“เอาไงดีนะ…”
ผมนั่งกุมขมับอยู่หน้ากระจกในห้องน้ำ พยายามคิดหาทางออกให้กับสถานการณ์ที่กำลังเผชิญอยู่ คำพูดของพี่อีฟเมื่อวานมันยังก้องอยู่ในหัว นี่เราจะกลายเป็นผู้หญิงจริงๆ เหรอ? แบบกลายเป็นหญิงทั้งกายและใจ… ไม่ได้… ต้องหาทางรักษาความเป็นชายเอาไว้ให้ได้! ละลึกไว้เสมอสิว่าเรามันผู้ชาย
แต่จะทำยังไงล่ะ?ถ้าทำตัวห้าวหรือห่าม ๆ มันก็ฝืนธรรมชาติชีวิตไปหน่อย แถมความลับอาจจะแตกเพราะทำตัวประหลาดจนคนสงสัยแน่ ๆ ….
“อ๊ะ! ยังมีทางนั้นี่นา!”
ผมผุดลุกขึ้นทันทีเมื่อความคิดหนึ่งแวบเข้ามา ใช่แล้ว! พระเอก…. เราต้องทำตัวแบบพระเอกนิยาย สุภาพบุรุษที่แท้จริง!!!
คิดแล้วก็รีบคว้ามือถือขึ้นมาเปิดสารพัดนิยายทั้งหลายที่มีอยู่ในเนต แน่นอนว่าพวกสุภาพบุรุษทั้งหลายนี่ต้องอยู่ในนิยายรักอย่างแน่นอน ดังนั้นทั้งคืนก็เลยกลายเป็นการเปิดอ่านนิยายรักโรมานซ์หวานหยดย้อยทั้งคืน
“ให้ตายสิ พระเอกนี่ทำไมทำตัวแบบนี้นะ แล้วนางเอกก็ยังยอมอีกเหรอ”
“โอ้ย ถ้าเราเป็นนางเอกล่ะก็ ไม่ยอมอยู่ด้วยแล้ว…อ๊ะ ไม่สิ มันต้องไม่ใช่แบบนี้”
ตลอดทั้งคืนมันก็เลยกลายเป็นการต่อสู้กันระหว่างความคิดทั้งสองฝั่งของตัวเองซึ่งพยายามแทนตัวเป็นชายและหญิงในนิยาย นั่นเองที่ทำให้คำพูดของพี่อีฟมันเริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ ในใจของผม
แย่ล่ะสิ.. นี่เราเริ่มจะแทนตัวเองเป็นสาวน้อยในนิยายแล้วงั้นเหรอ ไม่ได้การ ๆ ขืนอ่านต่อไปรับรองได้กลายเป็นสาวน้อยฝันหวานแน่เลย เพราะงั้นยังมีอีกทาง……
ยูทูป!!!
ไม่รอช้าผมจัดการเสิร์ชหาคลิปสอนการวางตัวแบบสุภาพบุรุษ ดูท่าทางการเดิน การพูด การวางมือ… ทุกอย่างที่จะช่วยให้ดูมีความเป็นชายแบบผู้ดีมากขึ้น ใช่แล้ว ด้วยวิธีนี้ล่ะ เราจะต้องไม่แพ้สาวน้อยในร่างแน่ ๆ
“ยืนหลังตรง… ยกคางขึ้นนิดหน่อย… มือประสานไว้ด้านหลัง…”
ผมพึมพำขณะฝึกท่าทางหน้ากระจก พยายามทำตามทุกขั้นตอนอย่างตั้งใจ
“เป็นเอามากนะคะ…”
เสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากด้านข้างทำเอาตัวผมสะดุ้งโหยงก่อนหันไปจะพบกับพี่อีฟที่ยืนมองมาแบบหน้านิ่ง
“เอ่อ….เห็นถึงตอนไหนเหรอ”
“ตั้งแต่สาวน้อยน่ารักที่ตะโกนคุยกับนิยายหวานเลี่ยนแล้วล่ะค่ะ..”
