ดั่งรักบันดาล 291

ตอนที่ 291

อวี้ชิงซานขมวดคิ้ว และกระพริบตาเล็กน้อย " มีแพทย์ประจำบ้านอยู่แล้ว จะไปโรงพยาบาลทำไมกัน? อาการบาดเจ็บก็ยังไม่ดีขึ้น กลับไปนอนพักผ่อนสะดีดีเดี๋ยวนี้! "

เพียงประโยคนี้ ทำให้อวี้อี่มั่วถึงกับอึ้งและนิ่งอยู่กับที่ เขาเงยหน้าขึ้น แววตาของเขาแฝงไปด้วยความแข็งกร้าว "ที่แท้ท่านก็ทราบดีว่าอาการผมยังไม่ดีขึ้น แล้วทำไมท่านถึงได้ไล่เธอไป?"

อวี้ชิงซานชะงักและทำหน้าจริงจัง " แกหมายความว่ายังไง? โทษว่าเป็นความผิดฉันงั้นหรอ?"

เหอซูผิงเห็นเข้า เธอรีบเข้าไปห้ามปราม " ชิงซาน คุณอย่าโมโหไปเลยค่ะ อี่มั่งคงไม่ได้หมายความว่าแบบนั้นหรอดค่ะ "

เธอพูดพร้อมกับหันไปทางอวี้อี่มั่ว และพูดห้ามปรามเขาว่า " อี่มั่ว นายก็อย่าโมโหไปเลย เลขาหร่วนคนนั้นเธอต้องการจะไปเองไม่ได้เกี่ยวอะไรของพ่อของนายเลย "

" ใช่หรอ? "คิ้วคมเข้มของอวี้อี่มั่วขมวดเข้าหากันด้วยความงุนงง " ไม่ใช่เพราะว่าพวกคุณไปพูดอะไรบางอย่างกับเธอ จนทำให้เธอต้องออกไปไม่ใช่หรอ? "

ใบหน้าของอวี้ชิงซานแดงก่ำเพราะความโกรธ " ฉันว่าแกจะหลงผู้หญิงคนนี้หัวปักหัวปำไปละ! แกกลับมาเดี๋ยวนี้นะ! "

อวี้อี่มั่วเงียบ เขาใส่รองเท้า และลุกเดินออกไป

อวี้ชิงซานขึ้นเสียงใส่เขา " อวี้อี่มั่ว ถ้าวันนี้แกกล้าก้าวขาออกไปแม้แต่ก้าวเดียว! เราขาดกัน!"

เมื่อได้ยินแบบนั้น ฝีเท้าเขาก็หยุดชะงัก เขาหันกลับมา แววตาของเขาเยือกเย็นและลึกล้ำมาก " พ่อครับ ถ้าผมทำผิดแล้วพ่อจะดุด่าว่าตำนิใดๆผมไม่ขัด แต่ท่านช่วยใจกว้างกับผู้หญิงคนนี้หน่อยได้ไหม? "

เขาทิ้งประโยคนี้ไว้ จากนั้นก็หันหลังแล้วเดินออกไปทันที

อวี้ชิงซานยืนนิ่งอยู่ที่เดิม เขาโมโหมากจนพูดอะไรไม่ออก

เหอซูผิงที่อยู่ข้างๆรีบยกมือขึ้นลูบไหล่เขา ทำเป็นปลอบเขาแต่ในแววตาเขานั้นมีประกายของความดีใจและสะใจแฝงอยู่

ตัดเลยตัดเลย พวกเขาสองพ่อลูกยิ่งทะเลาะกันหนักเท่าไหร่ก็ยิ่งดีเท่านั้น!

ถึงในใจเธอจะคิดแบบนี้ แต่สีหน้าของเธอกลับทำเป็นเห็นอกเห็นใจและเข้าใจเขาเป็นอย่างดี " ชองซาน คุณอย่าโมโหไปเลยค่ะ อี่มั่วก็แค่หลงใหลไปชั่วคราว รอให้เขาสงบสติอารมณ์ตัวเองแล้ว เขาเองก็คงจะคิดได้……."

