิดขึ้น​นั้น​สามารถ​น่าสยดสยอง​ได้​มาก​ขนาด​ไหน​!

แต่ว่า​ หยุด​ข้า​แค่นี้​ไม่ง่าย​นัก​หรอก​!

ฉิน​มู่ล้วง​มือ​เข้าไป​ใน​ถุงเต๋า​ตี้​เพื่อ​คว้า​จับ​กล่อง​เล็ก​หนึ่ง​ขึ้น​มา กล่อง​เล็ก​เปิด​ออกมา​ด้วย​แกรก​

เมื่อ​กล่อง​เล็ก​เปิด​ออก​ กระดูก​และ​พังผืด​ก็​สั่นสะเทือน​ ศีรษะ​อัน​ดุจ​เนื้อ​หยก​ของ​ยอด​ฝีมือ​บัลลังก์​จักรพรรดิ​นั้น​ตื่นเต้น​อย่าง​หา​ที่สุด​มิได้​ และ​มัน​ก็​ดูดกลืน​รัศมี​อำมหิต​และ​ทะเล​เลือด​เข้าไป​!

ฉิน​มู่ยก​กล่อง​ขึ้น​ด้วย​ปราณ​ชีวิต​ของ​เขา​ พลาง​เดิน​เข้าไป​ใน​ทะเล​เลือด​ด้วย​กล่อง​อัน​ลอย​อยู่​ตรงหน้า​เขา​

วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​เร่ง​กิเลน​วารี​ให้​ตาม​ฉิน​มู่ไป​ติดๆ​ เพื่อที่จะ​เห็น​ว่า​กล่อง​เล็ก​ของ​ฉิน​มู่ดูดกลืน​รัศมี​อำมหิต​เข้าไป​ประดุจ​วาฬ​ตัว​หนึ่ง​ ปราณ​และ​โลหิต​ของ​มัน​ยิ่ง​มาก็​ยิ่ง​เข้มข้น​ เยื่อ​พังผืด​ของ​มัน​ก็​กลายเป็น​สีแดงฉาน​ดุจ​โลหิต​ และ​รัศมี​อำมหิต​ใน​ดวงตา​แห่ง​ศีรษะ​หยก​ก็​ยิ่ง​แข็งแกร่ง​ขึ้น​และ​แข็งแกร่ง​ขึ้น​

กิเลน​มังกร​หัวใจ​จะวูบ​มิวูบ​แหล่​ พลาง​โงหัว​ขึ้น​มอง​สำรวจ​กล่อง​เล็ก​นั้น​ และ​กิเลน​วารี​ก็​กระซิบ​ “พี่น้อง​ ทำไม​เจ้าถึงมอง​ไป​ยัง​กล่อง​นั้น​”

กิเลน​มังกร​ตัว​สั่นเทิ้ม​และ​กล่าว​ “ข้า​กำลัง​มองดู​ว่า​กล่อง​นี้​จะกิน​จน​แน่น​เอี๊ยด​เมื่อไหร่​ เจ้ายัง​ไม่ได้​กิน​ยา​วิญญาณ​จึงไม่รู้​ความรู้สึก​ของ​การ​อิ่ม​จน​จุกว่า​เป็น​อย่างไร​ เมื่อ​มัน​อิ่ม​ขึ้น​มา มัน​ก็​จะไม่กิน​อีกต่อไป​…”

ขณะที่​เขา​กำลัง​กล่าว​อยู่​นั้น​ เขา​ก็​พลัน​ได้ยิน​เสียง​เรอ​ดัง​มาจาก​กล่อง​เล็ก​

แกรก​ กล่อง​เล็ก​นั้น​พลัน​ปิด​งับ​ลง​ไป​

กิเลน​มังกร​เลือด​ใน​กาย​เย็นเฉียบ​ และ​เขา​ร้อง​ออกมา​ “ฉิบหาย​!”

รัศมี​อำมหิต​บน​ผิว​ทะเล​พวยพุ่ง​เข้า​มาหา​เขา​ และ​พยุหะ​อักษร​รู​น​นับไม่ถ้วน​ก็​ปรากฏ​รอบ​ๆ กาย​ฉิน​มู่ ขณะที่​เขา​กำลังจะ​ขับเคลื่อน​ทักษะ​เท​วะ​เคลื่อนย้าย​ระยะไกล​อยู่​นั่นเอง​ รัศมี​อำมหิต​ก็​พลัน​สงบเงียบ​ลง​ เมื่อ​มีเสียง​หนึ่ง​ดัง​มาจาก​ส่วนลึก​ของ​ทะเล​ “อาคันตุกะ​ผู้ทรงเกียรติ​ พระ​แม่ธรณี​ได้​เชื้อเชิญ​เจ้า โปรด​ตาม​ข้า​มา!”

ตำนานเทพกู้จักรวาล

ตำนานเทพกู้จักรวาล

Score 10
Status: Completed

อ่าน ตำนานเทพกู้จักรวาล PDF ตอน 1 – 443 คลิกเพื่ออ่าน

( อ่านต่อด้านล่าง )


ในดินแดนรกร้าง ยังมีหมู่บ้านประหลาดซึ่งเต็มไปด้วยผู้เฒ่าพิการ ขาเป๋ เป็นใบ้ ตาบอด หูหนวก

เหล่าคนชราเก็บทารกแรกคลอดที่ลอยน้ำผ่านมาได้ เลี้ยงดูจนเติบใหญ่และตั้งชื่อให้ว่า… ฉินมู่

ฉินมู่ หนุ่มน้อยหน้าซื่อตาใสเจ้าของรอยยิ้มกระชากใจ ‘พี่สาว’ ทั้งหลาย แต่ทำให้ศัตรูเดือดแค้นเจียนตาย

บางคนก็เรียกเขาว่ากวางน้อยเซ่อซ่าที่เห็นเรื่องตื่นเต้นที่ไหนก็โดดไปมุงดู

ไม่ว่าเทพกับมารตีกัน ใครจะยกทัพไปยึดโลกมิติใด หลวงจีนคนนั้นจะกิ๊กกับราชาสวรรค์องค์ไหน

เป็นต้องเห็นเงาร่างหมอนี่ตลอด พับผ่าสิ!

ความอยากรู้อยากเห็นไร้สิ้นสุดของฉินมู่จะคลายปริศนาลึกลับของจักรวาลได้หรือไม่

ความลับของเทพเจ้าโบราณคืออะไร

ใครคือเงามืดที่คอยเก็บเกี่ยวต้นอ่อนของยอดยุทธ์วิชาเทวะตลอดหลายแสนปีที่ผ่านมา…

เด็กหนุ่มผู้นี้จะกลายเป็นผู้กอบกู้จักรวาลให้รอดพ้นจากการถูกทำลายล้างได้หรือไม่

นี่คือการผจญภัยของฉินมู่ผู้เจียมตัวว่าเก่งเป็นอันดับสองของทุกศาสตร์วิชาในโลก!

‘ฉินมู่กะพริบตาปริบอย่างใสซื่อ…แต่ผู้อื่นเห็นแล้วขนหัวลุกแทบตาย’

Options

not work with dark mode
Reset