“ฟ้า… ใจเย็นๆ นะ” เสียงของคุณบีมดังแว่วมา “บอกได้นะว่าเป็นอะไร เดี๋ยวฉันช่วย”
“ไม่ต้องการ ฮือออออ”
“คุณฟ้าคะ…” น้ำเสียงอ่อนโยนของคุณน้ำแทรกขึ้นมา แม้มันจะเป็นเสียงของนางฟ้าที่พร้อมปลอบโยนทุกสรรพสิ่งแต่อารมณ์ของผมตอนนี้ ไม่ว่าเทพหรือเทวดาอะไรก็ปลอบมันไม่ได้!!!
“ไม่ต้องกังวลนะคะ เดี๋ยวเราจะเรียกรถพยาบาลมาให้ คุณฟ้าจะได้ไม่ต้องทนเจ็บแบบนี้”
“ไม่ต้อง!!” ผมรีบร้องห้ามเพราะมากคนก็มากความ ยิ่งคนมาเยอะก็เสี่ยงความลับแตก และยิ่งพอคิดว่าความลับจะแตกสติของผมก็จะแตกไปด้วย
“ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น ฮือออออ เราแค่อยากอยู่คนเดียว”
ตอนนี้เหตุผลทั้งหลายในหัวได้พ่ายแพ้ให้กับอารมณ์เป็นที่เรียบร้อย ไม่ว่าใครจะพูดอะไรตอนนี้มันก็สามารถกระตุ้นอารมณ์สุดเหวี่ยงนี้ของผมกันหมด โอยยย ปวดดดดดด
“แต่ว่า…”
“เอาไงดียัยน้ำ ดูท่าจะเหวี่ยงหนักเลย”
“ที่จริงอยากจะให้รถโรงพยาบาลมารับไปทันทีเลยนั่นล่ะค่ะ แต่แบบนี้คุณฟ้าอาจโมโหได้ สงสัยเราจะต้องปลอบกันจนกว่าเธอสงบแล้วค่ะ”
ตอนนี้ต้องเรียกว่าตัวผมกำลังอยู่ในสภาพร้องไห้ขี้มูกโป่งและทิ้งเหตุผลไว้ข้างถนนเป็นที่เรียบร้อย
“ปลอบเหรอ…..ฟ้า พวกเราเป็นห่วงมาก ๆ เลยนะ ออกมาคุยกันเถอะ ถ้าฟ้าออกมาล่ะก็ ฉันสัญญาเลยว่าอยากได้อะไรจะหามาให้นะ”
“ตามนั้นเลยค่ะคุณฟ้า ถ้าออกมาล่ะก็เราจะให้กินขนมอร่อย ๆ เยอะ ๆ เลยนะคะ”
นี่เห็นผมเป็นเด็กเหรอไงเนี่ย ปลอบกับล่อด้วยขนมเนี่ย!!!
“ไม่ออก!! ฮืออออ”
“ทำไมล่ะฟ้า ไม่อยากเห็นหน้าพวกเราเหรอ”
ที่จริงก็ไม่ได้อยากทำตัวดื้อแบบนี้หรอก แต่ถึงอารมณ์มันจะเหวี่ยงไปแล้วแต่ผมก็ยังเหลือเศษซากของเหตุผลอยู่และเหตุผลใหญ่มันก็คือ
“ออกไป..ตอนนี้ กระซิก พื้นห้องน้ำก็ได้เป็นทะเลเลือดพอดีสิ”
……
ใช่ ขืนเดินออกไปทั้งแบบนี้รับรองได้ว่างานนี้ต้องมีเลือดนองเต็มพื้น และก็คงไม่ใช่เลือดใครนอกจากตัวผมเอง ขืนเป็นแบบนั้นได้โดนคุณป้าแม่บ้านสาปแช่งยันชาติหน้าแน่นอน อีกอย่าง ของแบบนี้รู้ถึงไหน อายถึงนั่น
ไร้ซึ่งเสียงตอบโต้ใด ๆ กลับมา ทั้งสองคนเงียบไปชั่วขณะโดยเสียงเดียวที่มีก็คือเสียงสะอื้นไห้อย่างไร้เหตุผลของผม
“สรุปเป็นวันนั้นของเดือนเองสินะฟ้า ไม่เป็นไรนะฉันอยู่ที่นี่เป็นเพื่อนแล้ว”
เพิ่งบอกว่าอยากอยู่คนเดียวเองนะคุณบีม!! ที่จริงได้ยินแบบนั้นก็ดีใจอยู่หรอก แต่สำหรับตอนนี้มันไม่ได้
“ถ้าถึงขั้นเป็นทะเลเลือดแล้วล่ะก็อาจเลือดจางจนเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ เดี๋ยวเราจะรีบเรียกรถโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้ล่ะค่ะ”
ขะ…ขนาดนั้นเลยเหรอ ประจำเดือนมันรุนแรงขนาดนั้นเลยเหรอ!!!