" หึ! " อวี้ชิงซานเหลือบไปมองรถที่กำลังสตาร์ท เขาก็หันหลังด้วยความโกรธ " เลี้ยงลูกเสือลูกจระเข้ชัดๆเลย! ตอนนี้สถานการณ์ของบริษัทวุ่นวายขนาดนี้ แต่เขากลับใจจดใจจ่ออยู่กับแค่ผู้หญิงคนเดียว! ช่างน่าผิดหวังจริงๆ! "

เหอซูผิงพยุงเขาให้ไปที่ห้องรับรอง และประคองเขาให้นั่งลง จากนั้นก็รินชาให้เขา " เอาเถอะค่ะ ผู้ชายก็แบบนี้แหละ ต้องผ่านประสบการณ์แบบนี้แล้ว คุณนั่นแหละอย่าโกรธจนทำให้ตัวเองเสียสุขภาพไปเลย! "

เธอเกลี้ยกล่อนเป็นเวลานานกว่าอวี้ชิงซานจะหายโมโห

สักพัก เธอก็พูดเสนอเขาว่า " ชิงซาน ตอนนี้บริษัทก็วุ่นวายมากขนาดนี้ อี่มั่วยิ่งมาเป็นแบบนี้อีก ฉันเกรงว่าเขาคงไม่มีความ สามารถพอที่จะจัดการได้ เขาบาดเจ็บอยู่ คุณคิดว่าคุณควรจะกลับไปทำงานอีกครั้งไหมคะ ไปปรับเปลี่ยนระบบหลายๆอย่าง! "

" กลับไปทำงานอีกครั้ง? " อวี้ชิงซานขมวดคิ้ว " งั้นฉันก็เสียหน้าหมดสิ?"

ตอนแรกเขาหวังในตัวอวี้อี่มั่วไว้สูงมาก ไม่คาดคิดว่าตอนนี้จะกลับกลายเป็นแบบนี้ไปได้ ถ้าเขากลับไปทำงานตอนนี้ ก็แสดงว่าเขายอมรับว่าลูกชายเขาไม่มีความสามารถมากพอน่ะสิ? ถ้าถึงเวลานั้นคนที่จะเสียหน้าต่อหน้าผู้ถือหุ้นและผู้นำชั้นสูงบริษัทก็เป็นเขาเอง!"

เหอซูผิงแสร้งทำเป็นพูดอย่างกังวลว่า " แล้วแบบนี้จะทำยังไงดีคะ? สถานการณ์ของบริษัทตอนนี้จะไม่มีคนควบคุมบริหารไม่ได้นะคะ! "

เมื่ออวี้ชิงซานได้ยินแบบนั้นก็ขมวดคิ้ว ในใจของเริ่มรู้สึกไม่แน่ใจ

สถานการณ์ของบริษัทตอนนี้ไม่ค่อยดีจริงๆ แล้วอวี้อี่มั่วก็มาเป็นแบบนี้อีก เขาวางใจไม่ลงจริงๆ

พออวี้ชิงซานเงียบไม่พูดเป็นเวลานาน เหอซูผิงเลยขยับเข้าไปพูดขึ้นใกล้ๆเขา " จริงๆแล้ว ฉันมีวิธีหนึ่ง แต่ไม่รู้ว่าเหมาะสมหรือเปล่า "

" วิธีอะไร?"

