ดั่งรักบันดาล 18

ตอนที่ 18

ที่แท้ก็เป็นอวี้อี่มั่ว!

หร่วนซือซือมือสั่น เดิมทีเธอกำลังจะเจาะคอเข้าไปอีก และเธอก็หยุดมือ

ไม่คิดว่าในช่วงสุดท้ายนี้จะมีคนมาช่วยเธอ!

“แม่งเอ้ย!”

ชายคนนั้นหันมาแล้วด่าพึมพำ เขายังพูดไม่ทันจบ ทันใดนั้นอวี้อี่มั่วก็เตะไปที่ไหล่ของเขาจนนั่งคุกเข่าลงกับพื้น

อวี้อี่มั่วรู้สึกได้ถึงความโกรธในใจที่ไม่อาจบรรยายได้ เขาเหลือบไปเห็นเลือดที่คอของเธอ และรีบดึงร่างบางๆของเธอมาปกปิดไว้ เขาพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “อย่าขยับ!”

โชคดีที่เขามาทันเวลา ไม่อย่างนั้นหร่วนซือซือคงจะใช้เศษแก้วเจาะเข้าไปที่คอของเธออีก

“ประ……ประธานอวี้?” ชายที่ถูกเตะลงกับพื้นเห็นใบหน้าของอวี้อี่มั่วอย่างชัดเจน สีหน้าของเขาก็ซีดลงทันที และไม่กล้าที่จะหายใจแรง

เมื่ออวี้อี่มั่วได้ยินอย่างนั้นก็จ้องมองไปที่เขาอย่างเยือกเย็น “ใครให้แกกล้ามาแตะต้องผู้หญิงของฉัน!”

ชายที่อยู่บนพื้นตกใจ “ผม…ผมแค่ใช้เงินเพื่อหาความสุข เธอ…ทำไมถึงเป็นผู้หญิงของคุณ?”

ทันทีที่สิ้นเสียงพูด ก็มีเสียงฝีเท้าดังมาจากประตู เมื่อตู้เยี่ยเห็นสถานการณ์ในห้อง เขาก็ประมาณในใจได้คราวๆ เขากวาดสายตามองอยู่นาน และยกมือขึ้นถอดปลั๊กกล้องวิดีโอที่ติดตั้งไว้

อวี้อี่มั่งมองไปที่ชายคนนั้นอย่างเย็นชา และสั่งตู้เยี่ย “พาตัวมันไป แล้วจัดการซะ”

ตู้เยี่ยพยักหน้าอย่างเข้าใจ “ครับ”

เมื่อชายคนนั้นได้ยินก็ตื่นตระหนกและขอร้องทันที “ประธานอวี้!ผมคือหยางเจี๋ยของเฟิงเฉิง!ครั้งนี้คุณยกโทษให้ผมนะ เห็นแก่ความร่วมมือของเราเถอะ!เป็นผมมีตาหามีแววไม่ ที่ไปยุ่งกับคนของคุณ……”

อวี้อี่มั่วหยิบชุดปฐมพยาบาลจากด้านข้าง และกำลังจะห้ามเลือดให้หร่วนซือซือก่อน เมื่อได้ยินที่เขาพูด สีหน้าก็อึมครึมขั้นมาทันที

ตู้เยี่ยที่อยู่ข้างๆรับรู้ เขารีบดึงเสื้อผ้าที่ขาดรุ่งริ่งของหยางเจี๋ยออก

หยางเจี๋ยถูกลากออกไปที่ประตู เขาตะโกนเสียงดัง “ประธานอวี้!เรื่องครั้งนี้หยางเย่เป็นคนจัดการทุกอย่าง!ผมไม่รู้เรื่องจริงๆ!”

