ดั่งรักบันดาล 43

ตอนที่ 43

หร่วนซือซือสูดหายใจเข้าลึกๆ หันหน้าไปมองเสี่ยวหานที่อยู่ข้างๆ“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับประธานอวี้จริงๆ”

เสี่ยวหานถอนหายใจออกมา“งั้นเธอก็ต้องหาวิธีอธิบาย ถึงอย่างไรทุกคนก็นึกว่าเธอมีใจชื่นชอบต่อประธานอวี้เป็นอย่างมาก หน้าด้านไร้ยางอาย…”

อธิบาย?กลัวว่าเธออธิบาย ก็ไม่มีคนฟังคำอธิบายของเธอ

“ติ๊ง——”เสียงดังขึ้น ประตูลิฟท์เปิดออก หร่วนซือซือกับเสี่ยวหานเดินออกจากลิฟท์มาพร้อมกัน ตรงไปที่ประตูทางออก

ทันใดนั้น คนที่อยู่ด้านข้างก็เดินเข้ามาที่พวกเธอ

“ซือซือ!”

หร่วนซือซือเงยหน้าขึ้นไป ก็คือเพื่อนร่วมงานผู้ชายแผนกการเงิน ซ่งหัง

“ซ่งหัง คุณก็เพิ่งเลิกงานเหรอ?”

ซ่งหังยิ้มให้เธอ พยักหน้าและพูด“บังเอิญมาก”

เขาชะงักไปเล็กน้อย และทักทายเสี่ยวหาน หลังจากนั้นก็กลับไปมองหร่วนซือซืออีก“คุณจะไปไหน?ให้ผมไปส่งคุณที่บ้านไหม?”

เผชิญหน้ากับความกระตือรือร้นและขยันหมั่นเพียรของซ่งหัง หร่วนซือซือรู้สึกไม่เป็นธรรมชาติ เธอยื่นมือไปควงแขนเสี่ยวหานไว้ ยิ้มปฏิเสธ“ฉันกับเสี่ยวหานนัดไปกินข้าวด้วยกันแล้ว”

ซ่งหังได้ฟัง ยิ้มและเกาหัว“งั้นก็ได้ พวกคุณไปกินกันเถอะ ครั้งต่อไปถ้ามีโอกาสผมจะไปส่งคุณกลับบ้าน”

“ได้ ลาก่อน”

หลังจากที่ซ่งหังบอกลา หร่วนซือซือก็ดึงเสี่ยวหาน เร่งฝีเท้ารีบออกจากห้องโถงใหญ่ของบริษัท

จนกระทั่งเดินมาไกลแล้ว เสี่ยวหานก็หัวเราะพร้อมถาม“ซือซือ คนที่มีสายตาเฉียบแหลมก็ดูออกว่าซ่งหังชอบเธอ!ฉันรู้สึกว่าเขาดีมาก ทำไมเธอมักจะปฏิเสธเขา?”

หร่วนซือซือความรู้สึกซับซ้อน ก้มหน้ามองแหวนแต่งงานของตัวเอง ไม่รู้ว่าจะอธิบายกับเสี่ยวหานยังไง

เห็นเธอไม่ตอบกลับ เสี่ยวหานก็ไม่ได้โกรธ ดึงเธอพูดต่อไป“ความจริง ฉันมีวิธี สามารถทำให้ข่าวลือในบริษัทตอนนี้เงียบลงไปได้”

หร่วนซือซือรีบถาม“วิธีอะไร?”

“ในบริษัทไม่ได้มีข่าวลือว่าเธอหน้าด้านไร้ยางอายกับประธานอวี้เหรอ?ถ้าหากเธอได้ใกล้ชิดกับผู้ชายคนอื่น อย่างเช่น ซ่งหัง นั่นไม่ใช่เป็นการลบล้างข่าวลือเหล่านั้นให้หายไปสุดลูกหูลูกตาเหรอ?”

หร่วนซือซือได้ฟัง ก็รู้สึกว่ามีเหตุผล แต่ก็รู้สึกว่าแปลกเล็กน้อย

“เพื่อยืนยันว่าฉันกับประธานอวี้ไม่มีอะไรกัน ก็ไปสนิทกับผู้ชายคนอื่น นี่จะมีความหมายไหม?”

เสี่ยวหานพยักหน้า“ใช่ ถึงเวลาค่อยอธิบายอีกที ข่าวลือพวกนั้นก็จะได้ไม่โจมตีตัวเอง”

หร่วนซือซือลังเลไม่แน่ใจ“แต่ว่าทำแบนนี้ ไม่ใช่จะใช้ประโยชน์จากซ่งหังเหรอ?”

