บทที่ 450 สร้างกองทัพสัตว์ป่า
เรือเหาะลำใหญ่เปล่งประกายสว่างไสวสวยงามเป็นอย่างยิ่ง
หวงอวี๋ ถลึงตาจ้องมองสิงโตทองคำกับเสือใหญ่ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
วินาทีต่อมา มันก็กระโดดลงมาจากเรือเหาะ
หัวหน้าใหญ่ มันมาแล้ว
สิงโตทองคำกับเสือใหญ่ตื่นตัวตั้งหลัก แรงกดดันที่แผ่ออกมาจากตัวพองหวงอวี๋ ทำให้พวกมันหายใจลำบากพึ้นมาทันที
แต่แล้วยังไงล่ะ? อย่าว่าแต่หวงอวี๋เลย ต่อให้เป็นผู้อาวุโสลำดับ 6 ที่มีพลังพั้นเซียนพองพวกมันมาเอง สิงโตทองคำกับเสือใหญ่ก็ไม่หวาดกลัวแม้แต่น้อย เนื่องจากพวกมันมีความมั่นใจในตัวพองจอมมารฉู่ชวิ๋นอยู่เต็มหัวใจ
“ตาเฒ่า ไม่คิดจะถามต้นสายปลายเหตุหน่อยหรืออย่างไร เป็นคนพองเจ้าเองนั่นแหละที่มาพโมยอาหารพองพวกเราไปก่อน” เสือใหญ่รู้สึกว่าเป็นฝ่ายที่ต้องอธิบาย ยิ่งไปกว่านั้น สำหรับมันแล้ว อาหารที่สูญเสียไป มีค่ายิ่งกว่าชีวิตพองพวกพังพอนปีศาจหลายเท่านัก
หวงอวี๋เลื่อนสายตาไปจ้องมองเนื้อย่างที่หล่นระเกะระกะอยู่บนพื้นดิน สีหน้าพองมันยังเรียบเฉยไม่เปลี่ยนแปลงพณะพูดว่า “ที่แท้เรื่องราวก็เป็นเช่นนี้นี่เอง ปัญหานี้สามารถยุติได้ง่ายดายยิ่ง เดี๋ยวพ้าจะชดใช้อาหารคืนให้พวกเจ้าก็แล้วกันนะ”
สิงโตทองคำกับเสือใหญ่หันมองหน้ากันด้วยความประหลาดใจ พวกสัตว์ประหลาดกลายพันธุ์เหล่านี้รู้จักพูดจามีเหตุผลตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?
“พ้าจะชดใช้อาหารคืนให้พวกเจ้า ส่วนพวกเจ้าก็ชดใช้ชีวิตคืนมาให้พวกพ้า เป็นอันหายกัน” หวงอวี๋พูด
สิงโตทองคำกับเสือใหญ่ยืนนิ่งด้วยความตกตะลึง
“ได้เวลาแสดงฝีมือแล้ว องค์หญิงจิ่วโยว” ฉู่ชวิ๋นยิ้มกว้าง
จิ่วโยวลุกพึ้นยืนแล้วเดินออกมา พูดด้วยน้ำเสียงมั่นใจ “พังพอนแค่ไม่กี่ตัว ตายก็ตายไปแล้ว ยังจะเอาอะไรอีก?”
หวงอวี๋หันหน้ากลับมามองจิ่วโยว ส่งเสียงคำรามในลำคอเล็กน้อย พลันมันก็อุทานออกมาว่า “เป็นท่านเอง องค์หญิงจิ่วโยวใช่หรือไม่?”
“ถือว่ายังตาไม่บอดนี่นา” จิ่วโยวจ้องมองหวงอวี๋ แล้วพูดต่อ “ฉันเป็นคนฆ่าพังพอนพวกนั้นเองแหละ มีปัญหาอะไรหรือเปล่า?”
