และแล้ววันนี้ก็มาถึง….
“ทุกคน รู้แล้วใช่ไหมว่าวันนี้เรามารวมตัวกันเพื่ออะไร”
เสียงของพี่ทิพย์ดังขึ้นท่ามกลางห้องอันเงียบสงบ ทุกคนต่างเงียบและตั้งใจฟังอาเจ้ใหญ่ประจำชมรมข่าวสารบ้านเมืองแห่งนี้
“ใช่…. พวกเรารู้ดี”
“แน่นอนเจ้ทิพย์ มันก็มีอยู่เรื่องเดียวไม่ใช่เหรอไง”
เหล่าเพื่อน ๆ ร่วมชมรมต่างพูดขึ้นตอบรับกับเสียงของหัวหน้าชมรมอย่างพร้อมเพรียง
“ใช่ ถูกต้อง…. มีอยู่เรื่องเดียวเท่านั้นที่เราจะคุยกันในวันนี้.. นั่นคือ…”
ใช่ วันนี้คือวันที่เรารอคอย วันที่ในที่สุดก็จะได้ค้นพบกับคำตอบที่กำลังตามหา นั่นก็คือ….
“การเดตสุดหวานของฟ้า ตุ๊กตาประจำชมรมเราไง”
“ก็แย่แล้วพี่ทิพย์!!!”
ผมตะโกนขัดทันทีทันใด โดยพูดไปก็พลันหน้าแดงอย่างเขินอายเมื่อพบว่าตอนนี้ทุกคนในชมรมต่างมองกันอย่างมีเล่ห์นัย
“หา อะไรนะ ไม่ใช่งั้นเหรอ นึกว่าอยากคุยเรื่องนี้ซะอีกนะฟ้าน้องรัก”
“แล้วนี่พี่ไปรู้มาได้ไงเนี่ย จำได้ว่าสัญญาที่บ้านคุณน้ำแล้วนะ….อ๊ะ”
“สรุปเรื่องจริงสินะ”
“วู้วววว สาวน้อยของเริ่มก้าวหน้าแล้ววว”
“ใจเย็นก่อนนะทุกคน… ไม่สิ แล้วสรุปว่ารู้ได้ไงเนี่ย”
ถึงจะพอรู้มาว่าชมรมนี้มันหาข่าวลือ ข่าวซุบซิบนินทาเก่ง แต่ก็ไม่นึกว่าจะไปหามาได้ขนาดนี้ ดูถูกไม่ได้เลยจริง ๆ
“ไม่รู้ก็ไม่ใช่เจ้น่ะสิน้องรัก เอาเป็นว่าแหล่งข่าวเจ้ดีก็แล้วกัน”
ให้ตายสิคน ๆ นี้เนี่ยมันอย่างไรกันนะ บางครั้งก็พึ่งพาได้ บางครั้งก็ป่วนตลอด เอาแน่เอานอนไม่ได้เลยจริง ๆ
“ไม่สิ เรื่องส่วนตัวนั้นช่างก่อนเถอะค่ะ ที่สำคัญเรามาคุยเรื่องข่าวของเพื่อนพี่สาวไม่ใช่เหรอ”
“จริงจังมากไประวังแก่เร็วจนขึ้นคานนะน้องรัก”
ดูท่าเจ้แกจะสนุกกับการป่วนประสาทผมไม่เลิก จนสุดท้ายผมก็เริ่มทำแก้มป่องเป็นเชิงงอนโกรธเจ้แกถึงได้เลิกล้อเล่น
“อา งอนแล้ว ๆ ให้ตายสิ นี่เจ้หวังดีนะ เดตครั้งแรกทั้งทีนึกว่าอยากได้ที่ปรึกษาซะหน่อย”
“ไม่ใช่เดตสักหน่อย…. ว่าแต่สรุปว่าจะเข้าเรื่องสำคัญตอนไหนคะเนี่ย”
“เข้าแล้ว ๆ เอาล่ะ เรื่องวันนี้ที่เรามาคุยกันนั้น….. คือเรื่องสุดแสนกังวลของน้องรักประจำชมรมเรา…. เพื่อนพี่สาวที่หายตัวไปนั่นเอง!!!”