เหอซูผิงพูดเบาๆว่า " ฉันคิดว่าควรให้กู้เป่ยไปจัดการสถานการณ์ก่อน ให้ตำแหน่งรองประธานกับเขาไปก่อนก็ได้ อย่างน้อยเขาเองก็เป็นลูกชายของอวี้ชิงซานนั่นก็คือลูกชายของคุณนะคะ พอถึงเวลานั้นผู้ถือหุ้นและผู้บริหารชั้นสูงของบริษัทคงจะเริ่มไว้ใจบริษัทเราแล้ว แบบนี้ เขาเองก็ได้แสดงความสามารถด้วย แล้วก็ทำให้อวี้อี่มั่วก้าวข้ามความลำบากนี้ไปได้ด้วยดีด้วย "

อวี้ชิงซานขมวดคิ้ว เขาเงียบและไม่พูดอะไรเป็นเวลานาน

เหอซูผิงเห็นเข้าก็หัวเราะออกมา " นี่เป็นเพียงแค่คำแนะนำหนึ่งเท่านั้น ถ้าคุณคิดว่าไม่เหมาะสมก็ไม่เป็นไรนะคะ ไม่ว่ายังไงเรื่องบริษัทก็ไม่ใช่เรื่องเล็กๆเลย ฉันเองก็ไม่รู้จะทำยังไงเลยมีความคิดแบบนี้ออกมา อีกทั้งหลายปีมานี้กู้เป่ยก็พยายามและตั้งใจมาด……"

" ฉันขอพิจารณาก่อนนะ"

ทันใดนั้นเหอซูผิงก็ดีใจมาก " ได้ค่ะ ฉันเห็นด้วยกับความคิดคุณอยู่แล้ว "

อวี้ชิงซานพยักหน้าและไม่ได้พูดอะไรต่อ

เธอฉีกยิ้มอย่างดีใจ และเปลี่ยนเรื่องคุย

เรื่องแบบนี้เธอไม่รีบร้อนหรอก อนาคตยังอีกยาวไกล เธอจะค่อยๆปูทางให้ลูกชายของเธอ

เมื่อออกจากบ้านตระกูลอวี้ อวี้อี่มั่วนั่งอยู่บนรถพร้อมกับโทรหาหร่วนซือซือหลายสายมากๆ แต่ก็ยังคงไม่มีคนรับสายอย่างเดิม

เขารู้สึกเป็นห่วงและไม่สบายใจ

บวกกับบาดแผลที่หลังของเขา ความอดทนของเขาจึงมาถึงจุดวิกฤต

เขาจอดรถที่ข้างถนน และหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาจากนั้นก็ส่งข้อความให้หลัวยู่ทันที " หลัวยู่ ตรวจสอบประวัติการเดินทางของหร่วนซือซือที ตำแหน่งที่ตั้งสำคัญคือโรงพยาบาล ตรวจดูทีว่าเธอมีประวัติเข้าการรักษาที่ไหนหรือไม่ "

ทางด้านของหลัวยู่ตอบกลับสั้นๆ " ได้ครับ ผมขอเวลาสิบนาที"

หร่วนซือซือเองก็ได้รับบาดเจ็บอยู่ บาดแผลเธอยังไม่หายดี เธอคงไม่ได้ซื่อถึงขั้นกลับบ้านก่อนไปโรงพยาบาลหรอกนะ

หลังจากสิบนาทีผ่านไป หลัวยู่โทรมาหาเขา " เจอแล้วครับ อยู่ที่ศูนย์โรงพยาบาลหลักครับ พึ่งเข้ารับการรักษาเมื่อบ่ายวันนี้ "

อวี้อี่มั่วขมวดคิ้วและพูดนิ่งๆว่า " ส่งรายละเอียดโรงพยาบาลมาให้ฉัน"

หลังจากคุยโทรศัพท์เสร็จ เขาก็สตาร์ทรถและมุ่งตรงไปที่ศูนย์โรงพยาบาลกลัก

ทันทีที่เขาไปถึงห้องพักผู้ป่วย ทันทีที่ไปถึงหน้าประตู เขาก็ได้ยินเสียงของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้น " พยาบาลคะ อาการบาดเจ็บของฉันแบบนี้สามารถกลับไปพักฟื้นที่บ้านได้ไหมคะ?"

