ดั่งรักบันดาล 53

ตอนที่ 53

เมื่อนึกถึงฉากที่เธอใช้ถุงน้ำแข็งประคบให้เฉิงจื่อเซียว ดูเหมือนว่าจะสนิทสนมกันเกินไป ยังไงอวี้อี่มั่วก็เป็นสามีที่แม้จริงของเธอ……

แต่เขาก็บังเอิญเข้ามาเห็นเข้าพอดี

หร่วนซือซือถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ แล้วหันหลังเดินกลับไปที่ห้องรับรองข้างๆห้องรับแขก

ในห้องรับแขกข้างๆ อวี้อี่มั่วนั่งตรงข้ามกับเฉิงจื่อเซียวด้วยสีหน้าที่บึ้งตึงและอารมณ์ไม่ดี

เฉิงจื่อเซียวเอนหลังพิงโซฟาแล้วหยิบถุงน้ำแข็งมาประคบแขน แววตาของเขายิ้ม “ประธานอวี้ ผมรอคุณอย่างยากลำบาก แถมยังบาดเจ็บอีก”

ผู้ช่วยที่อยู่ข้างๆทนดูไม่ได้อีกต่อไป เขารีบพูดด้วยความเคารพ “ประธานอวี้ ประธานเสี่ยวเฉิงของเราไม่ชอบถูกบังคับ ต้องขออภัยคุณด้วย ครั้งนี้เรามาเพื่ออยากจะพูดคุยและขอความร่วมมือจากคุณ”

อวี้อี่มั่วเลือบมองไปที่เฉิงจื่อเซียวแล้วพูดเบาๆ “ขอโทษด้วย ฉันมองไม่เห็นความจริงใจของบริษัทที่มั่งคั่ง ฉันมีเวลาจำกัด รอให้พวกคุณพร้อมกว่านี้แล้วเราค่อยมาร่วมมือกัน”

ในขณะที่พูดเขาก็ลุกขึ้นติดกระดุมเสื้อสูทด้วยมือเดียวแล้วเดินออกไป

“ประธานอวี้ เดี๋ยวก่อน!”

ผู้ช่วยของเฉิงจื่อเซียวใจสลาย เขารีบลุกขึ้นแล้วเดินตามไปยื่นเอกสารให้อวี้อี่มั่ว

เฉิงจื่อเซียวไม่เห็นด้วย เขายิ้มและพูดติดตลกว่า “เสี่ยวหลัว ในเมื่อเขาคิดว่าพวกเราไม่จริงใจ งั้นก็ช่างมันเถอะ!ถึงอย่างไรครั้งนี้ฉันก็ไม่ได้มาเสียเที่ยว ฉันได้พบกับผู้ช่วยตัวเล็กที่น่ารักและคุยสนุก!”

อวี้อี่มั่วยื่นอยู่ที่ประตู เมื่อได้ยินที่เขาพูดก็ขมวดคิ้ว แล้วหันกลับไปมองเขาที่นั้งทำตัวตามอำเภอใจอยู่บนโซฟา และพูดทีละคำว่า “เธอ คุณไม่สามารถแตะต้องได้”

“ทำไม?” เฉิงจื่อเซียวตื่นตตัวขั้นมาทันที “นี่ประธานอวี้ตั้งใจจะเป็นศัตรูกับผมหรอ?”

อวี้อี่มั่วเม้มริมฝีปากเบาๆ สายตาของเขาเย็นชา “ไม่ทำไม แตะต้องไม่ได้ก็คือแตะต้องไม่ได้”

เขาทิ้งคำพูดที่เยือกเย็นนั้นไว้ แล้วหันหลังเดินออกไปอย่างไม่ลังเล โดยไม่มองเอกสารที่ส่งมาให้เขา

เสี่ยวหลัวผู้ช่วยของเฉิงจื่อเซียวถอนหายใจ “ประธานเสี่ยวเฉิง คุณจะให้ผมกลับไปอธิบายกับประธานเฉิงยังไง!”

เฉิงจื่อเซียวขมวดคิ้ว “ไม่ต้องกังวล ฉันจะไม่ทำให้คุณลำบาก”

ในขณะที่พูดเขาจ้องไปที่ประตูและพูดพึมพำ “ฉันชักจะชอบผู้หญิงคนนั้นซะแส้วสิ!”

อวี้อี่มั่วเดินออกมาจากห้องรับแขกด้วยสีหน้าอึมครึมไม่น่ามอง เมื่อตู้เยี่ยเห็นก็เดินเข้ามาถามว่า “ประธานอวี้ เป็นอะไรไป?”

อวี้อี่มั่วถามว่า “หร่วนซือซืออยู่ที่ไหน?”

