กิจกรรมการก่อตั้งอวี้กรุ๊ปก่อนหน้านี้ ถึงแม้ว่าผู้บริหารระดับสูงจะไปด้วย แต่ว่าพวกเขาไม่ได้เข้าร่วมเล่นกิจกรรมกับแผนกพนักงาน ดังนั้นเธอกังวลว่าอวี้อี่มั่วจะไม่ไปกับพวกเธอ
มองเห็นดวงตาปรากฏแสงประกาย อวี้อี่มั่วชะงักไปเล็กน้อย เปิดปากพูด“คุณอยากให้ผมไปด้วยกันกับพวกคุณ?”
หร่วนซือซือพูดเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่“ทุกปีทุกคนต้องเล่นกิจกรรม ดูเหมือนว่าคุณไม่เคยเข้าร่วมช่วงการเล่นเกมระหว่างพนักงาน”
อวี้อี่มั่วพูดเสียงเบา“ถ้าหากว่าคุณอยากให้ผมไป ก็ได้”
เขาเป็นหนี้เธอมากพอแล้ว คำเรียกร้องเล็กๆแค่นี้เขาสามารถทำให้เธอพอใจได้
ได้ยินผู้ชายพูดแบบนี้ ใบหน้าของหร่วนซือซือเต็มไปด้วยความดีใจ เธอย้งไม่เคยเห็นท่าทางของอวี้อี่มั่วเล่นเกม ครั้งนี้จะได้เห็นแล้ว
เช้าตรู่วันต่อมา หร่วนซือซือตื่นขึ้นมา เข้าทำงานตามปกติ เพิ่งจะถึงบริษัทคนยังไม่เยอะ ก็ได้รับอีเมลแจ้งให้ทราบจากห้องทำงานประธาน
หลังจากที่อวี้กรุ๊ปครบรอบวันก่อตั้งสองวัน ในอีเมลยังมีสิ่งที่กำชับว่าจำเป็นต้องพาไป และยังยืนยันสถานที่จัดกิจกรรมกับเวลา
ข่าวสารนี้ถูกส่งออกมา ในบริษัทมีความยินดีและกลัดกลุ้ม มีคนตั้งหน้าตั้งตารอคอย เป็นธรรมชาติชาติที่จะมีคนไม่ซาบซึ้งใจ
หร่วนซือซือไปกดน้ำที่ห้องดื่มชา ก็ได้ยินเสียงคนจำนวนมากที่ไม่เห็นด้วย
เธอถือแก้วชาไว้กำลังจะออกไป เมิ่งจื่อหันที่อยู่ด้านข้างก็เปิดปากพูดทันที“ยังมีข่าวร้อนอีก พวกเธอไม่รู้เหรอ?”
“อะไรคือข่าวร้อน?”
“กิจกรรมครั้งนี้ของพวกเรา ประธานอวี้ก็ไปด้วยกันกับพวกเรา และไม่เหมือนกับปีก่อน ครั้งนี้เขาจะเข้าร่วมกิจกรรมกับพวกเราทุกอย่าง เพิ่มความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับพนักงาน!”
“จริงหรือปลอม!ปีที่แล้วพวกเขาไปที่ภูเขาน้ำแข็งประธานอยู่ในวันกิจกรรมก็ไม่ได้พักผ่อน ได้ยินว่าวีดีโอประชุมกับนักธุรกิจต่างชาติในโรงแรม!”
มองเห็นคนด้านข้างไม่เชื่อ เมิ่งจื่อหันพูดอย่างมั่นใจ“จริงๆ!ข่าวด้านนี้ของฉัน เป็นความจริงร้อยเปอร์เซ็นต์!”
ทุกคนเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง ล้วนแต่คาดเดาและเดิมพันกัน หร่วนซือซือสูดหายใจเข้าลึกๆ ก้าวเดินออกมาจากห้องดื่มชา
เสี่ยวหานรู้สึกว่าน่าเบื่อ ก็เดินตามเธอออกไป รีบไล่ตามไปถามหร่วนซือซือ“ซือซือ เธอคิดว่ายังไง ประธานอวี้จะไปหรือไม่ไป?”
หร่วนซือซือสูดหายใจเข้า พยักหน้า“เขาไป”
เมื่อวานเขาพูดตอบรับเธอด้วยตัวเอง น่าจะไม่โกหก
เสี่ยวหานยิ้ม“ถ้าหากประธานอวี้ไปจริงๆ งั้นก็คงจะน่าสนุก”
หร่วนซือซือได้ฟัง ในสมองก็เริ่มจินตนาการท่าทางเล่นเกมของอวี้อี่มั่วโดยไม่รู้ตัว ถึงเวลาเขาคงจะไม่ใช้สีหน้าเยือกเย็นเล่นเกมนะ?
