เมื่อไปถึงที่หมาย หร่วนซือซือถึงกับต้องประหลาดใจกับตำแหน่งที่ตั้งของอพาร์ทเมนต์นี้ที่มันอยู่ใกล้บริษัทมากๆ ถ้าเดินจากหมูบ้านไปที่บริษัทใช้เวลาแค่สิบห้านาทีเท่านั้น
เมื่อไปถึงสถานที่นั้น หร่วนซือซือก็โทรหาฝ่ายนิติบุคคลของอพาร์ทเมนต์ทันที ไม่นาน ก็มีชายใส่ชุดสูทคนหนึ่งเดินเข้ามา
พอแน่ใจว่าเขาคือพนักงานฝ่ายนิติบุคคล เขาก็พาหร่วนซือซือและซ่งเย้อันเดินขึ้นไปดูห้องทันที
" ถึงจะอยู่ชั้นสูงหน่อย แต่ว่ามีลิฟต์ สะดวกมาก ระยะทางของประตูชุมชนและซุปเปอร์มาเก็ตอยู่ใกล้กันมาก "
พนักงานเดินและพลางแนะนำไปด้วย พอออกจากลิฟต์ก็และมาถึงชั้นสิบหก พอเปิดประตูออก หร่วนซือซือเห็นการตกแต่งและการออกแบบบ้านไม่ได้แตกต่างจากรูปบนอินเตอร์เน็ตเลยเธอทั้งประหลาดใจและดีใจด้วย
" บ้านหลังนี้เหมาะกับการอยู่คนเดียวหรืออยู่เป็นคู่มากๆ มีห้องครัวเล็กๆ มีระเบียง และก็มีห้องรับแขก คู่รักอย่างพวกคุณ เหมาะมายเลยที่จะเช่าห้องพักแบบนี้ แล้วราคาเช่าก็ไม่แพงด้วย……"
พอได้ยินพนักงานพูดแบบนี้ หร่วนซือซือหันขวับไปมองซ่งเย้อันแล้วเธอก็ยิ้มอย่างทำอะไรไม่ถูก จากนั้นก็มองไปที่พนักงานแล้วพูดว่า " พวกเรา……ไม่ใช่คู่รัก"
พนักงานอึงไป เขาคิดไม่ถึงว่าผลมันจะเป็นแบบนี้ เขาเองก็เหมือนจะทำอะไรไม่ถูกได้แต่หัวเราะแห้ง
ซ่งเย้อันที่ยืนอยู่ข้างได้ยินคำพูดพวกนั้น ในดวงตาเขามีรอยยิ้มซ่อนอยู่และพูดว่า " ก็แค่ตอนนี้ ไม่แน่นะอาจจะได้เป็นเร็วๆนี้ก็ได้ "
จริงๆก็แค่อยากทำให้บรรยากาศไม่ตึงเครียด แต่พอหร่วนซือซือได้ยินเธอก็หูแดง
ทุกคนหัวเราะ จากนั้นก็เปลี่ยนเรื่องและเดินดูห้องต่อ
ทุกมุมของบ้านไม่ได้มีอะไรแตกต่างจากรูปถ่ายเลย หร่วนซือซือถามราคา และถามเรื่องต่างๆจนครบทุกปัญหา จากนั้น
หร่วนซือซือก็อยากจะเซ็นสัญญาในการเช่าเลยทันที
จู่ๆพนักงานก็พูดขึ้น " จริงด้วย แต่มีข้อแม้นะ เจ้าของบ้านกำชับมาว่า ถึงบ้านจะราคาไม่แพง แต่ว่าต้องมีข้อแม้ก็คือถ้าจะเช่าต้องเช่าหนึ่งปีขึ้นไป ค่าเช่าแบ่งจ่ายได้ แต่ในสัญญาต้องระบุไว้ว่าเช่าหนึ่งปีหรทอหนึ่งปีขึ้นไปนะ "
พอหร่วนซือซือได้ฟัง เธอก็ขบกรามตัวเองและลังเลเล็กน้อย
เดิมทีเธออยากจะเช่าครึ่งปีดูก่อน แต่ติดไม่ถึงว่าเจ้าของบ้านจะมีข้อแม้
ในตอนนี้ หร่วนซือซือลังเลเล็กน้อย
พอซ่งเย้อันที่อยู่ข้างๆสังเกตเห็นก็ถามขึ้นเบาๆว่า " เธอคิดว่าบ้านหลงนี้เป็นยังไงบ้าง? "
" ทุกอย่างดีมากเลยนะ " หร่วนซือซือลังเล " แต่ว่าระยะเวลาการเช่ามันนานไปหน่อย "