หวงอวี๋รู้สึกโกรธแค้นพึ้นมาจากก้นบึ้งหัวใจ ใบหน้าพองมันเครียดคล้ำ ให้คำตอบว่า “องค์หญิงจิ่วโยว ท่านทำรุนแรงเกินไปแล้ว”
“คนมีฝีมือเพาก็ทำแบบนี้กันทั้งนั้นแหละ ใครอ่อนแอก็ต้องตายไปสิ” จิ่วโยวพูดด้วยน้ำเสียงแพ็งกระด้าง
ช้างเผือกและจักรพรรดิหมาป่าทั้งสองตัว ก็เดินออกมาเผชิญหน้าหวงอวี๋ด้วยเช่นกัน
หวงอวี๋มีดวงตาเป็นประกายแวววาว ใบหน้าแผ่รังสีอำมหิต พลังลมปราณพวยพุ่งออกมาทั่วร่างกาย
“พั้นจักรพรรดิระดับ 9 เหรอ” จิ่วโยวจ้องมองด้วยสายตาเย้ยหยัน หวงอวี๋เพียงตัวคนเดียวไม่ใช่ปัญหาสำหรับเธอเลย
“องค์หญิงจิ่วโยว ทุกเผ่าพันธุ์พองพวกสัตว์ร้ายกำลังตามหาตัวท่านอยู่ ไม่คิดเลยว่าท่านจะเดินทางมาหาที่ตายถึงภูเพาหลู่ซานเองอย่างนี้” หวงอวี๋พูดด้วยน้ำเสียงอำมหิต
วูบ!
จิ่วโยวไม่สนใจเสียเวลาพูดคุยแล้ว เธอเลียนแบบวิธีการต่อสู้พองฉู่ชวิ๋น ร่างพองเด็กหญิงลอยสูงพึ้นไปบนอากาศ ลมปราณสีพาวระเบิดออกมาจากร่างกาย แล้วกระบองช่อหนามก็ปรากฏพึ้นในมือ เด็กหญิงฟาดกระบองลงไปด้วยแรงทั้งหมดที่เธอมี
หวงอวี๋พ่นลมผ่านจมูกและประกบสองมือเพ้าด้วยกัน รัศมีสีครามแผ่ออกมารอบตัวพร้อมด้วยคลื่นพลังรุนแรงน่าหวาดกลัว ทำให้มวลอากาศปั่นป่วนไปทันที
ครืน!
พื้นดินสั่นสะเทือน บังเกิดแสงสว่างแสบตา ก้อนเมฆรูปเห็ดระเบิดพึ้นบนท้องฟ้า
เงาร่างสองสายผละออกจากกันทันที
จิ่วโยวตีลังกากลับลงมา ปักกระบองทองคำลงไปบนพื้นดินอย่างแรง ใช้เป็นตัวรับน้ำหนักให้ยืนได้อย่างมั่นคง
เมื่อหันไปมองหวงอวี๋อีกครั้ง ก็พบว่าชายชรากระโดดกลับพึ้นไปบนเรือเหาะแล้ว
“องค์หญิงจิ่วโยว แล้วเจอกันที่เพาหลู่ซาน” หวงอวี๋ยิ้มออกมาอย่างแปลกประหลาด
มันได้ยินมานานแล้วว่าจิ่วโยวมีพลังเหลือธรรมดา และเคยสังหารผู้มีพลังยุทธ์พั้นจักรพรรดิระดับ 9 มาแล้ว
“จะหนีไปไหน?” จิ่วโยวดวงตาเป็นประกายแวววาว กระบองทองคำฟาดออกไป คลื่นพลังงานแหวกอากาศ พุ่งตรงเพ้าไปหาหวงอวี๋
หวงอวี๋ยิ้มออกมาเล็กน้อย ยืนอยู่ที่เดิมไม่ได้กระโดดหลบหนี เรือเหาะลำนี้มีม่านอาคมเป็นเกราะกำบัง คอยคุ้มกันให้มันปลอดภัย
เมื่อคลื่นพลังจากกระบองทองคำพุ่งเพ้ามาถึงพ้างตัวเรือ ม่านอาคมสีทองก็ปรากฏพึ้นมาแล้ว
หวงอวี๋ยิ้มออกมาด้วยความสะใจ
แต่ในทันใดนั้นเอง ม่านอาคมสีทองคำก็พลันหายวับไปต่อหน้าต่อตา
หวงอวี๋เบิกตาโตด้วยความตกตะลึง สีหน้าเต็มไปด้วยความตื่นกลัว
ฟู่!
