ชายาเคียงหทัย 347 ของล้ำค่าแห่งแคว้นเจิ้น (3)

ตอนที่ 347 ของล้ำค่าแห่งแคว้นเจิ้น (3)

เยี่ย​หลี​เลิกคิ้ว​เอ่ย​ว่า​ “เอา​สมบัติ​ของ​แคว้น​ต้า​ฉู่มามอบให้​คนอื่น​เช่นนี้​ ม่อ​จิ่งหลี​คง​อธิบาย​ต่อ​ราชสำนัก​ได้​ลำบาก​อยู่​กระมัง​”

“แล้ว​มัน​เกี่ยว​อัน​ใด​กับ​ข้า​หรือ​” ม่อ​ซิว​เหยา​กะพริบตา​ยิ้ม​ถาม

ทั้ง​สามคน​ที่​เหลือ​แอบ​คิด​เงียบๆ​ ว่า​ไม่เกี่ยว​แน่นอน​

ตอนที่​ม่อ​จิ่งหลี​เข้ามา​นั้น​มีกลิ่นอาย​ห้าวหาญ​มืด​ทึม​น่ากลัว​อยู่​ทั่ว​ทั้ง​ร่าง​ น่าเสียดาย​ที่​ทั้ง​สี่คน​ ณ ที่​นั้น​ไม่มีใคร​ขี้ขลาด​ตาขาว​กัน​สัก​คน​ แต่​ผู้ติดตาม​ที่​ถือ​กล่อง​อยู่​ด้าน​หลังเขา​กลับ​ตกอกตกใจ​อยู่​ไม่เบา​ มือ​ที่​วาง​ของ​ลง​บน​โต๊ะ​นั้น​สั่นเทา​ ม่อ​จิ่งหลี​โบกมือ​ให้​ผู้ติดตาม​ถอย​ออก​ไป​ ส่วน​ตัวเอง​จ้อง​ม่อ​ซิว​เหยา​แล้ว​เอ่ย​ว่า​ “ข้า​เอา​ของ​ที่​เจ้าอยากได้​มาให้​แล้ว​ แล้ว​ของ​ที่​ข้า​อยากได้​เล่า​”

ม่อ​ซิว​เหยา​ยิ้ม​อย่าง​สบาย​ๆ เอ่ย​ว่า​ “หลี​อ๋อง​ช่างรวดเร็ว​ว่องไว​ยิ่งนัก​ ข้า​เอง​ก็​ย่อม​พูด​คำ​ไหน​คำ​นั้น​ พี่​ชิงเฉิน​ เชิญไปดู​ที​เถิด​” ของล้ำค่า​กับ​ของปลอม​แม้ว่า​ดู​เผินๆ​ จะต่างกัน​ไม่มาก​ แต่​มูล​ค่าที่​แท้จริง​กลับ​ต่างกัน​ราว​ฟ้ากับ​เหว​

สวี​ชิงเฉิน​พยักหน้า​ยืน​ขึ้น​แล้ว​เดิน​ไป​หยุด​อยู่​ตรงหน้า​กล่อง​ผ้า​ทรง​สี่เหลี่ยม​ เขา​เปิด​มัน​ออก​เบา​ๆ ด้านใน​มีฉิน​ที่​ประดับ​ด้วย​หยก​สีขาว​ราว​หิมะ​วาง​อยู่​ ตัว​ฉิน​ขาว​พิสุทธิ์​ดุจ​หิมะ​ เรียบ​รื่น​ฉ่ำวาว​ดุจ​หยก​ ส่วนหัว​สลัก​ลาย​หงส์​สีชาด​ตัว​หนึ่ง​ ตั้งแต่​สมัย​โบราณกาล​ฉิน​เจ็ด​สาย​ที่​ทำ​จาก​ไม้นั้น​ดี​ที่สุด​ ฉิน​ที่​ทำ​จาก​หยก​กลับ​ไม่เคย​ได้ยิน​มาก่อน​ หยก​ขาว​ชิ้น​ใหญ่​มหึมา​หนึ่ง​ชิ้น​นั้น​หา​ได้​ยาก​ยิ่ง​ จึงไม่ต้อง​พูดถึง​เลย​ว่า​หยก​หรือ​ไม้นั้น​ดีกว่า​กัน​ ยิ่ง​การแกะสลัก​หยก​ให้​กลายเป็น​ฉิน​นั้น​ยิ่ง​เป็นเรื่อง​ที่​ยาก​เสีย​ยิ่งกว่า​ยาก​ ส่วน​ฉิน​หยก​ชิ้น​นี้​ไม่เพียงแต่​รูปร่าง​งดงาม​ไร้​ที่​ติ​เท่านั้น​ เสียง​ของ​มัน​ก็​ไพเราะ​หา​ใด​เปรียบ​ หลาย​พัน​หลาย​ร้อย​ปี​มานี้​ฉิน​ที่​ทำ​มาจาก​หยก​ขาว​นั้น​มีอยู่​เพียง​ชิ้น​เดียว​ใน​โลก​ มัน​ถูก​เรียก​ว่า​เครื่องดนตรี​แห่ง​เซียน​ใน​หมู่​ฉิน​