“ถะ…ถึงตายเลยเหรอคุณน้ำ ฮือออ ไม่นะ ยังไม่อยากตาย”
“ดูสิยัยน้ำเพราะเธอ ฟ้ากลัวแล้วเห็นไหม”
“แต่เรื่องจริงนี่คะ มันมีคนที่เลือดออกเยอะจนต้องให้เลือดเลยนะคะ”
“แล้วมันใช่เวลาที่ต้องพูดตอนนี้ไหมเนี่ย บอกให้ปลอบแต่ดูสิว่าทำอะไรไป มีหวังฟ้าหน้าซีดกลัวหมดแล้ว”
“แย่แล้วสิคะ… ไม่ต้องห่วงนะคะคุณฟ้า เราจะ….”
“ไม่เอา!!!!ไม่เอารถโรงพยาบาล เรากลัวหมออออออ”
คิดดูว่ามันจะสภาพอนาถขนาดไหนถ้าเด็กสาวคนหนึ่งโดนหามเปลขึ้นรถโรงพยาบาลโดยเลือดอาบตามทางเพราะไม่รู้จักผ้าอนามัย…. รู้ถึงไหน อายถึงนั่น เพราะงั้นสำหรับโรงพยาบาลแล้ว ไม่ได้เด็ดขาด!!!!
“ฮือออ ไม่เอาโรงพยาบาล เราไม่เอา”
เสียงของผมเริ่มโหวกเหวกโวยวายหนักขึ้นเรื่อย ๆ พอเป็นแบบนั้นเองทั้งสองคนก็ดูเหมือนจะลนลานมากขึ้นเรื่อย ๆ
“มะ…ไม่เรียกรถพยาบาลแล้วคะ เพราะงั้นคุณฟ้าอย่าร้องเลยนะคะ”
“ใช่ ๆ นี่ไง ยืนยันได้เลยว่ายัยน้ำเก็บมือถือแล้ว”
“ไม่มาแล้วจริง ๆ นะ….?”
“ไม่มาแล้ว”
โอเค รอดไปอีกหนึ่ง แต่แย่แล้วสิ….ร้องไห้โหวกเหวกแบบนี้คนอื่นในห้องน้ำเขาไม่แตกตื่นกันหมดเหรอ
“ดูสิใครเป็นอะไร ยัยตุ๊กตาประจำชมรมนี่เอง”
โห เป็นใครไม่เป็น ดันเป็นคนสุดท้ายที่อยากให้เกี่ยวข้องด้วย…. พีทิพย์ พี่ทิพย์จะอยู่ทุกที่เวลาเรามีเรื่องไม่ได้นะ!!!
“ไหนว่ามาสิว่าเกิดอะไรขึ้นถึงได้มานั่งร้องไห้ในห้องน้ำเนี่ย เจ้สุดรักยินดีดูแลเอง”
“กระซิก…ระ…เรา…”
ไม่รู้ทำไม คำนี้มันช่างรู้สึกกระอักกระอ่วนที่จะพูดออกไปในสภาพปัจจุบันนี้จริง ๆ แต่ขืนไม่พูดอะไร พี่ทิพย์คงได้แต่งเรื่องแปลก ๆ ไปเล่าให้สมาชิกคนอื่นฟังแน่ ๆ
“ปะ….เป็นประจำเดือน”
ผมพยายามเค้นเสียงพูดออกมาอย่างเขินอายในขณะที่ตัวก็ยังนั่งคอห่านจ้องมองเจ้ากระโปรงตัวโปรดที่เลอะเลือดอย่างน่าเศร้าอยู่
“หือ อะไรนะ ได้ยินไม่ชัด”
“หนูเป็นประจำเดือนค่ะ!!!”
