ดั่งรักบันดาล 125

ตอนที่ 125

ในห้องผู้ป่วยVIPของโรงพยาบาลจิงหวา

อวี้อี่มั่วนั่งอยู่ข้างเตียง ปลอบเย่หว่านเอ๋ออย่างอดทน “วางใจเถอะ การผ่าตัดพรุ่งนี้ พี่จะอยู่ข้างๆเธอตลอด”

เย่หว่านเอ๋อพยักหน้าอย่างน่าเอ็นดู เธอยิ้มออกมา แก้มทั้งสองข้างเผยให้เห็นลักยิ้มบางๆ “พี่อวี้คะ ฉันคอแห้งนิดหน่อย อยากดื่มน้ำ”

อวี้อี่มั่วหันไปมองถังน้ำแร่ที่ตอนนี้ว่างเปล่า เขาหยิบแก้วบนโต๊ะขึ้นมา แล้วพูดเสียงเบา “รอพี่ก่อนนะ พี่จะไปเอาน้ำมาให้”

ดวงตาของเย่หว่านเอ๋อโค้งเป็นสระอิ พร้อมโปรยรอยยิ้มหวานให้ “ค่ะ”

พอเห็นว่าอวี้อี่มั่วเดินออกไปจากห้องผู้ป่วยแล้ว เธอก็ลุกขึ้นมาจากเตียง หันหน้าไปมองมือถือของอวี้อี่มั่วบนโต๊ะข้างๆ ยื่นมือไปหยิบมา แล้วใส่รหัสเพื่อปลดล็อคหน้าจอ

บนหน้าจอแสดงขึ้นมาว่ามีสามสายที่ไม่ได้รับ หมายเหตุไว้หนึ่งคำ“ซือ”

เย่หว่านเอ๋อขมวดคิ้ว จ้องสามสายที่ไม่ได้รับนั่นอยู่สักพัก

ลางสังหรณ์บอกกับเธอว่า นี่ต้องเป็นเบอร์ผู้หญิงอย่างแน่นอน!

เธอกัดริมฝีปาก แล้วแอบจำเบอร์นั่นในใจ หลังจากนั้นก็ลบออกจากบันทึกประวัติการโทร แล้ววางมือถือกลับไปไว้ที่เดิม

เธอไม่มีทางอนุญาตให้พี่อวี้ของเธอมีผู้หญิงคนอื่นข้างกายเด็ดขาด!

รอให้พรุ่งนี้ทำการผ่าตัดเสร็จ เธอจะต้องตรวจสอบให้ได้ว่าเจ้าของเบอร์นี้เป็นใครกันแน่!

……

หร่วนซือซือฝันร้ายอยู่ตลอดทั้งคืน ในช่วงกลางคืนนั้นเธอตื่นขึ้นมาหลายครั้ง และทุกครั้งทั้งร่างกายเธอก็เต็มไปด้วยเหงื่อโชก

เช้าวันที่สอง หร่วนซือซือตื่นขึ้นมา มองตาหมีแพนด้าของตัวเองในกระจก เธออดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว

หลังจากที่หยิบครีมปกปิดริ้วรอยมาทาสองครั้ง เธอก็เปลี่ยนชุดออกไปข้างนอก

เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนเหมือนกับโชคร้ายที่ไม่สามารถเอาออกไปได้ วนเวียนอยู่ในสมองเธอตั้งแต่ต้นจนจบ พอถึงบริษัท สภาพเธอก็ยังคงไม่ค่อยดีเท่าไหร่

หลังจากที่หร่วนซือซือถ่ายเอกสารผิดครั้งที่สอง สุดท้ายเสี่ยวหานก็ทนไม่ไหว “ซือซือ วันนี้เธอเป็นอะไรไป? จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว”

หร่วนซือซือกัดฟัน เรียกสติกลับมาแล้วส่ายหน้า “ไม่มีอะไร น่าจะเป็นเพราะเมื่อคืนนอนไม่ค่อยหลับน่ะ”

เสี่ยวหานมองเธอที่ท่าทางมีเรื่องหนักใจ ก็ถอนหายใจออกมา และไม่ได้ถามต่อ

ชั่วพริบตาเดียว ก็มาถึงช่วงบ่ายแล้ว หร่วนซือซือจัดการงานในมืออยู่ครึ่งค่อนวัน พอเปิดมือถือดู จู่ๆก็เห็นว่าแชทในกลุ่มแผนกมีข้อความเด้งขึ้นมาไม่หยุด

“ประกาศภายในแผนก อีก15นาทีรองประธานรองสวี่จะมาตรวจตรางานที่แผนก ทุกคนโปรดระวัง!”

หลังจากที่คำเตือนนี้ส่งออกไป ผ่านไปไม่นานก็มีข้อความตอบกลับเยอะมาก

“ทำไมช่วงนี้รองประธานสวี่ไม่ว่าจะมีธุระหรือไม่มีก็มักจะมาที่แผนกบริหารของพวกเราล่ะ!”

