จักรพรรดิเซียนหวนคืน (仙帝归来)บทที่ 457 ความขัดแย้งระหว่างความแค้น

บทที่ 457 ความขัดแย้งระหว่างความแค้น

บท​ที่​ 457 ความขัดแย้ง​ระหว่าง​ความแค้น​

ฉู่ชวิ๋น​กลับ​มายัง​ยอดเขา​ที่พัก​ของ​ตนเอง​และ​รีบ​แจ้งทุกคน​ทันที​

“ทุกคน​รีบ​ลง​จาก​ภูเขา​แล้ว​เดินทาง​ไปที่​สำนัก​ภูผา​ทมิฬ​!” ฉู่ชวิ๋น​บอก​พวก​จิ่ว​โย​ว​ ต่อจากนี้​จะเป็น​การต่อสู้​ระหว่าง​ผู้​มีพลัง​ยุทธ์​ขั้น​เซียน​ จิ่ว​โย​วอ​ยู่​ที่นี่​ต่อไป​ก็​ช่วยเหลือ​อะไร​ไม่ได้​ มีแต่​จะทำให้​เขา​ห่วงหน้าพะวงหลัง​เท่านั้น​

ถึงแม้ว่า​จิ่ว​โย​วจะ​ไม่อยาก​กลับ​ แต่​เด็กหญิง​ก็​รู้ตัว​ว่า​ควร​ระมัดระวัง​คำพูด​ นี่​ไม่ใช่เวลา​ที่​เธอ​จะทำตัว​เอาแต่ใจ​

“นาย​ท่าน​ครับ​ ตอนนี้​พวก​สัตว์ร้าย​กลายพันธุ์​มัน​ยึดครอง​ภูเขา​กับ​แม่น้ำ​ไปเกือบ​หมด​แล้ว​ ทำให้​จักรพรรดิ​สัตว์ป่า​หลาย​ตัว​ต้อง​เร่ร่อน​ไม่มีที่อยู่อาศัย​ ผม​สนิท​กับ​พวก​มัน​อยู่​ไม่น้อย​ ผม​อยาก​จะชักชวน​ให้​พวก​มัน​มาเข้าร่วม​หน่วย​รบ​มังกร​ฟ้าของ​เรา​ ได้​หรือไม่​ครับ​” ช้างเผือก​กล่าว​

ฉู่ชวิ๋น​นิ่ง​คิด​เล็กน้อย​ แล้วจึง​พยักหน้า​ตกลง​

“เดินทาง​ระวังตัว​กัน​ด้วย​นะ​” ฉู่ชวิ๋น​ไม่ลืม​ย้ำ​เตือน​

พวก​ช้างเผือก​ปีน​ขึ้นไป​บน​หลัง​ของ​นก​อินทรี​เงิน​ และ​เดินทาง​ออกจาก​ภูเขา​หลู่​ซาน​ไปอย่าง​รวดเร็ว​

ก่อนที่​ทุกคน​จะเดินทาง​จากไป​ ฉู่ชวิ๋น​ไม่ลืม​ที่จะ​มอบอาวุธ​ลึกลับ​ให้​หน่วย​รบ​มังกร​ฟ้าติดตัว​ไปด้วย​

เมื่อ​พวก​ช้างเผือก​เดินทาง​กลับ​ไปแล้ว​ ฉู่ชวิ๋น​จึงได้​กลับมา​มีเวลา​นั่ง​คิด​เรื่องราว​ต่าง ๆ​ และ​รู้สึก​ว่า​ตนเอง​ขาด​ความสามารถ​ใน​การ​สั่งสอน​อยู่​อีก​มาก​

จิ่ว​โย​ว​เป็น​สัตว์ประหลาด​ที่​ไม่ธรรมดา​ แต่​เขา​ก็​กลัว​เธอ​จะได้รับบาดเจ็บ​ ดังนั้น​จึงคอย​ปกป้อง​จิ่ว​โย​ว​มาตลอด​

ตอนนี้​ ชายหนุ่ม​ถึงเพิ่ง​รู้ตัว​ว่า​ดอกไม้​ที่อยู่​แต่​ใน​เรือนกระจก​ คง​ไม่มีทาง​ต้านทาน​ฟ้าฝน​และ​แรงลม​ได้​แน่​ ความจริง​ จิ่ว​โย​ว​ควร​มีประสบการณ์​ต่อสู้​จริง ๆ​ ก่อนหน้านี้​นาน​แล้ว​ด้วยซ้ำ​