“อ่อ…ปจด……นึกว่าพวกเธอหักอกยัยนี่ซะอีก”
“ไม่มีวัน/ไม่มีทางอยู่แล้วค่ะ”
ทั้งสองรีบตอบกลับเป็นเสียงเดียวกันทันทีเมื่อเจอพี่ทิพย์แซวแรงเข้าไปหนึ่งดอก
“แล้วไงอะ สรุปว่าเอาแต่นั่งอยู่บนคอห่านไม่ออกมาเพราะอะไรพวกเธอได้ถามยัง?”
“เรื่องนั้น…..”
เสียงของทั้งสองเงียบไปชั่วขณะจากนั้นก็ได้ยินเสียงถอนหายใจของพี่ทิพย์ดังออกมา
“เฮ้อ… ให้ตายสิ ก็เข้าใจอยู่หรอกว่ารักยัยตุ๊กตาแค่ไหน แต่ถึงขั้นลืมทำอะไรง่าย ๆ อย่างถามคำถามพื้นฐานเนี่ย…เป็นเอามากนะพวกหล่อน”
พี่ทิพย์ตัวจริงปะเนี่ย ไหงถึงได้พูดดูเป็นผู้ใหญ่ขนาดนี้ ใครเอาพี่ทิพย์ไปซ่อน บอกมาเดี๋ยวนี้นะ
“แล้วที่ไม่ออกมานี่เพราะอะไรอะยัยตุ๊กตาตัวน้อย”
“กระซิก ๆ ….เรื่องนั้นคือ…. เลือดเราก็สาด กระโปรงก็เลอะ ถ้าจะให้ออกไปตอนนี้นี่… กระซิก เปลือยล่างเลยนะคะ”
พอคำว่า “เปลือยล่าง” หลุดออกจากปากผม ทุกคนที่อยู่นอกประตูห้องน้ำก็เงียบกริบเหมือนมีคนกดปุ่ม mute ใส่… แต่แน่นอนว่าไม่มีทางจบแบบสงบ ๆ หรอก เพราะพี่ทิพย์น่ะ มันพี่ทิพย์!
“หึหึหึ… เปลือยล่าง เนี่ยนะ” เสียงหัวเราะในลำคอของพี่ทิพย์ดังขึ้นพร้อมกับจินตนาการของเธอที่ผมไม่อยากรู้เลยว่ามันจะไปถึงไหนและในใจจะวางแผนอะไรไว้กันแน่
“พี่ทิพย์! อย่าคิดทำอะไรแปลก ๆ นะ!” ผมตะโกนออกไปทั้งที่หน้าร้อนฉ่า
“ซีเรียส?” เสียงพี่ทิพย์แหลมขึ้น “ซีเรียสอะไรยะ นี่มันแค่เรื่องของประจำเดือนเอง จะให้ยัยตุ๊กตาน้อยของพี่เครียดอะไรเบอร์นั้น! มาพี่เข้าไปดูอาการหน่อยสิว่ามันเป็นอย่างไร”
“หยุดเลย/หยุดเดี๋ยวนี้เลยค่ะ”
ผมได้ยิงเสียงโครมครามดังมาจากข้างนอกคล้ายว่ามีการใช้ความรุนแรงบางอย่างเกิดขึ้น แต่ก็อยู่ข้างในเลยไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ มีเพียงแค่เสียงพี่ทิพย์เท่านั้นที่ดังตามมา
“โอ้ย ๆ ล้อเล่นน่า แค่อยากทำให้ยัยหนูหายเครียดเท่านั้นเอง”
เป็นเครียดหนักกว่าเดิมอีกอะ…. ว่าแต่พอพูดถึงกระโปรง
“ฮือออ! แต่เราจะทำยังไงดีล่ะคะ กระโปรงเลอะหมดเลย ฮือออ” ผมพูดไปสะอื้นไป
พี่ทิพย์ถอนหายใจ ก่อนจะพูดอย่างหน่ายจิต “ก็แค่ส่งกระโปรงตัวใหม่เข้าไปให้ไม่ใช่จบเหรอ?”
