หลัวยู่ถึงกับงงไปสักพัก แต่ภายในชั่ววินาทีเขาก็หลบสายตาและมองไปทางอื่นทันทีพร้อมกับตอบอย่างจริงจังว่า " ไมมีอะไรครับ "
อวี้อี่มั่วขมวดคิ้วและออกคำสั่งอย่างเย็นชา " ไปซื้อผ้าอนามัยที่ห้างใกล้ๆแถวนี้มาเดี๋ยวนี้! "
เขาพูดพร้อมกับหยิบเสื้อคลุมมาห่อร่างของหร่วนซือซือไว้
หลัวยู่มองเขาด้วยความประหลายใจ " นายใหญ่……"
เขาเป็นเด็กเนิร์ดซื่อๆคนหนึ่ง ไม่เคยมีแฟนแม้แต่คนเดียว นอกจากว่าจะบังเอิญเห็นโฆษณาบ้างแล้ว เขาแทบจะไม่มีความรู้ใดๆเกี่ยวกับสำหรับของใช้ของสำหรับพวกผู้หญิง
อวี้อี่มั่วยักคิ้วและสีหน้าของเขาไม่ค่อยพอใจ " ลำบากนายมากเลยหรอ? "
หลัวยู่ถึงกับกลืนน้ำลายและรีบตอบว่า " ไม่…..ไม่ลำบากครับ ต้องการซื้อแบบไหนครับ?"
อวี้อี่มั่วสีหน้าเคร่งเครียด พูดเหมือนเขาชำนาญมากอย่างไรอย่างนั้นแหละ?
" ซื้อทุกแบบมาอย่างละหนึ่งห่อ "
เขาทิ้งประโยคสั้นๆและเยือกเย็นนี้ไว้ เขากำลังจะผลักประตูรถออก แต่จากที่ดูแล้วเขารู้สึกว่าหลัวยู่คงจัดการลำพังไม่ได้ เขาเลยหันไปสั่งตู้เยี่ยว่า " นายเองก็ไปด้วยและรีบกลับมาล่ะ "
เขาพูดพร้อมกับอุ้มหร่วนซือซือลงจากรถ และรีบเดินเข้าไปในโรงแรม
ตู้เยี่ยและหลัวยู่ได้แต่มองหน้ากัน ใยหน้าซีกขาวตึงเครียดกันทั้งคู่ จะฝ่าฝืนคำสั่งก็ทำไม่ได้ ทำได้เพียงรีบไปหาซื้อ
ทันทีที่กลับถึงห้องอวี้อี่มั่วก็วางหญิงสาวลงบนเตียง เขามองหญิงสาวที่คิ้วขมวด ริมฝีปากที่ซีดเซียว ทันใดนั้นก็มีความรู้สึกแปลกๆปรากฏขึ้นในหัวใจของเขา
เรื่องทั้งหมดเป็นเพราะเขาแท้ๆที่พาเธอซวย
เมื่อมองไปที่เสื้อผ้าที่ขาดรุ่งริ่งของหญิงสาวบนเตียง สายตาของอวี้อี่มั่วก็มืดมน เขาเอื้อมมือไปกำลังจะเปลี่ยนเสื้อผ้าให้หญิงสาว แต่ใครจะไปรู้ว่าทันทีที่เขาสัมผัสร่างกายเธอ หร่วนซือซือกลับดิ้นราวกับถูกไฟฟ้าดูด
" อย่า! อย่าทำร้ายฉัน! ฉัน……"
ดูเหมือนว่าเธอจะฝันถึงเรื่องราวที่หน้ากลัว แต่พยายามขดตัว และพึมพำออกมาราวกับว่ากำลังร้องขอความเมฆตา
อวี้อี่มั่วจุกที่ใจ เขายื่นมือไปจับมือทั้งสองข้างของเธอไว้พร้อมกับปลอบเธอด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า " ไม่ต้องกลัวนะ ฉํนอยู่นี่……"
เสียงของเขาดูเหมือนจะมีเวทมนตร์ หลังจากที่เขาปลอบเธออยู่ซ้ำๆหลายรอบ หร่วนซือซือก็ค่อยๆสงบลงและหยุดดิ้น
เมื่อเห็นว่าเธอสงบลงแล้ว อวี้อี่มั่วก็รู้สึกโล่งอก
ดูเหมือนว่าเรื่องนี้คงจะเป็นปมฝังใจเธอไปแล้ว
เขายื่นมือออกไปลูบผมหน้าม้าที่เปียกโชกของเธอ
เมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูดังขึ้น อวี้อี่มั่วก็รีบชักสีหน้าให้กลับมาดูเย็นชาเหมือนปกติ เขาเดินไปทางประตูและเปิดประตูออก
ตู้เยี่ยและหลัวยู่รออยู่หน้าประตู ในมือก็จับของใช้สำหรับผู้หญิงไว้ถุงใหญ่เบ้อเริ่ม พวกเขาหายในอย่างเหนื่อยหอบราวกับว่าพวกเขาวิ่งมาตลอดทาง
