ดั่งรักบันดาล 242

ตอนที่ 242

เสียงดัง " เพี๊ยะ " การตบของเขาครั้งนี้รุนแรงกว่าครั้งที่แล้วมาก ตบจนหร่วนซือซือหน้าสะบัด และเลือกก็ไหลซิบซิบออกมาตรงมุมปากของเธอ……

ในตอนที่เธอรู้สึกเจ็บปากๆและไม่ทันตั้งตัว ทันใดนั้นเองหลี่เซินเลยยัดผ้าเข้าปากเธออย่างแรง

ในชั่ววินาที ผ้าก็ถูกยัดเข้าปากเธอ และกลิ่นลอยเข้าลำคอทำให้เธอแทบอาเจียนออกมา

" ยัยสารเลว เธอคิดว่าจะหลิกฉันได้งั้นหรอ? " หลี่เซินตวาด " รออีกสักสองชั่วโมง ฉันจะโทรหาอวี้อี่มั่ว และจะคอยดูว่าเขาจะมาหรือไม่! "

หร่วนซือซือวิงเวียนศีรษะ เธอเองก็จนปัญญา เธอเอาหัวพิงข้างประตู และหายใจแรงๆ

ในขณะรี้เอง ก็มีเสียงเรียกเข้าดังขึ้นทำลายบรรยากาศในตอนนี้

หร่วนซือซือได้ยินเสียงที่คุ้นเคย มองตามที่มาของเสียง เธอเห็นโทรศัพท์ของเธอที่วางอยู่ตรงตำแหน่งข้างคนขับ!

สีหน้าเธอตึงเครียดมาก วินาทีต่อมา เธอก็เห็นหลี่เซินยื่นมือไปหยิบโทรศัพท์เธอ

โทรศัพท์สั่น และเสียงโทรศัพท์ก็ยังคงดังอยู่

หลี่เซ็นเหลือบไปมองชื่อผู้ที่โทรเข้ามาบนหน้าจอโทรศัพท์แวบหนึ่ง ทันใดนั่นเขาก็รู้สึกสนุก รอยยิ้มที่เจ้าเล่ห์ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้น และเขย่าไปมาต่อหน้าหร่วนซือซือ " เธอว่า ถ้าฉันกดรับสายจะเป็นยังไง? "

หร่วนซือซือทำหน้าบึ้งตึง เธอเหลือบไปมองชื่อผู้ที่โทรเข้ามา ทันใดนั้นเธอถึงกับตัวแข็งทื่อ

พ่อของเธอนั่นเอง!

ทำไมท่านถึงได้โทรมาในเวลานี้?

เมื่อเห็นนิ้วของหลี่เซินที่กำลังจะกดรับสาย หร่วนซือซือก็รีบส่ายหน้าอย่าบ้าคลั่ง ด้วยความที่มีผ้ายัดอยู่ที่ปากเธอ เธอจึงเปล่งเสียงออกมาได้แค่ " อือ อือ "

รับสายไม่ได้นะ!

อีกไม่กี่วันศาสตราจารย์หร่วนก็ต้องเตรียมผ่าตัดแล้ว จะให้มีเรื่องไปกระทบจิตใจท่านไม่ได้ ถ้าเขาได้ยินว่าลูกสาวของตัวเองโดนลักพาตัว เขาต้องเป็นห่วงและกังวลมากแน่ๆ!

หลี่เซินคิดไม่ถึงว่าปฏิกิริยาตอบสนองของหร่วนซือซือจะจริงจังขนาดนี้ หลังจากนั้นเขาก็อยากเล่นสนุก เขากดรับสายทันที

พอเห็นหร่วนซือซือตัวแข็งทื่อ เขาจึงกดเปิดลำโพง

สักพัก ก็มีเสียงดังขึ้นจากปลายสาย " ฮัลโหล? ซือซือ……"

เป็นเสียงของศาสตราจารย์หร่วนจริงๆ!

หร่วนซือซือยึดตัวตรงและตัวสั่นไปทั้งตัว วินาทีนั้นภายในใจเธอเต็มไปด้วยความผิดหวัง

พอศาสตราจารย์หร่วน ไม่ได้ยินเสียงตอบกลับ จึงพูดขึ้นอีกรอบว่า " ซือซือ ฮัลโหล? "

หลี่เซินแสยะยิ้ม และพูดอย่างเข้มครึมว่า " ซือซือ? ลูกสาวแกสินะ? ไม่ต้องเรียกหรอก เธอโดนฉันจับมาเป็นตัวประกัน ฉันมัดมือมัดเท้า และเอาผ้ายัดปากเธออยู่ ไม่สะดวกคุย "

พอเขาพูดแบบนั้นออกมา ปลายสายก็เงียบไป จากนั้นเสียงที่สั่นคลอนของศาสตราจารย์หร่วนก็ดังขึ้น " แก……แกเป็นใคร? "

