ตู้เยี่ยที่กำลังขับรถอยู่ได้ยิน รีบเหยียบเบรกทันที เปลี่ยนเลน กลับรถที่สี่แยก
ฝนด้านนอกไม่มีแนวโน้มว่าจะหยุดลง กลับจะยิ่งตกหนักขึ้นเรื่อยๆ อวี้อี่มั่วมองออกไปนอกหน้าต่างที่เหมือนมีชั้นหมอก อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วแน่น
เร็วมาก รถก็กลับไปที่สตาร์ออฟไลท์พลาซ่า แต่ที่หร่วนซือซือยืนอยู่เมื่อกี้ว่างเปล่าไม่มีอะไรเลย!
อวี้อี่มั่วเอื้อมมือออกไปเปิดประตูและลงจากรถ ตู้เยี่ยรีบหยิบร่มตามลงไป กางร่มให้กับเขา
ตู้เยี่ยหันหน้ากลับไปมองบริเวณรอบๆ ก็มองไม่เห็นเงาคน“ทำไมไม่มีคนแล้ว?”
อวี้อี่มั่วดวงตามืดครึ้ม เขารับร่มจากมือตู้เยี่ย พูดเสียงหนักแน่น“แยกย้ายกันหา!”
…..
“ฮัดชิ่ว!”
หร่วนซือซือนั่งอยู่บนรถ จามติดต่อกันหลายครั้ง
“ให้กระดาษทิชชูคุณ”มาพร้อมกับเสียงของผู้ชายที่อ่อนโยน ทันทีหลังจากนนั้น ก็มีกระดาษทิชชูหนึ่งห่อส่งมาที่ตรงหน้าเธอ
หร่วนซือซือดึงมาสองสามแผ่น ถือโอกาสเปิดปากพูด“ขอบคุณ”
เมื่อกี้เธอยืนอยู่ด้านหน้าของสตาร์ออฟไลท์พลาซ่ารอรถนานมากแล้ว ก็ไม่มีรถแท็กซี่สักคัน เธอกำลังรู้สึกหมดหวัง ทันใดนั้นก็มีรถขับเข้ามา ลดกระจกลง เป็นน้องชายของอวี้อี่มั่วอวี้กู้เป่ย
ตอนนั้นเธอไม่รู้จะทำยังดี จำเป็นต้องขึ้นรถของเขา
มองเห็นรถขับตรงไปทิศทางที่ไม่คุ้นเคย หร่วนซือซืออดไม่ได้ที่จะถาม“พวกเราจะไปไหนกัน?”
อวี้กู้เป่ยที่อยู่ข้างๆไม่รีบร้อน กระตุกริมฝีปากพูดกับเธอ“พาคุณไปหาที่อาบน้ำอุ่น เปลี่ยนผ้าก่อน”
หร่วนซือซือจิตใต้สำนึกสั่งให้ปฏิเสธ“ไม่…ไม่ต้อง ฉันกลับบ้านก็ได้แล้ว”
บนตัวของเธอเปียกเยอะมากแล้ว หนาวจากศีรษะถึงเท้า ถึงแม้ว่ารู้สึกไม่สบาย แต่ว่าเธอก็ไม่อยากจะรบกวนอวี้กู้เป่ย
ถึงอย่างไร พวกเขาก็เคยพบกันสองครั้ง ไม่ได้สนิทกันมาก
“คุณกลับบ้านแบบนี้อาจจะเป็นหวัดได้ ผมมีคอนโดอยู่ใกล้ๆหนึ่งห้อง ผมพาคุณไป สะดวกมาก
ได้ยินอวี้กู้เป่ยพูดขนาดนี้ หร่วนซือซือก็ไม่กล้าปฏิเสธ เธอก้มมองเสื้อผ้าที่เปียกบนร่างกาย ก็พยักหน้า“งั้นก็รบกวนคุณแล้ว”
ได้ยินเธอพูดแบบนี้ ทันใดนั้นอวี้กู้เป่ยก็หัวเราะออกมา“รบกวนอะไร?คุณเป็นพี่สะใภ้ผม ครอบครัวเดียวกันไม่จำเป็นต้องพูดเกรงอกเกรงใจขนาดนั้น”
ได้ยินคำเรียกชื่อนี้ หร่วนซือซือก็นิ่งอึ้งไป หลังจากนั้นก็รีบยิ้มเกรงใจไปให้เขา
ถ้าหากนับตามลำดับญาติ ความจริงก็เป็นแบบนั้น
เร็วมาก รถก็เข้ามาในคอนโดมีระดับ หยุดรถลงชั้นล่างตึก
หร่วนซือซือเดินตามอวี้กู้เป่ยกับลูกน้องเข้าไปข้างใน มาถึงคอนโด
ผลักประตูเข้าไป สีของห้องล้วนเป็นสีขาวดำเทา ดูเรียบง่ายและสะอาดมาก