“มันไม่มีนี่สิคะ!” ผมตอบไปเสียงดัง “เราไม่ได้พกกระโปรงสำรองเหมือนเป็นซูเปอร์ฮีโร่ในละครนะ!”
“โธ่เอ๊ย…” พี่ทิพย์หัวเราะอย่างหยัน ๆ “แล้วตอนนี้ใส่อะไรอยู่ล่ะ?หรือว่า…”
“หยุดเลยพี่ทิพย์!!!” ผมตัดบทก่อนที่เธอจะพูดอะไรลามกออกมา
หลังจากที่ผมตะโกนห้ามพี่ทิพย์ได้สำเร็จ ทว่า เสียงเคาะประตูอีกครั้งก็ดังขึ้นมา แต่คราวนี้ไม่ใช่ใครอื่น—เป็นเสียงของ พลอย เพื่อนรักที่ดันกลับมาซ้ำเติมสถานการณ์!
“เอ่อ…ฟ้า ยังโอเคอยู่ใช่ปะ? เห็นหน้าซีด ๆ” เสียงพลอยดังขึ้นมาเบา ๆ คล้ายว่ากำลังหวาดกลัวเหล่าบุคคลที่อยู่ข้างนอกนั่น ซึ่งเข้าใจได้ ทั้งเจ้าชาย เจ้าหญิง และเจ้าแม่ข่าวสาร รวมตัวอย่างกับอเวนเจอร์แบบนี้ เป็นใครก็ต้องกลัว
“สบายดี!!!” ผมรีบตะโกนห้าม เพราะสัมผัสได้ว่าขืนปล่อยต่อไปจะมีเรื่องให้ยุ่งยากกว่าเดิมแน่ ๆ
“แล้วสรุปเป็นอะไรอะ”
“อ่อยัยนี่เป็นประจำเดือน”
พอเจอคนประกาศถึงสภาวะที่ตัวเองเป็นอยู่ จากอารมณ์เหวี่ยงปนเศร้าก็กลับมาเป็นเขินอายแทนอีกครั้ง อารมณืตอนนี้มันเหมือนราวกับมีใครเอาผมมาผูกประจานไว้อยู่หน้ากำแพงเมืองก็ไม่ปาน
“พลอยยยย ตุ๊กตาของพวกเราเป็นอะไรมากไหม”
เสียงจำนวนมากเดินตามมาซึ่งบอกได้เลยว่ามีเป็นสิบ ไม่ต้องสืบก็รู้ว่านั่นคือเหล่าเพื่อนร่วมห้องที่คงตามมาเพราะความเป็นห่วง
ว่าแต่นี่มันอะไร ยกกันมาหมดห้องเลยเหรอ แค่คุณน้ำกับคุณบีมมาก็เขินกับกลัวจะแย่อยู่แล้ว ถ้ามากันขนาดนี้นี่ขอบอกเลยว่า…บรรลัย
“ฟ้าจ๋า! ฟ้าจ๋า! อยู่ในนี้ใช่ไหม?!”
เสียงใครสักคนร้องเรียกอย่างร้อนรน ตามมาด้วยเสียงเคาะประตูดัง ตึง ๆ ๆ
“ฟ้า! เกิดอะไรขึ้นเหรอ?!เปิดประตูให้พวกเราหน่อย!”
เปิดให้พวกเธอ?ฝันไปเถอะ! ประตูนี่น่ะคือสิ่งสุดท้ายที่กั้นระหว่างผมกับความพินาศเอาไว้อยู่ ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องรักษามันไว้ยิ่งชีพ!!!