ข้างล่างไม่รู้ว่าใครใช้ชื่อนามแฝงตอบกลับข้อความ “เธอคิดว่าไงล่ะ? ต้องใช้งานบังหน้าเพื่อมาหาใครสักคนแน่!”

ต่อมาก็มีชื่อนามแฝงข้อความที่สองเด้งขึ้นมา “นั่นน่ะสิ!ทุกคนต่างก็รู้ดีไม่ใช่เหรอ…”

“……”

หร่วนซือซือเปิดดูคนในกลุ่มที่ถกเถียงกันอย่างกระตือรือร้น อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว แน่นอนว่าเธอรู้ดี คนที่ทุกคนต่างพูดถึงก็คือเธอ

เธอเลยปิดกั้นข้อความในกลุ่ม กดปิดจอมือถือ แล้ววางมือถือไว้ข้างๆ หลังจากนั้นก็ทำงานต่อ

ถึงแม้ว่าในใจจะบอกกับตัวเองว่าไม่ต้องไปสนใจ แต่จมูกก็ยังคงได้กลิ่นแปลกๆ

ผ่านไปไม่นาน ด้านนอกจู่ๆก็มีเสียงจ้อกแจ้กจอแจดังขึ้นมา มีคนมาแจ้งข่าว รองประธานสวี่กำลังจะมาตรวจงาน

หร่วนซือซือเดินออกจากห้องทำงาน ไปยืนแถวเรียงกับทุกคน

ผ่านไปไม่กี่นาที สวี่เฟิงหมิงพาเลขาสาวคนหนึ่งมาที่แผนก

หลังจากที่มีการตรวจตรา รองประธานสวี่ก็เลือกไม่กี่คนเพื่อถามถึงงานที่ตนเองได้รับมอบหมาย

“ตอนนี้ผมเป็นผู้รับผิดชอบโครงการนี้ของซิงฮุย เห็นว่าทุกคนเอาใจใส่กับโครงการนี้มาก ผมก็ดีใจ วันนี้ผมจะพูดไว้ที่นี่หน่อยละกัน ถ้าสุดท้ายโครงการนี้สามารถเสร็จสมบูรณ์ พนักงานที่เข้าร่วมจะได้รับโบนัสตามความเหมาะสม!”

พอเขาพูดแบบนี้ สีหน้าของพนักงานไม่น้อยต่างก็ปิติยินดี ตบมือขึ้นมาอย่างดีใจ

ยังไงซะวันปกติต่อให้ไม่มีโบนัส ทุกคนต่างก็ต้องเต็มที่กับงานที่ตัวเองได้รับมอบหมาย แต่ตอนนี้ สวี่เฟิงหมิงพึ่งจะย้ายมาจากบริษัทย่อย ถึงกับรับปากว่าจะให้โบนัสต่อหน้าทุกคน เรื่องนี้สำหรับพวกเขาแล้วถือว่าเป็นเรื่องดีอีกเรื่องหนึ่ง

หร่วนซือซือสูดหายใจเข้าลึกๆ เดิมดีคิดว่าตรวจตราเสร็จแล้ว ใครจะไปรู้จู่ๆสวี่เฟิงหมิงก็หันหน้าไปทางผู้จัดการหลานที่อยู่ข้างๆ เอ่ยปากถาม “ตารางราคาสินค้าที่ต้องเสนอของครั้งนี้ใครรับผิดชอบ?”

ผู้จัดการหลานตอบเสียงเบา “เลขาหร่วนค่ะ”

หร่วนซือซือได้ยินว่าพูดถึงชื่อของตัวเอง ก็อดไม่ได้ที่จะกังวลเล็กน้อย

สวี่เฟิงหมิงได้ยิน ก็เงยหน้าขึ้นกวาดสายตามองหร่วนซือซือที่ยืนอยู่แถวนี้ สายตาอึมครึมขึ้นมา

นิ่งไปสักพัก เขาก็เดินมายังเธอ แล้วถามเสียงเย็นชา “ไม่รู้ว่าเลขาหร่วนทำความเข้าใจกับโครงการครั้งนี้ไปถึงไหนแล้ว?”

หร่วนซือซือก้มหน้าเล็กน้อย แล้วรายงานตามความเป็นจริง “แผนกำหนดการล่วงหน้าของโครงการที่บริษัทเสนอและข้อมูลด้านความร่วมมือฉันทำความเข้าใจหมดแล้วค่ะ ตอนนี้กำลังเตรียมรวบรวมเอกสารเกี่ยวกับความร่วมมือในช่วงสองปีมานี้ มาพิจารณาเพิ่ม ส่วนตารางราคาที่ต้องเสนอนั้น ถ้าตามที่คาดการณ์ไว้ พรุ่งนี้ก็จะเสร็จเรียบร้อยค่ะ”

“พรุ่งนี้?”

สีหน้าของสวี่เฟิงหมิงเปลี่ยนไป สายตามีความดูถูก ในน้ำเสียงนั้นก็มีความหงุดหงิดอยู่ไม่น้อย “เลขาหร่วน สรุปแล้วคุณได้ใช้ใจทำงานบ้างหรือเปล่า? ตารางราคาที่ต้องเสนอแบบนี้ ยังต้องใช้เวลาเกินยี่สิบสี่ชั่วโมงอีกเหรอ?”

