จักรพรรดิเซียนหวนคืน (仙帝归来)บทที่ 461-2 ป้องกันอัคคีภัย หัวขโมยและอสูรกาย 2

บทที่ 461-2 ป้องกันอัคคีภัย หัวขโมยและอสูรกาย 2

บท​ที่​ 461 ป้องกัน​อัคคีภัย​ หัวขโมย​และ​อสูร​กาย​ 2

ฉู่ชวิ๋นยก​ก้อนหิน​ด้วย​สีหน้า​เหนื่อยล้า​ขณะ​ตวาด​ว่า​ “พวก​นาย​เป็น​หมู​โง่หรือไง​? ม่าน​พลัง​นี้​ถูก​สร้าง​ขึ้น​มาโดย​นักพรต​ และ​เป้าหมาย​ของ​นักพรต​ก็​คือ​การขับไล่​ปีศาจ ป้องกัน​อาณาเขต​ ที่​ดาบ​ลำแสง​เล่นงาน​แต่​พวก​นาย​ ก็​เพราะ​ม่าน​พลัง​นี้​มีอานุภาพ​ใน​การป้องกัน​อัคคีภัย​ หัวขโมย​กับ​พวก​อสูร​กาย​โดยเฉพาะ​ไงเล่า​”

พวก​ค่งห​ลี่​ฉุน​ได้ยิน​ดังนั้น​ก็​ขมวดคิ้ว​มุ่น​ อะไร​คือ​การป้องกัน​อัคคีภัย​ หัวขโมย​และ​อสูร​กาย​? ฟังไม่ลื่น​หู​เอา​เสีย​เลย​ แต่​เมื่อ​ลอง​มาคิดดู​ดี ๆ​ แล้ว​ สิ่งที่​ฉู่ชวิ๋น​พูด​ออกมา​ก็​ใช่ว่า​จะไม่มีเหตุผล​

พลัน​ ม่าน​พลัง​ระเบิด​ลำแสง​เป็นประกาย​อีกครั้ง​แล้ว​ แสงสว่าง​ปกคลุม​ทั่ว​ท้องฟ้า​ ดาบ​ลำแสง​เล่ม​ล่าสุด​ที่​มีความ​ยาว​มากกว่า​ 10 เมตร​ กำลัง​ตวัด​กวัดแกว่ง​ไปมาด้วย​ความ​น่ากลัว​

เปรี้ยง​!

เมื่อ​ตัว​ดาบ​ตวัด​ลงมา​ มวลอากาศ​ก็​สั่น​ไหว​ ทิศทาง​ของ​ดาบ​ยังคง​พุ่งตรง​เข้าหา​พวก​สัตว์ร้าย​กลายพันธุ์​อยู่​เช่น​เดิม​

พวก​ค่งห​ลี่​ฉุน​รับ​ไม่ได้​กับ​การ​ถูก​โจมตี​อยู่​แต่เพียง​ฝ่าย​เดียว​ ทั้ง​ห้า​ก็​รวบรวม​พลัง​ยิง​ลมปราณ​เข้าใส่​ดาบ​ลำแสง​อย่าง​พร้อม​เพียง​

ตู้​ม!

คลื่น​แรง​ระเบิด​แผ่​กระจาย​ใน​วงกว้าง​ ทำให้​พื้นดิน​สั่นสะเทือน​เหมือน​แผ่นดินไหว​

ดาบ​ลำแสง​ถูก​ทำลาย​ลง​ไปอีก​ครั้งหนึ่ง​ แต่​พวก​สัตว์ร้าย​กลายพันธุ์​ก็​อยู่​ใน​สภาพ​ที่​เหนื่อยล้า​มาก​แล้ว​ พวก​มัน​จำเป็นต้อง​ล่าถอย​กัน​ไปคนละ​หลาย​ก้าว​

พวก​เกา​โมหยุ​นพ​บ​เห็น​ว่า​มีบางอย่าง​ผิดปกติ​ จึงรีบ​ถอยร่น​ออกมา​ทันที​เช่นกัน​

“เร็ว​เข้า​ โยน​ก้อนหิน​ใส่ม่าน​พลัง​ซะ” ฉู่ชวิ๋น​ร้อง​ตะโกน​

หลิว​จิว​หยวน​กับ​หวง​ไห่​ยืน​นิ่ง​ด้วย​ความ​ไม่เข้าใจ​ จะให้​เอา​ก้อนหิน​โยน​ใส่ม่าน​พลัง​เนี่ย​นะ​? นี่​มัน​เป็น​แผนการ​อะไร​กัน​แน่​?