“ฟ้าจ๋า! บอกมาเลยนะ ไม่ต้องอาย! พวกเราพร้อมช่วยทุกอย่าง!”
ช่วยให้มันแย่ลงน่ะสิ นี่มันนรกชัด ๆ อารมณ์ตอนนี้มันเหมือนกับโดนจับแก้ผ้าแล้ววิ่งรอบเมืองอย่างไงอย่างงั้น
ถ้าจะมาขนาดนี้ไม่มาหมดโรงเรียนเลยล่ะ!!!!
“นี่พวกเธอทำอะไรกันน่ะ!!! มากองกันอยู่หน้าห้องน้ำ แบบนี้มันแกะกำทางเดินนะรู้ไหม”
เสียงอันแสนคุ้นเคยดังขึ้นมา นั่นทำเอาทุกคนทั้งหมดขนลุกวาบก่อนที่จะเริ่มมีเสียงดังระรัวคล้ายราวกับมีการอพยพครั้งใหญ่ของมนุษย์ ใช่แล้ว นั่นไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นอาจารย์ฝ่ายปกครองสุดเหี๊ยบ อภิชนาถนั่นเอง…..
สมพรปาก ขออะไร ได้อย่างงั้น พระเจ้า ผมล่ะประทับใจในตัวท่านจริง ๆ …… มันต้องไม่ใช่แบบนี้เซ่!!!!
“กรี๊ด อภิชนาถมา พวกเราเผ่นกันเถอะ”
“อูยยย น้ำ บีม เจ้ขอตัวก่อนนะ พอดีนั่นโจทย์ใหญ่เจ้เลย เผ่นล่ะ”
ตอนนี้ข้างนอกน่าจะเหลือเพียงแค่คุณเจ้าชายและเจ้าหญิงที่กำลังยืนอย่างเป็นห่วง ซึ่งแน่นอนว่าพอเหลือแค่สองคนแบบนี้ก็ต้องเจอคุณครูถามอยู่แล้ว
“ธารินทร์และอภิสรา ตอบครูหน่อยได้ไหมว่านี่มันเกิดอะไรขึ้น พวกเธอมาก่อม็อบอะไรที่หน้าห้องน้ำ”
“ไม่ใช่แบบนั้นค่ะอาจารย์ พอดีเพื่อนร่วมห้อง… ณัฐชาเป็นประจำเดือน พวกเราเป็นห่วงเลยตามมาดูน่ะค่ะ”
“ต้องมาเยอะขนาดนั้นเลยเหรอ”
“เรื่องนั้นคงเพราะทุกคนเป็นห่วงนั่นล่ะค่ะ”
“เห้อ เห็นแก่ว่านักเรียนดีเด่นทั้งสองคนพูดแบบนี้ ครูจะไม่ว่าอะไรที่พวกเธอมาเอะอะโวยวายตรงทางเดินละกัน แล้วก็นี่ผู้ปกครองของณัฐชา เห็นว่าน้องสาวป่วยเลยมาหา พวกเธอก็รีบกลับห้องแล้วให้พี่สาวเขาดูแลไปเถอะ”
“เข้าใจแล้วค่ะ”
ทั้งคุณน้ำและคุณบีมต่างก้มหน้าตกปากรับคำอย่างง่ายดายเมื่ออยู่ต่อหน้าอาจารย์สุดโหดคนนี้ แต่เดี๋ยวก่อนนะ… ผู้ปกครองเหรอ อย่าบอกนะว่า!!!