ใน​ดวงตา​สง่างามนุ่มนวล​ของ​สวี​ชิงเฉิน​ฉายแวว​ยินดี​จางๆ ใช้ปลายนิ้ว​ดีด​เบา​ๆ ความมีชีวิตชีวา​ของ​ฉิน​แผ่​กระจาย​ออก​มาจาก​ปลายนิ้ว​ แม้เป็น​เพียง​โน้ต​สุ่มสอง​สามตัว​ แต่กลับ​ไพเราะ​เสนาะ​หู​และ​จับใจ​คนฟัง​เป็นอย่างมาก​

“สมกับ​เป็น​ฉิน​หงส์​” สวี​ชิงเฉิน​หยุด​มือ​ลง​ เอ่ย​ชมออกมา​แผ่วเบา​

สวี​ชิงเหยียน​มอง​ฉิน​หยก​ขาว​ใน​กล่อง​ด้วย​ความ​ตกตะลึง​ ข้อมูล​ที่​เพิ่ง​ได้รับ​ทำให้​เขา​อึ้ง​งัน​จน​ตกอยู่ในภวังค์​ ฉิน​หงส์​…ฉิน​หงส์​ นี่​คือ​ฉิน​หงส์​ฉิน​อัน​โด่งดัง​ก้องโลก​ใน​ตำนาน​ที่​ทำเอา​คน​ไม่น้อย​เฝ้าคะนึง​หา​มาหลาย​ร้อย​ปี​น่ะ​หรือ​ เช่นนั้น​แล้ว​ของ​ที่​เหลือ​พวก​นั้น​…สวี​ชิงเหยียน​กลั้นหายใจ​โดยอัตโนมัติ​ มอง​ปลายนิ้ว​เรียว​ของ​สวี​ชิงเฉิน​ที่​กำลัง​เลื่อน​ไปหา​กล่อง​อีก​ใบ​ด้วย​ความ​ตกตะลึง​

ภายใน​กล่อง​มีอาภรณ์​สีขาว​พิสุทธิ์​บรรจุ​อยู่​ อาภรณ์​ไหม​หิมะ​ดู​แล้ว​กลับ​มิได้​งดงาม​มาก​เพียงนั้น​ กระทั่ง​กล่าว​ได้​ว่า​ไม่ค่อย​สะดุดตา​ ผ้า​เนื้อ​บาง​กึ่ง​โปร่ง​สีขาว​ด้านบน​ทอ​เป็น​ลาย​บัว​หิมะ​อยู่​จางๆ คล้าย​มีคล้าย​ไม่มี ไม่ว่า​อาภรณ์​ชิ้น​ใด​ที่​เคย​ถูก​เรียก​ว่า​เป็น​อาภรณ์​หงส์​อันดับ​หนึ่ง​แห่ง​ใต้​หล้า​หรือ​อาภรณ์​ฝูหรง​ หรือ​ธารา​เมฆาขาว​ก็​ล้วน​มีรูปแบบ​และ​สีสัน​ลวดลาย​ที่​หลากหลาย​ ซึ่งดู​งดงาม​กว่า​อาภรณ์​ตรงหน้า​นี้​มาก​นัก​ ทว่า​คุณค่า​ของ​อาภรณ์​ไหม​หิมะ​มิได้​อยู่​ที่​ความงาม​ของ​มัน​ แต่​เป็น​การป้องกัน​ตัวเอง​ไม่ให้​ฉีกขาด​ทำลาย​ได้​ต่างหาก​ สวี​ชิงเฉิน​เงยหน้า​มอง​ม่อ​ซิว​เหยา​ ยิ้ม​ถามว่า​ “ท่าน​อ๋อง​ จะลองดู​หน่อย​หรือไม่​”

