ซิ่งทะลุมิติ 24

ตอนที่ 24

SD:บทที่ 24 คุณมาที่นี่เพื่อคนโง่อย่างนั้นหรอ

 

หลังจากฟังคำพูดของ ซู ฉิวไป่ ฝูงชนต่างนิ่งเงียบแม้แต่เสียงของ เฉา ตั้วเฟย ที่กลืนน้ำลายยังทำให้คนอื่นได้ยิน

“คุณพูดว่าอะไรนะ?”

เฉา ตั้วเฟย รู้สึกไม่อยากจะเชื่อเขาจ้องมองไปที่ ซู ฉิวไป่ และถามขึ้นอีกครั้ง

“ผมบอกว่าผมจะแข่งรถกับคุณ ถ้าผมไม่สามารถแซงคุณได้ถึง 2 รอบ ..ผมจะยอมรับการพ่ายแพ้!”

ซู ฉิวไป่ จ้องมอง เฉา ตั้วเฟย อย่างจริงจังและพูดตรงๆในที่สุด เฉา ตั้วเฟย ก็รู้ว่าคนขับรถพูดจริง แต่ในฐานะที่เขาเป็นแก๊งรถซิ่ง  เฉา ตั้วเฟย รู้สึกว่าชายคนนี้กำลังเล่นตลกกับเขา  ซู ฉิวไป่ เริ่มรู้สึกกังวลเมื่อ เฉา ตั้วเฟย ตกอยู่ในความเงียบเป็นเวลานาน

เชี่ย! เด็กคนนี้ไม่คิดว่าฉันโกหกใช่ไหม? ฉันจะกลัวการแข่งรถทำไมอย่างน้อยตอนนี้ฉันก็มีระบบนำทางอันทรงพลังนี้

หรือว่าการท้าทายของฉันมันรุนแรงเกินไป?

ซู ฉิวไป่ คิดอย่างนั้นและประกาศขึ้นว่า

“ถ้าคุณคิดว่ามันไม่ยุติธรรม…ผมจะต่อให้คุณ 5 รอบ!ถ้าผมไม่สามารถแซงหน้าคุณได้ 5 รอบถือว่าผมแพ้!”

ในที่สุดความโกรธของ เฉา ตั้วเฟย ก็ปะทุขึ้น ตอนนี้เขาเข้าใจความหมายของคำว่าทนไม่ได้อีกต่อไป

ฉันไม่เคยเห็นคนขับรถแท็กซี่โง่เง่าแบบนี้มาก่อนในชีวิต

“ออกไปจากสายตาของฉันให้เร็วที่สุด ถ้าแกยังอยากอยู่ที่นี่ต่อไปอย่าโทษถึงผลที่จะตามมา กลับไปหา เซี่ยหรงหรง และบอกเธอว่าหากเธอไม่ให้เงินกับฉันอย่าคิดจะช่วย เซี่ยเซียวมู่”

เฉา ตั้วเฟย เป็นกังวลว่าเขาจะสติแตกมากกว่านี้ถ้ายังเห็นหน้าของ ซู ฉิวไป่ ดังนั้นเขาจึงพยายามไล่ ซู ฉิวไป่ ออกไปด้วยความโกรธ

“ใช่แล้วกลับไปซะ แล้วไม่ต้องให้พี่สาวมาที่นี่ พวกเขาไม่กล้าทำร้ายผม..”

เซี่ยเซียวมู่ รู้สึกตกใจเช่นกันโดยเฉพาะคำพูดของ ซู ฉิวไป่  เขาไม่รู้ว่าพี่สาวของเขาทำไมถึงให้คนขับแท็กซี่ทำตามอำเภอใจแล้วมาท้าทาย เฉา ตั้วเฟย แบบนี้

เขายังไม่พอใจกับการท้าทายเพียง 2 รอบแต่กับเปลี่ยนเป็น 5 รอบแทน แม้แต่ฉันก็อยากจะหัวเราะ

น่าแปลกที่ ซู ฉิวไป่ เพิกเฉยต่อ เซี่ยเซียวมู่ อย่างสมบูรณ์เขายังคงต้องไปที่ เฉา ตั้วเฟย แล้วพูดว่า

“นายกลัวอย่างนั้นหรอ…”

“ใครบอกว่าฉันกลัว!” เฉา ตั้วเฟย อดไม่ได้ที่จะสบถออกมา

“แข่งขันกับฉันซะ ไม่อย่างนั้นก็แสดงว่า…นายกลัว”

ซู ฉิวไป่ เอนกายพิงฝากระโปรงรถของเขาอย่างไม่เกรงกลัว

“พี่เฟยจัดการมันเลย แข่งกับมันแล้วสั่งสอนบทเรียนให้กับมันซะ!”