หร่วนซือซือเดินเข้าไป อวี้กู้เป่ยก็พูดน้ำเสียงอบอุ่น“ด้านหน้าประตูมีรองเท้าแตะคู่ใหม่ของผู้หญิง ในห้องพักแขกก็มีเสื้อผ้าชุดใหม่ทั้งหมด คุณเลือกที่เหมาะสม มีน้ำอุ่น คุณสามารถอาบน้ำได้เลย”
หร่วนซือซือพยักหน้าให้กับเขา“ขอบคุณ”
พูดจบเธอก็เดินเข้าไปในห้องพักแขก
เห็นประตูปิดลง สีหน้าของอวี้กู้เป่ยก็เปลี่ยนเป็นเย็นชา ครู่ต่อมา เขาเอียงศีรษะเล็กน้อย สั่งผู้ชายที่อยู่ด้านข้าง“เซ่าโจว นายไปต้มชาขิง”
“ครับ คุณชาย”
หร่วนซือซืออาบน้ำเสร็จ ใช้ผ้าขนหนูเช็ดผม ใส่เสื้อเชิ้ตกับกางเกงธรรมดาที่หาเจอจากในตู้เสื้อผ้า หลังจากนั้นก็ออกมาจากห้องพักแขก
ในห้องรับแขก อวี้กู้เป่ยนั่งอยู่บนรถเข็นไฟฟ้า กำลังเปิดดูนิตยสารที่อยู่ในมือ สีหน้ามุ่งมั่นจริงจัง จากมุมของหร่วนซือซือ พอดีกับที่สามารถมองเห็นขนตายาวนั้นของอวี้กู้เป่ยได้
ถึงแม้ว่าเขาจะหน้าตาเหมือนกับอวี้อี่มั่วมาก แต่ว่าพวกเขาทั้งสองคนเป็นคนสองประเภทที่แตกต่างกัน อีกคนใจเย็นหยิ่งยโส อีกคนฉลาดแหลมคมอ่อนโยน
แต่จะไม่พูดก็ไม่ได้ พันธุกรรมของตระกูลอวี้แข็งแกร่งมาก ไม่ว่าจะเป็นประเภทไหน ก็ล้วนดีเลิศและมีรังสีสะท้อนรอบทิศทาง ทำให้คนไม่สามารถละสายตาได้
สังเกตได้ถึงสายตาของคนอื่น อวี้กู้เป่ยเงยหน้าขึ้นมา มองเห็นหร่วนซือซือ ก็กระตุกริมฝีปากทันที ปิดหนังสือที่อยู่ในมือและวางลง
“อุ่นขึ้นหรือยัง?ผมให้เซ่าโจวเตรียมชาขิงให้คุณแล้ว คุณดื่มสักหน่อย”
หร่วนซือซือมองตามสายตาของเขา มองเห็นชาขิงร้อนๆวางอยู่บนโต๊ะ ในใจก็อบอุ่นขึ้นมา
จิบชาขิงร้อนๆเข้าไปหลายอึก ไม่นาน หร่วนซือซือก็รู้สึกว่าแผ่นหลังมีเหงื่อออก ร่างกายก็ค่อยๆอุ่นกลับมา
อวี้กู้เป่ยอยู่ด้านข้าง ทันใดนั้นก็ถาม“วันนี้คุณไปร่วมงานนิทรรศการอัญมณีใช่ไหม?”
หร่วนซือซือพยักหน้า นึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นภายในงาน สายตาของเธอก็มืดครึ้มลง
“งั้นคุณไม่ได้ไปด้วยกันกับพี่ใหญ?”
“เขา…”หร่วนซือซือตอบไม่ได้ กัดริมฝีปาก“ความสัมพันธ์ของพวกเรายังไม่สามารถเปิดเผยได้ ดังนั้น…”
อวี้กู้เป่ยได้ฟัง ก็พยักหน้า มองเห็นสีหน้าที่ผิดหวังของหร่วนซือซือ พูดจูงใจเสียงเบา“ความจริงพี่ใหญ่มีเรื่องอีกมากมายที่ไม่อาจทำตามใจตัวเองได้ เรื่องเหล่านี้คุณต้องเข้าใจ”
ได้ฟังอวี้กู้เป่ยช่วยอวี้อี่มั่วพูด หร่วนซือซือก็แปลกใจ
ครั้งก่อนที่อยู่บ้านเก่า อวี้กู้เป่ยไม่ได้มีทัศนคติแบบนี้กับอวี้อี่มั่ว
ไม่สามารถแบกรับความแปลกใจในใจได้ หร่วนซือซืออดไม่ได้จึงเปิดปากถาม“ฉันอยากถามคุณมาตลอด ทำไมคุณกับอวี้อี่มั่วถึงกลายเป็นแบบนี้?”