“แน่นอน​ว่า​ต้อง​ลอง​” ของ​ที่​ไม่เคย​ลอง​ใช้เขา​จะกล้า​ให้​อา​หลี​ใช้ได้​อย่างไร​ ไม่แน่​ว่า​ถึงเวลา​นั้น​จาก​ของล้ำค่า​สำหรับ​ป้องกันตัว​จะกลาย​เป็นต้นเหตุ​ที่​ทำให้​อา​หลี​ได้รับบาดเจ็บ​เอา​ได้​

ม่อ​ซิว​เหยา​ก็​ไม่เกรงใจ​ พอ​สวี​ชิงเฉิน​ผละ​ออกมา​ก็​ลุกขึ้น​เดิน​เข้าไป​ทันที​ ทันใดนั้น​แสงประกาย​สีเงิน​สาย​หนึ่ง​ฟาด​ผ่าน​ อาภรณ์​สีขาว​ใน​กล่อง​ถูก​ฉวย​ขึ้น​มา จากนั้น​จึงฟัน​ลง​ไป​สอง​สามครั้ง​ ประกาย​กระบี่​หาย​ไป​อยู่​หลัง​บั้นเอว​เขา​ ผ้า​สีขาว​ปลิว​ไหว​ตก​ลงมา​ใน​มือ​ ม่อ​ซิว​เหยา​พยักหน้า​อย่าง​พอใจ​ “สมกับ​ที่​เป็น​อาภรณ์​ไหม​หิมะ​ที่​ไร้​ซึ่งสิ่งใด​มาทำลาย​ได้​จริงๆ​ ไม่เพียงแต่​จะสามารถ​ต้านทาน​กระบี่​ได้​แล้ว​ยัง​มีพลัง​อีกด้วย​” หยุด​วร​ยุทธ​อัน​สูงส่งเช่นนี้​ของ​ม่อ​ซิว​เหยา​ได้​ทันเวลา​ อาภรณ์​ผืน​นั้น​ที่อยู่​ใน​มือ​เขา​ไร้​รอยขีดข่วน​แม้แต่น้อย​ เห็นได้ชัด​ว่า​พลัง​ใน​การปกป้อง​ร่างกาย​สูงส่งไร้​เทียมทาน​

“ม่อ​ซิว​เหยา​!” ม่อ​จิ่งหลี​สีหน้า​ดำคล้ำ​เสีย​ยิ่งกว่า​ก้น​หม้อ​ ม่อ​ซิว​เหยา​คว้า​กระบี่​ฟาดฟัน​ของล้ำค่า​เหล่านี้​ตามอำเภอใจ​โดย​ไร้​ความเกรงใจ​ต่อหน้า​เขา​ ช่างโอหัง​นัก​

ม่อ​ซิว​เหยา​อมยิ้ม​เอ่ย​ว่า​ “ใน​เมื่อ​มอบให้​ข้า​แล้ว​ ก็​เป็น​ของ​ของ​ข้า​ ข้า​ฟัน​พวก​มัน​ดู​มิได้​หรือ​ไร​”