หลัง​จากนี้ไป​ เขา​คง​ต้อง​เปลี่ยนแปลง​ตัวเอง​เสียแล้ว​สิ

ทุกคน​ที่อยู่​ใน​วัง​มังกร​เพลิง​ต้อง​ออกมา​เผชิญหน้า​กับ​ประสบการณ์​ต่อสู้​จริง​ โลก​นี้​กำลัง​เปลี่ยนแปลง​ และ​ผู้​ที่​แข็งแกร่ง​เท่านั้น​ถึงจะอยู่รอด​

หน่วย​รบ​มังกร​เงิน​ที่​แข็งแกร่ง​ของ​เขา​ ต้อง​ติด​แหง็ก​อยู่​ใน​วัง​มังกร​เพลิง​รวมถึง​ที่อื่น​ ๆ ทำหน้าที่​เป็น​บอดี้การ์ด​ ซึ่งน่าเสียดาย​ความสามารถ​ที่​แท้จริง​ของ​พวกเขา​เป็น​อย่างยิ่ง​

ฉู่ชวิ๋น​ตัดสินใจ​แล้ว​ว่า​เมื่อ​เดินทาง​กลับ​ไปใน​ครั้งนี้​ เขา​จะส่งคน​ตระกูล​ฉู่ออก​ไปเปิดรับ​ประสบการณ์​นองเลือด​ใน​โลก​แห่ง​ความเป็นจริง​เสียที​

แต่​การ​มาถึงของ​พวก​เกา​โม่หา​น​ ทำให้​ฉู่ชวิ๋น​หลุด​ออกจาก​ภวังค์​

“สหาย​น้อย​ หลุน​หุย​”

ผู้มาเยือน​ทั้ง​สามคน​ทักทาย​อย่าง​เป็นมิตร​

ฉู่ชวิ๋น​พยักหน้า​เล็กน้อย​

“องค์​หญิง​จิ่ว​โย​ว​กับ​คนอื่น​ ๆ ไปไหน​แล้ว​ล่ะ​?” เกา​โม่หา​น​ถามออกมา​โดยไม่รู้ตัว​เมื่อ​ไม่พบเห็น​พวก​ของ​เด็กหญิง​

“ผม​ให้​พวก​เธอ​กลับ​ไปแล้ว​ อยู่​ที่นี่​ต่อไป​ก็​ช่วย​อะไร​ไม่ได้​” ฉู่ชวิ๋น​ตอบ​ ก่อน​พูด​ต่อ​ “เชิญผู้อาวุโส​ทั้ง​สามนั่งลง​ก่อน​ ผม​กิน​อยู่​อย่าง​เรียบง่าย​ หวัง​ว่า​ทุกคน​คง​ไม่ถือสา​”

ชาย​วัยกลางคน​ทั้ง​สามคนมีสี​หน้า​แปลกประหลาด​ นี่​มัน​มาก​เกิน​กว่า​คำ​ว่า​เรียบง่าย​ไปหลายเท่า​ แถว​นี้​ไม่มีเก้าอี้​เลย​สัก​ตัว​ด้วยซ้ำ​ ฉู่ชวิ๋น​เดิน​ไปนั่ง​บน​ก้อนหิน​ก้อน​หนึ่ง​

เกา​โม่หา​น​เห็น​ดังนั้น​ก็​เดิน​ไปนั่งลง​บน​ก้อนหิน​อีก​ก้อน​อย่าง​ไม่สนใจ​อะไร​เช่นกัน​

เตียว​ซิงอี้​กับ​เก​อ​จ้าน​พยายาม​รักษา​ความเยือกเย็น​เอาไว้​ ขณะที่​เดิน​ไปนั่งลง​เคียงข้าง​กัน​

จอม​ยุทธ์​ขั้น​เซียน​จะมาหัวเสีย​กับ​เรื่อง​แค่นี้​ไม่ได้​เด็ดขาด​

“สหาย​น้อย​หลุน​หุย​ ผู้อาวุโส​มีเรื่อง​อยาก​จะถาม ถ้าสะดวก​ตอบ​ ก็​ตอบ​ ถ้าไม่สะดวก​ตอบ​ ก็​ไม่เป็นไร​” เกา​โม่หา​น​พูด​

“ถามมาเถอะ​ครับ​” ฉู่ชวิ๋น​ว่า​

เกา​โม่หา​นม​อง​หน้า​ฉู่ชวิ๋น​ แล้ว​ถามออกมา​ทันที​ “น้อง​คือ​จอม​มาร​ฉู่ชวิ๋น​ปลอมตัว​มาใช่ไหม​?”