“นี่ยืนดูกันเกือบชั่วโมงเลยเหรอ”
“ทำไงได้คะ ดูแล้วมันเหมือนดูสัตว์โลกน่ารักกำลังแสดงอะไรสนุก ๆ นี่คะ จะขัดไปมันก็หมดสนุกพอดี”
สรุปหน้านิ่งที่ทำนี่มันเป็นการรักษามาดเหรออย่างไร ทำไมคำพูดแต่ล่ะอย่างของเจ้แกมันอย่างกับเด็กเกรียนเลยเนี่ย
“แล้วนี่ทำอะไรคะ สู้กับสาวน้อยในร่างของตัวเองงั้นเหรอคะ”
“ใช่แล้ว การพยายามทำตัวเป็นพระเอกสุดสุภาพบุรุษน่ะ จะต้องทำให้จิตใจของเรานึกได้แน่ ๆ ว่าตัวเองก่อนหน้านี้เป็นอย่างไร”
“คุณฟ้าคะ…..”
“คะพี่อีฟ?”
“การเป็นสาวน้อยก็ไม่เลวนะคะ”
“ออกไปเลย!!!”
และแล้วคืนนี้ก็จบไปก่อนที่จะเริ่มวันใหม่พร้อมแผนการในการรักษาความเป็นชายเอาไว้…
“เอาล่ะ! วันนี้เราจะต้องทำได้!”
ผมสูดหายใจลึกๆ ก่อนจะเดินออกจากบ้านด้วยท่าทางที่ฝึกมา หลังตรง คางเชิด มือประสานหลัง… เดินช้าๆ อย่างสง่างาม
“อรุณสวัสดิ์นะทุกคน”
เมื่อเดินเข้ามาในห้องเรียนผมทักทายเพื่อนร่วมชั้นด้วยน้ำเสียงที่พยายามทำให้นุ่มนวลแต่ไม่หวานจนเกินไป ก่อนจะโบกมือให้ด้วยท่าทางของพวกพระเอกในซีรีย์ที่ดู ทว่า…
“กรี๊ดดด! ฟ้าน่ารักจัง! วันนี้ดูสุภาพกว่าปกติจังเลย! แต่ก็น่ารักอะ”
เสียงกรี๊ดของเพื่อนๆ ดังขึ้นทันที ทำเอาผมชะงักไปเล็กน้อย… เอ๊ะ?ไม่ใช่แบบนี้นะ!
“ดูสิๆ เหมือนตุ๊กตาราคาแพงเลย!”
“จริงด้วย! เดินแบบระมัดระวังน่ารักชะมัด อย่างกับเจ้าหญิงตัวน้อยเลย!”
ไม่นะ… มันต้องไม่ใช่แบบนี้สิ… ไหงกลายเป็นเจ้าหญิงตัวน้อยไปได้ล่ะ ไม่สิ อย่าเพิ่งยอมแพ้นะฟ้า ยังมีแผนต่อไปอยู่…
เมื่อตั้งสติได้ ผมได้หันไปพบกับคุณน้ำที่กำลังเธอกองหนังสือสูง ๆ อยู่นั่นเองที่มันเข้าทางกับสิ่งที่อยู่ในหัวของผมพอดี
“คุณน้ำ อนุญาตให้เราช่วยถือของให้ได้ไหม?”
ผมเดินเข้าไปหาคุณน้ำที่กำลังถือหนังสือเรียนหลายเล่ม พยายามทำเสียงให้สุภาพที่สุด เสนอความช่วยเหลือแบบเหล่าพระเอกที่คิดจะช่วยเหลือนางเอก แต่…
“อ๊ะ! คุณฟ้า!” น้ำหันมายิ้มหวานให้ด้วยรอยยิ้มอันสดใสเฉกเช่นทุกวัน “น่ารักจังเลย! แต่ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวหนังสือหนัก เราถือเองดีกว่า”
“แต่ว่า…”
“ไม่เป็นไรจริงๆ ค่ะ คุณฟ้าตัวเล็กน่ารักขนาดนี้ จะให้มาถือของหนัก ๆ ได้ไง ไหนจะเพิ่งหายป่วยอีก เราถือเองล่ะดีแล้วค่ะ”
โอ๊ย… นี่มันตรงข้ามกับที่ตั้งใจไว้เลยนี่หว่า… ไม่สิฟ้า การช่วยเหลือน่ะ เหล่าพระเอกเขาช่วยเหลือโดยแม้อีกฝ่ายไม่ได้เรียกร้อง เพราะงั้น….