อวี้อี่มั่วรับถุงนั้นมา และปิดประตูทันทีโดยไม่พูดว่าไรมากมาย
ตู้เยี่ยและหลัวยู่ยืนอยู่หน้าประตู อึ้งไปเล็กน้อย พวกเขามองหน้ากันอย่างงงๆและค่อยเดินออกจากที่นั่น
หลัวยู่ยกมือขึ้นมาขยี้ตาและจมูกและพูดขึ้นอย่างสบายๆว่า " แกรู้สึกไหมว่าเจ้านายเราไม่เหมือนเมื่อก่อน? "
ตู้เยี่ยหัวเราะออกมาพร้อมกับส่ายหน้าโดยไม่ได้พูดอะไร เขามุ่งเดินตรงไปข้างหน้า
ไม่รู้ว่าเวลาล่วงเลยไปนานเท่าไหร่ หร่วนซือซือลืมตาขึ้นอย่างสะลืมสะลือ ทันทีที่ลืมตาขึ้นก็เห็นเพดานที่คุ้นเคย เธอขยับตัวเล็กน้อย เธอรู้สึกปวดหัว พึ่งจะขยับตัวเธอก็ได้ยินเสียงดังขึ้นข้างๆเธอ
" ตื่นแล้วหรอ? "
เมื่อได้ยินเสียงทุ้มต่ำที่คุ้นเคย จากเดินที่ไม่สบายใจก็รู้สึกสบายใจขึ้นมาทันที
เธอหันหน้าไปก็เห็นอวี้อี่มั่วอยู่ข้างๆและกำลังมองมาที่เธอ
เธอจำได้ว่าที่นี่คือห้องในโรงแรม
เธอคอแห้งเล็กน้อย เธอขมวดคิ้วแล้วถามขึ้นอย่างประหลาดใจ " พวกเรา……ออกมาได้แล้วหรอ? "
เหตุการณ์ที่เธอโดนลักพาตัวมันช่างเหมือนกับเป็นฝันร้าย พอตื่นขึ้นมาอีกทีทุกอย่างก็กลับมาปกติ
อวี้อี่มั่วตอบรับสั้นๆ พร้อมกับยื่นน้ำให้เธอ
หร่วนซือซือลุกขึ้นนั่งตัวตรง และรับน้ำมาดื่ม หลังจากนั้นเธอก็ค่อยๆได้สติกลับมามากขึ้น
พอวางแก้วน้ำลง เธอก็ก้มมองเสื้อผ้าบนตัวของตัวเอง เธอถึงกับตกใจ
นี่มันไม่ใช่ชุดเดิมที่เธอใส่นี่นา นี่มันทั้งหลวมทั้งใหญ่ และผ้านุ่มๆเหมือนจะเป็นเสื้อเชิ้ตของผู้ชาย
หร่วนซือซืออึ้งไปชั่วครู่ หลังจากนั้นเธอเป็นเหมือนนกน้อยที่ตื่นตระหนกพร้อมกับถามอวี้อี่มั่วด้วยความตกใจว่า " นี่……นี่นายเป็นคนช่วยฉันเปลี่ยนเสื้อผ้าหรอ? "
ในเวลาและวินาทีนี้ เธออยู่ในห้องอวี้อี่มั่วอีกทั้วยังนอนอยู่บนเตียงเขา แน่นอนว่าเสื้อผ้าบนตัวเธอก็ต้องเป็นของเขา
อวี้อี่มั่วเงยหน้าขึ้นมองเธอ ในสายตาสุดลึกล้ำของเขาแฝงไปด้วยความรู้สึกที่ยากจะอธิบาย เขายักคิ้วและถามกลับด้วยน้ำเสียงสบายๆ " ไม่งั้นจะเป็นใครล่ะ? "
หร่วนซือซือได้ยินแบบนั้น ก็จ้องหน้าเขาด้วยความตกใจ เธอขยับมือที่วางอยู่ใต้ผ้าห่มเล็กน้อยโดยเธอใช้มือแตะไปที่ใต้เสื้อเชิ้ต และแล้วเธอก็สัมผัสโดนของใช้ส่วนตัวอันนั้นของผู้หญิง!
อันนี้คงไม่ใช่เขาเป็นคนเปลี่ยนใช่ไหม?
เขาเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เธอ อีกทั้งยังช่วยเธอใส่ผ้าอนามัยด้วยหรอ!
เมื่อเห็นท่าทีที่ตกใจของหญิงสาว อวี้อี่มั่วก็เดาได้ทันทีว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ เขาขมวดคิ้วและเม้มปากเล็กน้อย จากนั้นก็หลบสายตาออกไปมองทางด้านอื่น
เรื่องแบบนี้ไม่ให้เขาเป็นคนทำ แล้วจะให้พวกตู้เยี่ยมาทำหรือไง?
