ทุกอย่างเกิดขึ้นกะทันหันเกินไป หร่วนซือซือมองดวงตาที่เต็มไปด้วยความหวังของเขา รู้สึกทำตัวไม่ถูกขึ้นมา
"เย้อัน ฉัน……"
น้ำเสียงของซ่งเย้อันอ่อนโยน : "ซือซือ ไม่ต้องรีบตัดสินใจ ฉันให้เวลาเธอได้ ให้เธอได้พิจารณา……"
หร่วนซือซือหรี่ตาลง มองไปรอบๆ ในใจเธอก็เกิดคลื่นเล็กๆ
ที่ผ่านมาไม่เคยเจอผู้ชายที่ใส่ใจเธอขนาดนี้มาก่อน ผู้ชายคนนี้ทั้งอบอุ่นอ่อนโยนและดูแลเอาใจใส่ เป็นผู้ชายในฝันเธอเลย แต่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร ในใจกลับรู้สึกลังเล
"ปัง!"
โต๊ะในห้องอยู่ๆก็มีเสียงดังขึ้น ตามมาด้วยเสียงของซ่งอวิ้นอัน : "โอ๊ะโอ……"
หร่วนซือซือหยุดชะงัก หันไปมอง : "อันอัน?"
ซ่งอวิ้นอันที่ค่อยๆคลานออกจากใต้โต๊ะ ใบหน้าเต็มไปด้วยอาการเก้อเขิน ยิ้มขึ้นอย่างเกรงใจ : "ไม่ทันระวังโดนของเข้า พวกเธอคุยกันต่อเลย……"
ซ่งเย้อันที่ยืนอยู่ข้างๆกลืนไม่เข้าคายไม่ออก กว่าจะสร้างบรรยากาศแบบนี้ได้ ก็โดนซ่งอวิ้นอันกวนเข้า ตอนนี้เขาไปต่อไม่เป็นแล้ว
ซ่งอวิ้นอันเห็นสีหน้าพี่ชายของตัวเองเปลี่ยน รู้ตัวว่าตัวเองงานเข้าแล้ว ก็เลยไม่หลบต่อ ลุกขึ้นไปยืนข้างๆหร่วนซือซือ แตะแขนเธอเพื่อส่งสัญญาณบอกเธอ พูดเบาๆว่า : "ซือซือ พี่ชายฉันชอบเธอมานานมากแล้วนะ! คนอื่นอาจไม่รู้ แต่ฉันรู้แจ่มแจ้งเลยนะ ในห้องนอนของเขามีรูปถ่ายของเธอด้วย"
ซ่งเย้อันทำตัวไม่ถูก รีบปรามน้องสาวตัวเอง : "อันอัน พูดไปเรื่อย……"
"ฉันพูดไปเรื่อยที่ไหน พี่ยังไม่ยอมรับอีกเหรอคะ! พี่น่ะชอบซือซือของเรามานานมากแล้วไม่ใช่เหรอคะ!"
“……”
หร่วนซือซือได้ยินแล้ว เธอชะงักพร้อมกับกระอักกระอ่วนใจ แก้มเธอร้อนและแดงขึ้นนิดหน่อย
เห็นหร่วนซือซือที่มีอาการเคอะเขิน ซ่งเย้อันสูดลมหายใจเข้าปอด : "ซือซือ เธอตัดสินใจได้แล้วหรือยัง? ว่าจะยินดีคบเราเป็นแฟนไหม?"
"ฉัน……"
เห็นเขาที่เดินถือช่อดอกไม้เดินตรงมาที่เธอ เธอกัดริมฝีปากแน่น ลังเลว่าควรจะรับดอกไม้ดีไหม
ห้วงเวลานี้ เธอรู้สึกมีสายตาจ้องมายังเธอ รู้สึกเย็นวาบทั้งแผ่นหลัง
เธอหันกลับไปมอง เห็นอวี้อี่มั่วยืนอยู่นอกประตู ดวงตาดำสนิทของจ้องมองเธอไม่ขยับ
ชั่วอึดใจ เธอก็รู้สึกแน่นอยู่ในอก ใบหน้าเต็มไปด้วยความสับสน
เขามายืนอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? ได้ยินไปขนาดไหน?