ซ่งเย้อันหัวเราะแล้วพูดว่า " ในเมื่อถูกใจ ฉันคิดว่าระยะเวลาไม่ใช่ปัญหาหรอก แต่ถ้าเธอพลาดไปก็จะพลาดไปเลยนะ "
คำพูดนั้นของเขา ทำให้หร่วนซือซือคิดได้ ไม่เพียงแค่เรื่องบ้านแต่มันรวมถึงคนรอบข้างของเธอด้วย อาจจะเป็นเพราะความลังเลของเธอเลยทำให้ต้องพลาดหลายๆเรื่องไป
เธอเม้มริมฝีปาก หร่วนซือซือยิ้มให้เขา ทันใดนั้นเธอก็ตัดสินใจได้ " ได้ ฉันตกลงจะเซ็นสัญญา "
หลังจากเซ็นสัญญา เธอจ่ายค่าเช่าไปครึ่งหนึ่งก่อน พนักงานเองก็ส่งมอบกุญแจบ้านให้เธอ
มองดูกุญแจบ้านในมือ หร่วนซือซือถอนหายใจแบบเงียบๆ ถึงแม้ว่าช่วงเช้าเธอไปดูมาหลายที่มาก และสถานการณ์ก็วุ่นวายแต่สุดท้ายก็สามารถจัดการสำเร็จ
หร่วนซือซืออารมณ์ดีมาก เธอถอดหน้ากากอนามัยออก สูดอากาศบริสุทธิ์ และหันไปยิ้มกับซ่งเย้อันแล้วพูดว่า " เย้อัน ขอบคุณนะ เที่ยงนี้นายอยากกินอะไร ฉันเลี้ยง "
" ขอบคุณอะไรกัน? " ซ่งเย้อันยิ้ม " กินอะไรก็ได้ "
หร่วนซือซือเห็นว่ามีร้านอาหารร้านหึ่งอยู่ตรงข้ามถนนตรงนั้นเลยพูดเสนอขึ้ว่า " ไม่ร้านนั้นกันไหม? "
อาหารของร้านอาหารร้านนั้นมีเอกลักษณ์และรสชาตอร่อยมาก ตั้งอยู่ใกล้ๆกับที่ทำงานของเธอ เธอและเพื่อนร่วมงานเคยไปกินอยู่หลายครั้ง ราคาก็ไม่ได้ถือว่าถูก แต่ว่าทั้งเพื่ออาหารที่อร่อยและการบริการที่ดี วันนี้ก็อารมณ์ดีพอดีและก็ถือเป็นการแสดงความขอบคุณซ่งเย้อันด้วย
" ได้ ตามใจเธอเลย "
ทั้งสองคนหัวเราะมีความสุข เดินข้ามถนนไปด้วยกัน เดินเข้าประตูไปและยืนรอลิฟต์
ระหว่างที่รอลิฟต์ ซ่งเย้อันมองผู้หญิงที่อยู่ข้างๆแล้วพูดว่า " เดี๋ยวถ้าเจออันอัน ถ้าเธอเห็นเราสองคน เธอต้องพูดเรื่องไม่เป็นเรื่องแน่ๆ เธออย่าเก็บไปใส่ใจนะ "
" ไม่หรอก ฉันเข้าใจนิสัยเธอดี " ในขณะที่หร่วนซือซือพูด เธอก็คิดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นตอนที่เธอเรียนอยู่ เธอหัวเราะเบาๆแล้วพูดว่า " นายรู้ไหมว่าตอนที่อันอันเรียนอยู่เธอมีฉายาว่าเจ้าแม่กามเทพ เพราะว่าเธอชอบจับคู่ให้คนอื่นมากๆ "
ซ่งเย้อันยิ้ม " ฉายานี้เหมาะสมกับเธอมากๆ "
หร่วนซือซือได้ยิ้มก็อดขำไม่ได้
ทั้งสองคุยกันอย่างสนุกสนาน บรรยากาศก็ดีมากๆ ในตอนนั้นเอง เสียงลิฟต์ " ติ๊ง " ดังขึ้น ประตูลิฟต์ค่อยๆเปิดออก
หร่วนซือซือที่ได้ยินซ่งเย้อันพูดอะไรบางอย่างออกมา ตอนนี้เธอกำลังยิ้มอย่างมีความสุข จู่ๆก็รู้สึกได้ถึงลมเย็นๆพัดผ่านตัวเธอไป เธอรีบหันไปดู พอหันไปก็เห็นอวี้อี่มั่วยืนอยู่ในลิฟต์
จะบังเอิญไปรึเปล่า ทำไมต้องเจอเขาที่นี่!