เตียว​ซิงอี้​กับ​เก​อ​จ้าน​ก็​กำลัง​จ้องมอง​ใบหน้า​ของ​ฉู่ชวิ๋น​อย่าง​พิจารณา​อยู่​เช่นกัน​

ฉู่ชวิ๋น​ยิ้ม​ออกมา​อย่าง​ตลกขบขัน​ “เรื่อง​นี้​สำคัญ​ด้วย​หรือ​ครับ​?”

“มัน​เป็น​เรื่องสำคัญ​มาก​” เกา​โม่หา​น​มีสีหน้า​ใช้ความคิด​อยู่​ครู่ใหญ่​ เหมือนกับ​ว่า​กำลัง​พยายาม​คัดเลือก​คำพูด​เป็น​อย่าง​ดี​ “ถึงพวกเรา​เพิ่งจะ​ฟื้น​ขึ้น​มาจาก​การ​ฝึก​วิชา​ แต่​ก็​ได้ยิน​ข่าวลือ​เกี่ยวกับ​จอม​มาร​คน​นั้น​มามากมาย​เหลือเกิน​”

“หืม?”​ ฉู่ชวิ๋น​หัวเราะ​เล็กน้อย​ “ข่าวลือ​เรื่อง​อะไร​?”

เกา​โม่หา​น​เรียบเรียง​คำพูด​ ก่อนที่จะ​ยิ้ม​ฝืด​ฝืน​ “น้อง​บอก​พวกเรา​มาก่อน​ดีกว่า​ว่า​น้อง​เป็น​จอม​มาร​ฉู่ชวิ๋น​ใช่หรือไม่​? ไม่อย่างนั้น​ เกิด​ฉัน​พูด​อะไร​ไม่ดี​ออก​ไป คง​น่า​อับอายขายหน้า​นัก​”

“ผม​ไม่ใช่เขา​” ฉู่ชวิ๋น​ตอบ​

“จริง​หรือ​?”

“จริง​”

“ถ้าอย่างนั้น​ ฉัน​ก็​จะขอ​พูด​แล้ว​นะ​” เกา​โม่หา​นลด​เสียง​ลง​เป็น​กระซิบกระซาบ​ในขณะที่​นินทา​เรื่อง​ของ​จอม​มาร​ว่า​ “มีข่าวลือ​ว่า​จอม​มาร​ฉู่ชวิ๋น​เป็น​พวก​ใจดำ​อำมหิต​ บ้าเลือด​โรคจิต​ โลภมาก​และ​เห็นแก่ตัว​ ร่าน​ราคะ​ และ​ไร้ยางอาย​ที่สุด​”

มุมปาก​ของ​ฉู่ชวิ๋น​กระตุก​โดยไม่รู้ตัว​

“พวกคุณ​คิด​แบบ​นั้น​เหมือนกัน​หรือเปล่า​?” ฉู่ชวิ๋น​หันหน้า​มาถามเตียว​ซิงอี้​กับ​เก​อ​จ้าน​

“ยิ่งกว่า​คิด​อีก​ ฉัน​ได้ยิน​มาว่า​จอม​มาร​ฉู่ชวิ๋น​เป็น​พวก​บ้าเลือด​และ​อำมหิต​ ทุกครั้งที่​เขา​หายตัว​ไปและ​ปรากฏตัว​กลับมา​อีกครั้ง​ จะต้อง​มีสำนัก​ใน​ยุทธ​ภพ​โดน​กวาดล้าง​อย่าง​ต่อเนื่อง​ หัว​ของ​คน​ที่​เขา​ฆ่า หาก​นำมา​กอง​รวมกัน​ คง​สูงเท่า​ภูเขา​ลูก​นี้​ไปแล้ว​” เตียว​ซิงอี้​เริ่ม​พูด​บ้าง​