ทันใดนั้นเอง เสียงส้นสูงก็ดัง คลิก คลิก เข้ามาในห้องน้ำก่อนจะมีเสียงอันคุ้นเคยดังขึ้นมาจากข้างนอก
“ขอบคุณที่ช่วยดูแลน้องสาวนะคะ แต่คิดว่าน้องสาวต้องเปลี่ยนกระโปรงกับใส่ผ้าอนามัย ทั้งสองคนออกไปก่อนน่าจะดีกว่านะคะ”
“เข้าใจแล้วค่ะ ขอบคุณมากค่ะคุณพี่สาว”
“รับทราบ ขอบคุณมาก คุณพี่สาว”
จากนั้นทั้งสองคนก็เดินออกไปและกระโปรงกับถุงพลาสติกใส่ผ้าอนามัยก็ถูกส่งข้ามเข้ามาในห้องน้ำ
“ช้าจริงนะพี่อีฟ!” ผมโวยลั่น
“ของดีต้องใช้เวลา” พี่อีฟพูดด้วยน้ำเสียงเย็น ๆ ก่อนจะยื่นถุงกระดาษสุดหรูผ่านช่องประตูเข้ามา “นี่ค่ะ กระโปรงสำรอง และผ้าอนามัยอย่างดี เตรียมตัวให้พร้อมนะคะ เดี๋ยวพี่จะพาออกไปอย่างมีศักดิ์ศรี”
“เราตอนนี้…..ไม่มีอะไรที่เรียกว่าศักดิ์ศรีเหลือแล้วค่ะ!” ผมโอดครวญ แต่ก็ยอมรับของทั้งหมดอย่างไม่มีทางเลือก
“หวังว่าจะใช้เป็นนะคะ”
“เดี๋ยวดูยูทูปเอาแล้วกันค่ะ….”
และแล้วปัญหาก็คลี่คลายไปได้อย่างงดงามทว่าไม่รู้ตอนนี้ไอ้ที่ผมเป็นมันจะถูกเอาไปคุยอย่างไรแล้วบ้าง ทั้งกรีดร้อง ทั้งร้องไห้ มิวายคงได้กลายเป็นข่าวลือแปลก ๆ อย่างแน่นอน
“แต่ว่านะคะ ถ้าประจำเดือนมาแบบนี้แสดงว่าร่างกายคุณตอนนี้กำลังเริ่มเปลี่ยนไปอย่างสมบูรณ์แล้วล่ะค่ะ”
“ว่าไงนะ?!นี่พี่หมายถึง?”
“ก็มันแปลว่าตอนนี้ฮอร์โมนเพศหญิงกำลังเริ่มสูงขึ้นมาอย่างชัดเจน ดังนั้นก็เลยเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น…. อืม แต่ดูเหมือนจะไม่ใช่แค่ร่างกายนะคะ จิตใจก็ดูไปด้วย”
“นี่พี่แซวกันใช่ไหมเนี่ย”
คิดถึงฉากโวยวายและร้องไห้อย่างกับเด็กน้อยเมื่อครู่ก็ทำเอาผมหน้าแดงหน่อย ๆ ด้วยความเขินอาย แต่พี่อีฟก็ทำหน้านิ่งแล้วส่ายหัว
“ไม่ค่ะ นี่น่ะ….พูดจริงจังนะคะ ด้วยฮอร์โมนที่สูงขึ้นแบบนี้ บางทีมันอาจจะเปลี่ยนแปลงไปถึงจิตใจของคุณเลยก็ได้ หรือง่าย ๆ ก็คืออาจจะกลายเป็นสาวน้อยจริง ๆ จัง ๆ แบบไม่รู้ตัว”
“อะไรกัน…ผมยังอยากเป็นผู้ชายทั่งแท่งอยู่นะพี่อีฟ”
“เข้าใจค่ะ ถึงแม้คุณจะดูเป็นสาวน้อยที่สุดในโรงเรียนนี้แล้วก็ตาม แต่พี่คนนี้ก็เข้าใจค่ะ”
“นี่แซวกันอีกแล้วเหรอ!!”
“อันนี้พูดตามที่เห็นตรง ๆ แล้วค่ะ ไม่รู้ว่านิสัยคุณมันสาวน้อยอยู่แล้วหรือว่าเพราะฮอร์โมน แต่ถ้าเป็นอย่างหลังก็ต้องบอกว่าควรรีบแล้วนะคะ ก่อนที่จะเป็นสาวน้อยแบบสมยอมไปในที่สุดน่ะค่ะ”
ดูท่าเหมือนเวลาของผมมันจะมีจำกัดแล้วสินะ…. เห้อ ชีวิตนะชีวิต ยุ่งไม่เว้นเลยจริง ๆ