" ไม่ต้องรู้หรอกว่าฉันเป็นใคร เอาเป็นว่าลูกสาวแกมันมายุ่งเรื่องของฉัน และทำให้ฉันลำบาก ตอนนี้เธออยู่ในมือฉัน จะขอร้องอ้อนวอนฟ้าดินยังไงก็ไม่มีใครช่วยได้หรอก! "

เขาพูดพร้อมกับหัวเราะอย่างสะใจ

หร่วนซือซือรู้สึกเพียงว่าเหมือนเลือดทั้งหมดในร่างกายไหลย้อนกลับขึ้นไปด้านบนของร่างกาย เธอพยายามออกเสียงและดินรนอย่างหนัก แต่กลับไม่มีผลอะไรกับหลี่เซินเลย แต่สุดท้ายเธอก้มหน้าและจ้องไปที่หลี่เซินด้วยสายตาพิฆาต ทันใดนั้นหลี่เซินก็ยื่นมือมาบีบคอเธออย่างรุนแรง

" ยัยสารเลว! เชี่ยเอ้ย ! "

เขาสบถคำด่าออกมา และผลักหร่วนซือซือให้ไปข้างๆอย่างแรง

เขาผลักประตูรถเปิดออกอย่างโมโหสุดๆ และปิดประตูรถลงอย่างแรง จากนั้นก็มองไปที่เบาะหน้า เหลือบมองโทรศัพท์และพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงโกรธ " ไอ้แก่! ลูกสาวแกนี่มันนางตัวดี! ชอบยุ่งเรื่องของคนอื่นเป็นกิจวัตรประจำวัน จนตัวเองเอาตัวไม่รอด! "

ในขณะเดียวกัน ทางด้านศาสตราจารย์หร่วนกำโทรศัพท์ไว้แน่นด้วยใยหน้าที่ค่อยๆซีดเซียว

คุณนายหลิวที่กำลังรินน้ำอยู่ข้างๆรู้สึกผิดปกติ เธอรีบวางกระติกน้ำร้อนลง และถามขึ้นว่า " คุณหร่วน มีอะไรคะ? "

สีหน้าของศาสตราจารย์หร่วนไม่ดี และมือที่จับโทรศัพท์ก็สั่น " แก…..แกปล่อยลูกสาวฉันนะ! "

ศาสตราจารย์หร่วนหายใจติดขัด เขาโกรธจนหน้าแดง " ซือซือ…..ซือซือโดนจับตัวไป! "

เขาพูดพร้อมกับทำท่าจะลุกขึ้นทันที แต่ยังไม่จะทันลุก ตัวเขาก็แข็งทื่อไปและทันใดนั้นเขาก็ล้มลงกับเตียง

คุณนายหลิวตกใจมาก และรีบตะโกนว่า " คุณหร่วน! คุณหร่วน……"

มือไม้เธอทำอะไรไม่ถูก เธอรีบตะโกนเรียก " คุณหมอคะ คุณหมอ " พร้อมกับรีบวิ่งออกจากห้อง วิ่งไปถึงหน้าประตูถึงคิดได้ว่าบนหัวเตียงมีกริ่งเรียกคุณหมอฉุกเฉิน เธอจึงรีบกลับมากดกริ่งนั้น

" คุณหร่วน! คุณทำใจดีดีไว้นะคะ! " คุณนายหลิวรู้สึกเป็นห่วงมาก เธอตาแดงและน้ำตาก็ค่อยๆล่วงลงมา " คุณหร่วน……คุณหร่วน! "

ในขณะนั้นเอง ประตูห้องก็ถูกผลักออก และมีพยาบาลสองคนวิ่งเข้ามา พอเห็นคนที่นอนอยู่บนเตียง เธอก็รีบเข้ามาตรวจดูเปลือกตาของคนไข้ทันที

คุณหมองเองก็รีบเดินตามเข้ามา พอเห็นถึงสถานการณ์ สีหน้าของเขาก็เคร่งเครียด " เร็ว ไปที่ห้องฉุกเฉิน! "

" คุณหร่วน! " คุณนายหลิวมืดแปดด้านและไม่รู้ควรต้องทำอย่างไรดี เบิกตากว้างมองไปที่ศาสตราจารย์หร่วน วิ่งตามไปอย่างตื่นตระหนก " คุณหมอคะ ขอร้องล่ะช่วยสามีฉันด้วยนะคะ……ต้องช่วยเขาให้ได้นะคะ……"

เธอโดนพยาบาลขวางไว้ให้รออยู่นอกห้องฉุกเฉิน เธอมองดูสามีที่กำลังถูกเข็นเข้าไปยังห้องฉุกเฉิน และประตูก็ปิดลง หลังจากนั้นเธอไม่เห็นอะไรเลย

" ทำไม……ทำไมถึงเป็นแบบนี้?"