“ยัง​ไม่รีบ​ทำ​อีก​!” ฉู่ชวิ๋น​ตะโกน​ด้วย​น้ำเสียง​ร้อนรน​

ถึงแม้ผู้​ถูก​ออกคำสั่ง​จะยัง​ไม่เข้าใจ​สัก​นิดเดียว​ แต่​สุดท้าย​ พวก​มัน​ก็​นำ​ก้อนหิน​น้ำหนัก​หลาย​ตัน​ที่​แบกรับ​เอาไว้​ โยน​เข้าใส่​ม่าน​พลัง​อย่าง​รุนแรง​

โครม​!

ก้อนหิน​ใหญ่​เหล่านี้​มีน้ำหนัก​รวมกัน​มากกว่า​ 10 ตัน​ พุ่ง​เข้า​กระแทก​ม่าน​พลัง​สีทองคำ​ด้วย​ความแม่นยำ​

วูบ​!

ม่าน​พลัง​ระเบิด​ลำแสง​เจิดจ้า​ แล้ว​ดาบ​ลำแสง​เล่ม​ใหม่​ก็​ปรากฏ​ขึ้น​ ดาบ​ลำแสง​เล่ม​นี้​ฟาดฟัน​ก้อนหิน​ใหญ่​ทั้ง​ 11 ก้อน​แหลก​สลาย​เป็น​ผุยผง​ไปใน​พริบตา​

ดวงตา​ของ​หลิว​จิว​หยวน​กับ​หวง​ไห่​ลุกโชน​ด้วย​ไฟโทสะ​ พวก​มัน​ส่งเสียงคำราม​ขณะที่​โคจร​พลัง​ลมปราณ​ใน​ร่างกาย​ขึ้น​มาป้องกัน​ตัวเอง​

วูบ​…!

ดาบ​ลำแสง​พุ่งตรง​เข้า​เล่นงาน​พวก​มัน​ทั้งสอง​คน​ แต่​หลิว​จิว​หยวน​กับ​หวง​ไห่​รับมือ​ได้​ทันเวลา​ ดาบ​ลำแสง​จึงระเบิด​ตัว​หาย​ไปแล้ว​

หลังจากนั้น​ หลิว​จิว​หยวน​กับ​หวง​ไห่​ก็​โดน​แรง​ระเบิด​ซัด​กระเด็น​ลอย​ไปไกล​หลาย​ร้อย​เมตร​

หลังจากนั้น​ ชาย​วัยกลางคน​ทั้งสอง​ก็​ตก​อยู่​ใน​สภาพ​มอมแมม​ซอมซ่อ​ ผมเผ้า​ยุ่งเหยิง​ เสื้อผ้า​ขาดวิ่น​ ที่​มุมปาก​มีเลือด​ไหล​ซึมออกมา​ ใบ​หน้าซีด​ขาว​เป็น​อย่างยิ่ง​

ทั้งสอง​คน​ได้รับบาดเจ็บ​ ไม่เป็นอันตราย​ถึงตาย​ แต่​ก็​ทำให้​พลัง​ใน​การต่อสู้​ลดลง​ไปอย่าง​น่าใจหาย​

หลิว​จิว​หยวน​กับ​หวง​ไห่​โมโห​สุดขีด​ สุดท้าย​ก็​ต้อง​ให้​โยน​ก้อนหิน​ใส่ม่าน​พลัง​อยู่ดี​ แล้ว​ทำไม​ถึงไม่สั่งให้​พวก​มัน​โจมตี​ใส่ม่าน​พลัง​ตั้งแต่แรก​? ประโยชน์​ของ​การ​ให้​พวก​มัน​แบก​ก้อนหิน​อยู่​นานสองนาน​คือ​อะไร​?