ตู้เยี่ยพูดเบาๆว่า “อยู่ที่ห้องรับรองข้างๆ”

เมื่ออวี้อี่มั่วได้ยินอย่างนั้นก็หยุดชะงัก และรีบเดินกลับไปที่ห้องรับรอง

เมื่อเดินมาถึงหน้าประตู เขาก็ผลักประตูเข้าไป และเห็นหร่วนซือซือนั่งอยู่บนโซฟาอย่างไม่เป็นสุข เขาปิดประตูและล็อคอย่างไม่ลังเล

เมื่อหร่วนซือซือเห็นการกระทำของอวี้อี่มั่ว ใจของเธอก็เต้นแรงขึ้นพร้อมกับเสียงล็อกประตู “ก๊อก!” เธอรีบลุกขึ้น “ฉัน…เมื้อตะกี้ไม่ทันได้ระวังทำนำร้อนลวกประธานเสี่ยวเฉิง ก็เลยไปเอาถุงน้ำแข็งมาประคบให้เขา”

แม้ว่าเธอจะอธิบาย แต่อวี้อี่มั่วก็ไม่หยุดเดิน เขาเดินตรงมาข้างหน้าเธอ และค่อยๆเข้ามาใกล้

หร่วนซือซือหายใจเบาๆ แล้วเอนตัวลงช้าๆอย่างลุกลี้ลุกลน

อวี้อี่มั่วพูดอย่างจริงจัง “เธอจำสถานะของตัวเองได้ไหม?”

หร่วนซือซือตกตะลึง “ห่ะ?”

เมื่ออวี้อี่มั่วนึกถึงฉากที่เขาเห็นเมื่อตะกี้ ในใจของเขาก็รู้สึกหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก “ตอนนี้เธอเป็นผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว เธอต้องรักษาระยะห่างกับผู้ชายคนอื่นๆ เข้าใจไหม?”

ยิ่งไปกว่านั้นเฉิงจื่อเซียวเป็นเพลย์บอย เขาเปลี่ยนผู้หญิงเหมือนเปลี่ยนเสื้อผ้า นางแบบกับดาราสลับซับเปลี่ยนกันไปเกือบทุกวัน ถ้าหร่วนซือซือกับเขาสนิทสนมกันมากขึ้น เธอจะต้องถูกเอาเปรียบแน่ๆ

หร่วนซือซือจ้องมองเขาและพยักหน้าอย่างงุนงง “ฉัน…เข้าใจแล้ว”

อวี้อี่มั่วขมวดคิ้วแน่นและพูดอย่างเคร่งขรึม “ฉันหวังว่าต่อไปจะไม่เห็นเหตุการณ์แบบนี้อีก!”

เขาพูดด้วยน้ำเสียงออกคำสั่ง ทำให้หร่วนซือซือสั่นสะท้านและพูดอะไรไม่ออก

เมื่อนึกถึงท่าทางของเขาเมื่อคืนก่อน หร่วนซือซือก็เศร้าเสียใจจนสุดจะบรรยาย

เธอก้มหน้าและยักไหล่โดยไม่รู้ตัว “จะไม่มีครั้งหน้าแล้ว”

เมื่อเห็นว่าดวงตาของเธอเริ่มแดง อวี้อี่มั่วก็ขมวดคิ้วและเดินออกไปอย่างใจร้าย

เมื่อตู้เยี่ยที่ยืนอยู่หน้าประตูเห็นอวี้อี่มั่วเดินออกมาด้วยสีหน้าที่บึ้งตึง และหร่วนซือซือก็ยืนอยู่ในห้องอย่างน่าสงสาร

เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วรีบเดินตามอวี้อี่มั่วไป “ประธานอวี้ คุณหญิงเป็นอะไรไป?”

อวี้อี่มั่วมองเขาด้วยสายตาเย็นชา “สนใจเรื่องของนายเองจะดีกว่า”

ตู้เยี่ยหยุดพูดและไม่ถามอะไรอีก

อวี้อี่มั่วเดินไปข้างหน้า ในหัวของเขามีแต่ภาพใบหน้าที่เศร้าเสียใจของหร่วนซือซือ เขาก็ไม่อยากจะใจร้ายกับเธอ แต่ถ้าเขาดีกับเธอเกินไป ถึงตอนนั้นกลัวว่าไม่รู้จะเอ่ยปากยังไง……

ความเจ็บปวดที่ยาวนานเทียบไม่ได้กับความเจ็บปวดสั้นๆ แต่ก็ไม่ดีเท่ากับการใจร้ายกับเธอตั้งแต่แรก