“นอกจากนี้​ ยังมี​ข่าวลือ​ว่า​จอม​มาร​ฉู่ชวิ๋น​มีฉายา​อื่น​ ๆ อีก​ อย่างเช่น​ ฉู่ชวิ๋น​จอม​โรคจิต​ ฉู่ชวิ๋น​จอม​เชือด​ แล้วก็​อีก​หลาย​ชื่อ​ที่​น่ากลัว​ทั้งนั้น​” เก​อ​จ้าน​กล่าว​เสริม​

เมื่อ​ถึงตอนนี้​ ฉู่ชวิ๋น​ไม่เพียงแต่​ปาก​กระตุก​อย่าง​ควบคุม​ไม่ได้​เท่านั้น​ แม้แต่​คิ้ว​ของ​เขา​ก็​กระดก​ขึ้น​ลง​อยู่​ตลอดเวลา​ เหมือน​คิ้ว​ของ​เขา​กำลัง​เต้นระบำ​อยู่​อย่างไร​อย่างนั้น​

“สหาย​น้อย​หลุน​หุย​ มีอะไร​หรือเปล่า​?” เกา​โม่หา​น​สังเกตเห็น​ท่าทาง​ที่​ผิดปกติ​เล็กน้อย​ของ​ฉู่ชวิ๋น​

“ไม่มีอะไร​หรอก​ ผม​แค่​รู้สึก​คัน​ยิบ ๆ​ ใน​ใจนิดหน่อย​ สงสัย​มีไอ้​แก่​ที่ไหน​มัน​คง​กำลัง​ด่า​ผม​อยู่​แน่​ ๆ เลย​” ฉู่ชวิ๋น​พูด​พร้อมกับ​กัดฟัน​กรอด​

พวก​เกา​โม่หา​น​ทั้ง​สามคน​หัน​มองหน้า​กัน​ ทุกคน​ต่าง​นึก​ว่า​ชายหนุ่ม​กำลัง​พูดถึง​หลิว​จิว​หยวน​

“สหาย​น้อย​หลุน​หุย​ น้อง​บอ​กว่า​เคย​สนิทสนม​กับ​จอม​มาร​ฉู่ชวิ๋น​พอสมควร​ พวกเรา​แค่​อยากรู้​ว่า​ ข่าวลือ​พวก​นั้น​เป็น​ความจริง​หรือไม่​?” เกา​โม่หา​น​ถามออกมา​ในที่สุด​

ฉู่ชวิ๋น​ส่ายหน้า​และ​ตอบ​ด้วย​น้ำเสียง​ราบเรียบ​ “เรื่อง​นี้​พวกคุณ​ต้อง​ทำความเข้าใจ​ด้วยตัวเอง​ ข่าวลือ​มัน​ก็​เป็น​แค่​สิ่งที่​คนอื่น​พูด​ต่อ​ ๆ กัน​มา มัน​ไม่ค่อย​ยุติธรรม​เท่าไหร่​ ผม​ไม่อยาก​พูดถึง​เรื่อง​นิสัยใจคอ​ของ​จอม​มาร​ฉู่ชวิ๋น​หรอก​ครับ​ รอ​ให้​พวกคุณ​มีโอกาส​เจอ​เขา​สักวันหนึ่ง​ ค่อย​ตัดสิน​ด้วยตัวเอง​ก็แล้วกัน​”

“สหาย​น้อย​หลุน​หุย​พูดจา​มีเหตุผล​อย่างยิ่ง​” เกา​โม่หา​นพ​ยัก​หน้า​หงึกหงัก​

“เอาละ​ เรา​อย่า​พูด​เรื่อง​ของ​จอม​มาร​ฉู่ชวิ๋น​กัน​อีก​เลย​” เตียว​ซิงอี้​หัน​กลับมา​มองหน้า​ฉู่ชวิ๋น​อีกครั้ง​และ​กล่าวว่า​ “สหาย​น้อย​หลุน​หุย​ แน่ใจ​นะ​ว่า​พวก​สัตว์ร้าย​กลายพันธุ์​มัน​จะสลาย​ม่าน​พลัง​ไม่ได้​?”