เมื่อได้ยินชื่อนี้ แววตาของอวี้อี่มั่วก็มืดครึ้ม

ที่แท้เรื่องทั้งหมดก็เป็นฝีมือของเธอ

อวี้อี่มั่วได้สติกลับมา และเห็นบาดแผลที่คอของหร่วนซือซือยังมีเลือดออก เขาหยิบยามาช่วยฆ่าเชื้อให้เธอ

เมื่อสำลีที่จุ่มยาสัมผัสโดนคอของเธอ เธอก็สะดุ้ง พร้อมกับส่งเสียงครวญครางเบาๆที่อาจทำให้คนเข้าใจผิด

อวี้อี่มั่วขมวดคิ้ว และสั่งว่า “พันแผลง่ายๆไปก่อน อีกเดี๋ยวจะพาคุณไปโรงพยาบาล”

เขายังพูดไม่ทันจบ จู่ๆไหล่ของเขาก็งุ้มเข้า

หร่วนซือซือร้อนไปทั้งตัว ในตอนนี้ยากำลังออกฤทธิ์อย่างรุนแรง และสุดท้ายเธอก็ไม่มีสติสัมปชัญญะ

“ไม่ไป…ไม่ไปรงพยาบาล……” เธอเข้ามาแอบอิงอยู่ในอ้อมแขนของอวี้อี่มั่ว เหมือนกับแมวที่ติดคน แล้วออดอ้อนถูไปมา

อวี้อี่มั่วขมวดคิ้ว และกำลังจะยกแขนผลักเธอออก แต่จู่ๆเธอก็จับคอของเขาไว้

“ฉันร้อน……ร้อนมาก……”

อวี้อี่มั่วก้มหน้า สองตาของเขาเห็นลำคอที่ขาวกับรอยเลือดสีแดงสด และยังเห็นแก้มสีแดงระรื้อ

เธอเป็นแบบนี้ ใครจะอดทนไหว?

อวี้อี่มั่วยกมือที่จับสำลีไว้แน่นขึ้นมาทำความสะอาดบาดแผลต่อ แต่ใครจะรู้ว่าจู่ๆหร่วนซือซือจะยื่นมือมาตีมือของเขา

“ไม่……ไม่เอา!”

เมื่อมองไปที่เธอที่ไม่ยอมให้ความร่วมมือกับบาดแผลที่ยังมีเลือดไหลอยู่ ในตอนนี้อวี้อี่มั่วไม่มีวิธีแล้ว เขาเหลือบไปเห็นอุปกรณ์การแสดงบนโต๊ะข้างๆ เขาไม่สนอะไรทั้งนั้น เขาหยิบกุญแจมือสีชมพูขึ้นมา แล้วจะเอากุญแจมาคล้องมือของหร่วนซือซือไว้

ใครจะรู้ว่ามือของเธอจะไม่อยู่นิ่ง เธอบิดไปบิดมาไม่ยอมให้ความร่วมมือ อวี้อี่มั่วขมวดคิ้ว และกดร่างกายของเธอไว้ครึ่งหนึ่งจนในที่สุดก็พันแผลได้

ทันทีที่แปะผ้าเทปอันสุดท้าย น้ำเสียงลังเลของตู้เยี่ยก็ดังมาจากประตู “ประธานอวี้……”

เมื่ออวี้อี่มั่วได้ยิน เขาก็รีบลุกจากตัวหร่วนซือซือ ยืนตัวตรงและมองไปที่ตู้เยี่ย “มีอะไร?”

ตู้เยี่ยมองอวี้อี่มั่วกับหร่อนซือซือด้วยสายตาที่คลุมเครือ “งั้น……ผมส่งประธานหยางให้ลูกน้องไปแล้ว คุยเรื่องนี้ก่อนค่อยว่ากัน ผมแค่จะมาถามคุณว่าทางนี้ยังต้องการอะไรไหม……”

อวี้อี่มั่วกำลังจะพูด จู่ๆหร่วนซือซือที่อยู่ข้างๆก็พึมพำออกมา “ร้อนจัง……กอดหน่อย…”

น้ำเสียงของเธอดูออดอ้อน และเสียงสุดท้ายก็ดูน้อยใจ ยิ่งทำให้คนที่ได้ยินรู้สึกหวั่นไหว

อวี้อี่มั่วสีหน้าเคร่งขรึม เขากวาดสายตามองไปที่เธอแล้วขมวดคิ้ว

ตู้เยี่ยถามอย่างลังเล “ต้องเรียกหมอไหมครับ?”