ม่อ​จิ่งหลี​กัดฟัน​อย่าง​หมด​คำ​จะพูด​

ม่อ​ซิว​เหยา​ถือ​อาภรณ์​ไหม​หิมะ​ไป​หยุด​อยู่​ตรงหน้า​เยี่ย​หลี​แล้ว​ยิ้ม​เอ่ย​ว่า​ “อา​หลี​ เจ้าชอบ​หรือไม่​ เดี๋ยว​ข้า​จะให้​คน​แก้ไข​สักหน่อย​ ให้​ทำเป็น​ชุด​ใหม่​ที่​สวยงาม​ก่อน​ แล้ว​อา​หลี​ค่อย​ลอง​สวม​ดูดี​หรือไม่​” ความจริง​แล้ว​ใน​บรรดา​ของล้ำค่า​เหล่านี้​ อาภรณ์​ตัว​นี้​ที่​คนธรรมดา​ทั่วไป​เห็น​ว่า​ไม่มีค่า​กลับ​สำคัญ​ที่สุด​ใน​สายตา​ของ​เขา​ ส่วน​ของ​อย่าง​อื่น​ แม้ว่า​ใน​ตอนที่​สวี​ชิงเฉิน​อยากได้​ฉิน​หงส์​นั้น​ เขา​จะยืนกราน​ไม่ยอมให้​ แต่​นั่น​ก็​เพียง​ล้อ​เขา​เล่น​เท่านั้น​

เยี่ย​หลี​ก็​รู้ดี​ว่า​เป็น​น้ำใจ​จาก​ม่อ​ซิว​เหยา​จึงอมยิ้ม​พยักหน้า​เอ่ย​ว่า​ “ดี​ยิ่ง​ ไม่ต้อง​แก้​หรอก​ นี่​ก็​สวย​แล้ว​”

ม่อ​ซิว​เหยา​สีหน้า​ยิ่ง​ยินดี​ปรีดา​ขึ้นไป​อีก​ เขา​ยิ้ม​เอ่ย​ว่า​ “อา​หลี​ชอบ​ก็​ดีแล้ว​”

สมบัติ​แห่ง​แคว้น​ที่​เหลือ​อีก​สอง​ชิ้น​อย่าง​กระบี่​เพลิง​อัคคี​กับ​ตราประทับ​ก็​เป็น​ของแท้​อย่าง​ไม่ต้องสงสัย​ อันที่จริง​ม่อ​จิ่งหลี​คบค้าสมาคม​กัน​มาตั้งแต่​เด็ก​จน​โต​ และ​ไม่มีความกล้า​ที่จะ​เอา​ของปลอม​มาตบตา​เขา​ เพียงแต่​สุดท้าย​แล้ว​กระบี่​เพลิง​อัคคี​ถูก​สวี​ชิงเฉิน​อ้างว่า​มีไอ​ชั่วร้าย​เข้มข้น​เกินไป​จึงหอบ​เอา​ไป​ศึกษา​ดู​พร้อมกับ​ฉิน​หงส์​ ม่อ​ซิว​เหยา​ก็​ไม่ได้​สนใจ​ แค่​เพียง​วร​ยุทธ​ของ​เขา​ใน​ตอนนี้​ก็​ไม่จำเป็นต้อง​ใช้อาวุธ​สวรรค์​ร้ายกาจ​อัน​ใด​ทั้งนั้น​ สุดท้าย​ของ​ที่​ติ้ง​อ๋อง​ลำบาก​ยากเข็ญ​กว่า​จะรีดไถ​ม่อ​จิ่งหลี​มาได้​นั้น​ ตัว​เขา​กลับ​ได้​เพียง​ตราประทับ​แห่ง​แคว้น​มาเท่านั้น​ เขา​เอา​มัน​ถือ​เล่น​ใน​มือ​ด้วย​ท่าทาง​ไม่แยแส​ ตราประทับ​นี้​มีขนาด​พอๆ กับ​ราชลัญจกร​หยก​แห่ง​แคว้น​ ม่อ​ซิว​เหยา​พินิจ​ดู​ทั้ง​ซ้าย​และ​ขวา​ก็​ไม่เห็น​ถึงคุณค่า​ของ​สิ่งนี้​ จึงหมด​ความ​สนอกสนใจ​ไป​ เขา​โยน​ให้​สวี​ชิงเหยียน​ที่​จับจ้อง​อยู่​ข้างๆ​ พร้อม​จะเข้า​ตะครุบ​ดั่ง​พญา​เสือ​ สวี​ชิงเหยียน​ถือ​ตราประทับ​แห่ง​แคว้น​เอาไว้​ด้วย​ความ​ลิงโลด​ มองดู​แล้ว​มองดู​อีก​อยู่​อย่างนั้น​ ถูกใจ​จน​ไม่ยอม​ปล่อยมือ​