" คุณหมอแนะนำว่าทางที่ดีที่สุดคุณควรจะนอนพักฟื้นอยู่ที่โรงพยาบาลนะคะ เผื่อว่าบาดแผลเกิดมีปัญหา และแผลที่เย็บฉีกขาด และที่สำคัญจะเป็นรอยแผลเป็นได้นะคะ……"

หลังจากที่พยาบาลพูดจบ หร่วนซือซือก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ เธอเงียบไปพักใหญ่ก่อนจะถามขึ้นว่า " งั้นฉันขอย้ายไปที่ห้องผู้ป่วยธรรมดา ค่าใช้จ่ายจะได้น้อยลง "

พยาบาลพูดขึ้นอย่างลังเล " แต่ว่าแผลบนตัวคุณจำเป็นต้องถอดเสื้อออกเพื่อทายา ถ้าย้ายไปห้องผู้ป่วยธรรมดา จะมีผู่อยู่ร่วมกันหลายคนนะคะ คุณเป็นผู้หญิงตัวคนเดียวฉันเกรงว่าจะไม่สะดวก "

หร่วนซือซือสูดหายใจเข้าลึกๆ พอคิดถึงเรื่องค่าใช้จ่ายแค่คืนเดียวก็ต้องเสียเงินหลายร้อยหยวน เธอกัดฟันพูดขึ้นว่า " ไม่เป็นไรค่ะ รบกวนคุณช่วยย้ายฉันไปที่ห้องผู้ป่วยธรรมดาหน่อยนะคะ….."

" ไม่ได้! "

เสียงเคร่งขรึมของชายคนหนึ่งดังขึ้น ดังขึ้นขัดจังหวะการสนทนาของเขาทั้งคู่พอดี

หร่วนซือซือตกใจมาก ทันทีที่หันไปมองก็เห็นอวี้อี่มั่วที่สีหน้าเย็นชากำลังสับขาเดินเข้ามา

เขาต้องอยู่ที่บ้านตระกูลอวี้ไม่ใช่หรอ? ทำไมจู่ๆถึงมาโผล่ที่นี่ได้?

พยาบาลเองก็รู้สึกตกใจ เธอรีบหยิบบางอย่างมาบังร่างกายของหร่วนซือซือที่กลังทายาอยู่ตอนนี้ไว้ " คุณผู้ชายท่านนี้ เชิญคุณออกไปก่อนค่ะ……"

อวี้อี่มั่วขมวดคิ้ว แววตาของเขาลึกล้ำมาก " ฉันเป็นคนในครอบครัวของเธอ ทำไมต้องออกไปด้วย?"

เมื่อพยาบาลเห็นหน้าของชายหนุ่มอย่างชัดเจนก็ถึงกับอึ้ง

เธอพึ่งเคยเจอผู้ชายที่หล่อขนาดนี้ในโรงพยาบาลครั้งแรก ออร่าเปล่งประกาย หน้าตาหล่อเหลา น้ำเสียงหนักแน่น นี่มันบอสในละครชัดๆ!

พยาบาลหน้าร้อนและแดง เธอหันไปหาหร่วนซือซือ " คุณ……คุณหร่วนคะ ท่านนี้เป็นคนในครอบครัวของคุณจริงๆหรือคะ?"

หร่วนซือซือหน้าแดง ยังไม่ทันจะได้พูดอะไร อวี้อี่มั่วก็ได้พูดขึ้นก่อน " ใช่ เชิญทายาให้เธอต่อได้เลย "

พยาบาลอมยิ้มและพยักหน้า จากนั้นก็ทานาให้เธอต่อ

ในวินาทีนั้น หร่วนซือซือไม่ได้ยอมรับและไม่ได้ปฏิเสธ เธอหันไปมองอวี้อี่มั่วแล้วถามอย่างขมวดคิ้ว " คุณมาได้ยังไง?"

อาการบาดเจ็บบนร่างกายเขาสาหัสกว่าเธอสะอีก เขาลงจากเตียงมาได้ยังไง?

Options

not work with dark mode
Reset