“ใช่แล้วผมทนไม่ได้อีกต่อไป มาช่วยกันเหยียบย่ำเขากันเถอะ!”

“พี่เฟยให้ผมเป็นคนแข่งเองอ่ะน่าอายเกินไปที่พี่จะไปแข่งกับเขา!ผมไม่สามารถทนฟังเรื่องไร้สาระของเขาได้อีกต่อไปแล้ว..”

พี่น้องที่ยืนอยู่ด้านหลังของ เฉา ตั้วเฟย ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของพวกเขาได้อีกต่อไป  พวกเขากรนด่าและจ้องมองไปที่ ซู ฉิวไป่  แม้แต่ฟังของ กู่ เฉิงหยา และเพื่อนของเธอก็ยังสับสนด้วยเช่นกัน พวกเขารู้สึกละอายใจเมื่อรู้ว่าเกมของพวกเขาถูกระงับเนื่องจากการท้าทายจากคนขับแท็กซี่

“ช่างเป็นสถานที่น่าสนใจ ผมไม่คาดคิดว่าจะได้เห็นสุดยอดนนักขับ”

ชายหนุ่มที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อยืนอยู่ข้าง กู่เฉิงหยา เขาเป็นคนพูดเก่งที่สุดในกลุ่มและเขายังคงหัวเราะเยาะและเติมเชื้อไฟให้กับ กู่ เฉิงหยา

“ เฉา ตั้วเฟย เป็นผู้นำของแก๊งรถซิ่ง และถึงกระนั้นเขาก็ยังดูถูกคนขับรถแท็กซี่..”

ชายหนุ่มเป็นคนเอ่ยคำพูดออกมา เขาคือวังหยวนลูกชายของนักธุรกิจผู้มั่งคั่งในเมืองตงไห่

กู่ เฉิงหยา ยิ้มเยาะ เธอรู้สึกขบขันโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเห็นคนขับรถแท็กซี่กำลังผ่อนคลายโดยการนั่งฝากระโปรงรถของตัวเองในขณะที่ เฉา ตั้วเฟย และแก๊งของเขากำลังโกรธหน้าดำหน้าแดง

….

“ใช่แล้ว  เฉา ตั้วเฟย คุณเป็นผู้นำของแก๊งรถซิ่ง รีบเข้าไปในรถและสอนบทเรียนให้กับผมเสียที!”

ซู ฉิวไป่ รู้สึกทึ้งที่วัยรุ่นเหล่านั้นพูดดังนั้นเขาจึงตะโกนออกมา มันกลายเป็นฟางเส้นสุดท้ายของ เฉา ตั้วเฟย  ใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นสีเขียวหลังจากได้ยินคำพูดของ ซู ฉิวไป่

“ ตกลง เราจะแข่งกันกันอยู่แล้ว ดังนั้นคุณสามารถเข้าร่วมในการแข่งขันได้ถ้าคุณต้องการ…ถ้าคุณชนะสามารถพา เซี่ยเซียวมู่ ออกไปได้ แต่ถ้าคุณแพ้ผมอยากให้ เซี่ยหรงหรง ไปดื่มกับผม”

เฉา ตั้วเฟย จ้องมองไปที่ ซู ฉิวไป่และประกาศออกมาอย่างชัดเจน

เซี่ยเซียวมู่ เกร็งทันทีเมื่อเขาได้ยินคำพูดเหล่านั้น

“แกคิดว่าแกเป็นใคร ทำไมพี่สาวของฉันจะต้องไปดื่มกับแก?ฉันไม่เห็นด้วยกับสิ่งนี้แม้ว่าฉันจะต้องตายก็ตาม”

“ผมตัดสินใจไม่ได้สำหรับเรื่องของ เซี่ยหรงหรง  แต่ผมจะไปดื่มกับเธอถ้าผมแพ้!”