หร่วนซือซือเศร้าสลดในห้องรับรองอยู่นาน จากนั้นก็ค่อยๆได้สติกลับมา เธอสูดหายใจเข้าแล้วเดินออกไป

เธอไม่รู้ว่าจู่ๆทำไมอวี่อี่มั่วถึงมีท่าทีแบบนี้กับเธอ เขาจริงจังและไร้ความปรานีมากขึ้นทุกครั้ง ทำให้เธอรู้สึกว่าไม่คุ้นเคย

เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ใช่คนแบบนั้น

หร่วนซือซือถอนหายใจเบาๆ และเดินไปอย่างงุนงงโดยไม่ได้สนใจรอบๆ

“อะแฮ่ม!ผู้ช่วยหร่วน!”

จู่ๆก็มีเสียงผู้ชายคนหนึ่งดังมาจากด้านหลัง

หร่วนซือซือเงยหน้าขึ้นมอง เธอเห็นเฉิงจื่อเซียวยืนพิงราวบันได เธออดไม่ได้ที่จะแปลกใจ

ทำไมเขายังไม่ไป?

เมื่อเฉิงจื่อเซียวเห็นใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความสงสัย เขาก็ยิ้มและพูดว่า “อยากจะถามว่าทำไมผมถึงยังไม่ไปใช่ไหม?”

เขายิ้มน้อยยิ้มใหญ่แล้วพูดต่อว่า “เพราะว่าฉัน…รอเธออยู่”

แม้ว่าในใจของหร่วนซือซือจะยอมรับว่าเฉิงจื่อเซียวก็ไม่เลว แต่เมื่อเธอได้ยินเขาพูดแบบนี้เธอก็อดไม่ได้ที่จะขนลุกไปทั้งตัว

เมื่อนึกถึงคำพูดเมื่อตะกี้ของอวี้อี่มั่ว เธอก็สูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วเงยหน้าขึ้นพูดอย่างเคร่งขรึมว่า “ประธานเสี่ยวเฉิง ฉันกับคุณไม่สนิทกัน ฉันยีงมีงานต้องทำ ขอโทษด้วยนะคะฉันต้องขอตัวก่อน”

ในขณะที่พูดเธอก็กำลังจะก้าวเท้าเดินไป

เมื่อเฉิงจื่อเซียวเห็นอย่างนั้นก็เข้ามาขวางทางเธอ “ผู้ช่วยหร่วน ทำไมเธอถึงเป็นคนที่ไม่มีเหตุผลอย่างนี้?ฉันก็แค่อยากจะนัดเธอไปทานข้าวเท่านั้น”

หร่วนซือซือสูดหายใจเขาลึกๆ “ต้องขอโทษด้วยค่ะ ฉันแต่งงานแล้ว”

ในขณะที่พูดเธอก็มือซ้ายของตัวเองขึ้น

เฉิงจื่อเซียวเห็นแหวนบนนิ้วนางของเธอก็ประหลาดใจ

เธอแต่งงานแล้ว?

เมื่อเขาหายจาการตกตะลึงและได้สติกลับมา เขาก็ไม่เห็นหร่วนซือซือแล้ว

เมื่อผู้ช่วยเสี่ยวหลัวที่อยู่ข้างๆเห็นอย่างนั้นก็พูดว่า “ประธานเสี่ยวเฉิง คุณควรจะยอมแพ้ได้แล้วนะ!”

เฉิงจื่อเซียวหยุดชะงักและพูดอย่างจริงจังว่า “ไม่ได้!”

ในขณะที่พูดเขาก็มองไปที่เสี่ยวหลัว “ไปสืบมาให้ฉัน เธอแต่งงานกับใคร แล้วแต่งเมื่อไหร่”

ไม่ง่ายเลยที่เขาจะได้เจอกับผู้หญิงที่ตัวเองสนใจ ไม่คิดเลยว่าเธอจะแต่งงานแล้ว นี่พระเจ้ากำลังเล่นตลกกับเขาอยู่ใช่ไหม!

เสี่ยวหลัวพูดอย่างช่วยไม่ได้ “ประธานเสี่ยวเฉิง ผมว่าช่างมันเถอะ!”

เฉิงจื่อเซียวพูดด้วยน้ำเสียงดื้อรั้นและเย็นชา “ไม่ได้!ฉันต้องการรู้ว่าใครเป็นสามีของเธอ แท้จริงแล้วมีบทบาทยังไง!”

ผู้หญิงที่เขาหมายปอง ไม่เคยมีใครหลุดมือมาก่อน ยิ่งไปกว่านั้นครั้งนี้เขาได้พบกับผู้หญิงที่เขาสนใจ

Options

not work with dark mode
Reset