เมื่อ​คิด​จะถามคำถาม​นี้​ออก​ไป พลัน​ ก็​ได้ยิน​เสียง​ฉู่ชวิ๋น​ตะโกน​ว่า​ “เร็ว​เข้า​ ม่าน​พลัง​เปิด​แล้ว​ ทุกคน​รีบ​เข้าไป​”

แน่นอน​ว่า​ม่าน​พลัง​ตรง​บริเวณ​ที่​โดน​ก้อนหิน​กระแทก​ใส่ บังเกิด​เป็น​รู​โหว่​ขนาดเล็ก​ แต่​มัน​ก็​ใหญ่​มาก​พอที่​คน​คน​หนึ่ง​จะแทรกตัว​ผ่าน​เข้าไป​ได้​

ใน​ขณะนี้​ ทุกคน​ต่าง​สงสัย​ใน​สิ่งเดียวกัน​ว่า​ ทำไม​ฉู่ชวิ๋น​ถึงไม่เข้าไป​เป็น​คน​แรก​

วูบ​…!

เงาคน​กระโดด​วูบวาบ​ กลุ่ม​สัตว์ร้าย​กลายพันธุ์​ใน​ร่าง​มนุษย์​แทรกตัว​ผ่าน​รู​โหว่​เข้าไป​ด้านใน​ม่าน​พลัง​ ไม่เสียเวลา​คิด​อะไร​ให้​มากความ​อีกแล้ว​

“เร็ว​เข้า​สิ ม่าน​พลัง​จะปิด​ตัว​แล้ว​นะ​” ฉู่ชวิ๋น​ตะโกน​เร่งเร้า​

บัดนี้​ แม้แต่​หลิว​จิว​หยวน​กับ​หวง​ไห่​ก็​ไม่สนใจ​เรื่อง​ภาพลักษณ์​อีกแล้ว​ พวก​มัน​ต่าง​พา​กัน​สอด​ตัว​เข้าไป​ผ่าน​รู​โหว่​ใน​ม่าน​พลัง​อย่าง​รวดเร็ว​

เมื่อ​เห็น​ว่า​ทุกคน​เข้าไป​เรียบร้อย​ ฉู่ชวิ๋น​ก็​เหยียด​ยิ้มมุมปาก​ด้วย​ความพอใจ​ ก่อนที่จะ​ทุบ​ก้อนหิน​ใหญ่​ใน​มือ​ของ​ตนเอง​ให้​เหลือ​เพียง​ขนาด​เท่ากับ​กำปั้น​ แล้ว​ก้อนหิน​ขนาด​เท่า​กำปั้น​ใน​มือ​เขา​ ก็​หายวับ​ไปใน​พริบตา​

ที่แท้​หิน​ก้อน​นี้​คือ​ตา​เปิด​ปิด​ม่าน​พลัง​นี่เอง​

ฉู่ชวิ๋น​นำ​ก้อนหิน​เก็บ​ไว้​ใน​แหวน​มิติ​ เมื่อ​เขา​แทรกตัว​ผ่าน​รู​โหว่​เข้าไป​เป็น​คน​สุดท้าย​ ม่าน​พลัง​ก็​ปิด​ตัว​ลง​ทันที​

เมื่อ​พบ​ว่า​ฉู่ชวิ๋น​ติดตาม​เข้ามา​เรียบร้อย​ เกา​โมหยุ​น​ก็​หันมา​ส่งยิ้ม​ให้​เขา​อย่าง​ลำบากใจ​ว่า​ “สหาย​น้อย​หลุน​หุย​ คง​เหนื่อย​มาก​เลย​สินะ​”

“เรื่อง​แค่นี้​ไม่เป็นไร​หรอก​ครับ​ เรา​เป็น​พวก​เดียวกัน​ ต้อง​คอย​ช่วยเหลือ​กัน​อยู่แล้ว​” ฉู่ชวิ๋น​ว่า​