ฉู่ชวิ๋น​พยักหน้า​อย่าง​หนักแน่น​ “อย่าง​ที่​ผม​ได้​พูด​ไปแล้ว​ ไม่มีใคร​สามารถ​ทำลาย​ม่าน​พลัง​นี้​ได้​นอกจาก​ผม​คนเดียว​เท่านั้น​”

ชาย​วัยกลางคน​ทั้ง​สามหัน​มองหน้า​กัน​

“สหาย​น้อย​หลุน​หุย​ ใน​เมื่อ​พวก​องค์​หญิง​จิ่ว​โย​วก​ลับ​กัน​ไปหมด​แล้ว​ อยู่​ที่นี่​คนเดียว​คง​เหงา​น่าดู​ ผู้อาวุโส​อยาก​จะขอ​เรียนเชิญ​ไปรับประทาน​อาหาร​ด้วยกัน​สัก​มื้อ​ และ​ร่ำสุรา​กัน​สักหน่อย​เป็น​อย่างไร​?” เกา​โม่หา​น​เอ่ยปาก​เชื้อเชิญ​อย่าง​สุภาพ​

เตียว​ซิงอี้​กับ​เก​อ​จ้าน​กำลังจะ​เชิญชายหนุ่ม​ไปเช่นกัน​ แต่​ก็​ถูก​เกา​โม่หา​น​พูด​ตัดหน้า​ไปก่อน​ ทำให้​ต้อง​แอบ​สบถ​ด่า​มารดา​ของ​ตา​เฒ่าเจ้าเล่ห์​นี้​ใน​ใจอย่า​งอด​ไม่ได้​

ฉู่ชวิ๋น​พยักหน้า​ตกลง​ อยู่​ที่นี่​ตัว​คนเดียว​ เขา​เบื่อหน่าย​เกินไป​จริง ๆ​

“สหาย​น้อย​หลุน​หุย​ เชิญ” เกา​โม่หา​น​ลุกขึ้น​ยืน​และ​ผาย​มือ​ไปทาง​หนึ่ง​

เก​อ​จ้าน​กับ​เตียว​ซิงอี้​หัน​มองหน้า​กัน​เลิกลั่ก​

“พี่​เกา​ ไม่ใจร้าย​เกินไป​หน่อย​หรือ​ครับ​ เรา​สอง​คน​ก็​อยู่​ที่นี่​เหมือนกัน​ ไม่คิด​จะชวน​กัน​บ้าง​เลย​หรือ​?” เตียว​ซิงอี้​พูด​เสียงดัง​

“พี่​เกา​ ผม​ก็​นำ​ไวน์​รส​เลิศ​ติดตัว​มาเหมือนกัน​นะ​” เก​อ​จ้าน​ว่า​

เตียว​ซิงอี้​กับ​เก​อ​จ้าน​รู้​ว่า​มีเพียงแต่​ฉู่ชวิ๋น​คนเดียว​เท่านั้น​ที่จะ​สลาย​ม่าน​พลัง​ได้​ จึงไม่อยาก​ให้​ฉู่ชวิ๋น​คลาดไป​จาก​สายตา​แม้แต่​วินาที​เดียว​

เกา​โม่หา​น​ประหลาดใจ​ไม่น้อย​ จากนั้น​จึงเข้าใจ​ว่า​ชาย​วัยกลางคน​ทั้งสอง​กำลัง​คิด​อะไร​อยู่​ พวก​มัน​คง​คิด​ว่า​เขา​เป็นตัว​ร้าย​ที่​อยาก​จะครอบครอง​ของ​วิเศษ​เพียงแค่​คนเดียว​ ทั้งที่​ในความเป็นจริง​แล้ว​ เกา​โม่หา​น​แค่​อยาก​จะร่ำสุรา​กับ​ฉู่ชวิ๋น​เท่านั้น​ ไม่ได้คิด​อะไร​นอกเหนือ​ไปจากนี้​เลย​

แต่​เตียว​ซิงอี้​กับ​เก​อ​จ้าน​ไม่ได้คิด​เช่นนั้น​ พวก​มัน​เข้าใจ​ว่า​เกา​โม่หา​นอ​ยาก​จะเก็บ​ฉู่ชวิ๋น​เอาไว้​อยู่​ข้าง​กาย​ และ​เมื่อ​สบโอกาส​ ก็​จะพา​ชายหนุ่ม​เข้าไป​สลาย​ม่าน​พลัง​บน​ยอดเขา​ เพื่อ​ตักตวง​ของ​วิเศษ​ให้​ตัวเอง​ให้ได้​มาก​ที่สุด​