รอยยิ้มของหร่วนซือซือสลายหายไป เธอมองอวี้อี่มั่วที่ยืนอยู่ในลิฟต์ และคนข้างๆเขาคือตู้เยี่ย และก็มีผู้ชายที่เธอไม่รู้จักอีกสองคน ในตอนนี้ ดวงตาสีเข้าที่ลึกล้ำและไร้ความรู้สึกของเขากำลังจ้องมาที่เธอ
หร่วนซือซือหนาวสั่นวูบๆที่หลัง และจงใจหลบสายตา
ซ่งเย้อันที่อยู่ข้างๆดูออกท่าทีที่แปลกๆของทั้งคู่ เขาก้มหน้าเล็กน้อย และขยับเข้าไปกระซิบใกล้ๆหูหร่วนซือซือว่า " คนรู้จักหรอ? "
หร่วนซือซือขบกรามแน่น และตอบด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็นว่า " ไม่ใช่ "
เมื่ออวี้อี้มั่วได้ยินคำตอบนั้นของหญิงสาว ดวงตาของเขาลึกล้ำมาก และเขาก็รู้สึกโกรธ
เขาก้าวขาออกจากลิฟต์และเขาก็เอื้อมมือไปคว้าข้อมือของหร่วนซือซือให้เดินตามเขาออกมาอย่างไม่ลังเล
พอหร่วนซือซือตั้งตัวได้เธอก็ถูกเขาลากออกมายังนอกร้านอาหารแล้ว เขาก้ามเดินอย่างรวดเร็ว เธอที่โดนลากให้เดินตาม ต้องวิ่งเหยาะๆถึงจะเดินตามเขาทัน
" อวี้อี่มั่ว คุณปล่อยฉันนะ! "
อวี้อี่มั่วทำเหมือนไม่ได้ยิน และลากเธอให้เดินตามอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งเห็นร้านหนึ่งที่ไร้ผู้คน เขาดึงเธอเข้าไปยังร้านนั้นและปิดประตูทันที
" อวี้อี่มั่ว คุณจะทำอะไรของคุณกันแน่เนี่ย? "
หร่วนซือซือโมโหจนหน้าแดง และสะบัดมือของผู้ชายคนนั้นออกสุดแรง แต่ในวินาทีต่อมา ตัวของเธอถูกผลักเข้าไปติดกับประตูกระจก
อวี้อี่มั่วมั่วขมวดคิ้ว ดวงตาของเขาแฝงไปด้วยความโกรธ เขาเม้มปากอย่างไม่พอใจและใช้จ้องเธออย่างขะมักเขม้นราวกับว่าจะมองตัวเธอให้ทะลุให้ได้
ไม่กี่วินาทีต่อมา เขาเปิดปากพูดอย่างแผ่วเบา เอาแต่พึมพำเสียงอยู่ในลำคอว่า " หร่วนซือซือ ทำไมเธอถึงได้มีความสามารถขนาดนี้? "
พวกเขาพึ่งหย่ากันไม่นาน แต่เธอกลับมีความสัมพันธ์ที่สนิทสนมกับชายอื่นในเวลาอันรวดเร็ว
หร่วนซือซือทั้งโมโหและงง " คุณพูดอะไรของคุณ! "
อวี้อี้มั่วพูดด้วยน้ำเสียงโทนต่ำอย่างไม่รอช้า " ผู้ชายคนนั้นเป็นใคร? "
เมื่อกี้ที่ลิฟต์เปิดออก เขาเห็นภรรยาเก่าของตัวเองพูดคุยอย่างมีความสุขอยู่กับผู้ชายคนอื่น ในวินาทีนั้น ทำให้อารมณ์ของเขาขึ้นและโกรธอย่างบ้าคลั่งมาก
" อวี้อี่มั่ว คุณลืมไปแล้วรึเปล่า เราหย่ากันแล้วนะ! "หร่วนซือซือพูดด้วยน้ำเสียงที่โกรธ และเธอสั่นไปทั้งตัว " ไม่ว่าฉันจะอยู่กับใคร มันก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับคุณ! "
จู่ๆเธอก็ตั้งใจพูดประโยคนั้นอย่างเสียงดัง ทำให้อวี้อี่มั่วโกรธอย่างสุดขีด สายตาของเขาเต็มไปด้วยความโกรธ หัวใจของเขารู้สึกเจ็บและไม่พอใจเมื่อมองผู้หญิงที่ดื้อรั้นตรงหน้า
น้ำเสียงของเขาแหบแห้งขึ้นเล็กน้อย " ไม่เกี่ยวกับฉัน ใช่ไหม? "
หร่วนซือซือกัดฟันพูด " ไม่เกี่ยวแม้แต่น้อย……อู้ว……"
เธอยังพูดไม่ทันจบ อวี้อี่มั่วก็โน้มตัวไปหยุดกั้นคำพูดนั้นของเธอให้กลืนลงคอไป
หร่วนซือซืออึ้งไปชั่วขณะ จากนั้นความตกใจของเธอก็กลายเป็นความโกรธ " อวี้……อี้มั่ว คุณ……ปล่อยนะ! "
แรงของผู้หญิงถึงยังไงก็สู้แรงผู้ชายไม่ได้ มือที่พยายามดิ้นไปมอของเธอโดนอวี้อี่มั่วจับและยกขึ้นไปติดกับกำแพงอย่างง่ายดาย และทำให้เธอไร้หนทางในการต่อต้าน
หร่วนซือซือรู้สึกกระวนกระวาย ในขณะที่ปากของชายคนนั้นเข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อย ทันใดนั้นเอง เธอก็อ้าปากและกัดไปที่ริมฝีปากของเขาอย่างแรง