หลิว​จิว​หยวน​กับ​หวง​ไห่​ยังคง​มีสีหน้า​ไม่พอใจ​ แต่​สภาพ​ของ​พวก​มัน​ทั้งสอง​คนดู​น่า​อนาถใจ​มากกว่า​ใคร​เพื่อน​

“แก​รู้​หรือเปล่า​ว่า​หน้าที่​โยน​ก้อนหิน​เป็นงาน​อันตราย​?” หลิว​จิว​หยวน​ทน​เก็บความ​เดือดดาล​ไม่ไหว​ จึงต้อง​ถามออกมา​แล้ว​

“รู้​สิ” ฉู่ชวิ๋น​ตอบ​กลับมา​อย่าง​จริงใจ​

“แต่​ก็​ยัง​ให้​พวก​ฉัน​ทำหน้าที่​นี้​เนี่ย​นะ​?” หวง​ไห่​มีดวงตา​เย็นชา​อย่างยิ่ง​

“อย่า​ทำ​เหมือน​ฉัน​เป็นตัว​วายร้าย​ได้​ไหม​ ฉัน​รู้​ว่า​หน้าที่​นี้​มัน​อันตราย​ แต่​ฉัน​ไม่ได้​จับ​พวก​นาย​โยน​ใส่ม่าน​พลัง​สักหน่อย​” ฉู่ชวิ๋น​ตอบ​กลับมา​ด้วย​ความไม่พอใจ​เช่นกัน​ “ถึงยังไง​ก็​ต้อง​มีคน​ทำหน้าที่​นี้​อยู่แล้ว​ จริง​ไหม​? ถึงจะมีสภาพ​ออกมา​ไม่น่าดู​ชม แต่​ถ้าอยาก​จะเข้ามา​ใน​ม่าน​พลัง​ พวก​นาย​ก็​ต้อง​ทำงาน​แลกเปลี่ยน​สิ ไม่งั้น​พวก​นาย​จะเข้ามา​ที่นี่​ได้​ยังไง​?”

หลิว​จิว​หยวน​กับ​หวง​ไห่​โกรธแค้น​จน​แทบจะ​บ้า​ตาย​แล้ว​

ทุกคน​ที่​ได้​รับฟัง​ล้วนแล้วแต่​มีสีหน้า​ประหลาด​พิกล​ หลุน​หุย​คน​นี้​พูดจา​ขวานผ่าซาก​เกินไป​ ยัง​ไม่ต้อง​พูด​ถึงว่า​หลิว​จิว​หยวน​กับ​หวง​ไห่​มีสภาพ​น่าสงสาร​มาก​เพียงใด​ ไม่เห็น​จำเป็นต้อง​พูด​อย่าง​ตรงไปตรงมา​ ปราศจาก​การ​ถนอมน้ำใจ​ขนาด​นี้​ก็ได้​กระมัง​?

“เอาละ​ เลิก​โต้เถียง​กัน​ได้​แล้ว​ ใน​เมื่อ​ตอนนี้​ เรา​ผ่าน​ม่าน​พลัง​เข้ามา​ได้​สำเร็จ​ จากนี้ไป​ ก็​ขึ้นอยู่กับ​ฝีมือ​ของ​แต่ละคน​แล้ว​” ค่งห​ลี่​ฉุน​พูด​จบ​ก็​เดิน​ตรง​ไปที่​ประตู​หิน​บาน​หนึ่ง​บน​ยอดเขา​เป็น​คน​แรก​

เมื่อ​คนอื่น​เห็น​ดังนั้น​ ก็​เดินตาม​ไปทันที​

หวง​ไห่​หันมา​ชำเลือง​มอง​ฉู่ชวิ๋น​ด้วย​แววตา​ดุร้าย​ ก่อนที่จะ​ยิ้ม​เย้ยหยัน​ แล้ว​หมุนตัว​เดิน​จากไป​

หลิว​จิว​หยวน​ส่งเสียงคำราม​ใน​ลำคอ​ แล้วจึง​หันหลัง​กลับ​และ​เดิน​ตรง​ไปที่​บานประตู​เช่นกัน​