แป๊ะ
พี่ทิพย์ดีดนิ้วทีหนึ่งก่อนที่คนในชมรมจะเปิดโปนเจคเตอร์แล้วต่อเข้ากับคอมเข้าไป ซึ่งระหว่างที่รอคอมเปิดนั้น เจ้ทิพย์ก็มองมาทางผมและยิ้มใส่
“รู้ไหมว่าข้อมูลพวกนี้น่ะหามายากลำบากขนาดไหน…”
“พี่ทิพย์พูดแบบนี้ อย่าบอกนะว่า….”
“ช่ายยย ของแบบนี้มันต้องมีค่าเหนื่อยกันบ้างนะ”
ไม่เพียงแค่พูด แต่คุณพี่แกเล่นค่อย ๆ เดินมาก่อนจะยกมือเอานิ้วมาจิ้มที่บริเวณอกของผมแล้วมองด้วยทีท่าราวกับสัตว์ร้ายที่จะขย้ำเหยื่อจนทำเอาตัวผมสั่นเทาอย่างหวาดกลัว
“ละ….แล้วคุณพี่ต้องการอะไรอะ”
“แน่นอน มันก็มีอยู่สิ่งเดียวที่นางฟ้าตัวน้อย ๆ นี่จะให้พี่ได้….”
มือเล็ก ๆ ของร่างที่ราวกับเด็กน้อยยกมือขึ้นมาเสยคางของผมก่อนที่ดวงตาเจ้าเล่ห์นั่นจะจ้องมองมาแล้วแสยะยิ้มที่มุมปาก
“เดตกับเจ้าชายและเจ้าหญิง มีไรเด็ด ๆ ก็เอามาเล่าให้ฟังหน่อยนะ”
“หา…. แค่นี้เหรอ”
“แล้วนี่คิดว่าฉันต้องการอะไรอีกล่ะนั่น….หือ คิดอะไรลามก ๆ อยู่ใช่ปะ”
“เปล่าซะหน่อย”
“แหม ๆ นางฟ้าตัวน้อยเริ่มคิดเรื่องแบบนี้แล้วเหรอเนี่ย ใจเจ้คนนี้รู้สึกยินดีจริง ๆ แต่ก็นั่นล่ะ เรื่องการเดตของพวกเธอสามคนน่ะ มันเป็นเรื่องเด็ดฮิตฮอตขนาดไหนในตอนนี้ รู้บ้างปะ”
อะไรนะ… ไม่ใช่แค่พี่ทิพย์ที่รู้ แต่นี้รู้เรื่องกันหมดโรงเรียนแล้วงั้นเหรอ… ได้ไงอะ
“หน้าแบบนี้แสดงว่ายังไม่รู้สินะ…. ยัยสองคนนั้นน่ะพร่ำเพร้อรอวันจะไปเที่ยวกับเธออยู่ทุกวันให้คนในชมรมตัวฟัง แถมสภาพก็อย่างกับสาวน้อยในห้วงความรัก ข่าวไม่แพร่ก็แปลกแล้ว”
ขะ..ขนาดนั้นเลยเหรอ ก็จริงที่มันไม่ใช่เรื่องลับอะไรที่ต้องห้ามบอกใครแต่ว่า…… โอ้ยย แค่คิดก็เขินแล้วอะ
“หน้าแดงเชียว… น่ารักเสียจริงน้องพี่ แต่เอาเถอะ ตามนั้นล่ะ มีเรื่องอะไรเด็ด ๆ ต้องมาเล่านะ อย่างจับมือถือแขน ป้อนไอติม หรือจูบแบบไหนนี่ ห้ามตกเด็ดขาด ไม่งั้นงอน”
“จะ..จูบเหรอ มะ…มันออกจะเกินไปหน่อยนะ นี่ไปเที่ยวกันแบบเพื่อนต่างหาก”
“เพื่อน?โถ่ถัง สงสัยยังรุกหนักไม่พอ เอาใจช่วยยัยสองคนนั้นแล้วกันเนอะพวกเรา”
“ตามนั้นเลยเจ้”
ทุกคนพูดกันเป็นเสียงเดียวกันและมองกับยิ้มมาที่ผมอย่างมีเล่ห์นัย สภาพในห้องที่ควรจะเย็นเพราะเปิดแอร์เย็นฉ่ำตอนนี้มันช่างรู้สึกร้อนราวกับอยู่ในซาวน่าก็ไม่มีผิด….