คิดมาถึงตอนนี้ เธอก็อดไม่ได้ที่จะกระตุกยิ้ม
เดินมาถึงหน้าประตูห้องทำงาน เสี่ยวหานยื่นมือไปจับเธอไว้“ตอนเที่ยงทานข้าวด้วยกันสิ?ร้านสเต็กหมูเพิ่งจะเปิดด้านข้าง ได้ยินว่ารสชาติไม่เลว”
หร่วนซือซือมองดูเวลา เหลือเวลาอีกครึ่งชั่วโมงก็จะเลิกงานตอนเที่ยง เธอกำลังจะรับปาก ใครจะรู้โทรศัพท์ในมือก็สั่นสะเทือนขึ้นมากะทันหัน
เธอตกใจ ก้มมองดูชื่อหน้าจอ ตื่นเต้นขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว
คาดไม่ถึงว่าจะเป็นอวี้อี่มั่วที่โทรเข้ามา!
เธอรีบเก็บโทรศัพท์ไว้ ยิ้มให้กับเสี่ยวหาน“ฉันไปรับสายโทรศัพท์ก่อน เดี๋ยวค่อยคุยกัน”
พูดพลาง เธอหมุนตัวกลับเข้าห้องทำงาน กดรับสาย
“ฮัลโหล?”
อยู่ในเวลางานเขาโทรศัพท์มาหาเธอกะทันหัน หรือว่าจะมีเรื่องอะไรด่วน?”
เสียงต่ำของผู้ชายดังมาจากในสาย“ตอนเที่ยงอยากทานอะไร?”
หร่วนซือซือนิ่งอึ้งไป เปิดปากพูดเสียงเบา“เมื่อกี้เสี่ยวหานพูดว่ามีร้านสเต็กหมูรสชาติไม่เลว…”
ผู้ชายด้านนั่นพูดอย่างไม่ลังเล“ผมไปเป็นเพื่อนคุณ”
หร่วนซือซือชะงัก รู้สึกมึนงง
วันนี้อวี้อี่มั่วเป็นอะไรไป เป็นฝ่ายนัดเธอทานข้าว นี้เป็นความผิดปกติโดยสิ้นเชิง!
“อ้อ…”หร่วนซือซือกะพริบตา ถามเสียงเบา“มีเรื่องอย่างอื่นไหม?”
อวี้อี่มั้วพูดเสียงเบา“อืม ทานข้าวเสร็จ ตอนบ่ายผมพาคุณไปที่โรงพยาบาล ไปตรวจร่างกายอย่างละเอียด
หร่วนซือซือได้ฟัง ตอบรับอย่างลังเล“งั้น…ก็ได้”
“อีกยี่สิบนาทีคุณก็ลงมาได้เลย ผมรอคุณที่โรงจอดรถใต้ดิน”
“ค่ะ”
หลังจากที่วางสายโทรศัพท์ หร่วนซือซือได้ยินคำพูดเหล่านั้นของผู้ชาย ก็รู้สึกประหลาดใจ
ทำไมถึงต้องการพาเธอไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลอย่างละเอียดล่ะ?
หลังจากหยุดไปครึ่งนาที หร่วนซือซือก็คิดในสมอง ทันใดนั้นก็นึกถึงเมื่อวานฉากที่คุณย่าพูดที่บ้านเก่า ตอนนั้นคุณนายใหญ่จับมือของเธอ กำชับให้อวี้อี่มั่วหาเวลาพาเธอไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาล ขาดอะไรต้องบำรุงอะไร เพื่อเตียมจะมีลูก
คิดไม่ถึงว่า…วันนี้เขาก็จะพาเธอไปโรงพยาบาล
เธอคิดไปคิดมา ในสมองก็คิดภาพที่ไม่สามารถบรรยายออกมาได้ แก้มก็แดงขึ้นมาทันที
ทันใดนั้น ประตูห้องทำงานก็ถูกผลักเข้ามา เสี่ยวหานโผล่หน้าเข้ามา“ซือซือ คิดดีหรือยัง!”
หร่วนซือซือยิ้มขอโทษไปให้เธอ“ฉัน…ฉันมีธุระตอนบ่าย อาจจะไปทานข้าวกับเธอไม่ได้”
“ไม่เป็นไร งั้นก็ครั้งหน้าแล้วกัน”
มองเห็นเสี่ยวหานออกไป หร่วนซือซือจึงตบแก้มที่ร้อนผ่าวของตัวเองเบาๆ สูดหายใจเข้าลึกๆ เก็บของเตรียมตัวออกไป
มาถึงโรงจอดรถใต้ดิน ขึ้นมาในรถ อวี้อี่มั่วก็สตาร์ทรถ เปิดปากถาม“จะไปทานที่ไหน?”
