" ไม่เป็นไรค่ะ " ความคิดของหร่วนซือซือหมกมุ่นอยู่ที่แหวนวงนั้น เเต่เธอไม่ได้สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงทางความคิดของหวังเหล่ย
" พี่ซือซือ พี่เเต่งงานเเล้วหรอ? ตั้งเเต่เมื่อไหร่หรอคะ? " หวังเหล่ยเอียงหัวเเละถามอย่างสงสัย
ในระหว่างการฝึกงาน หวังเหล่ยมีความเข้าใจโดยทั่วไปกับทุกคนในแผนก ก่อนหน้านี้หร่วนซือซืออยู่ในสถานะโสดมาตลอด เเม้เเต่เเฟนก็ยังไม่มี ทำไมอยู่ๆถึงสวมเเหวนแต่งงานได้ล่ะ เเละนี่เป็นเรื่องที่ชวนให้สงสัย
หร่วนซือซือรู้ว่าเรื่องของตัวเองค่อนข้างเเปลกไปหน่อย เเต่ถึงอย่างไรเธอก็ไม่สามารถบอกความจริงได้
อีกอย่าง ต่อให้เธอบอกว่าตัวเองได้ดูตัวกับท่านประธานของอวี้กรุ๊ป แถมฝ่ายนั้นก็สนใจเธอเหมือนกัน
คาดว่าคงจะไม่มีใครเขาเชื่อคำพูดแบบนี้แน่นอน
หลังจากครุ่นคิดอยู่สักครู่ หร่วนซือซือก็พูดขึ้นอย่างขอไปที " รู้จักตอนดูตัวน่ะ เรื่องเมื่อสองวันที่ผ่านมานี้เอง "
หลังจากนั้นหร่วนซือซือก็ก้มหน้าจัดการเรื่องงานต่อ
พอเห็นหร่วนซือซือไม่พูดอะไร หวังเหล่ยก็ไม่ได้ถามต่อ
ยี่สิบนาทีผ่านไปโดยประมาณ ในที่สุดหร่วนซือซือก็จัดการเรื่องงานที่ต้องส่งมอบให้กับหวังเหล่ยเสร็จ หลังจากนั้นก็พิมพ์ออกมาเเละเอาไปให้หวังเหล่ย
" พี่ซือซือขอบคุณมากนะคะ " หวังเหล่ยรับเอกสารไปเเล้วพูดขึ้นเสียงหวาน
ต่อมาหวังเหล่ยก็มองเวลาเเละพบว่าถึงเวลากินข้าวเที่ยงพอดี เธอจึงพูดกับหร่วนซือซือ " พี่ซือซือ ยังมีที่ฉันยังไม่ค่อยเข้าใจ เอางี้ เราไปกินข้าวด้วยกัน หลังจากนั้นพี่ก็ค่อยบอกฉันอีกรอบ "
กลัวว่าหร่วนซือซือจะไม่ตกลง เธอจึงพูดขึ้นอีกครั้ง " ฉันกลัวว่าจะทำผิดจริงๆนะคะ แบบนี้ก็จะไม่ผ่านฝึกงานด้วย "
เธอขมวดคิ้วเเละมองหร่วนซือซือด้วยแววตาที่น่าสงสาร
สำหรับเรื่องนี้ หร่วนซือซือไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธหวังเหล่ย เธอจึงตอบตกลงคำขอของหวังเหล่ยอย่างเต็มใจ
" เหล่ยเหล่ย จะกินข้าวที่นี่หรอ "
ณ โรงแรมนานาชาติเจียงโจว
โรงแรมนานาชาติเจียงโจวเป็นโรงแรมมาตรฐานสูงสุดในเจียงโจว ไม่ว่าจะเป็นระดับการตกแต่งหรืออาหารก็ตาม และที่นี่ไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะเข้าไปได้
เดิมทีหวังเหล่ยเดินนำอยู่ด้านหน้าหร่วนซือซือ
พอได้ยินหร่วนซือซือพูดแบบนี้ เธอก็รีบหันมาเกี่ยวแขนหร่วนซือซือทันที หลังจากนั้นก็พูดขึ้นยิ้มๆ " ใช่ค่ะ ฉันเพิ่งจองห้องรับรองเสร็จเมื่อสักครู่นี่เอง "
" เเต่มันจะเเพงเกินไปไหม? " หร่วนซือซือยังคิดว่าไม่ถูกต้อง
ก็เเค่ข้าวมื้อเดียว คงไม่ฟุ่มเฟือยขนาดนั้นหรอกมั้ง?