“สหาย​น้อย​หลุน​หุย​…” เกา​โมหยุ​น​ไม่รู้​ว่า​ควร​พูด​อะไร​ดี​ ได้​แต่​ยิ้มแหย​ ๆ และ​กล่าวว่า​ “จากนี้ไป​ น้อง​ต้อง​ระมัดระวัง​ตัว​สักหน่อย​นะ​”

“พวกเรา​ก็​ไปกัน​บ้าง​ดีกว่า​ หลังจากนี้​ เห็นที​คง​ต้อง​ระวังตัว​กัน​ทุก​ฝีก้าว​แล้ว​” เก​อ​จ้าน​กล่าว​

ชาย​วัยกลางคน​ทั้ง​สามอำลา​ฉู่ชวิ๋น​ ก่อนที่จะ​เดิน​หาย​เข้าไป​หลัง​บานประตู​ตาม​ ๆ กัน​ไป

ฉู่ชวิ๋น​ยิ้มมุมปาก​ออกมา​ด้วย​ความ​เจ้าเล่ห์​ ก่อนที่จะ​เดินทอดน่อง​ตรง​ไปที่​บานประตู​อย่าง​สบายอารมณ์​

ใน​ขณะนี้​ บรรดา​ผู้คน​ที่อยู่​ใกล้​กับ​ยอดเขา​ฮั่น​หยาง​ได้​พบเห็น​ว่า​ คน​กลุ่ม​นี้​สามารถ​ผ่าน​ม่าน​พลัง​เข้าไป​ได้​สำเร็จ​เรียบร้อย​แล้ว​ เท่ากับ​ว่า​คง​ไม่เกิด​อันตราย​อะไร​ขึ้น​เป็นการชั่วคราว​ ดังนั้น​ พวก​มัน​จึงกลับมา​รวมตัวกัน​บริเวณ​ยอดเขา​ฮั่น​หยาง​ด้วย​ความ​อยากรู้อยากเห็น​อีกครั้ง​

เมื่อ​ฉู่ชวิ๋น​เดินผ่าน​เข้าไป​ใน​ประตู​หิน​ เบื้องหน้า​เขา​ก็​มีแต่​สีดำ​มืดสนิท​ ลม​เย็น​โชย​พัด​มาปะทะ​ผิวกาย​ และ​รู้สึก​เหมือนกับ​ว่า​มีใคร​สัก​คน​กำลัง​เป่าลมหายใจ​รด​ต้นคอ​อยู่​ตลอดเวลา​ ชวน​ให้​รู้สึก​ขนหัวลุก​เป็น​อย่างยิ่ง​

ฉู่ชวิ๋น​เดิน​ไปข้างหน้า​สอง​สามก้าว​ พลัน​ เท้า​ข้าง​หนึ่ง​ของ​เขา​ก็​พบ​เพียง​ความว่างเปล่า​ ดี​ที่​ยัง​รั้ง​ตัวเอง​ไว้​ทัน​ ไม่ได้​ก้าว​ตกลง​ไป

เมื่อ​ลอง​ใช้จิตวิญญาณ​สำรวจ​พื้นที่​โดยรอบ​ ฉู่ชวิ๋น​ก็​ยิ้ม​ออกมา​โดยไม่รู้ตัว​ มัน​เป็น​อย่าง​ที่​เขา​คิด​เอาไว้​ไม่มีผิด​ หลัง​บานประตู​เต็มไปด้วย​ค่าย​อาคม​ และ​มัน​เป็น​ค่าย​อาคม​ที่​วาง​ไว้​อย่าง​สลับซับซ้อน​

ข้างหน้า​ไม่มีเส้นทาง​ให้​ก้าวเดิน​ ทางเดียว​ที่​มีก็​คือ​สะพาน​หิน​ที่​มีความ​กว้าง​เพียง​ 3 ฟุต​ ส่วน​สอง​ฟาก​ฝั่งเป็น​หุบเหว​ดำมืด​ไร้​ที่​สิ้นสุด​