ซู ฉิวไป่ ยักไหล่พร้อมกับรอยยิ้มกวนๆ

เฉา ตั้วเฟย ผู้ซึ่งกำลังเตรียมที่จะเข้าสู่รถแข่งของเขาเกือบล้มคะมำลงกับพื้น

จริงๆแล้วเขาต้องการสอนบทเรียนให้กับคนขับรถแท็กซี่ แต่เขาต้องอดทน ยิ่งวัยรุ่นจากเมืองตงไห่อยู่ที่นี่เขาไม่สามารถที่จะทำตัวให้ดูถูกได้ เขาขี้เกียจที่จะกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่ ซู ฉิวไป่ พูดอีกต่อไป

…มันเป็นไปไม่ได้ที่ฉันจะแพ้ให้กับคนแบบนี้!”

เขามองย้อนไปที่ จุน เสี่ยวเตา ที่รอมาเป็นเวลานาน

จุน เสี่ยวเตา ตกลงยังไม่เต็มใจหลังจากเห็นได้อย่างชัดเจนว่า ซู ฉิวไป่ ดูหมิ่นการแข่งขันครั้งนี้

มันคงน่าอายถ้ามีใครรู้ว่าฉันซึ่งเป็นนักแข่งมืออาชีพแข่งรถกับคนขับแท็กซี่…

“โอเคเตรียมพร้อม”

เฉา ตั้วเฟย พูดกับ ซู ฉิวไป่ ก่อนที่จะเข้าไปใน เฟอรารี่ ของเขา อย่างไรก็ตามเขาสังเกตเห็นว่า ซู ฉิวไป่ หันกลับไปแล้วขึ้นไปบนรถแท็กซี่ของเขา

“นายคิดจะทำอะไร?นายคงไม่ได้…ที่จะใช้รถโกโรโกโสแบบนั้นแข่งกับฉันใช่ไหม?”

เฉา ตั้วเฟย รู้สึกแย่มาก ดังนั้นเขาจึงอดไม่ได้ที่จะขัดจังหวะ ซู ฉิวไป่ อีกครั้ง

“ใช่แล้ว คุณคิดว่าผมจะใช้คันอื่นอย่างนั้นหรอ?”

ซู ฉิวไป่ มองไปที่ เฉา ตั้วเฟย ยังประหลาดใจและกรอกตาไปมา

เฉา ตั้วเฟย ต้องตกตะลึงอีกครั้งเมื่อเขารู้ว่า ซู ฉิวไป่ พูดอย่างจริงจัง เขาต้องการที่จะตบหัวตัวเองที่มีความคิดตกลงจะแข่งขันกับคนบ้าแบบนี้!

“มีใครให้เขายืมรถได้บ้าง”

เฉา ตั้วเฟย ไม่สนใจที่จะพูดกับ ซู ฉิวไป่ เขาหันไปถามพี่น้องของเขาแทน ไม่มีใครพูดอะไรแม้แต่ เซี่ยเซียวมู่ ก็ยังคงเป็นใบ้

ไม่ว่ายังไงก็แล้วแต่ชายคนนี้มาที่นี่เพื่อช่วยฉันแม้ว่า…เขาดูค่อนข้างผิดปกติแต่ฉันก็ควรที่จะช่วยเขา

“ใช้รถของฉัน มันอยู่ด้านหลัง ฉันจะไปเอามัน..”

ในขณะที่ เซี่ยเซียวมู่ กำลังจะเดินไปเอารถของเขา  ซู ฉิวไป่ หยุดเขาไว้ทันที

เด็กกลุ่มนี้ค่อนข้างแปลก ฉันมีรถของฉัน แต่ถึงกระนั้นพวกเขาก็คิดจะให้ฉันใช้รถของคนอื่น

“คุณแน่ใจหรอ?”เมื่อเห็นว่า ซู ฉิวไป่ ยืนการที่จะใช้รถแท็กซี่ในการแข่ง เฉา ตั้วเฟย ต้องการคำยืนยันจากเขาอีกครั้ง ด้วยการตอบอย่างมั่นใจของ ซู ฉิวไป่ ทำให้ เฉา ตั้วเฟย นิ่งเงียบจากนั้นเขาจึงหันเข้าไปขึ้นรถเฟอร์รารี่ของเขาแทน

ในทางกลับกัน ซู ฉิวไป่ ก็กระโดดขึ้นรถแท็กซี่และถาม อู่ซงว่า ต้องการลงจากรถก่อนหรือไม่ อู่ซง ส่ายหัวดังนั้น ซู ฉิวไป่ จึงขึ้นแท็กซี่และขับช้าๆไปยังเส้นเริ่มต้น