บรรยากาศเปลี่ยนไปเป็นความสับสนงุนงง หร่วนซือกัดริมฝีปากแน่น เหมือนน้ำเย็นที่เดือดพล่าน เธอเงยหน้าขึ้น สบตากับซ่งเย้อัน กัดฟันแล้วพูดขึ้นว่า : "ขอโทษนะเย้อัน ฉันยังไม่พร้อมจริงๆ……"
เธอไม่ได้เกลียดเขา แต่ก็ไม่ได้ชอบ แต่จะให้เธอรับรักของเขานั้น เธอเองทำไม่ได้จริงๆ
พูดจบ เธอก็หมุนตัว เดินออกจากห้องรับรองไป ไม่แม้แต่จะมองหน้าอวี้อี่มั่วที่ยืนอยู่นอกประตู เธอวิ่งออกไป ในใจสับสนวุ่นวายไปหมด
"ซือซือ!"
"ซือซือเธอจะไปไหน?"
เสียงของซ่งเย้อันและซ่งอวิ้นอันเรียกตามหลังหร่วนซือซือพร้อมกันอย่างไม่ได้นัดหมาย หร่วนซือซือกัดฟันแน่น อยากออกจากตรงนี้ให้เร็วที่สุด และอยากอยู่เงียบๆคนเดียว
เธอไม่เข้าใจเลย วินาทีที่เธอเห็นหน้าของอวี้อี่มั่ว ในใจของเธอตอนแรกยังแค่ลังเล แต่พอเห็นเขาก็กลับพูดปฏิเสธออกไปเลย ไม่เข้าใจยิ่งกว่านั้นคือความรู้สึกผิดที่อยู่ในใจ
เมื่อเธอวิ่งออกมาจนถึงด้านนอกแล้ว หร่วนซือซือหยุดวิ่ง เธอหายใจหอบ
ห้วงเวลานี้ อยู่ๆก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเดินมาจากด้านหลัง ตามมาด้วยน้ำเสียงต่ำ : "หร่วนซือซือ เธอหนีอะไร?"
ชั่วอึดใจ แขนก็โดนเขาจับไว้ แค่เพียงดึงเบาๆ เธอก็หันไปตามแรงดึง ประจันหน้ากับอวี้อี่มั่วที่สีหน้าเย็นชาเข้าพอดี
"ทำอะไรน่ะ?" หร่วนซือซือหน้านิ่วคิ้วขมวด : "ปล่อย!"
ยังไม่ทันพูดจบ ก็โดนอวี้อี่มั่วดึงแขนไปที่รถ เขาแรงเยอะมาก ไม่กี่วินาทีก็ลากมาถึงข้างรถ แล้วจับเธอยัดเข้าไปในรถ
ปิดประตูและล็อคตาม หร่วนซือซือโดนจับนั่งข้างคนขับ ในใจรู้สึกฉุนจัดขึ้นมา "อวี้อี่มั่ว เป็นบ้าไปแล้วหรือไง?"
เธอไม่ได้ทำอะไรผิด ทำไมต้องทำแบบนี้กับเธอ
อวี้อี่มั่วที่ได้ยินแล้ว ขมวดคิ้วแน่น ความโกรธแผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย หันมาประกบชิดเธอ
เขาเข้าใกล้ เธอก็ขยับถอยเรื่อยๆ จนหลังชิดกับประตูรถ ตัวหดรีบอยู่ในมุมรถ ไม่มีที่จะให้หลบแล้ว เขายื่นมือมา จับไหล่ของเธอไว้
สายตาเย็นยะเยือกจ้องมองมาที่เธอ ริมฝีปากบางเม้มเป็นแนวเส้นตรง พูดขึ้นอย่างเย็นชาว่า : "ถ้าเมื่อกี้ฉันไม่ปรากฏตัว เธอก็รับรักเขาไปแล้ว?"
เมื่อเขาพูดออกมา หร่วนซือซือก้มหน้าลงสีหน้าเอียงอายและลังเล ถ้าเขาช้ากว่านี้ไปอีกก้าว สิ่งที่เขาเห็นอาจจะเป็นคู่รักที่กอดกันอยู่ จบบริบูรณ์ด้วยการมีความสุขสินะ
เมื่อนึกถึงตอนนี้ ในใจก็เหมือนมีไฟมาสุม ร้อนรุ่ม เผาไหม้อยู่ข้างใน
เขาจับไหล่เธอแน่นขึ้น เพื่อเอาคำตอบจากเธอ แล้วพูดขึ้นว่า : "ใช่? หรือไม่ใช่?"