“อ๊ะ คุณฟ้าเดี๋ยวค่ะ อย่าเพิ่ง….”
ไม่รอช้า ผมได้ทำการยื่นมือไปคว้ากองหนังสือเกินครึ่งที่คุณน้ำถือมาไว้กับตัว แต่นั่นล่ะที่ทำให้ผมได้พบว่ากองหนังสือพวกนี้มันหนักเสียเหลือเกิน หนักจนทำเอาผมตัวเซไปเซมาและต้องให้คุณน้ำมาประคองเพื่อไม่ให้ล้ม
“บอกแล้วไม่ใช่เหรอคะว่าไม่เป็นไร เรื่องนี้น่ะ ให้เราคุณพี่สาวแสนดีของน้องสาวผู้น่ารักจัดการเองเถอะนะ” พอได้ยินอีกฝ่ายพูดมาแบบนี้ก็ทำเอารู้สึกเขินอายจนก้มหน้าหลบตาไปในที่สุด และเมื่อยิ่งโดนลูบหัวเบา ๆ ไปก็ยิ่งทำให้หน้าแดงเป็นลูกมะเขือเลยทีเดียว
“ค…ค่ะ”
“ดูสิแก ภาพอย่างน่ารักอะ”
“คุณเจ้าหญิงเป็นฝ่ายรุกสินะ… นาน ๆ ทีเห็นแบบนี้….ก็หล่อเหมือนกันนะเนี่ย”
ไหงมันกลับกันล่ะ!!!
แต่ผมก็ไม่ยอมแพ้ พยายามทำตัวสุภาพต่อไป ทั้งการเปิดประตูให้เพื่อน การช่วยหยิบของที่ตกพื้น การพูดจาไพเราะ… แต่ทุกครั้งที่ทำ ผลลัพธ์ที่ได้กลับตรงข้ามกับที่คาดหวังไว้
“ฟ้าเป็นอะไรรึเปล่า?”
เสียงของคุณบีมดังขึ้นขณะที่ผมกำลังนั่งกุมขมับอยู่ที่โต๊ะอาหาร มันเต็มไปด้วยความเป็นห่วงใยซึ่งก็ไม่แปลกเพราะก่อนหน้านี้ผมก็เพิ่งร้องไห้ยกใหญ่ไป
“วันนี้ดูแปลกๆ นะ” บีมทรุดตัวลงนั่งข้างๆ “แต่ก็น่ารักดีนะ เหมือนน้องสาวที่พยายามทำตัวเป็นผู้ใหญ่ยังไงไม่รู้”
“คุณบีม!!!”
ผมร้องประท้วงเสียงหลง ลืมการวางตัวแบบพระเอกไปชั่วขณะ
“อ้าว นี่กลับมาเป็นน้องสาวแสนน่ารักเหมือนเดิมแล้วเหรอ” คุณบีมหัวเราะ “แบบนี้แหละดูเป็นธรรมชาติดี”
“ไม่ใช่แบบนั้นสักหน่อย!” ผมแย้งเสียงอ่อย “เอ่อ… …เราแค่…”
เรื่องแบบนี้ใครมันจะไปพูดได้ว่ากำลังฝึกทำตัวเป็นพระเอกสมชายอยู่ พูดไปก็พังหมดพอดี สุดท้ายก็เลยได้แต่ก้มหน้างุด ๆ พูดอะไรไม่ออก พอเห็นแบบนั้นคุณบีมก็ยิ้มกว้าง
“ยิ่งดูน่ารักเข้าไปใหญ่เลยรู้ตัวไหม?”
“โธ่…”
ผมทรุดตัวฮวบลงกับโต๊ะ ท้อใจกับความพยายามทั้งหมดที่ดูเหมือนจะย้อนกลับมาทำร้ายตัวเอง นี่เรามันเป็นสาวน้อยแบบที่พี่อีฟบอกจริง ๆ เหรอเนี่ย?