อวี้อี่มั่วหันไปมองเธอและพูดว่า “ไม่ทันแล้ว”

เขาอยู่ในโลกธุรกิจมานานแล้ว และไม่เคยเห็นเล่ห์เหลี่ยมใดๆ แต่ตอนนี้เขาได้เห็นปฏิกิริยาของหร่วนซือซือก้เดาได้ว่านี่คือยาปลุกเซ็กส์ มันออกฤทธิ์ฉับพลัน และเธอก็ไม่สามารถควบคุมมันได้

ตู้เยี่ยเข้าใจในทันที เขาพยักหน้าและรู้ว่าต้องทำยังไง เขาเดินออกจากห้องอย่างเงียบๆและปิดประตู

เมื่อได้ยินเสียงประตูล็อก “แก๊ก” อวี้อี่มั่วก็ยกมือขึ้นมาดึงเนคไทด้วยความใจร้อน

เดิมทีเขาไม่ได้คิดจะแตะต้องเธอ แต่เรื่องมาถึงตอนนี้แล้ว ในตัวของเขาร้อนเป็นไฟเกินกว่าที่เธอจะระงับได้

ในตอนนี้หร่วนซือซือหลงสติลืมตัว เธอเอาหัวไปถูที่ไหล่ของเขา แล้วจู่ๆก็เงยหน้าขึ้นจูบริมฝีปากของอวี่อี่มั่ว

“เอิก——” ดูเหมือนว่าจะมีอะไรบางอย่างอยู่ที่ข้างหูของอวี้อี่มั่ว เขาจับหร่วนซือซือเข้ามาในอ้อมแขน เสียงของเขาแหบแห้ง “เรื่องมาถึงตอนนี้ จะมาโทษฉันไม่ได้นะ!”

……

เมื่อหร่วนซือซือฟื้นขึ้นมา เธอก็ตระหนักว่าท้องฟ้าข้างนอกมืดสนิท

เมื่อขยับตัว เธอก็รู้สึกปวดเมื่อยไปทั้งตัว และสมองของเธอก็ว่างเปล่า

เธอ……นี่มันอะไรกัน?

หร่วนซือซือยกมือขึ้นคลึงขมับของเธอ เธอลุกขึ้นนั่งและรู้สึกว่าร่างกายท่อนบนเย็นวาบ เมื่อเธอก็ลงไปมองก็ตกตะลึง

เธอกลายเป็น…เปลือยเปล่า!

ความจำของหร่วนซือซือค่อยๆกับมา เพียงแค่ไม่กี่นาทีจากนั้นเธอก็เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น

เธอนอนกับอวี้อี่มั่วแล้วจริงๆ!

แก้มของเธอร้อนผ่าว หร่วนซือซือไม่รู้ว่าตัวเองต้องหัวเราะหรือร้องไห้ แต่รู้สึกว่าทุกอย่างก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว ตั้งแต่เริ่มจดทะเบียนสมรสจนถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ …

“ก๊อกก๊อก!”

จู่ๆเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น ทำให้หร่วนซือซือกระวนกระวายใจ แต่เธอก็ได้สติกลับมา “ใคร?”

“คุณหญิง ผมเอง”

เมื่อได้ยินเสียงของตู้เจี๋ย หร่วนซือซือก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก จากนั้นก็รีบสวมเสื้อผ้าและเดินไปเปิดประตู

ตู้เยี่ยยืนอยู่ที่หน้าประตู เขาพยักหน้าเล็กน้อย “คุณหญิงพักผ่อนแล้วรึยังครับ?”

หร่วนซือซือกวาดสายตามองไปรอบๆ แต่ก็ไม่เห็นอวี้อี่มั่ว เธอแอบถอนหายใจโล่งอก “เรียบร้อยแล้ว…”

“ประธานอวี้กำชับว่ารอให้คุณพักผ่อนเสร็จแล้ว ให้ผมไปส่งคุณที่บ้าน” ขณะที่ตู้เยี่ยพูด จู่ๆก็ยื่นของส่งให้เธอ “แล้วก็ประธานอวี้สั่งให้ผมเอาสิ่งนี้มาคืนให้คุณ”

หร่วนซือซือมองอย่างตั้งใจ ในฝ่ามือของตู้เยี่ยสะท้อนแสงระยิบระยับ มันคือแหวนแต่งงานที่อวี้อี่มั่วมอบให้เธอ

Options

not work with dark mode
Reset