หร่วนซือซืออยากจะถามมาก แต่พอเธอกำลังจะอ้าปากถามหน้าเธอก็แดงก่ำ เธอทำใจถามคำถามนั้นออกไปไม่ได้จริงๆ
เธอสูดหายใจเข้าลึกๆและขบกรามตัวเอง และทิ้งคำถามนั้นไป พอนึกถึงเรื่องที่เธอประสบพบเจอมาเธอก็อดไม่ได้ที่จะตัวสั่น
เมื่อเงยหน้ามองอวี้อี่มั่วอีกครั้ง หร่วนซือซือก็รู้สึกอุ่นใจ เธอสูดหายใจเข้าลึกๆและพูดขึ้นว่า " อวี้อี่มั่ว เรื่องวันนี้ขอบคุณมากๆนะ "
ขอบคุณที่เขากลับมาช่วยเธอในสถานการณ์แบบนั้น ขอบคุณไม่ทิ้งเธอให้อยู่ตามลำพัง
เมื่อเผชิญกับคำของคุณที่เธอพูดขึ้นอย่างกะทันหันแบบนั้น อวี้อี่มั่วก็ทำตัวไม่ถูก เขาหันไปมองหร่วนซือซือ และพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาและเฉยเมยอย่างเดิมว่า " เรื่องนี้เธอไม่ต้องขอบคุณฉันหรอก ที่เธอโดนจับตัวไปก็เป็นเพราะฉัน ฉันควรจะต้องรับผิดชอบให้ดีที่สุดอยู่แล้ว "
พอเขาพูดประโยคนั้นออกมา หร่วนซือซือก็หมดคำจะพูด
มันคือความจริง เธอไม่ได้มีเรื่องโกรธเคืองใดๆกับพวกอันธพาลพวกนั้น พวกเขาจับตัวเธอไปเพราะอวี้อี่มั่วจริงๆ
ในขณะที่เธอกำลังตกอยู่ในภวังค์ จู่ๆอวี้อี่มั่วก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง " ฉันให้ตู้เยี่ยจองเที่ยวบินให้เธอแล้ว เธอจะบินกลับประเทศจีนในวันพรุ่งนี้เช้า หลังจากกลับไปแล้วเธอก็พักผ่อนให้หายก่อน ไม่ต้องรีบไปทำงาน "
เมื่อหร่วนซือซือได้ยินแบบนั้น ก็รู้สึกกังวลเล็กน้อย " แล้วงานของฉันที่นี่ล่ะ จะทำยังไง? "
ที่เธอมาเมืองไทยคราวนี้ เป็นเพราะพี่หลานส่งเธอมาในฐานะตัวแทนของแผนกบริหารเพื่อมาศึกษารูปแบบการบริหารของบริษัทที่เมืองไทย ตอนนี้พึ่งจะผ่านมาได้วันเดียวเธอก็ต้องกลับ จะอธิบายกับคนในแผนกยังไง?
อวี้อี่มั่วหันไปมองหญิงสาวที่คิ้วย่นและสีหน้าดูกังวล สายตาของเขาก็ตึงเครียดเล็กน้อย
หลังจากนั้นเขาพูดขึ้นอย่างเย็นชาว่า " การออกมาศึกษาเรียนรู้งานนอกพื้นที่ในคราวนี้ เป็นแผนการของฉันเอง ทีนี้เข้าใจรึยัง? "
เขาตอบอย่างตรงไปตรงมา ทำให้หร่วนซือซือถึงกับอึ้ง เธอสงสัยอยู่ซักพัก และทบทวนคำพูดของเขาใหม่อีกรอบเธอจึงเข้าใจเรื่องราวทั้งหมดทันที
จริงๆแล้ว ครั้งนี้ไม่ได้ออกมาศึกษาเรียนรู้งานนอกพื้นที่แต่อย่างใด แต่มาเพื่อเป็นข้ออ้างให้เขามาจัดการเรื่องของเขาที่เมืองไทย
เมื่อนึกถึงใบหน้าที่โหดเหี้ยมของอันธพาลพวกนั้นที่จับตัวเธอไป เธอก็อดไม่ได้ที่จะตัวสั่น
เธอไม่เคยสัมผัสหรือรู้จักคนประเภทนั้นมาก่อนเลย รอยสักเต็มตัว ทั้งเล่นการพนันและพกอาวุธปืน ช่างไม่เกรงกลัวใดๆต่อกฎหมายบ้านเมืองเลยแม้แต่น้อย
แล้วอวี้อี่มั่วไปเกี่ยวข้องกับคนจำพวกนั้นได้ยังไงกัน?
หร่วนซือซือมีคำถามมากมายอยู่ภายในใจ เธออยากจะถามเขาให้ชัดเจน แต่พอเห็นสีหน้าที่เคร่งขรึมของชายหนุ่ม เธอก็ต้องกลืนคำพูดพวกนั้นลงไปก่อน
ถึงแม้ว่าเธอจะถามออกไป เธอเกรงว่าอวี้อี่มั่วก็คงจะไม่บอกเธอ