“จะคิดว่าใช้ประโยชน์จากซ่งหังได้ยังไง ซ่งหังชอบเธอ เธอก็แค่ลองสนิทสนมกับเขาเท่านั้นเอง ไม่จำเป็นต้องพัฒนาเป็นแฟนกัน เพียงแค่พิสูจน์ให้ทุกคนรู้ว่าเธอไม่ได้คิดในสิ่งที่ไม่เหมาะสมกับประธานอวี้ แค่นี้ก็พอแล้ว เธอคิดว่าใช่ไหม?”

หร่วนซือซือพยักหน้าด้วยความเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง ในใจยังคงลังเลใจ

หลังจากแยกจากเสี่ยวหาน เธอพิจารณากลับไปกลับมาในใจ ยังคิดวิธีที่ดีกว่านี้ไม่ออก

ชั่วพริบตาเดียว ก็ผ่านไปสองวันแล้ว เดิมทีหร่วนซือซือนึกว่า เวลาผ่านไปหลายวัน ข่าวลือพวกนั้นในบริษัทจะค่อยๆเงียบสงบลง แต่สุดท้าย เธอเพิ่งจะพบว่า ข่าวลือพวกนี้ไม่เพียงแต่จะไม่สงบลง กลับจะมีแนวโน้มเหตุการณ์นับวันยิ่งบานปลายขึ้น

ตอนนี้ไม่ว่าเธอจะเดินไปที่ไหน ก็สามารถดึงดูดสายตาของทุกคน เป็นสายตาที่สงสัย ตัดสินและดูถูก เหมือนกับภูเขาลูกใหญ่ กดทับจนเธอหายใจไม่ออก

ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป รอจนอวี้อี่มั่วกลับมาจากต่างประเทศ แน่นอนว่าจะสามารถได้ยินเรื่องพวกนี้ ถึงเวลานั้น เธอควรจะทำยังไง?

ในใจยิ่งคิดยิ่งไม่สงบ จนสุดท้าย หร่วนซือซือคิดวิธีไม่ออกแล้วจริงๆ หมดหนทาง ทันใดนั้นเธอก็คิดขึ้นได้ที่เสี่ยวหานพูดกับเธอวันนั้น

มาถึงทางที่จนมุมจนตรอกแล้วจริงๆ เธอไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว งานที่เร่งด่วนที่สุดคือทำให้ข่าวลือเหล่านั้นเงียบลงไป ยิ่งมีคนพูดคุยกันน้อยเท่าไหร่ก็ยิ่งดี

การแสดงละครแบบนี้ คนในวงการบันเทิงเล่นกันบ่อยๆ เพื่อระงับเรื่องที่ถูกแฉ เพียงเพื่อใช้การเปิดเผยเรื่องอื่นเบี่ยงเบนความสนใจของทุกคน

เดินมาไกลขนาดนี้ หร่วนซือซือก็สมัครใจ ต่อให้ตัวเองกับซ่งหังออกไปขวางกระสุนปืน เพียงแค่ไม่ส่งผลกระทบต่ออวี้อี่มั่วก็พอแล้ว

หลังจากที่ตัดสินใจแล้ว เธอปลุกความกล้าหาญ เป็นฝ่ายไปหาซ่งหังที่แผนกการเงิน แต่เมื่อถึงหน้าประตูแผนกการเงิน ในที่สุดความกล้าที่เธอรวบรวมไว้ก็หายไปอีกครั้ง

ช่วงเวลาที่เธอไม่รู้ว่าจะเดินหน้าหรือถอยหลังกลับ ทันใดนั้นก็มีคนออกมา บังเอิญมาก ที่เป็นซ่งหัง

ซ่งหังถือเอกสารกองโตไว้ในมือ น่าจะต้องไปส่งที่ห้องเก็บเอกสาร เขามองเห็นหร่วนซือซือ ก็แปลกใจเล็กน้อย และประหลาดใจ“ซือซือ คุณมาอยู่ตรงนี้ได้ยังไง?คุณมาที่นี่เพื่อส่งงบการเงินเหรอ?

“ไม่ใช่”ทันใดนั้นหร่วนซือซือก็ตื่นเต้นขึ้นมา เดิมทีคำพูดที่คิดไว้ก็ไม่รู้ว่าควรจะพูดยังไง

ซ่งหังยิ้มให้เธอด้วยความอดทนมาก“งั้นคุณมาทำอะไร?”

หร่วนซือซือปลุกความกล้าขึ้นมา“ฉัน…มาหาคุณ”

“ผม?”ซ่งหังตื่นตะลึงเพราะได้รับความเมตตาอย่างคิดไม่ถึง

เธอหายใจเข้าลึกๆ“วันนี้ตอนเย็นฉันว่าง จะดีไหมถ้าจะทานข้าวด้วยกัน …”

ซ่งหังตอบรับโดยไม่ลังเล“ได้สิ!”