" พี่ซือซือ นี่เป็นสิ่งที่ฉันอยากขอบคุณที่พี่ดูเเลฉันมาตลอด อีกอย่างฉันก็จองไว้เเล้ว ถ้าไม่กินก็สิ้นเปลืองเเย่น่ะสิ " หวังเหล่ยพูดจบก็จับข้อมือหร่วนซือซือแน่นขึ้นทันที
เธอทำเหมือนกลัวว่าหร่วนซือซือจะหนีไปอย่างนั้นแหละ
ตอนนี้ความสนใจของหร่วนซือซือมุ่งเน้นไปที่ราคาอาหาร และไม่ได้สังเกตเห็นการกระทำของหวังเหล่ยเเม้เเต่นิดเดียว
พอเห็นหร่วนซือซือไม่พูดอะไร หวังเหล่ยก็รีบพาหร่วนซือซือเข้าไปข้างใน
พอเข้ามาในห้องรับรอง หร่วนซือซือก็ตะลึงกับระดับของโรงเเรมนานาชาติเจียงโจวอีกครั้ง
ในห้องรับรองหรูหรามาก หรูจนไม่สามารถบรรยายด้วยคำว่าอลังการได้เลย
หร่วนซือซือมองหวังเหล่ยด้วยสายตาที่คาดเดา เธอครุ่นคิดอยู่สักครู่เเละพูดขึ้น " เหล่ยเหล่ย เธอคงไม่ใช่ลูกคนรวยใช่ไหม? "
หวังเหล่ยยิ้มให้กับคำถามของหร่วนซือซือ เเต่ไม่ได้พูดอะไร เหมือนเป็นการยอมรับเงียบๆ
เมื่อเห็นเช่นนี้ หร่วนซือซือก็โล่งใจขึ้นนิดหน่อย
ถ้าหวังเหล่ยเป็นคนธรรมดาทั่วไปก็คงจะไม่มากินข้าวที่นี่ เพราะถึงอย่างไรการกินอาหารในราคาเงินเดือนสองเดือนก็ไม่คุ้มสักเท่าไหร่
" พี่ซือซือนั่งค่ะ พี่อยากกินอะไรก็สั่งเลยนะ? " หลังจากที่หวังเหล่ยนั่งลงข้างหร่วนซือซือ เธอก็ส่งเมนูอาหารให้หร่วนซือซือ
หร่วนซือซือรับเมนูอาหารไป เธอเปิดดูเเละรีบมองไปที่ราคาอาหารที่อยู่ด้านหลังเป็นอันดับแรก เสร็จเเล้วเธอก็แอบสูดหายใจเข้าลึกๆอย่างไม่รู้ตัว
มองโดยคร่าวๆ อาหารที่ถูกที่สุดก็อยู่ที่ราคาสี่หลักเเล้ว
นี่คงไม่ใช่ทองหรอกนะ!
" เหล่ยเหล่ย เราเปลี่ยนที่กินกันดีกว่า " ราคาอาหารด้านบนทำให้หร่วนซือซือรู้สึกเจ็บปวด
หวังเหล่ยกลับหยิบเมนูอาหารในมือหร่วนซือซือไปด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม " พี่ซือซือ ก็บอกเเล้วไงว่ามื้อนี้ฉันเลี้ยงเอง พี่สบายใจได้ "
หวังเหล่ยพลิกเมนูอาหารไปด้วยเเละเรียกบริกรที่อยู่ข้างๆให้มาสั่งอาหารไปด้วย
เเละตอนนี้ หร่วนซือซือก็รู้สึกปวดปัสสาวะ
ในห้องรับรองมีห้องน้ำ หร่วนซือซือจึงลุกขึ้นไปเข้าห้องน้ำ พอเธอออกมา
บนโต๊ะก็มีอาหารเเละเครื่องดื่มวางไว้อยู่สองสามอย่างเเล้ว
เธอเพิ่งนั่งลง หวังเหล่ยก็ยกแก้วน้ำผลไม้มาทางเธอ " พี่ซือซือเลื่อนขั้นเเล้ว ยินดีด้วยนะคะ! "
ได้ยินดังนั้น หร่วนซือซือก็รู้สึกอุ่นใจ เธอจึงยกแก้วน้ำผลไม้เเละชนกับหวังเหล่ย " เหล่ยเหล่ย ขอบคุณมากเลยนะ "
หลังจากนั้นเธอก็ดื่มไปหนึ่งคำเเละวางลง
สายตาของหวังเหล่ยจับจ้องอยู่ที่หร่วนซือซือ พอเห็นหร่วนซือซือดื่มเพียงคำเดียว เธอก็ร้อนใจเล็กน้อย
ดังนั้น เธอจึงยกแก้วน้ำผลไม้ของตัวเองเเละดื่มจนหมด หลังจากนั้นก็ยกแก้วเปล่าไปทางหร่วนซือซือเเละพูดขึ้น
" พี่ซือซือ ดื่มให้หมดสิคะ ถึงอย่างไรนี่ก็เป็นการแสดงความยินดีที่พี่ได้เลื่อนขั้นเเละได้เพิ่มเงินเดือนยังไงล่ะคะ! "
หร่วนซือซือรู้สึกว่าที่หวังเหล่ยพูดก็มีเหตุผล อีกอย่างคือน้ำผลไม้ไม่ใช่ไวน์ ดื่มไปมากสุดก็เเค่ท้องป่อง เธอจึงไม่คิดอะไรมาก เเละทำการดื่มน้ำผลไม้ที่ยังเหลืออยู่จนหมด
พอเห็นหร่วนซือซือติดกับ หวังเหล่ยก็ยกยิ้มเล็กน้อย หลังจากนั้นเธอก็มองเวลาด้วยใบหน้าที่ไม่แสดงอารมณ์ใดๆออกมา