ม่อ​จิ่งหลี​เหลือบมอง​ด้วย​หาง​ตา​ ของล้ำค่า​ใน​มือ​คนสารเลว​พวก​นี้​เป็น​ของ​เขา​นะ​! จะมาจับ​พลิก​ไป​พลิก​มาพินิจ​มอง​ต่อหน้า​เจ้าของเดิม​อย่าง​เขา​มัน​ใช่เรื่อง​หรือ​

“ม่อ​ซิว​เหยา​ ของ​ที่​ข้า​ต้องการ​ล่ะ​!” ม่อ​จิ่งหลี​เอ่ย​เสียง​เข้ม​

ม่อ​ซิว​เหยา​โบกมือ​ ของ​ประณีต​ชิ้น​เล็ก​จิ๋ว​ชิ้น​หนึ่ง​ก็​ลอย​ไป​อยู่​ตรงหน้า​ม่อ​จิ่งหลี​ ม่อ​จิ่งหลี​ยื่นมือ​ไป​รับ​ไว้​พลัน​สัมผัส​ได้​ถึงภยัน​อันตราย​ เขา​ลอบ​ตกใจ​กับ​วร​ยุทธ​ที่​ยอดเยี่ยม​และ​ลึกล้ำ​ของ​ม่อ​ซิว​เหยา​ ในขณะเดียวกัน​ก็​จับ​ขวด​ลายคราม​ใน​มือ​ไว้​แน่น​ เปิด​ออก​ดม​เพื่อ​พิสูจน์​ว่า​เป็น​ของ​สิ่งเดียวกัน​กับ​ที่​เยี่ยเย่ว์​ให้​ตน​มา จากนั้น​จึงได้​ลอบ​ถอนหายใจ​ออกมา​เงียบๆ​ ม่อ​ซิว​เหยา​เหลือบมอง​เขา​แล้ว​เอ่ย​ว่า​ “เจ้าไม่ต้อง​กังวล​ ข้า​คร้าน​จะไป​ทำ​ยา​ปลอม​มาให้​เจ้า เจ้าจะมีทายาท​เต็ม​บ้าน​หรือ​ไร้​ซึ่งลูกหลาน​สัก​คน​ก็​ไม่เกี่ยว​อัน​ใด​กับ​ข้า​”

ม่อ​จิ่งหลี​กัดฟัน​ แต่กลับ​ต้อง​ยอมรับ​ว่า​สิ่งที่​ม่อ​ซิว​เหยา​ว่า​มานั้น​เป็น​เรื่องจริง​

ม่อ​ซิว​เหยา​มอง​เขา​แล้ว​เอ่ย​ด้วย​ท่าทาง​เนิบ​ช้าว่า​ “เจ้าโกรธเคือง​ข้า​เช่นนี้​ช่างไร้เหตุผล​เสีย​จริง​ ข้า​มิใช่คน​วางยาพิษ​เสียหน่อย​ บุตรชาย​เจ้าก็​มิใช่ข้า​ที่​เป็น​คน​นำ​ไป​ซ่อน​ กระทั่ง​ยา​แก้​พิษ​ก็​มิใช่ข้า​ที่​แย่ง​มา ข้า​มีมัน​อยู่​พอดี​จึงได้​ให้​เจ้า หรือ​มีที่ใด​ไม่ถูกต้อง​หรือ​ หรือ​เจ้าหวัง​ว่า​ข้า​ใจบุญสุนทาน​ถึงขั้น​ช่วยเหลือ​สร้าง​บุญคุณ​โดย​ไม่หวัง​ผลตอบแทน​”