“เป็นอะไรไปคะ คุณฟ้า?”
คุณน้ำที่เพิ่งเดินมาถึงทรุดตัวลงนั่งอีกข้าง ใบหน้าเต็มไปด้วยความเป็นห่วง
“ไม่มีอะไรหรอก…” ผมตอบเสียงอ่อย
“บอกมาเถอะน่า” บีมเอื้อมมือมาลูบหัวผมเบาๆ “หรือว่าป่วยอยู่?”
“ไม่ ๆ วันนี้สบายดี…ก็แค่…”
ผมเว้นจังหวะไปชั่วขณะหนึ่ง ก่อนที่จะระบายความในใจออกมา
“แค่รู้สึกว่า… ยิ่งพยายามจะเปลี่ยนตัวเอง ก็ยิ่งได้ผลตรงข้ามเรื่อย ๆ อะ…”
“อ้อ… ที่แปลกๆ มาทั้งวันเพราะแบบนี้นี่เอง ว่าอยู่ว่าทำตัวสมหญิงขึ้น…” คุณบีมพยักหน้าเข้าใจแต่มันสวนทางจากที่ผมจะสื่อไปซะคนล่ะทาง
“ไม่ ๆ เราไม่ได้อยากสมหญิงซะหน่อย เราอยากดูแข็งแกร่งต่างหากล่ะ”
“แข็งแกร่ง…?”
ทั้งสองคนทวนคำพร้อมกับทำหน้าตาที่เต็มไปด้วยความสงสัย ทำเอาผมเริ่มลนลานมากขึ้นเรื่อย ๆ
แย่แล้วสิ แบบนี้จะทำให้สงสัยจนความลับแตกไหมเนี่ย….
“มะ…หมายถึง ไม่อยากอ่อนแอ ไม่อยากดูเป็นสาวน้อยอ่อนแอ…อะ..อะไรแบบนั้นน่ะ”
“กังวลเรื่องเมื่อวานเหรอ ฟ้า”
“เอ…เอ๋”
จู่ ๆ เรื่องวุ่น ๆ ที่เกิดขึ้นเมื่อวันก่อนกูกยกขึ้นมาพูดพร้อมกันกับที่ทั้งสองคนทำสีหน้ากังวล เมื่อเป็นแบบนั้น ผมก็เลยเออออห่อหมกไปก่อน
“ปะ…ประมาณนั้นค่ะ”
“ไม่เป็นไรนะคะคุณฟ้า คนเราจะแสดงด้านอ่อนแอก็ไม่ผิดหรอกค่ะ”
คุณน้ำพูดไปพลางลูบหัวของผมไป สัมผัสนั้นมันช่างอ่อนโยนจนทำเอาเคลิ้มไปชั่วขณะ แต่ไม่ใช่สิ มันต้องไม่ใช่แบบนี้ นี่มันก็เหมือนสาวน้อยขี้อ้อนไม่ใช่เหรอไง
รู้ตัวแบบนี้ผมก็ถอยออกไปนิดหนึ่ง
“ฮะ ๆ จะอ้อนหน่อยก็ไม่เป็นไรนะคะ บอกแล้วนี่ว่าสำหรับเราแล้วฟ้าก็เหมือนน้องสาวน้อย ๆ ที่น่ารักไง”
“ก็นะ ที่จริงฉันก็ชอบที่ฟ้าทำตัวแข็งแกร่งและเท่อยู่หรอก มันให้ความรู้สึกเหมือนตอนที่ปกป้องจากคนของที่บ้านเลย… แต่ว่านะ ฟ้าที่น่ารักน่ะ ฉันก็ชอบอยู่แล้ว”
“โธ่…พูดกันแบบนี้…” ผมได้แต่ครางอย่างสิ้นหวังผสมปนเปไปกับความเขินอายจากการที่คนน่ารักมาชื่นชมและพูดชอบเช่นนี้
“แล้วเราจะทำยังไงดีล่ะเนี่ย…”
“ก็เป็นตัวของตัวเองไงคะ” คุณน้ำตอบพร้อมรอยยิ้มอบอุ่น “คุณฟ้าน่ารักที่สุดตอนเป็นตัวของตัวเองนะคะ”
“ใช่” บีมพยักหน้าเห็นด้วย “ไม่ต้องฝืนทำอะไรหรอก เป็นแบบนี้แหละดีแล้ว”
ผมได้แต่ถอนหายใจยาว… นี่มันไม่ใช่คำปลอบใจที่ผมอยากได้ยินเลย เพราะมันยิ่งตอกย้ำความจริงที่ว่า ไม่ว่าจะพยายามแค่ไหน ตอนนี้ผมก็คงหนีไม่พ้นการเป็น “สาวน้อย” ขึ้นไปทุกที
เอาไงดีน้า….