คุณรายหลิวเดินรอบๆพร้อมกับน้ำตาล่วงลงอย่างไม่ยอมหยุด

เหตุการณืที่เกิดขึ้นเมื่อกี้มันกะทันหันเกินไป เธอยังไม่ทันเข้าใจอะไรเลย ผู้เป็นสามีก็ถูกส่งเข้าห้องฉุกเฉินไปแล้ว

ทันใดนั้น เธอก็นึกถึงคำพูดสุดท้ายก่อนที่ศาสตราจารย์หร่วนจะสลบไป เธอเสียงสันหลังวาบและตัวสั่นไปทั้งตัว

เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา และรีบโทรหาหร่วนซือซือ แต่ไม่คาดคิดว่าเธอจะปิดเครื่อง!

เกิดอะไรขึ้นกันนะ! เวลานี้หร่วนซือซือต้องอยู่ที่บริษัทสิถึงจะถูก ทำไมถึงได้ปิดเครื่อง? หรือว่าสิ่งที่คุณหร่วนพูดเมื่อกี้จะเป็นความจริง?

ไม่กล้าคิดไปไกล คุณนายหลิวรีบโทรหาอวี้อี่มั่ว

ไม่นาน ก็โทรติด

เสียงของคุณนายหลิวสะอึกเล็กน้อย " เสี่ยวอวี้……เสี่ยวอวี้ เกิดเรื่องใหญ่แล้ว! คุณหร่วนเขาคุยโทรศัพท์และได้ยินว่าหร่วนซือซือโดนจับตัวไป เขากังวลมากจนสลบไปแล้ว ฉันโทรหาซือซือก็โทรไม่ติด หลานว่าควรจะทำยังไงดี……"

ปลายสาย อวี้อี่มั่วที่กำลังมุ่งหน้าไปยังตระกูลเย่ พอได้ยินเสียงที่น่าเป็นห่วงของคุณนายหลิว เขาถึงกับขมวดคิ้วและรีบถามกลับว่า " หร่วนซือซือหายตัวไปงั้นหรอ? "

" ป้าเองก็ไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่……คุณหร่วนเขาพูดก่อนจะสลบ แล้วโทรศัพท์ของหร่วนซือซือก็โทรไม่ติดอีก……

" อาจารย์แม่ ท่านอย่าพึ่งเป็นกังวล ผมจะไปตามหาเธอเดี๋ยวนี้ ถ้าเจอตัวหร่วนซือซือแล้วผมจะโทรหาท่านอีกทีนะครับ! "

เขาพูดปลอบสั้นๆ และรีบวางสาย จากนั้นก็มองไปที่ตู้เยี่ยที่กำลังขับรถอยู่ เขาพูดเสียงเข้มว่า " หยุดรถ! "

เมื่อตู้เยี่ยได้ยิน ก็ค่อยๆลดความเร็วจนรถจอดสนิทอยู่ข้างทาง

ในเวลาเดียวกัน อวี้อี่มั่วก็โทรเข้าไปยังห้องทำงานของประธานบริษัทอวี้กรุ๊ป

ไม่นาน ปลายสายก็มีคนรับ คืออันหร่วน " สวัสดีค่ะ ห้องทำงานประธานอวี้กรุ๊ปค่ะ "

น้ำเสียงอวี้อี่มั่วทั้งเคร่งขรึมและเย็นชา " ฉันคืออวี้อี่มั่ว ไปดูทีว่าหร่วนซือซืออยู่บริษัทไหม! "

ทางด้านอันหร่วนอึ้งไปสักพัก แต่ก็ตอบรับอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ใช้โทรศัพท์อีกเครื่องโทนเข้าไปยังแผนกบริหาร

หลังจากสอบถามเรียบร้อยแล้ว เธอก็พูดขึ้นว่า " ประธานอวี้คะ ตอนนี้หร่วนซือซือไม่ได้อยู่บริษัทค่ะ เธอหายไปตั้งแต่พักเที่ยงจนถึงตอนนี้ก็เป็นเวลาสองชั่วโมงแล้วค่ะ เธอมาหาท่านที่ห้องทำงานด้วยนะคะ พอรู้ว่าท่านไม่อยู่เธอจึงออกไป "

เมื่ออวี้อี่มั่วได้ยินแบบนั้น เส้นเลือดบนหน้าผากของเขาก็เห็นชัดเจนขึ้น เขาเม้มปาก และพูดนิ่งๆว่า " ฉันรู้แล้ว "

เขาพูดพร้อมกับวางสายทันที

แสดงว่าหลังจากที่หร่วนซือซือไปหาเขาที่ห้องทำงาน จากนั้นเธอก็หายตัวไป

เธอไม่ใช่คนที่จะขาดงานโดยไม่มีเหตุผล แสดงว่ามีเพียงทางเดียวที่เป็นไปได้ คนที่จับตัวเธอไปต้องเป็นคนในบริษัท!

Options

not work with dark mode
Reset