ไม่ว่ายังไงก็ตาม พวกเขาก็เป็นพี่น้องกัน จะสามารถมีความแค้นที่ฝังลึกอะไรขนาดนั้น?
อวี้กู้เป่ยกระตุกมุมปากยิ้มด้วยความขมฝาด หยุดไปสักพัก เขาจึงเปิดปากพูด“เพราะว่าผมกับพี่ใหญ่ไม่ใช่พี่น้องร่วมสายเลือด”
หร่วนซือซือได้ฟัง นิ่งอึ้งไป“หา?”
อวี้กู้เป่ยพูดเบาๆ“พวกเราเป็นพี่น้องพ่อเดียวกันแต่คนละแม่”
ได้ฟังเขาพูดแบบนี้ หร่วนซือซือจึงตอบสนองกลับมา เดิมทีก็เป็นความสัมพันธ์นี้ ไม่น่าแปลกใจที่อวี้อี่มั่วจะเกลียดอวี้กู้เป่ย และก่อนหน้านี้เธอคิดว่าพวกเขาเป็นพี่น้องร่วมสายเลือดกัน คาดไม่ถึงว่าพวกเขาจะมีหน้าตาคล้ายกัน…
อวี้กู้เป่ยพูดต่อไป“ตอนที่ผมอายุสิบหกปี เข้ามาในตระกูลอวี้ด้วยกันกับแม่ พี่ใหญ่จะไม่ชอบผมก็เป็นเรื่องปกติ
มองเห็นสีหน้าของอวี้กู้เป่ยรั่วไหลความหดหู่ หร่วนซือซืออดไม่ได้ที่จะเปิดปากพูดปลอบใจ“ความจริง ฉันรู้สึกว่าคุณเป็นคนดีมาก เขาต้องยอมรับคุณแน่นอน เพียงแต่เป็นปัญหาเรื่องเวลา”
อวี้กู้เป่ยได้ยิน กวาดสายตามองด้วยความหดหู่ ยิ้มให้เธออย่างเปิดเผย“หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น”
ทั้งสองคนพูดคุยกันสักพัก บังเอิญมองเห็นเวลา หร่วนซือซือจึงตอบสนองกลับมาว่าเธอควรจะออกจากที่นี่ได้แล้ว
อวี้กู้เป่ยกดรถเข็นไฟฟ้า ส่งเธอหน้าประตู และแลกเปลี่ยนข้อมูลการติดต่อกับเธอ“ซือซือ หลังจากนี้ถ้าหากคุณต้องการให้ช่วย สามารถมาหาผมได้”
หร่วนซือซือยิ้มให้กับเขา“ได้”
ลูกน้องของอวี้กู้เป่ยเซ่าโจวก็ขับรถมาส่งเธอกลับบ้าน
เร็วมาก เธอก็มาถึงคฤหาสน์
ฝนด้านนอกยังคงโปรยปราย หร่วนซือซือถือร่ม เดินเข้ามาในคฤหาสน์
เข้ามาที่ประตูใหญ่ ป้าหรงเข้ามาต้อนรับด้วยสีหน้าลนลาน“คุณนาย ในที่สุดคุณก็กลับมาแล้ว!เปียกฝนไหมคะ?”
หร่วนซือซือส่ายหน้ายิ้มให้กับเธอ“ป้าหรง ฉันไม่เป็นไร”
เธอเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว ตอนนี้อยากกลับไปพักผ่อนที่ห้อง
“ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว คุณชายอยู่ที่ห้องหนังสือ ฉันจะไปบอกเขาสักหน่อย…”
ป้าหรงพูดพลาง ก็เดินตามเธอขึ้นไปข้างบน
หร่วนซือซือหยุดไปชั่วขณะ เปิดปากเรียกเธอ“ป้าหรง ไม่ต้อง”
เรื่องของเธอเกรงว่าอวี้อี่มั่วไม่ได้เป็นห่วงเลยสักนิด ไม่อย่างนั้นเขาจะทิ้งเธอไว้ที่สตาร์ออฟไลท์พลาซ่าคนเดียวเหรอ?
ป้าหรงหยุดการกระทำไปชั่วขณะ หันหน้าไปมองหร่วนซือซือ จึงสังเกตเห็นสีหน้าเธอไม่ปกติ“คุณนาย เป็นอะไรคะ?”
“ไม่เป็นไร”
หร่วนซือซือส่ายหน้า ไม่ได้พูดอะไรอีก เดินตรงขึ้นกลับไปห้องนอน
“ปัง”เสียงประตูปิดลง ทางเดินอีกด้านหนึ่ง มีเงาของร่างสูงยืนอยู่
สายตาของอวี้อี่มั่วมืดครึ้ม เมื่อกี้หร่วนซือซือพูดคำพูดเหล่านั้นกับป้าหรง เขาได้ยินทุกอย่าง