“คะ..คือเข้าเรื่องกันดีกว่าเนอะทุกคน…..”
“เขินเหรอเนี่ย… เอาเถอะแกล้งมากไปเดี๋ยวได้วิ่งออกจากห้องพอดี งั้นมาเริ่มกันเลยดีกว่า”
พี่ทิพย์กดรีโมตก่อนที่จะแสดงภาพบางอย่างออกมา ภาพนั้นมันคือภาพของดร.เฟรย์ที่ผมเคยส่งให้พี่ทิพย์ไป
“นี่คือเพื่อนของพี่สาวของฟ้าที่พวกเรากำลังตามหาตัวอยู่”
เมื่อพี่ทิพย์พูดขึ้นมา ภายในห้องก็เงียบลง ทุกสายตาจับจ้องไปที่หน้าจออันใหญ่ที่แขวนบังหน้าต่างห้องเอาไว้ ทำเอาบรรยากาศดูจริงจังประดุจหนังสายลับก็ไม่ปาน
“ครั้งสุดท้ายที่พบคือที่โรงเรียนของเราและนั่นเองทำให้ฉันได้ข้อสรุปนี้มา…”
คลิก
ภาพได้เปลี่ยนไป ตอนนี้มันกลายเป็นภาพของบุคคลหลายสิบคนที่ถูกแสดงขึ้น ส่วนใหญ่เป็นผู้ใหญ่วัยเดียวกับพี่อีฟ ไม่ว่าจะชายหรือหญิง
“เธอจะต้องปลอมตัวหลบหนีเข้ามาในโรงเรียนอย่างแน่นอนและจะต้องเป็นใครหนึ่งในกลุ่มนี้แน่ ๆ!!!”
“แบบนั้นเองสินะเจ้…เข้าใจแล้วล่ะ”
ทุกคนพยักหน้าตามแบบไม่มีใครคิดที่จะคัดค้านอะไร มันเข้าใจกันง่ายขนาดนั้นเชียว แต่หายตัวไปมันก็จริงแหละ แต่ไหงต้องกลายเป็นคนอื่นด้วยล่ะ
“เดี๋ยว แต่นั่นมันภาพอาจารย์ใหม่ของพวกเรานะพี่ทิพย์ ไม่สิ มีพนักงานโรงเรียนคนอื่นด้วย”
“หึ ๆ มันก็ต้องแน่อยู่แล้วไม่ใช่เหรอน้องฟ้าที่รัก…คนเราจะหายตัวไปโดยหาตัวไม่เจออีกก็มีแต่ต้องหลบหนีอะไรบางอย่าง…หนีหนี้ หนีผู้ร้าย หนีเจ้ามาเฟีย หรือไม่ก็องค์กรประหลาดที่กำลังตามล่าตัวอยู่”
ก็เกือบถูกนั่นล่ะ ไม่สิ แทบจะตรงเลย…
“ดังนั้นการที่จะหนีหลบซ่อนในสถานที่ใดสถานที่เดียวแบบนี้ และผ่านมาหลายเดือนยังไม่มีคนเจอ มันก็มีอยู่อย่างเดียว คือคุณเพื่อนพี่สาวคนนี้ต้องปลอมตัวอยู่แน่ ๆ”
ที่ฟังมันก็ไม่ผิดซะทีเดียว เพราะไม่งั้นคน ๆ หนึ่งจะหายตัวไปแบบตามหาตัวไม่เจอได้ไง แถมคุณน้ำก็ช่วยเรื่องนี้ด้วย ว่าด้วยพลังอำนาจขนาดนั้นแล้วถ้าไม่หลบซ่อนแบบมีชั้นเชิงก็ต้องโดนเจอตัวแล้ว แต่ปลอมตัวเหรอ… ออกจะหนังไปหน่อยมั้งเนี่ย
“ว่าแต่ในนั้นมีภาพครูผู้ชายด้วยไม่ใช่เหรอคะ…. มันได้ด้วยเหรอคะ”
“หึ ๆ ก็เพราะคิดว่าเป็นไปไม่ได้ไงมันถึงเป็นการปลอมตัวที่ดีที่สุด ไม่คิดแบบนั้นเหรอฟ้าของพี่”
มันก็ใช่แหละ… ฟังดูแล้วมันก็เข้าเค้าอยู่…
“ใครจะรู้ บางทีน้องฟ้าของพวกเราอาจจะเป็นชายหนุ่มปลอมตัวมาก็ได้….”