เมื่อรถทั้ง 3 จอดเรียงกันที่เส้นเริ่มต้น รถคันอื่นๆที่อยู่รอบๆเบิ้ลเสียงพร้อมกัน แต่ละฝ่ายพยายามใช้เสียงเอาชนะอีกฝ่าย มีเพียง ซู ฉิวไป่ คนเดียวเท่านั้นที่ไม่เข้าร่วม เขาจุดบุหรี่แล้วส่งให้กับ อู่ซง แทน

ทุกคนรู้สึกว่าฉากที่อยู่ต่อหน้าเขาในตอนนี้ราวกับภาพหลอน

เฟอรารี่  มาเซราติและอันสุดท้าย…แท็กซี่!

และคนขับรถแท็กซี่ยังคงสูบบุหรี่อย่างสบายใจ แถมมีใครบางคนนั่งอยู่ตรงที่นั่งผู้โดยสารอีกด้วย พวกเขาทั้งคู่ไม่ใช่คนบ้าคงต้องเป็นโลกนี้ที่บ้าไปแล้ว

แน่นอนว่าไม่เคยมีใครคิดว่าคนขับรถแท็กซี่จะมาแข่งรถที่นี่จริงๆแม้แต่ เซี่ยเซียวมู่ ยังไม่อยากจะเชื่อว่าเพื่อนของพี่สาวของเขาจะอยู่ที่นี่เพื่อทำอะไรโง่ๆ

เฉา ตั้วเฟย สนใจเรื่องเอาชนะกับ จุน เสี่ยวเตา เท่านั้น และ จุน เสี่ยวเตา ยังเชื่อว่า เฉา ตั้วเฟย เป็นคู่ต่อสู้คนเดียวของเขา สิ่งที่พวกเขาทั้งสองคนไม่รู้ก็คือ ในขณะนั้น ซู ฉิวไป่ กำลังพิจารณาว่าจริงๆแล้วเขาสามารถเอาชนะได้หรือไม่ สุดท้ายแล้วในแถวของเมนูระบบนำทางก็มีการกำหนดความเร็วของรถแท็กซี่!

ตราบใดที่ระบบนำทางยังเปิดใช้งานอยู่แม้แต่ความเร็วช้าที่สุดก็เพียงพอที่จะพุ่งผ่านรถสปอร์ตเหล่านั้นได้อย่างง่ายดาย

ขณะที่เขากำลังถกเถียงเกี่ยวกับการตั้งค่าความเร็ว รถสปอร์ตทั้ง 2 คันก็เร่งเครื่องและขับออกไปในเวลาเดียวกันมีเพียงแท็กซี่เท่านั้นที่ยังคงอยู่ที่เส้นเริ่มต้น

ฝูงชนโห่ร้องอย่างฉับพลัน เซี่ยเซียวมู่ หน้าแดงก่ำด้วยความอับอาย

หลังจากนั้นไม่นานทุกคนก็สังเกตเห็นว่า ซู ฉิวไป่ กำลังค่อยหมุน กระจกลงอย่างช้าๆ

เขากลัวใช่ไหม เขาคิดจะเลิกล้มแล้วใช่หรือเปล่า?

ในขณะที่ทุกคนมีความคิดเดียวกัน ก้นบุหรี่ก็ถูกโยนออกมาจากนอกหน้าต่างหลังจากนั้นรถก็เริ่มเคลื่อนไหว

เชี่ย! เขาแค่ทิ้งก้นบุหรี่!!

ทุกคนจ้องไปที่แท็กซี่ที่พยายามตามรถสปอร์ตทั้ง 2 คันไปทั้งหน้า ไม่มีใครสามารถอธิบายความรู้สึกของเขาได้ในตอนนี้ เพราะผลลัพธ์สำหรับพวกเขานั้นถูกตัดสินมานานแล้ว

….