“พวก​ที่​เข้ามา​ก่อนหน้านี้​จะตกลง​ไปข้างล่าง​หรือเปล่า​นะ​?” ฉู่ชวิ๋นอด​ไม่ได้​ที่จะ​คิด​ขึ้น​มาอย่าง​ร้ายกาจ​

แต่​ถึงอย่างนั้น​ เขา​ก็​รู้ดี​ว่า​มัน​เป็นไปไม่ได้​เลย​ จอม​ยุทธ์​ขั้น​เซียน​ไม่ใช่จอม​ยุทธ์​ที่​ต่ำต้อย​ ค่าย​อาคม​ธรรมดา​เช่นนี้​ไม่น่าจะ​เล่นงาน​พวกเขา​ได้​ง่ายดาย​เกินไป​นัก​

“หิว​เหลือเกิน​” ทันใดนั้น​ เสียง​เย็น​ ๆ ชวน​ขนลุก​ก็​ดัง​ขึ้น​ด้านหลัง​ศีรษะ​ของ​ฉู่ชวิ๋น​ พร้อมกับ​ที่​มีลม​เย็น​เป่ารด​ต้นคอ​ของ​เขา​

ฉู่ชวิ๋น​กำลัง​ครุ่น​คิดถึง​เรื่อง​อื่น​ เมื่อ​ได้ยิน​เสียง​นี้​อย่าง​กะทันหัน​ก็​อด​สะดุ้งโหยง​ไม่ได้​ ค่าย​อาคม​ของ​นักพรต​มีความ​พิเศษ​เหนือ​ธรรมดา​จริง ๆ​ วิญญาณ​ลวงตา​ตัว​นี้​ทำได้​เหมือน​ของจริง​มาก​ ชายหนุ่ม​รู้สึก​ด้วยซ้ำ​ว่า​มีใคร​บางคน​กำลัง​กระโดด​เกาะ​แผ่น​หลัง​ของ​เขา​อยู่​

“ข้า​หิว​เหลือเกิน​!” เสียง​กระซิบ​ดัง​ขึ้น​หลัง​ใบ​หู​ของ​ฉู่ชวิ๋น​อีกครั้ง​

“หิว​เหรอ​? เดี๋ยว​ฉัน​จะเอา​ของ​ให้​กิน​ก็แล้วกัน​นะ​” ฉู่ชวิ๋น​คิด​อย่าง​นึก​สนุก​ แล้ว​เปลวไฟ​สีม่วง​ก็​ลุกโชน​ขึ้น​บน​ฝ่ามือ​ของ​เขา​ ก่อนที่​ชายหนุ่ม​จะสาด​เปลวไฟ​ไปด้านหลัง​โดย​ไม่ต้อง​เหลียว​หน้า​มอง​

พรึบ​!

กลิ่น​เนื้อ​ไหม้​ไฟลอย​มาเตะจมูก​ ฉู่ชวิ๋น​รู้สึก​เย็นวาบ​ที่​ฝ่ามือ​ จึงดึง​มือ​กลับมา​ดู​ว่า​มัน​เป็น​อะไร​ และ​แล้ว​ขน​ทุก​เส้น​บน​ร่างกาย​ของ​เขา​ ก็​ต้อง​ลุก​ซู่ด้วย​ความ​สยองขวัญ​

บน​ฝ่ามือ​ของ​เขา​เปื้อน​เลือด​สีเขียว​จำนวน​หนึ่ง​ ควัน​สีขาว​กำลัง​ลอย​ขึ้น​มาจาก​ฝ่ามือ​ บ่งบอก​ให้​รู้​ว่า​เลือด​สีเขียว​จำนวน​นี้​ มีฤิทธิ์​สามารถ​กัดกร่อน​ผิวหนัง​ได้​

แต่​เมื่อ​เปลวไฟ​สีม่วง​ลุกโชน​ขึ้น​มาอีกครั้ง​ เลือด​สีเขียว​บน​ฝ่ามือ​ของ​เขา​ก็​ถูก​เผาผลาญ​หาย​ไป