หร่วนซือซือรู้สึกเจ็บแต่ก็ทนไว้ แววตาเต็มไปด้วยความสับสน เธอกัดฟันแน่น เงยหน้าขึ้น รวบรวมความกล้าแล้วตอบกลับไป : "ถึงฉันจะตอบรับไป มันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณรึเปล่า?"
คำพูดเดียว บรรยากาศรอบๆในรถก็เต็มไปด้วยความเย็นยะเยือก
สายตาของอวี้อี่มั่วเย็นชาจนน่ากลัว เขาจ้องมองหน้าของผู้หญิงปากดีคนนี้ ชั่วอึดใจ เขาก็พูดขึ้นว่า : "ลืมไปแล้วเหรอว่าเคยเซ็นสัญญาอะไรไว้? ก่อนสัญญาจะสิ้นสุดลง เธอห้ามคบกับใครนอกจากฉัน!"
หร่วนซือซือเมื่อได้ยินแล้ว สองตาเธอเบิกกว้าง : "เป็นไปไม่ได้!"
เธอเคยอ่านสัญญาแล้ว ถึงแม่จะไม่ได้อ่านละเอียดขนาดนั้น แต่มั่นใจว่าไม่มีข้อนี้
"อวี้อี่มั่ว ฉันก็มีเอกสารสัญญาในมือ คุณอย่ามาหลอกฉันเสียให้ยาก!"
ตอนนั้นสัญญามีเพียงสองฉบับ คู่สัญญาและฝ่ายตรงข้าม ฉันจะไม่เชื่อเขาเด็ดขาด
"เหรอ?" อวี้อี่มั่วหัวเราะเบาๆในลำคอ ยื่นมือไปคาดเข็มขัดนิรภัยให้เธอ : "ถ้าเธอไม่เชื่อ ก็เอาสัญญาออกมา ลองเปรียบเทียบกันดู"
หร่วนซือซือกัดริมฝีปากแน่น : "เปรียบเทียบก็เปรียบเทียบสิ!"
ถึงแม้เธอจะเซ็นสัญญาแล้ว บทความไม่ใช่ของเธอทั้งหมด แต่เธอก็เคารพเงื่อนไขในสัญญาแน่นอน เป็นไปไม่ได้ว่าเขาจะเอาเงื่อนไขในสัญญามาขู่เธอได้!
อวี้อี่มั่วขับรถออกไป เหยียบคันเร่งจนมิด วิ่งไปข้างหน้าด้วยความเร็วสูง
ผ่านไปราวยี่สิบนาที เมื่อถึงจุดหมาย รถจอดลงที่ใต้ตึกคอนโด หร่วนซือซือถอนหายใจ กัดริมฝีปากแน่น : "ฉันจะขึ้นไปเอาสัญญา คุณรอฉันอยู่ที่นี่"
พูดจบ เธอก็เปิดประตูจะลงรถ แต่ยังไม่ทันก้าวออกจากรถ ข้อมือก็โดนจับไว้แน่น
อวี้อี่มั่วพูดขึ้น : "ฉันจะขึ้นไปด้วย"
เขาไม่ได้โง่ ถ้าเธอขึ้นไปแล้วไม่ยอมลงมา จะเปรียบเทียบสัญญายังไง?
หร่วนซือซือขมวดคิ้ว เมื่อโดนจับได้ว่าคิดอะไรอยู่ ทำได้เพียงให้เขาตามขึ้นมาด้วย
ถึงห้องแล้ว เปิดประตูเข้าไป หร่วนซือซือสูดลมหายใจเข้า : "คุณรออยู่หน้าประตูนี่แหละ ฉันจะไปเอาสัญญา"
พูดจบ เธอก็เดินเข้าห้องไป เอาเอกสารฉบับหนึ่งออกมาจากลิ้นชัก
เธอเดินไปด้วยพลางเปิดเอกสารสัญญาดูไปด้วย ดูคร่าวๆแล้วไม่มีเงื่อนไขนี้ เธอก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก
มีที่ไหนห้ามคบกับเพศตรงข้าม อวี้อี่มั่วสร้างเรื่องแน่ๆ!
ถึงห้องรับแขก ปลายตาไปสังเกตเห็นอะไรเข้า เป็นข้อความตัวหนังสือค่อนข้างเล็กในวงเล็บอีกที เธอตัวแข็งทื่อทันที