ณ ห้องโถงตระกูลหยาง
" ฉินเสียนหลี่ นี่มันหมายความว่ายังไง คุณช่วยคนนอกจัดการฉันหรอ! "
" ที่รัก ไม่ใช่นะ "
" งั้นทำไมคุณไม่ตบหร่วนซือซือผู้หญิงสารเลวคนนั้นล่ะ ก็เเค่อวี้อี่มั่วเองไม่ใช่หรอ? คุณกลัวอะไรเขาขนาดนั้น?! "
พอกลับมาถึงบ้าน หยางเย่ก็ปาสิ่งของที่สามารถปาได้อย่างโมโห หลังจากนั้นก็ชี้หน้าฉินเสียนหลี่ที่กำลังคุกเข่าอยู่บนพื้น เเละตะโกนด่าอย่างโมโห
ขณะนี้ฉินเสียนหลี่ไม่ได้มีท่าทียิ่งใหญ่เหมือนตอนที่อยู่ต่อหน้าผู้คนเเล้ว เขาก้มหน้าลงเเละปล่อยให้หยางเย่ตบตีตามอำเภอใจ
ฉินเสียนหลี่กดเสียงลงเเละพูดอธิบายต่อ: " ที่รัก อวี้อี่มั่วคนนั้นเเหย่ไม่ได้นะ "
หยางกรุ๊ปของพวกเขาเป็นเพียงบริษัทรับเหมาก่อสร้างธรรมดา จะไปตีเสมอมหาอำนาจด้านธุรกิจอย่างอวี้กรุ๊ปได้อย่างไร นี่ไม่เท่ากับว่าทำลายตัวเองหรอกหรอ? "
เห็นได้ชัดว่าหยางเย่อยู่ในสภาพเเวดล้อมที่อุดมสมบูรณ์มาตั้งเเต่เธอยังเด็ก อยากได้อะไรก็ต้องได้ เเละเธอคงไม่เคยโกรธเหมือนวันนี้มาก่อน
ต่อให้เป็นจักรพรรดิ เธอก็ไม่กลัว
เธอมองท่าทีปอดแหกของฉินเสียนหลี่อย่างเหยียดหยาม เเละตอนที่ฉินเสียนหลี่พูดเมื่อสักครู่ หยางเย่ก็ได้ตบไปที่ใบหน้าของเขา " ไร้ประโยชน์ ไสหัวไป! "
หลังจากที่หยางเย่ระบายเสร็จเเล้ว เธอก็รู้สึกเหนื่อยเล็กน้อย จึงนั่งลงเเละนวดขมับเบาๆ
เธอนวดขมับไปด้วยเเละกำลังคิดว่าจะไม่ปล่อยหร่วนซือซือไปเพียงเท่านี้
เเละในตอนนั้น อยู่ๆเธอก็นึกถึงใครคนหนึ่ง เธอจึงรีบโทรไปหาใครคนนั้นทันที
เพียงคำพูดไม่กี่คำ ทั้งสองคนก็ตกลงกันได้ว่ามีความเห็นตรงกัน
หลังจากวางสาย หยางเย่ก็อดไม่ได้ที่จะอารมณ์ดีขึ้นมาทันที
หร่วนซือซือ เธอมีอวี้อี่มั่วคอยหนุนหลังไม่ใช่หรอ?
ถ้าเธอสูญเสียอวี้อี่มั่วที่เป็นที่พึ่งพิงของเธอไป ดูสิว่าเธอจะทำยังไงต่อไป!
……
พอกลับมาถึงบ้าน หร่วนซือซือก็พบว่าสิ่งของของตัวเองได้ถูกพ่อกับเเม่ใส่ถุงไว้ให้เเละส่งมาที่นี่เรียบร้อยเเล้ว
พอมองถุงเล็กถุงใหญ่ตรงหน้า หร่วนซือซือก็บ่นออกมาอย่างอ่อนเเรงทันที
คุณนายหลิวคนนี้คงอยากกวาดเธอออกมาจากบ้านโดยเร็วที่สุดสินะ!
บ่นไปก็เท่านั้น ถึงอย่างไรหร่วนซือซือก็จัดเก็บข้าวของของตัวเองอยู่ดี
สุดท้ายก็มีของใช้จิปาถะ เธอไม่รู้จะเอาไปไว้ที่ไหน จึงนึกได้ว่าคฤหาสน์ใหญ่ขนาดนี้ก็คงจะมีห้องเก็บของบ้างแหละ
ดังนั้น หร่วนซือซือจึงกอดกล่องจิปาถะ ตอนที่เธอกำลังหาห้องเก็บของ เธอก็ได้ทำการคุ้นเคยกับสภาพเเวดล้อมไปด้วย
หลังจากที่เธอเห็นว่าทุกห้องไม่มีห้องเก็บของอยู่ในนั้น หร่วนซือซือจึงคิดว่าห้องที่ลึกที่สุดในทางเดินบนชั้นสองคือห้องเก็บของ
เเต่พอผลักประตูเข้าไป สิ่งที่ปะทะเข้าตาเป็นอันดับเเรกก็คือตู้หนังสือ เเละด้านบนก็เต็มไปด้วยหนังสือต่างๆ
" นี่ห้องหนังสือหรอ? " หร่วนซือซือชะโงกหัวเข้าไปข้างใน
ห้องหนังสือของอวี้อี่มั่ว?
หร่วนซือซือคิดไปด้วย สองขาของเธอก็ก้าวเข้าไปข้างในโดยไม่รู้ตัว
เธอมองดูหนังสือบนผนังนี้ด้วยความชื่นชม เเละอดไม่ได้ที่จะนับถือความยิ่งใหญ่ของอวี้อี่มั่ว
หร่วนซือซือเคลิบเคลิ้มจนเกินไป เเละตอนนี้กล่องกระดาษในมือของเธอก็ได้สัมผัสกับกรอบรูปบนโต๊ะโดยบังเอิญ
เสียงกรอบรูปบนโต๊ะตกลงบนพื้นเเละเกิดเป็นเสียงดัง จนเกือบทำให้หร่วนซือซือตกใจจนวิญญาณออกจากร่าง
พอรู้ตัวว่าตัวเองก่อเรื่องขึ้นเเล้ว หร่วนซือซือจึงรีบคุกเข่าลงเพื่อเก็บกรอบรูปขึ้นมา
โชคดีที่กรอบรูปนั้นไม่ได้เเตก ถ้าเเตกเธอก็คงจะตายแน่ๆ
เเต่รูปถ่ายใบนี้กลับไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นเพียงฉากหิมะธรรมดา
หลังจากตรวจสอบแล้วว่าไม่มีอะไรร้ายแรง หร่วนซือซือจึงตบหน้าอกตัวเองเบาๆเเละลุกขึ้นยืน เธอกำลังจะนำกรอบรูปไปวางไว้ที่ตำแหน่งเดิม เเต่ในตอนนั้นรูปถ่ายก็ร่วงออกจากกรอบรูป เเละตามมาด้วยบัตรสีเหลืองอีกหนึ่งใบ
หร่วนซือซือสาบานว่าเธอไม่ได้อยากจะดูว่าบนบัตรนั้นเขียนข้อความอะไรไว้ เเต่ตัวอักษรน่ารักเหล่านั้นกลับปะทะเข้ามาในตาของเธอสะเอง
พี่มั่ว ฉันชอบพี่
หว่านเอ๋อหลิว