ฉู่ชวิ๋น​มีสีหน้า​เคร่งเครียด​ขึ้น​มาแล้ว​ สิ่งที่อยู่​ใน​ค่าย​อาคม​นี้​ไม่ใช่ภาพลวงตา​ แต่​แถว​นี้​มีปีศาจสิงสู่อยู่​จริง ๆ​ ถึงแม้ว่า​พวก​มัน​อาจจะ​ทำอันตราย​อะไร​ไม่ได้​ก็ตาม​ แต่​ก็​ยัง​ทำให้​ใจสั่น​ขวัญหาย​ด้วย​ความ​หวาดผวา​ได้​เป็น​อย่าง​ดี​

ฉู่ชวิ๋น​ปล่อย​จิตวิญญาณ​ออก​ไปสำรวจ​รอบ​บริเวณ​อีกครั้ง​ ก่อนที่จะ​ก้าว​เท้า​เดิน​ขึ้นไป​บน​ขั้นบันได​ของ​ตัว​สะพาน​หิน​

แต่​ใน​วินาที​นั้น​เอง​ มือ​ขนาดใหญ่​ที่​มีขน​สีเขียว​รุงรัง​พลัน​ยื่น​ออก​มาจาก​ใต้​สะพาน​ และ​คว้า​จับ​ข้อเท้า​ของ​เขา​เอาไว้​

ฉู่ชวิ๋น​ปล่อย​เส้น​ไหม​วิญญาณ​ออก​ไปรัด​พัน​มือ​ปีศาจที่จับ​ข้อเท้า​ เขา​หัวเราะเยาะ​เล็กน้อย​แล้ว​มือ​ปีศาจข้าง​นั้น​ก็​กระจาย​กลายเป็น​ม่าน​หมอก​เลือด​ หยด​เลือด​สีเขียว​ของ​มัน​จำนวน​หนึ่ง​สาด​กระเด็น​มาเปื้อน​สะพาน​หิน​

โครม​!

ฉู่ชวิ๋น​กำลังจะ​ก้าว​เท้า​เดิน​ต่อไป​ แต่​ทันใดนั้น​สะพาน​หิน​ก็​ถล่ม​ตัว​ลงมา​ สอง​เท้า​ของ​เขา​เหยียบ​พบ​เพียง​ความว่างเปล่า​ ส่งผล​ให้​ตัว​คน​หล่น​วูบ​ลง​ไปสู่หุบเหว​แห่ง​ความ​มืดมิด​ด้านล่าง​!

ฉู่ชวิ๋นตบ​ฝ่ามือ​ลง​ไปบน​ก้อนหิน​ที่​ลอย​อยู่​ข้าง​ตัว​ ใช้มัน​เป็น​แรง​ส่งลอย​ขึ้นไป​สู่ด้านบน​อีกครั้ง​

แต่​ทุกครั้งที่​ฉู่ชวิ๋น​กระโดด​กลับ​ขึ้น​มายืน​บน​สะพาน​หิน​ได้​สำเร็จ​ ตัว​สะพาน​บริเวณ​ที่​เขา​ยืน​อยู่​ก็​จะถล่ม​ลงมา​ทันที​ ฉู่ชวิ๋น​จำเป็นต้อง​ใช้เส้น​ไหม​วิญญาณ​ดึง​ตัวเอง​กลับ​ขึ้น​มารอบ​แล้ว​รอบ​เล่า​

แต่​ที่​น่าแปลก​ก็​คือ​ทุกครั้ง​พื้น​สะพาน​ก็​จะถล่ม​ลงมา​เรื่อย ๆ​ ฉู่ชวิ๋น​ลอง​กระโดด​เคลื่อนที่​ไปข้างหน้า​ไกล​หลาย​กิโลเมตร​ แต่​ไม่ว่า​จะไปไกล​แค่​ไหน​ เขา​ก็​ยัง​ไม่พ้น​สะพาน​หิน​แห่ง​นี้​ไปอยู่ดี​