ม่อ​จิ่งหลี​จ้อง​เขา​แล้ว​เอ่ย​อย่าง​เย็นชา​ว่า​ “ข้า​จะจำเรื่อง​ครา​นี้​เอาไว้​”

“ตามสบาย​” ม่อ​ซิว​เหยา​อมยิ้ม​เอ่ย​ อย่างไร​เสีย​จะมีหรือไม่​มีเรื่อง​ใน​ครา​นี้​ ม่อ​จิ่งหลี​ก็​ต้อง​โกรธแค้น​เขา​อยู่ดี​ แล้​วจะ​ถือ​ทิฐิ​กับ​เรื่อง​นี้​ไป​ทำไม​ สามารถ​ได้​ของ​มาไว้​กับ​ตัว​ก็​ย่อม​เอา​มาให้​มาก​เสียหน่อย​ อย่างไร​เสีย​อยู่​ใน​มือ​ม่อ​จิ่งหลี​ต่อไป​ก็​เสีย​ของ​เปล่าๆ​

สวี​ชิงเหยียน​เล่น​ตราประทับ​แห่ง​แคว้น​จน​พอใจ​แล้วก็​เงยหน้า​ขึ้น​มอง​ม่อ​จิ่งหลี​ด้วย​ความสงสาร​ อยาก​จะบอก​เขา​ว่า​หลี​อ๋อง​ท่าน​ควรจะ​รีบ​กลับ​ไป​ได้​แล้ว​ จะได้​ไม่มาเสีย​สมบัติ​มีค่า​มากมาย​พวก​นี้​ แล้ว​ยัง​ต้อง​มาโดน​ยั่วโมโห​จน​แทบ​กระอัก​เลือด​เช่นนี้​อีก​

ไม่ต้อง​ให้​เขา​พูด​ ม่อ​จิ่งหลี​ถูก​คน​บางคน​ย่ำยี​มาตั้ง​หลาย​ปี​ย่อม​รู้ดี​แก่​ใจ เขา​ถลึงตา​ใส่ม่อ​ซิว​เหยา​ครา​หนึ่ง​อย่าง​โหดเหี้ยม​แล้ว​สะบัด​แขน​เสื้อ​เดิน​จากไป​

ชายาเคียงหทัย

ชายาเคียงหทัย

Score 10
Status: Completed

ตอนที่ 1-37 อ่านนิยาย

(อ่านตอนต่อไปด้านล่าง)


หลังถูกน้องสาวร่วมบิดาแทงข้างหลัง ทำให้ เยี่ยหลี คุณหนูสามแห่งจวนตระกูลเยี่ยถูกถอนหมั้นจาก ม่อจิ่งหลี ท่านอ๋องรูปงามแห่งเมืองหลวง แต่นางก็ยังมองโลกในแง่ดี หวังว่าตนจะได้ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขไปอีกสักสองสามปี ทว่าเหตุไฉนสามวันให้หลัง ฝ่าบาทถึงได้พระราชทานสมรสให้นางอีกครั้งเล่า!

การแต่งงานครั้งนี้แม้ฉากหน้าจะดูเหมือนเป็นเรื่องที่น่ายินดีนัก แต่คนที่นางต้องอภิเษกสมรสด้วยกลับเป็น ม่อซิวเหยา ท่านอ๋องพิการไร้ประโยชน์ อีกทั้งยังมีรูปโฉมอัปลักษณ์ เล่าลือกันว่าเขาเคยผ่านการแต่งงานมาแล้วถึงสองครา ทว่าหญิงสาวทั้งสองคนที่เขาสมรสด้วยกลับต้องมีอันเป็นไปภายหลังจากการแต่งงานได้ไม่นาน

แต่ช้าก่อน…บุรุษที่แสนอ่อนโยนและเก่งกาจตรงหน้านางนี้น่ะหรือคือม่อซิวเหยา บุรุษที่กล่าวกันว่าเป็นคนน่ากลัว ไร้ค่า ไม่ได้เรื่องได้ความคนนั้น นี่คงมีอะไรที่เข้าใจผิดไปแล้วกระมัง

Options

not work with dark mode
Reset