เกา​โม่หา​น​ส่ายหน้า​ด้วย​ความ​เหนื่อยใจ​ ก่อนที่จะ​เชิญคน​ทั้งสอง​มาดื่ม​สุรา​ด้วยกัน​

แล้ว​พวกเขา​ทั้ง​สี่คน​ก็​เดิน​ข้าม​ยอดเขา​มายัง​ที่พัก​ของ​เกา​โม่หา​น​

เกา​โม่หา​น​สั่งให้​บริวาร​ของ​ตนเอง​จัดเตรียม​อาหาร​และ​เครื่องดื่ม​มารับรอง​แขก​

เก​อ​จ้าน​ได้​นำ​ไวน์​รส​เลิศ​ติดตัว​มาด้วย​จริง ๆ​

แล้ว​พวกเขา​ก็​พูดคุย​เรื่องราว​ต่าง ๆ​ พลาง​จิบ​ไวน์​อย่าง​รื่นรมย์​

ระหว่าง​การ​สนทนา​ พวก​เกา​โม่หา​น​ต้อง​ตกตะลึง​กับ​ความเข้าใจ​อัน​ลึกซึ้ง​เกี่ยวกับ​การ​ฝึก​ฝีมือ​ของ​ฉู่ชวิ๋น​ รวมถึง​เรื่องราว​ปัจจัย​ที่​ซับซ้อน​ใน​การ​ฝึก​วิชา​อีก​หลาย​แขนง​ ฉู่ชวิ๋น​สามารถ​ให้​คำแนะนำ​ได้​เป็น​อย่าง​ดี​ เมื่อ​ชาย​วัยกลางคน​ทั้ง​สามได้​ฟังแล้ว​ ก็​รู้สึก​ตาสว่าง​ขึ้น​ทันที​

“สหาย​น้อย​หลุน​หุย​ พอ​จะถามได้​ไหม​ว่า​คุณ​สังกัด​อยู่​สำนัก​ไหน​กัน​?” เกา​โม่หา​น​ถามอย่าง​มีความสุข​ ก่อนที่จะ​อธิบาย​เพิ่มเติม​ “อย่า​เข้าใจผิด​นะ​ ผู้อาวุโส​ก็​แค่​สงสัย​เท่านั้นเอง​”

ฉู่ชวิ๋น​หัวเราะ​ใน​ลำคอ​ “ไม่มีสังกัด​ ไม่มีสำนัก​ ผม​เรียนรู้​ด้วยตัวเอง​”

หา​…!

ชาย​ชรา​ทั้ง​สามคน​นิ่งอึ้ง​ตะลึงงัน​ ดู​จาก​รากฐาน​การ​ฝึก​วิชา​ของ​หลุน​หุย​แล้ว​ เขา​จะสามารถ​เรียนรู้​ด้วยตัวเอง​ได้​อย่างไร​กัน​?

ทุกคน​ต่าง​รู้สึก​เหมือนกับ​ว่า​ฉู่ชวิ๋น​ไม่ต้องการ​เปิดเผย​ตัวตน​อาจารย์​ของ​เขา​ ดังนั้น​ จึงไม่มีใคร​ถามอะไร​ออกมา​อีกแล้ว​

“อยากรู้​เหมือนกัน​นะ​ว่า​ ป่านนี้​พวก​สัตว์ร้าย​กลายพันธุ์​เป็น​ยังไง​บ้าง​?” เกา​โม่หา​น​พูด​ขึ้น​มาด้วย​ความสงสัย​

“พวก​มัน​พยายาม​ต่อไป​ก็​ไร้ประโยชน์​ นอกจาก​จะมีผู้​มีพลัง​ยุทธ์​ขั้น​เซียน​ปฐพี​มาเท่านั้น​ ถึงจะสลาย​ม่าน​พลัง​ได้​สำเร็จ​” ฉู่ชวิ๋น​ตอบ​ด้วย​น้ำเสียง​ราบเรียบ​

พวก​ของ​เกา​โม่หา​น​ทั้ง​สามคน​ไม่อยาก​เชื่อ​หู​ ขั้น​เซียน​ปฐพี​อย่างนั้น​หรือ​? พวก​มัน​เพิ่งจะ​อยู่​ใน​ขั้น​เซียน​ช่วง​แรกเริ่ม​เท่านั้น​ ความ​แข็งแกร่ง​ห่าง​ชั้น​จาก​ขั้น​เซียน​ปฐพี​อย่าง​เทียบ​ไม่ติด​