วูบบบบบ
ได้ยินแค่นั้นก็เสียวไปทั่วสันหลัง และมันยิ่งหนาวกว่าเดิมเมื่อจดจ้องไปที่ดวงตาของพี่ทิพย์ซึ่งจ้องมองมาแบบทีเล่นทีจริง ยากที่จะอ่านว่าคิดอะไรอยู่
“ล..ล้อเล่นอะไรคะเนี่ย”
“แค่พูดเปรียบเปรยน่ะ… แหม ไม่กี่วันก่อนเพิ่งเลือดอาบพื้นไป จะเป็นชายหนุ่มไปได้อย่างไรจริงไหม”
พูดแบบนั้นเสร็จ พี่ทิพย์ก็เดินถอยหลังจากไปก่อนจะไปยืนอยู่ที่หน้าจออีกครั้งหนึ่ง
“เพราะแบบนั้นล่ะ ผู้ต้องสงสัยของเราคือเหล่าคนที่เข้ามาโรงเรียนนี้ในเทอมนี้ ซึ่งมันก็แปลกดีที่จู่ ๆ โรงเรียนเล่นรับคนมาเป็นสิบแบบนี้”
“นั่นสิเจ้ ถึงโรงเรียนเรามันจะรวยแต่นี่ก็ดูเยอะเกินไป ปกติมีแค่สองสามคนเอง… ของแบบนี้มีเงื่อนงำแน่นอน”
“หรือว่า ผอ. จะรู้จักกับเพื่อนของพี่สาวฟ้า เลยหาทางปิดตัวตนให้นะ”
สารพัดทฤษฏีสมคบคิดเริ่มบรรเจิดออกมาจากสมองของเหล่าคนในชมรม ซึ่งแน่นอนว่าผมก็ได้จ้องมองอย่างทึ่ง ๆ กับความคิดที่เตลิดไปไกลของพวกเขาซึ่งราวกับหลุดมาจากหนังสายลับ
หรือว่าจะสอใส่เกือกเรื่องชอบบ้านกันจนสมองไปหมดแล้วนะ….
“เอาเถอะ… มาว่ากันรายคนเลยดีกว่า….”
เสียงพี่ทิพย์ดังขึ้นอีกครั้ง พร้อมกับภาพบุคคลแรกบนจอโปรเจ็กเตอร์ที่ถูกขยายขึ้นมาให้ใหญ่เต็มตา
“และนี่คือผู้ต้องสงสัยรายแรกของเรา… คุณครูชำนาญการพิเศษ คุณครูสมศรี!”