ในระหว่างที่กำลังวิตกอยู่ คุณน้ำก็หยิบมือถือขึ้นมาก่อนพูดอะไรบางอย่าง จากนั้นก็หันมาหาพวกเราทั้งสามคน
“งั้นวันนี้ไปกินไอศกรีมกันไหมคะ?” น้ำชวนขึ้นมา “เดี๋ยวเราเลี้ยงเอง ของหวานทำให้สมองปลอดโปร่งนะคะ”
“เออ ดีเหมือนกัน” บีมพยักหน้าเห็นด้วย “ฟ้าจะได้หายเครียดด้วย”
ยิ่งอยู่นานก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองชักจะเข้าใกล้ความเป็น สาวน้อยที่ใสซื่อขึ้นทุกที ถ้างั้นบางทีหนีออกไปตั้งหลักใหม่อาจจะดีกว่า….
“เดี๋ยวสิคะ” คุณน้ำรีบคว้าแขนผมไว้เมื่อเห็นว่าผมกำลังจะลุกออกไป “จะไปไหนคะ?”
“ก็… อยากไปอยู่คนเดียว…สักครู่น่ะ”
“ไม่ได้นะ” คุณบีมลุกขึ้นตามมาด้วย “ปล่อยให้อยู่คนเดียวตอนนี้ มีหวังได้คิดมากจนหัวระเบิดพอดี อีกอย่างร่างกายก็น่าจะยังไม่ฟื้นดีด้วยนี่”
การเป็นประจำเดือนมันโหดขนาดนั้นเลยเหรอ… คือที่จริงตอนนี้มันก็ปวด ๆ อยู่บ้างแต่กินยาที่พี่อีฟให้มามันก็เบาลงไปแล้ว
“แต่ว่า…”
“ไม่มีแต่! วันนี้ต้องไปกินไอศกรีมด้วยกันค่ะ เหมาร้านไว้แล้วเพราะงั้นห้ามปฏิเสธนะคะ” คุณน้ำประกาศเสียงหนักแน่น พอทำท่าจะปฏิเสธก็เจอไม้ตายของเธอที่ใช้สองมือกุมมือของผมและมองด้วยสายตาร้องขอจนไม่อาจปฏิเสธได้
“ก็ได้…”
“เยี่ยม”
“ยอดเยี่ยมค่ะ”
ผมตอบเสียงแผ่ว รู้สึกอบอุ่นใจขึ้นมานิดหน่อย แม้ว่าความพยายามในการรักษาความเป็นชายจะล้มเหลวไปอย่างย่อยยับ แต่ว่าการมีคนเอาอกเอาใจแบบนี้มันก็… รู้สึกดีไม่ใช่น้อยแหะ
“ขอบคุณนะทั้งสองคน”
“โอ๊ย! น่ารักอีกแล้ว!!!”
ทั้งสองอุทานพร้อมกัน ทำเอาผมสะดุ้งโหยง และสะดุ้งหนักกว่าเมื่อเจอทั้งสองหยิบกล้องมาถ่ายตอนที่กำลังก้มหน้าขอบคุณ
“ไม่น่ารัก! เราไม่ได้น่ารัก!”
“ยิ่งปฏิเสธยิ่งน่ารัก” คุณบีมหัวเราะพลางลูบหัวเหมือนผู้ใหญ่กำลังเอ็นดูเด็ก
“จริงค่ะ น่ารักมากๆ เลย”
“พอแล้ว ไปกินก็ไปกิน!!!”