“พวก​มัน​มากัน​แล้ว​” ฉู่ชวิ๋น​พลัน​พูด​สิ่งที่​ไม่มีใคร​เข้าใจ​ออกมา​

“ใคร​มา?” เกา​โม่หา​น​ถามด้วย​ความ​ไม่เข้าใจ​

เสียง​ของ​เกา​โม่หา​น​ยัง​ไม่ทัน​จะขาดหาย​ ก็​ได้ยิน​เสียง​มวลอากาศ​ปั่นป่วน​ดัง​แทรก​เข้ามา​ พร้อมกับ​คลื่น​พลัง​ลมปราณ​ที่​รุนแรง​แผ่​กระจาย​อย่าง​รวดเร็ว​

ที่แท้​พวก​จอม​ยุทธ์​ขั้น​เซียน​ของ​สัตว์ร้าย​กลายพันธุ์​ทั้ง​หก​คน​ ก็​มาที่นี่​แล้ว​

เกา​โม่หา​น​ เตียว​ซิงอี้​ และ​เก​อ​จ้าน​หันหน้า​มอง​ฉู่ชวิ๋น​ด้วย​ความ​เหลือเชื่อ​ ตอนที่​พวก​สัตว์ร้าย​กลายพันธุ์​มาถึงที่นี่​ ไม่มีใคร​รู้สึกตัว​เลย​ แต่​ชายหนุ่ม​กลับ​รู้สึกตัว​แล้ว​ ทำให้​พวกเขา​อด​ประหลาดใจ​ไม่ได้​จริง ๆ​

จอม​ยุทธ์​ขั้น​เซียน​ทั้ง​หก​ของ​เหล่า​สัตว์ร้าย​กลายพันธุ์​ ปรากฏตัว​ขึ้น​ห่าง​ไปไม่กี่​ร้อย​เมตร​ใน​พริบตา​ต่อมา​

เกา​โม่หา​น​ เตียว​ซิงอี้​ และ​เก​อ​จ้าน​ลุกขึ้น​ยืน​อย่าง​ตื่นตัว​

มีเพียงแค่​ฉู่ชวิ๋น​คนเดียว​เท่านั้น​ที่​ยัง​นั่ง​จิบ​ไวน์​ด้วย​สีหน้า​เรียบ​เฉย​ดังเดิม​ ไม่ได้​สนใจ​การ​มาถึงของ​ผู้​มีขั้น​เซียน​ทั้ง​หก​คน​นั้น​เลย​แม้แต่น้อย​

จักรพรรดิเซียนหวนคืน (仙帝归来)

จักรพรรดิเซียนหวนคืน (仙帝归来)

Score 10
Status: Completed

เรื่องย่อ จักรพรรดิ์เซียนหวนคืน

เมื่อความแค้นทำให้เขาต้องกลับมา.. ฉู่ชวิ๋น เด็กหนุ่มผู้ใสซื่อถูกจับเข้าคุกในข้อหาที่เขาเองก็ยังสงสัยมามันคืออะไร อีกทั้งชีวิตในคุกของเขาเต็มไปด้วยความเจ็บปวด จนกระทั้งเขาถูกกระทืบตาย หลังจากที่เขาตายแล้ววิญญาญได้ข้ามไปยังโลกแห่งผู้ฝึกตน คนอื่นใช้เวลาหมื่นปีเป็นจักรพรรดิ์เซียน แต่สำหรับเขานั้น ใช่เวลาเพียง 3000 ปีก็อยู่บนจุดสูงสุดของจักพรรดิ์เซียน แต่ในเวลานั้นจิตใจของเขายังคงสับสนเพราะต้องการรู้ความจริงที่เกิดขึ้นในภพชาติก่อน เขาจึงใช้พลังเซียนทั้งหมดเพื่อเปิดประตูมิติ ส่งวิญญาณของเขากลับมาที่ร่างเก่าที่อยู่ในคุก ก่อนวันที่เขาจะตายเพียงหนึ่งวัน……….. นี้คือการกลับมาล้างแค้นและค้นหาความจริงแต่เขานั้นไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไปเขาคือ จักรพรรดิเซียน!

Options

not work with dark mode
Reset