พวกเขายืนอยู่หน้าประตูแผนกการเงิน คนจำนวนมากที่เดินผ่านไปผ่านมา เพราะว่ารูปภาพภาพนั่น หร่วนซือซือกลายเป็นคนดังในบริษัท ตอนนี้ทุกคนล้วนรู้จักเธอ ดังนั้นการที่เห็นเธออยู่กับผู้ชายคนอื่น อดไม่ได้ที่จะมองหลายครั้ง

ซ่งหังยิ้มและถาม“ซือซือ คุณอยากทานอะไร หม้อไฟเนื้อย่างหรือว่าอาหารเสฉวน?”

หร่วนซือซือถูกคนจ้องมองท่วมตัวก็รู้สึกอึดอัด เธอพูดเสียงเบา“ได้หมด คุณจัดการได้เลย”

เหตุผลที่ต้องนัดกับซ่งหัง ก็เพราะว่าสามารถทำให้ทุกคนหันมาสนใจที่พวกเขา หันเหความสนใจจากอวี้อี่มั่ว

“ได้ งั้นตอนเลิกงานผมจะไปหาคุณที่แผนก”

“ได้”

หลังจากที่พูดกับซ่งหังเสร็จแล้ว หร่วนซือซือหมุนตัวกลับ ก็รีบออกไป

หลังจากทำงานของช่วงบ่าย หร่วนซือซือก็จิตใจฟุ้งซ่าน มักจะคิดว่าตัวเองเลือกถูกต้องไหม แต่ยังไม่ทันที่เธอจะคิดเข้าใจ ตอนบ่ายก็ผ่านไปแล้ว

เพิ่งจะเลิกงานไม่กี่นาที ก็มีคนมาเคาะประตู เสี่ยวหานผลักประตูเข้ามา สีหน้าดีใจและตื่นเต้น เธอมองหร่วนซือซือและพูดเสียงต่ำ“ซือซือเธอทายดูว่าใครมา?”

หร่วนซือซือไม่ได้สนใจ ตอบไปแบบสบายๆ“ใคร?”

“ซ่งหัง!เขารอเธออยู่ที่หน้าประตู!”

ได้ยินเธอพูดแบบนี้ ฉับพลันนั้นหร่วนซือซือก็ตื่นเต้นขึ้นมา เธอพยักหน้า“ฉันจะไปเดี๋ยวนี้”

สูดหายใจเข้าลึกๆ หร่วนซือซือหยิบกระเป๋า ก้าวเดินตรงไปหน้าประตู เวลาที่เดินผ่านเขตห้องทำงาน เพื่อนร่วมงานสองสามคนในแผนกที่ชอบซุบซิบนินทาในวันธรรมดากำลังรวมตัวหัวเราะและพูดคุยอะไรกัน

หร่วนซือซือเดินผ่าน ได้ยินคำพูดแค่ไม่กี่คำ แต่ฟังออกว่าเป้าหมายที่พวกเขากำลังพูดคุยกันคือตัวเอง

เธอกำหมัดแน่น เร่งฝีเท้าตรงไปที่หน้าประตู

ซ่งหังยืนอยู่หน้าประตู สวมเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อน ใบหน้ามีความกังวลและรอคอย เพียงชั่วพริบตาเดียวนั้นเมื่อมองเห็นหร่วนซือซือ สายตาของเขาก็เปล่งประกายขึ้นมา

“ซือซือ ทางนี้!”

หร่วนซือซือรู้ว่าเพื่อนร่วมงานสองสามคนนั้นที่อยู่ไม่ไกลกำลังจ้องมองพวกเขาอยู่ ยิ้มให้กับซ่งหัง เปิดปากถาม“ทำไมคุณถึงมาเร็วจัง?”

“งานที่ติดตัวผมทำเสร็จล่วงหน้าแล้ว ดังนั้นก็มารอคุณ จองร้านอาหารเรียบร้อยแล้ว บรรยากาศดีมาก…”

หร่วนซือซือพยักหน้า เดินไปข้างๆซ่งหัง ทั้งสองคนเดินเคียงข้างกันออกไป

ก่อนที่พวกเขาจะไป เพื่อนร่วมงานหนึ่งคนที่ชอบซุบซิบในแผนกก็กดถ่ายรูปอย่างตื่นเต้น“ว้าว พวกเธอคิดว่า ฉันนำรูปภาพนี้ส่งเข้าไปในกลุ่มแล้วจะเป็นยังไงบ้าง?”

“ก็ลองดูสิ!”

เพื่อนร่วมงานคนนั้นกดโทรศัพท์ ไม่ลังเลที่จะนำรูปภาพของพวกเขาทั้งสองคนที่เพิ่งจะถ่ายส่งเข้าไปในกลุ่ม

Options

not work with dark mode
Reset