ในช่วงนาทีสุดท้ายของการเข้างานหร่วนซือซือก็มาถึงบริษัท เเละสแกนลายนิ้วมือได้ทันเวลาพอดี
ถือว่าเธอยังคงสามารถรักษาสองร้อยหยวนในการปฏิบัติหน้าที่ของเดือนนี้ได้
หร่วนซือซือคว่ำหน้าอยู่บนโต๊ะของตัวเองเเละหายใจหอบเสียงเบา
เดิมทีเธอคิดว่าจะถูกคนเห็นเข้าเเล้ว เเต่ใครจะไปรู้ว่าอวี้อี่มั่วจะมีทางส่วนตัว เเถมยังไม่มีคนอื่นอีกต่างหาก
แบบนี้ต่อไปเธอก็สามารถนั่งรถของเขาได้อย่างเปิดเผยเเล้ว คิดไปคิดมาก็ดีใจอยู่พอสมควร
ตอนที่หร่วนซือซือกำลังดีใจกับความโชคดีของตัวเอง ทางฝั่งแผนกก็เรียกให้ไปประชุม
หร่วนซือซือหยิบสมุดบันทึกของตัวเองเเละรีบไปหาที่นั่งตรงมุมเล็กๆในห้องประชุมให้กับตัวเองทันที
ฝ่ายบริหารของอวี้กรุ๊ปมีขนาดใหญ่มาก ทั้งหมดมีห้าสิบกว่าคนเเละร่วมมือกันทำงานในเเต่ละฝ่าย
เนื้อหาของการประชุมยังคงเป็นไปตามปกติโดยให้ความสำคัญกับรูปลักษณ์ เวลาทำงาน ไม่มาสายหรือออกก่อน
พูดเเล้วก็ชวนให้คนรู้สึกง่วงนอน
เเละในตอนนี้ อยู่ๆคุณหลานหัวหน้าฝ่ายบริหารก็เรียกชื่อหร่วนซือซือ
ทุกคนจึงหันไปมองหร่วนซือซืออย่างสนใจ
หร่วนซือซือรู้สึกงงยิ่งกว่า เเต่เธอก็ยังลุกขึ้นยืนอย่างว่าง่าย
" ตั้งเเต่วันนี้หร่วนซือซือจะขึ้นมาเป็นผู้ช่วยของฝ่ายบริหาร "
หลังจากที่หัวหน้าฝ่ายบริหารพูดคำนี้เสร็จ เธอก็ปรบมือทันที ถึงเเม้ว่าทุกคนจะรู้สึกแปลกใจ เเต่พวกเขาก็ยังคงปรบมือเป็นสัญลักษณ์อยู่ดี
ต่อมาการประชุมก็สิ้นสุดลง
หร่วนซือซือซึ่งเป็นบุคคลที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ยังคงรู้สึกสับสน เธอจึงรีบไปถามคุณหลานทันที
" คุณหลานคะ นี่มันอะไรกันคะ? ฉัน ฉันเลื่อนขั้นเเล้วหรอ? "
คุณหลานชำเลืองมองหร่วนซือซือนิดหน่อย หลังจากนั้นก็พูดขึ้นนิ่งๆ " ฉันก็เพิ่งได้รับแจ้งจากฝ่ายบุคคลในตอนเช้า ส่วนทำไม ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน "
พูดเสร็จ คุณหลานก็เดินไป
เเละไม่นาน หร่วนซือซือก็กลายเป็นประเด็นร้อนในแผนกทันที
การเลื่อนขั้นของอวี้กรุ๊ปนั้นมีการกำหนดมาตรฐานที่เข้มงวด
พนักงานฝึกงานต้องมีระยะเวลาฝึกงานสามเดือนและผ่านการสอบและสัมภาษณ์ก่อน จึงจะสามารถเป็นพนักงานเต็มรูปแบบของอวี้กรุ๊ปได้
พนักงานธรรมดาที่ต้องการเลื่อนตำแหน่งเป็นผู้ช่วยต้องมีอายุงานสามปี และสามารถเลื่อนตำแหน่งได้หลังจากผ่านการประเมินจากหัวหน้าแล้ว
หร่วนซือซือดำรงตำแหน่งเพียงสองปี เเละถ้ามองจากเวลาเเล้วเธอก็ไม่มีคุณสมบัติในด้านนี้ด้วยซ้ำ
ดังนั้นที่เธอเลื่อนขั้นมาเป็นตำแหน่งนี้ จึงทำให้คนอดไม่ได้ที่จะพากันคาดเดา
" หร่วนซือซือมีสิทธิ์อะไรขึ้นมาเป็นผู้ช่วย? ใช่เเล้ว ฉันจำได้ว่าวันนี้เธอทำงานครบสามปีพอดีหนิ ปกติหัวหน้าดีกับเธอจะตาย จะพูดยังไง ตำแหน่งผู้ช่วยก็ควรจะเป็นของเธออยู่ดี "
" เธอโชคดีอะไรขนาดนั้น! "
ในห้องน้ำมีสงครามการเเสดงความยินดีกับการเลื่อนขั้นของหร่วนซือซือ
เเละหร่วนซือซือที่กำลังนั่งยองๆอยู่ในห้องข้างๆเวลานี้ พอได้ฟังความคิดเห็นของเพื่อนร่วมงาน เธอก็รู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย
ถึงเเม้ว่าเธอจะอยู่ในบริษัทได้เพียงสองปี เเต่เรื่องงานไม่มีเรื่องไหนที่เธอจะไม่ขยันเเละจริงจัง เเถมเธอยังรวมตัวกับเพื่อนร่วมงานในวันธรรมดาอีกด้วย
ทำไมพอเลื่อนขั้นเเล้วเธอถึงถูกผลักออกจากกลุ่มล่ะ?