ฉู่ชวิ๋น​ส่งเสียงคราง​ใน​ลำคอ​ ค่าย​อาคม​ของ​นักพรต​จะไม่มีส่วนหัว​และ​ส่วน​ท้าย​ นับ​เป็น​หลักคำสอน​ที่​ปฏิบัติตาม​กัน​มานานแสนนาน​ เท่ากับ​ว่า​ตอนนี้​เขา​ติด​อยู่​ใน​ค่าย​อาคม​ ทุกครั้งที่​เหยียบ​เท้า​ก้าว​ลง​ไปบน​สะพาน​ หมายความว่า​เขา​จะกลับ​มาสู่จุดเริ่มต้น​เสมอ​

ฉู่ชวิ๋น​ไม่มั่นใจ​ว่า​ตนเอง​คิด​ถูก​หรือไม่​ ดังนั้น​จึงตัดสินใจ​ยอมรับ​ความเสี่ยง​ ปล่อย​ตัวเอง​ให้​ตกลง​ไปสู่หุบเหว​แห่ง​ความ​มืดมิด​ที่​ด้านล่าง​

ผลั่ก!​

เสียง​กระแทก​พื้น​กังวาน​ เท้า​ทั้งสอง​ข้าง​ของ​ฉู่ชวิ๋น​สัมผัส​พื้น​หินอ่อน​ที่อยู่​ด้านล่าง​ ก่อนที่จะ​เกิด​เสียง​คน​ล้ม​ลง​กลิ้ง​หลุน ๆ​ ตามมา​ติด ๆ​

ฉู่ชวิ๋น​ยิ้ม​ฝืด​ข่ม​ความเจ็บปวด​ นึก​เอาไว้​ไม่มีผิด​ว่า​หุบเหว​นี้​เป็น​ของปลอม​ ตอนแรก​มั่นใจ​ว่า​มัน​คง​มีความลึก​หลาย​ร้อย​เมตร​ แต่​ที่ไหนได้​ มัน​มีความลึก​เพียงแค่​ 5 เมตร​เท่านั้น​ ฉู่ชวิ๋น​จึงตกลง​มาสู่พื้น​ด้านล่าง​โดย​ไม่มีเวลา​ได้​เตรียมตัว​ ชายหนุ่ม​ไม่ได้​โคจร​พลัง​ลมปราณ​รอ​รับ​แรง​กระแทก​ที่จะ​เกิดขึ้น​ ดังนั้น​ ใน​ตอนนี้​ร่างกาย​ของ​เขา​จึงรู้สึก​ด้านชา​ไปหมด​แล้ว​

จักรพรรดิเซียนหวนคืน (仙帝归来)

จักรพรรดิเซียนหวนคืน (仙帝归来)

Score 10
Status: Completed

เรื่องย่อ จักรพรรดิ์เซียนหวนคืน

เมื่อความแค้นทำให้เขาต้องกลับมา.. ฉู่ชวิ๋น เด็กหนุ่มผู้ใสซื่อถูกจับเข้าคุกในข้อหาที่เขาเองก็ยังสงสัยมามันคืออะไร อีกทั้งชีวิตในคุกของเขาเต็มไปด้วยความเจ็บปวด จนกระทั้งเขาถูกกระทืบตาย หลังจากที่เขาตายแล้ววิญญาญได้ข้ามไปยังโลกแห่งผู้ฝึกตน คนอื่นใช้เวลาหมื่นปีเป็นจักรพรรดิ์เซียน แต่สำหรับเขานั้น ใช่เวลาเพียง 3000 ปีก็อยู่บนจุดสูงสุดของจักพรรดิ์เซียน แต่ในเวลานั้นจิตใจของเขายังคงสับสนเพราะต้องการรู้ความจริงที่เกิดขึ้นในภพชาติก่อน เขาจึงใช้พลังเซียนทั้งหมดเพื่อเปิดประตูมิติ ส่งวิญญาณของเขากลับมาที่ร่างเก่าที่อยู่ในคุก ก่อนวันที่เขาจะตายเพียงหนึ่งวัน……….. นี้คือการกลับมาล้างแค้นและค้นหาความจริงแต่เขานั้นไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไปเขาคือ จักรพรรดิเซียน!

Options

not work with dark mode
Reset