เสียงในห้องเงียบลงชั่วขณะ ก่อนที่เพื่อนคนหนึ่งในชมรมจะยกมือขึ้นแล้วพูดด้วยน้ำเสียงไม่มั่นใจ
“เอ่อ…เจ้คะ แต่นี่มันครูวิชาภาษาไทยที่สอนพวกเราอยู่นะคะ…ก็จริงว่าครูแกย้ายมาใหม่ แต่อายุนี่ปาไปจะห้าสิบแล้วนะคะ”
“ใช่! แต่ว่าลองคิดดูสิ….การปลอมอายุก็ทำให้คนคิดไม่ถึงเหมือนกันนะ” พี่ทิพย์พูดเสียงหนักแน่น พลางชี้นิ้วไปที่จอ “ดูสิ ดูที่ทรงผมนั่นสิ! เรียบเกินไป! และเสื้อที่เธอใส่ก็ไม่มีรอยยับเลยสักนิด อะไรที่สมบูรณ์แบบเกินไป มันก็ราวกับเป็นการจงใจจนผิดมนุษย์ชัด ๆ”
“ก็แค่ครูภาษาไทยแบบมาตราฐานไม่ใช่เหรอ!” ผมอดไม่ได้ที่จะโพล่งออกไป
“อุ๊ย ฟ้าจ๋า ใจเย็นสิจ๊ะน้องรัก เราแค่ตั้งสมมติฐานเฉย ๆ ไม่เห็นต้องดุพี่เลย”
“อีกอย่างครูสมศรีแกก็มีประวัติที่โรงเรียนเก่ามาก่อน คนก็รู้จัก ไม่น่าจะเป็นไปได้นะเจ้”
สมาชิกชมรมคนหนึ่งร้องคัดค้านขึ้นมา ซึ่งพี่ทิพย์ก็พยักหน้าตามแบบง่าย ๆ ไม่ได้เถียงอะไร
“ก็นั่นสินะ… ถึงจะมีความเป็นไปได้ที่ปลอมประวัติ แต่แบบนี้มันออกจะ… อันตรายไปหน่อย เอาเถอะ คนต่อไปดีกว่า”
พี่ทิพย์ยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนจะกดรีโมตเปลี่ยนภาพไปที่บุคคลต่อไป
“ผู้ต้องสงสัยคนที่สอง…” เสียงในห้องเริ่มตึงเครียดอีกครั้ง ก่อนที่ภาพบนจอจะเปลี่ยนเป็น…
ป้าแม่บ้านประจำโรงอาหาร
“เดี๋ยว!!” เสียงหลายคนในห้องตะโกนออกมาพร้อมกัน
“เจ้ นี่มันป้าอุ่นที่ขายข้าวราดแกงหน้าตึกเรียนเราไม่ใช่เหรอคะ!” เพื่อนคนหนึ่งพูดด้วยน้ำเสียงไม่อยากเชื่อ
“ใช่! แต่ฟังนะพวกเธอ…” พี่ทิพย์ยกมือขึ้นขัด “ป้าอุ่นน่ะ ขายข้าวราคาถูกและอร่อยจนเกินไป นั่นมันไม่ปกติ!”
“เอ๊ะ ขายข้าวถูกเจ้ก็เอาเหรอ!” ผมถามพลางกุมขมับ
“มันก็ชัดเจนอยู่แล้วไม่ใช่เหรอฟ้า!” พี่ทิพย์พูดเสียงดัง “คนค้าคนขายมันต้องขายให้ได้กำไร แต่นี่กลับขายถูกซะเหมือนแจกฟรีผิดจากร้านอื่นที่หวังฟันกำไรหัวขาด ถ้าไม่ได้มีเงินสนับสนุนจากแหล่งที่มาประหลาด ก็ทำแบบนี้ไม่ได้หรอก”
นี่มันตรรกะอะไรกัน!!
ขณะที่ผมกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง เสียงของเพื่อนในชมรมอีกคนก็ดังขึ้น
“ป้าแกก็เพิ่งประมูลร้านมาได้เทอมนี้…. นั่นสินะ มันก็เป็นไปได้อยู่นะเจ้”
“นั่นสิ ๆ แถมปลอมอายุก็น่าจะเนียนอีก งั้นเอาใส่ในลิสต้องสืบดีกว่า”
พวกนี้ก็เอากับเขาด้วยเหรอ!!!
“มันจะไม่รบกวนป้าแกไปหน่อยเหรอคะ…ทุกคน?”
แต่ดูเหมือนจะไม่มีใครฟังผม เพราะเสียงของพี่ทิพย์ดังขึ้นอีกครั้ง
“คนที่สาม!” พี่ทิพย์กดรีโมตเปลี่ยนภาพ “อาจารย์ปรางค์ อาจารย์สอนเคมีคนใหม่!”