หลังจากที่ เฉา ตั้วเฟย สตารท์ออกจากจุดเริ่มต้นความสนใจของเขามุ่งเน้นไปที่การแข่งขันอย่างสมบูรณ์  เส้นทางที่ใช้เป็นสถานที่ที่แก๊งรถซิ่งเคยใช้แข่งขันมาหลายครั้ง ดังนั้นเขาจึงชัดเจนเกี่ยวกับถนนนี้ เขาจะรู้ในสถานที่ที่เขาจะต้องขับรถช้าลงหรือในสถานที่ที่เขาสามารถแซงขึ้นไปได้ นี่คือข้อได้เปรียบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขาในการแข่งกับ จุน เสี่ยวเตา

แม้ว่าเขาจะสามารถเอาชนะได้อย่างแน่นอนแต่ จุน เสี่ยวเตา นั้นเป็นนักแข่งมืออาชีพดังนั้นเขาจึงรู้สึกประหม่าเล็กน้อย

โชคดีที่รถสปอร์ตทั้งสองคันอยู่ห่างกันในระยะใกล้ที่สุดเมื่อพวกเขาเข้าใกล้โค้งแรก

จุน เสี่ยวเตา อยู่ข้างหน้าในขณะที่ เฉา ตั้วเฟย ตามอยู่ด้านหลัง

พวกเขาทั้งสองคนลืมไปนานแล้วเกี่ยวกับรถแท็กซี่ของ ซู ฉิวไป่

ในที่สุด เฉา ตั้วเฟย ก็เห็นป้ายทางโค้ง เขาสูดหายใจลึก

ต่อไปนี้จะเป็นโอกาสที่ดีที่สุดของฉันที่จะเอาชนะ จุน เสี่ยวเตา

ในขณะที่เขากำลังจะลงมือเขาก็สังเกตเห็นรถแท็กซี่สีฟ้าเหลืองวิ่งขึ้นมาผ่านกระจกมองข้างของเขา เขาใช้เวลาเกือบ 2 วินาทีในการรู้สึกตัว  ซู ฉิวไป่ สามารถขับรถตามเขาได้จริงๆ เขารู้สึกตื่นตระหนกและอธิบายไม่ถูกมันเป็นเรื่องน่าเหลือเชื่อเกินไป

เรื่องตลกอะไรนี่?ฉันขับ เฟอรารี่ แต่แท็กซี่ยังวิ่งตามฉันมา!

แต่สิ่งที่เกิดขึ้นต่อไปทำให้เขาประหลาดใจมากยิ่งขึ้น เมื่อรถแท็กซี่ตบสัญญาณไฟเลี้ยวซ้าย..

เขาต้องการที่จะแซงรถฉัน!!

————————————————

ซิ่งทะลุมิติ

ซิ่งทะลุมิติ

Score 10
Status: Completed

(ล่าสุดแล้วหากมีตอนต่อจะอัพให้ทุกวันจันทร์)


ซูฉิวไป่ คนขับแท็กซี่ผู้ยากจน เจอเหตุการณ์ประหลาด ในวันหนึ่ง ระบบนำทาง ก็พาเขาไปรับผู้โดยสารแปลกๆ และระบบยังบอกจุดหมายให้ไปส่งยังมิติต่างๆ และทุกครั้งที่ส่งผู้โดยสารเขาจะได้รับคะแนนเพื่อพัฒนาตัวเอง และความสามารถ

ซูฉิวไป่ :ห๊ะ!คุณคือ อู่ซง (ผู้ฆ่าเสือแห่งเขาเหลียงซาน)!

ซูฉิวไป่:น้องชายอู่ซง ที่เมืองจิ่งหยางมีโสมป่าหรือไม่?

อู่ซง: โสมป่าข้ามีมีเพียงอายุ 100-200 ปีเท่านั้น!หากท่านต้องการโสมป่าแก่กว่านี้ข้าจะไปซื้อในตลาดให้?

พานจินเหลียน: ท่านซูฉิวไป่ สิ่งที่เรียกว่าโทรศัพท์มือถือที่ท่านนำมาให้เรานั้นเป็นสมบัติของทวยเทพใช่หรือไม่?

ไชจิน:เนื่องจากท่านมอบสมบัติแห่งทวยเทพมา ท่านโปรดรับทองคำของข้าด้วยเถิด…

ซูฉิวไป่:น้องชาย นายชื่ออะไร แล้วให้ไปส่งที่ไหน?

หนิงไฉ่เฉิน:ข้าคือ หนิงไฉ่เฉิน ต้องการไปวัดหลานหลัว (โปเยโปโลเย)

ซูฉิวไป่: ระบบผมขอไม่รับผู้โดยสารคนนี้ได้ไหม?

Options

not work with dark mode
Reset