ผู้คนรอบข้างที่เห็นเขาท่าทีเปลี่ยนไป เทียบกับเมื่อกี้แล้วเข้มงวดมากกว่าตั้งไม่รู้เท่าไหร่ จู่ๆก็แปลกใจขึ้นมา บวกกับความสัมพันธ์ของหร่วนซือซือกับสวี่เฟิงหมิงก่อนหน้านี้ที่คลุมเครือ พวกเขายิ่งหาคำตอบไม่ได้เข้าไปอีก

หร่วนซือซือเงยหน้าขึ้นอย่างประหลาดใจ มองไปยังผู้จัดการหลาน เพราะตอนที่เธอได้รับงานนี้ เขาไม่ได้บอกไว้ว่าจะต้องเสร็จภายในยี่สิบสี่ชั่วโมง

ผู้จัดการหลานเข้าใจความหมายของหร่วนซือซือ เธอยิ้มแล้วมองไปยังสวี่เฟิงหมิง “รองประธานสวี่คะ ตอนนี้เวลายังมี”

คิ้วของสวี่เฟิงหมิงตึงเครียด ถามด้วยสีหน้าอึมครึม “เวลายังมีแต่ไม่รับประกันประสิทธิภาพของงานงั้นเหรอ? พวกคุณคิดว่าบริษัทเลี้ยงพวกคุณไว้ทำอะไร? กินข้าวงั้นสิ?”

ผู้จัดการหลานถูกตำหนิไปหนึ่งประโยค ทันใดนั้นก็พูดอะไรไม่ออก

หร่วนซือซือขมวดคิ้ว ก้มหน้าห้มตาลงไม่ได้ตอบอะไร

สวี่เฟิงหมิงหันหน้ากวาดสายตามองเธออย่างเย็นชา แล้วสั่งการ “ในเมื่อคุณอยากส่งตารางราคาที่ต้องเสนอพรุ่งนี้ล่ะก็ งั้นผมก็ไม่มีอะไรต้องแย้ง แต่เพื่อเติมเต็มเวลาทำงานของคุณ ผมจะจัดงานอื่นให้คุณด้วย”

“สถานที่พักผ่อนข้างๆห้องทำงานผมไม่มีคนทำความสะอาดพอดี ให้เวลาคุณหนึ่งชั่วโมง จัดการให้สะอาดเรียบร้อยซะ นี่เป็นการลงโทษ และก็เป็นการเตือนเช่นกัน”

เขาพูดจบ แล้วกวาดสายตามองทุกคน “ผมสวี่เฟิงหมิง สิ่งที่ควรชมผมก็ชม สิ่งที่ควรลงโทษผมก็ลงโทษมาตลอด สำหรับเรื่องงาน ถ้ามีใครว่างงานล่ะก็ ลองมาหาผมดูก็ได้นะ ผมจะจัดงานให้!”

พอพูดจบ สวี่เฟิงหมิงก็หมุนร่าง เดินออกไปจากที่นี่

เขาพึ่งจะได้เดินออกไป ในสถานที่ทำงานก็มีเสียงทอดถอนใจดังตามมา

ลูบหลัง แล้วค่อยตบหัว สวี่เฟิงหมิงทำแบบนี้สรุปแล้วเพื่อเฉือดไก่ให้ลิงดู หรือว่าจงใจจับผิด สร้างความลำบากให้หร่วนซือซือกันแน่? เรื่องที่ยิ่งทำให้คนเขาเดาไม่ออกก็คือ ความสัมพันธ์ที่คลุมเครือของพวกเขาก่อนหน้านี้ ทำไมตอนนี้กลับเหมือนกับคู่อริที่เจอหน้ากันล่ะ?

หรือว่าทั้งสองคนแตกหักกันแล้ว?

ในใจทุกคนต่างก็แฝงไว้ด้วยเจตนาที่มิดีมิร้าย ข้อสงสัยแต่ละอย่าง มีแค่ใจหร่วนซือซือเท่านั้นที่รู้ดี ที่สวี่เฟิงหมิงทำแบบนี้ ก็เพราะเรื่องเมื่อคืน

เธอกัดฟัน กดเรื่องทุกอย่างไว้ส่วนลึกในจิตใจ

ผู้จัดการหลานที่อยู่ข้างๆมองเธอด้วยความสงสาร พูดเสียงเบา “หร่วนซือซือ ในเมื่อเป็นคำสั่งของรองประธานสวี่ เธอก็อย่าช้าอยู่เลย รีบไปรีบกลับ จะได้รีบกลับมาทำงานให้เสร็จ”

หร่วนซือซือได้ยินก็พยักหน้า แล้วเดินจากไป

ในใจเธอรู้ดี ที่สวี่เฟิงหมิงให้เลขาผู้จัดการบริหารอย่างเธอไปทำความสะอาดคนเดียว ก็เพราะต้องการให้เธอขายหน้าต่อหน้าทุกคนที่บริษัท!

Options

not work with dark mode
Reset