“อ๋อ! คนนี้น่าสนใจ” เสียงในห้องเริ่มซุบซิบโดยเห็นไปทางเดียวกัน ทำเอาผมเลิกคิ้วขึ้นอย่างสงสัย…. ยังไงนะ
“ดูสิ!” พี่ทิพย์ชี้ไปที่จอ “สาวสวยลูกครึ่งไทย-ยุโรปที่จบจากเมืองนอก ตรงกับลักษณะของคุณเพื่อนพี่สาวเลยนะ แถมยังชอบอยู่ในห้องทดลองดึกๆ อีก!”
“นั่นเพราะต้องเตรียมการทดลองให้นักเรียนไม่ใช่เหรอคะ” ผมแย้ง
“จุ ๆ คิดน้อยไปแล้วฟ้า ขึ้นชื่อว่าดอคเตอร์ นักวิทยาศาสตร์ ก็ต้องคู่กับการทดลอง มีคนบอกว่าได้ยินเสียงระเบิดดังมาจากห้องทดลองด้วยนะ!” สมาชิกชมรมคนหนึ่งเสริมขึ้นมา พอคิดตามมันก็มีความเป็นไปได้ ทั้งลูกครึ่งเหมือนกัน เป็นนักทดลองเหมือนกัน ถ้าแค่ปลอมหน้าไป ที่เหลือมันก็แทบจะตรงหมดทุกอย่าง
“เหมือนจะเห็นด้วยสินะ…เพราะงั้น.. จดลงรายชื่อสืบเลยน้อง ๆ”
“จัดไปเจ้”
นี่สนุกกันอยู่ล่ะ ดูออก…. ทรงนี้นี่อยากไปยุ่งเรื่องชาวบ้านโดยเอาผมมาเป็นข้ออ้างชัด ๆ เลย
และรายชื่อนับสิบมันก็ออกมาเรื่อย ๆ มีไล่ไปตั้งแต่อาจารย์ใหม่จากหลากหลายสาขาไปยังลุงภารโรงและลุงยามจนทำเอาผมต้องเบรคอยู่หลายรอบให้กับความคิดสุดบรรเจิดของเหล่ารุ่นพี่พวกนี้
“และสุดท้าย…” พี่ทิพย์เปลี่ยนภาพอีกครั้ง “อาจารย์ชวิน อาจารย์ใหม่ประจำวิชาชีววิทยา!”
ภาพบนจอเป็นชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่ง ใส่แว่นตาหนา ท่าทางเงอะงะ
“เขาเพิ่งมาเทอมนี้ แถมยังมีความรู้เรื่องพันธุกรรมสูงมาก… น่าสนใจใช่ไหมล่ะ?”
“เอ่อ โรงเรียนนี้ถ้าจะเข้ามันก็ต้องเก่งอยู่แล้วไม่ใช่เหรอคะ โรงเรียนอันดับหนึ่งนะ”
“แน่นอน… แต่ว่านะ อาจารย์คนนี้น่ะ นอกจากเก่งแล้วที่เหลือธรรมดามาก… ไม่ว่าจะกินข้าว แต่งตัว หรือทรงผม ทุกอย่างนี่ธรรมดาจนแทบจะเหมือนกับตัวประกอบฉากในนิยายเลยก็ว่าได้”
โหพี่ทิพย์ ว่าอาจารย์ซะเสียหมาเลย….
“ธรรมดาเกินนี่ก็ผิดปกติเหรอพี่ทิพย์”
“เซนต์เจ้มันบอกไว้แบบนั้น คิดดูนะ คนอะไรมันจะธรรมดาได้ตั้งแต่หัวยันเท้า แบบนี้มันราวกับจงใจให้ตัวเองดูไม่เป็นจุดเด่นชัด ๆ มาทรงนี้ล่ะ ปลอมตัวแน่นอน”
“แนวคิดนี้ก็ใช้ได้เหรอพี่ทิพย์”
“ได้สิ ถ้าไม่ได้….ก็ไปสืบดูนะฟ้า”
“หา…อะไรนะคะ”
“ข้อมูลน่ะรวบรวมมาแล้ว เดี๋ยวจะจัดการกระจายหน้าที่ให้ทุกคนเอง ส่วนฟ้าไปสืบเรื่องอาจารย์ชวินมานะ”
“แล้วไหงต้องเราอ่ะ”
“ก็ดูจากทะเบียนวิชาแล้ว…..ฟ้าน่าจะเจอง่ายสุดนะ”
“ปฏิเสธได้ไหมคะเนี่ย”
“ไม่ได้… คำสั่งหัวหน้าชมรมคือเรื่องเด็ดขาด ถ้าเกิดไม่ทำล่ะก็…..”