“อ้อ แล้วแต่คุณสิ”
ถ้าหากว่าไปทานที่ร้านสเต็กหมูที่เธอพูดนั้น เกรงว่าจะพบเพื่อนร่วมงานในบริษัทเยอะ…
“ได้”
อวี้อี่มั่วเหยียบคันเร่ง ขับรถออกไป
มาถึงร้านอาหารหูหนาน อวี้อี่มั่วพาหร่วนซือซือเดินเข้าไป นั่งที่นั่งริมหน้าต่าง
เวลาที่สั่งอาหาร หร่วนซือซือดูเมนูอาหาร ไม่รู้ว่าควรสั่งอะไรดี ถือโอกาสให้พนักงานได้แนะนำเมนูอาหารจานพิเศษ
“นี้เป็นไก่ทอดผัดซอสจานพิเศษสามารถลองชิมได้ รสชาติอร่อยมาก ยังมีเนื้อหมูตากแห้งจากครอบครัวเกษตร…”
หร่วนซือซือฟังพนักงานแนะนำอาหารให้ตัวเอง ทันใดนั้นก็รู้สึกว่าขามีอะไรบางอย่างมาดึงไว้
เธอก้มลงไปมอง ก็มองเห็นเด็กผู้ชายหน้าตาน่ารัก อายุประมาณสามสี่ขวบ กำลังดึงกระโปรงไม่ยอมปล่อย
“หนุ่มน้อย นายมาจากที่ไหน?”
หร่วนซือซือมองไปรอบด้าน ก็มองไม่เห็นผู้ปกครอง เด็กผู้ชายจองมองด้วยดวงตากลมโต ดึงกระโปรงเธอไม่ยอมปล่อย
เขามองหร่วนซือซือ และมองไปที่น้ำผลไม้ในมือเธอ ท่าทางน่ารักมาก ผ่านไปสักพัก จึงพูดเสียงเบา“น้ำผลไม้…”
หร่วนซือซือได้ฟัง จึงเข้าใจ รีบหยิบแก้วรินน้ำผลไม้ส่งให้เขา“ค่อยๆดื่มนะ…”
อวี้อี่มั่วนั่งอยู่ตรงหน้า มองเห็นหร่วนซือซือที่น้ำเสียงและสีหน้าท่าทางอ่อนโยนมาก อดไม่ได้ที่จะกระตุกมุมปาก
“ขอโทษค่ะ!ขอโทษค่ะ!รบกวนพวกคุณแล้ว!”
มีผู้หญิงคนหนึ่งวิ่งเข้ามา จับเด็กผู้ชายเอาไว้ พูดขอโทษหร่วนซือซือ
หร่วนซือซือส่ายหน้าและยิ้ม“ไม่เป็นไร เขาน่ารักมาก”
ผู้หญิงคนนั้นยิ้ม ยื่นมือจะอุ้มเด็กผู้ชายขึ้นมา แต่พบว่าเด็กผู้ชายยังจับกระโปรงของหร่วนซือซือไว้แน่น
ผู้หญิงจงใจพูดจริงจัง เปิดปากพูดขู่“เซวียนเซวียน ปล่อยมือ นายรังแกพี่สาวแบบนี้ อาที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามก็จะตีนายนะ!”
เด็กผู้ชายได้ฟัง ดวงตาโตก็กวาดสายตายมองหร่วนซือซือ หลังจากนั้นก็หันกลับไปมองที่อวี้อี่มั่ว ลังเลเล็กน้อย จึงยอมปล่อยมือ
มองเห็นผู้หญิงอุ้มเด็กผู้ชายคนนั้นไป หร่วนซือซือก็ยิ้ม ดวงตามีความอ่อนโยนมากขึ้น
อวี้อี่มั่วที่นั่งอยู่ตรงหน้าเลิกคิ้วขึ้นทันที เปิดปากถาม“คุณชอบเด็ก?”
หร่วนซือซือแทบจะไม่ลังเลอะไรเลย ก็พยักหน้า“อืม”
เธอเพิ่งจะพูดจบ ทันใดนั้นก็นึกถึงอะไรขึ้นได้ ระงับสีหน้าของใบหน้าเอาไว้ เปิดปากถาม“แล้ว…คุณล่ะ?”
อวี้อี่มั่วเงยหน้าขึ้น พูดเบาๆ“พอได้”
หร่วนซือซือตื่นเต้นขึ้นมา ถามต่อไป“แล้วคุณ ชอบเด็กผู้ชายหรือว่าเด็กผู้หญิง?”