" พี่ซือซือ ยินดีด้วยนะคะ! "
หร่วนซือซือกลับมาที่โต๊ะทำงานของตัวเองอย่างหดหู่ อยู่ๆหวังเหล่ยก็กระโดดมาตรงหน้าเธอเเละส่งแอปเปิ้ลที่อยู่ในมือให้เธอ
ปีนี้หวังเหล่ยอายุครบยี่สิบ เเละเป็นเด็กผู้หญิงที่มาฝึกงานใกล้จะครบสามเดือนเเล้ว
พอเธอเข้ามาในบริษัทก็ถูกให้มาอยู่กับหร่วนซือซือเเละคอยเรียนรู้อยู่ข้างหร่วนซือซือมาตลอด ในช่วงระยะเวลานี้หร่วนซือซือก็ปฏิบัติต่อหวังเหล่ยเหมือนน้องสาวของตัวเอง
หวังเหล่ยเป็นคนเเรกที่มาเเสดงความยินดีกับหร่วนซือซือ เเละนี่ทำให้หร่วนซือซือรู้สึกดีขึ้นมาหน่อย
เธอยิ้มให้หวังเหล่ยเเละพูดขึ้น " ขอบคุณนะ เหล่ยเหล่ย " หลังจากนั้นเธอก็รับแอปเปิ้ลมาจากมือหวังเหล่ย
การเลื่อนขั้นครั้งนี้หร่วนซือซือต้องทำการส่งมอบงานก่อนๆของตัวเองให้กับหวังเหล่ย
หวังเหล่ยเดินตามหลังหร่วนซือซือเเละฟังสิ่งที่หร่นซือซือส่งมอบให้อย่างตั้งใจ อยู่ๆสายตาของหวังเหล่ยก็ไปหยุดที่แหวนบนนิ้วนางของหร่วนซือซือ
อยู่ๆหวังเหล่ยก็ตาเป็นประกายเเละพูดขึ้นอย่างตะลึง " พี่ซือซือ เเหวนของพี่สวยจัง! "
ถึงเเม้ว่าจะไม่มีเพชรในแหวนวงนี้ เเต่การออกแบบกลับสวยงามมาก
พอได้ยินหวังเหล่ยพูดแบบนั้น มือของหร่วนซือซือก็หยุดลง หลังจากนั้นเธอก็มองแหวนวงนั้น
พอมองเเหวนวงนี้ก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงฉากเหตุการณ์ที่อวี้อี่มั่วสวมแหวนวงนี้ให้กับเธอ
ถึงเเม้ว่าจะไม่ใช่สถานที่ที่โรเเมนติคอะไร เเต่คนหล่อมักจะมีความโรเเมนติคอยู่ในตัวเสมอ
นึกไปนึกมา ใบหน้าของหร่วนซือซือก็เเดงขึ้นทันที
" พี่ซือซือ หนูขอลองใส่หน่อยได้ไหมคะ? " หวังเหล่ยมองเเหวนของหร่วนซือซือตาไม่กระพริบ หลังจากนั้นก็พูดถามอย่างจริงใจ
หร่วนซือซือไม่คิดว่าหวังเหล่ยจะพูดคำขอนี้ออกมา
พอสบตากับสายตาปรารถนาของหวังเหล่ย หร่วนซือซือก็รู้สึกลำบากใจเล็กน้อย
อวี้อี่มั่วเคยบอกว่าไม่ว่าจะตอนไหนหรือที่ไหน ก็ไม่อนุญาตให้เธอถอดแหวนวงนี้
เธอลังเลอยู่สักครู่ สุดท้ายหร่วนซือซือก็พูดขอโทษหวังเหล่ย: " ขอโทษนะ นี่คือแหวนเเต่งงานของพี่น่ะ "
พอหวังเหล่ยได้ยินที่หร่วนซือซือพูด เธอก็ตะลึงไปเล็กน้อย หลังจากนั้นก็รีบพูดขึ้น: " อ๊ะ อ๊ะ ขอโทษจริงๆค่ะ หนูไม่รู้ หนูล่วงเกินไปหน่อย "
เเต่ในตาของเธอกลับปรากฏความหดหู่ขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เเละมีความไม่ยอมแพ้อยู่ในนั้นเช่นเดียวกัน