ไม่รอช้าเจ้แกก็หยิบมือถือขึ้นมาก่อนจะเดินเข้ามาใกล้ผมช้า ๆ ทุกย่างก้าวเดินนั้นมันราวกับปีศาจร้ายกำลังเดินเข้ามาหาจนทำเอาขนลุกซู่ ๆ
“เจ้จะเอาภาพนี้ไปแปะหน้าบอร์ดโรงเรียนนะ”
พี่ทิพย์หยิบมือถือขึ้นมาก่อนจะโชว์ภาพ ๆ หนึ่งขึ้น ภาพนั้นมันคือภาพของหญิงสาวผมดำสุดน่ารักคนอื่นกำลังถูกหญิงสาวสุดสวยทั้งสองคนซึ่งเป็นถึงเจ้าชายและเจ้าหญิงของโรงเรียน กำลังบรรจงเอาไอติมป้อนเข้าปากพร้อม ๆ กัน
นี่มันภาพเมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา!!! ใช่ มันคือภาพที่พวกเราสามคนไปทานไอติมด้วยกัน และตอนนั้นทั้งสองคนเอาแต่จะแย่งกันป้อนไอติมผม จนสุดท้ายก็บอกให้ป้อนมาพร้อม ๆ กันเลยเพื่อตัดปัญหา
ว่าแต่เดี๋ยวนะ.. ตอนนั้นร้านมันโดนจองเป็นส่วนตัวนี่… แล้วนี่เจ้ไปถ่ายมาได้ไงเนี่ย!!!
“เนี่ย ถ้าเอาภาพนี้ไปแปะที่บอร์ดโรงเรียนขึ้นมา… ดูสิว่าแม่หญิงคนเจ้าชู้ตรงหน้าพี่จะเป็นอย่างไร กองอวยเขาอวยก็จริง แต่ว่าเหมาหมดแบบนี้… จะโดนอะไรไหมนะ”
“เดี๋ยวนะพี่ทิพย์ ไม่ใช่ว่ากฎชมรมบอกว่าไม่เผาคนในชมรมเหรอ”
“เจ้ก็คือกฎ!!! และเด็กน้อยที่ไม่คิดให้ความร่วมมือจะต้องโดนลงโทษ!!!”
“ง่ะ……”
แน่นอนว่าผมพอจะรู้ว่าในโรงเรียนนี้มันมีเหล่าแม่ยกและกองอวยที่พยายามจับคู่ผมกับสองคนนี้อยู่ แต่ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าถ้าเกิดพวกเขาเห็นภาพนี้มันจะเกิดอะไรขึ้น เกิดหัวร้อนขึ้นมาแล้วรุมผมนี่ รับรองได้ตายอย่างเขียดแน่
“กะ..ก็ได้ค่ะ แล้วต้องเอาข้อมูลอะไรมาบ้างอะ”
“เยี่ยมมากน้องพี่… ข้อมูลทั้งหมดนั่นล่ะ ประวัติ ภาพถ่าย ลักษณะนิสัย ถ้าเป็นไปได้ก็ส่องแชทลับในคอมเลย”
“มันจะอาชกรรมไหมพี่”
“ใคร ๆ เขาก็ทำกันนั่นล่ะ”
…. มีแค่ชมรมนี้ล่ะที่ทำน่ะ!!!
“เฮ้อ…. ขอเอาเท่าที่ปลอดภัยแล้วกันค่ะ”
และแล้วผมก็ต้องตกปากรับคำเพื่อความปลอดภัยในชีวิตวัยเรียนของตัวเอง แต่ใครจะไปรู้ ว่านี่มันจะทำให้เรื่องที่มันวุ่นอยู่แล้วต้องวุ่นกว่าเดิมไปอีก