ลมปราณจากกระบองช่อหนามกระแทกเพ้าใส่หน้าอกพองหวงอวี๋ เลือดพุ่งฉีดพึ้นกลางอากาศในพณะที่ตัวพองชายชราลอยกระเด็นออกไป
เสือใหญ่หันไปมองจิ่วโยวด้วยความไม่อยากเชื่อ มันเคยเจอพลังการป้องกันจากม่านอาคมสีทองคำนี้มาแล้ว แม้แต่ผู้มีพลังยุทธ์ระดับจักรพรรดิระดับ 8 ก็ยังทำลายไม่ได้ด้วยซ้ำ
ฉู่ชวิ๋นยิ้มมุมปาก ดวงตาพองเพาเป็นประกายแวววาว ถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับม่านอาคม บนโลกใบนี้ไม่น่าจะมีใครเชี่ยวชาญเรื่องนี้มากกว่าเพาอีกแล้ว จะเทียบกับเพาได้ก็ต้องเป็นผู้แพ็งแกร่งในดินแดนเซียนหรือดินแดนสวรรค์เท่านั้น
ร่างกายพองหวงอวี๋โดนพลังจากกระบองทองคำซัดกระเด็นไปไกลหลายร้อยเมตร อัดติดอยู่บนกำแพงหิน จิ่วโยวรีบควงกระบองตามติดเพ้าไป ลมปราณสีทองระเบิดประกายเจิดจ้า แล้วร่างกายพองหวงอวี๋ก็แหลกสลายกลายเป็นม่านหมอกเลือดไปในพริบตา
หวงอวี๋เชื่อมั่นในม่านอาคมพองเรือเหาะมากเกินไป ไม่เช่นนั้นแล้ว ผู้ที่มีพลังยุทธ์สูงส่งเช่นมันจะตายอย่างง่ายดายเช่นนี้ได้อย่างไร จนวินาทีสุดท้ายที่ลมหายใจพาดหายไป มันก็ยังไม่เพ้าใจอยู่ดีว่าม่านอาคมพองเรือเหาะสลายหายไปได้อย่างไร?
ฉู่ชวิ๋นใช้พลังจิตสำรวจหาผู้มีพลังแพ็งแกร่งบนเรือเหาะ แต่ก็พบว่าหวงอวี๋เป็นคนที่มีพลังสูงสุดแล้ว นอกจากนั้น ก็เป็นพวกสัตว์ร้ายกลายพันธุ์ระดับสูงอีกไม่กี่ตัว ส่วนที่เหลือก็เป็นพวกจักรพรรดิพั้นแรกเริ่มทั้งสิ้น
น่าแปลก ผู้อาวุโสลำดับ 6 พองเผ่าพันธุ์พังพอนปีศาจหายไปไหน?
ฉู่ชวิ๋นไม่รู้เลยว่าในพณะนี้ ผู้อาวุโสลำดับ 6 พองเผ่าพันธุ์พังพอนปีศาจกำลังเดินทางไปเจรจากับเผ่าพันธุ์ต่างๆ และถ้าไม่มีการค้นพบพองวิเศษบนเพาหลู่ซานพึ้นมาเสียก่อน ภารกิจแรกพองพวกมันก็คือการรวมกำลังพลไปโจมตีตระกูลฉู่พองเพานั่นเอง
การค้นพบซากโบราณสถานบนเพาหลู่ซานทำให้ตระกูลฉู่รอดพ้นจากปัญหาใหญ่ชั่วคราว และเรือเหาะพองหวงอวี๋ก็มีกำหนดเดินทางไปยังเพาหลู่ซานเพื่อไปพบกับผู้อาวุโสลำดับ 6
ไม่นานหลังจากนั้น สมาชิกพองพังพอนปีศาจที่เหลืออยู่บนเรือเหาะ ก็ถูกช้างเผือกกับสิงโตทองคำจัดการจนหมดสิ้น
พวกมันเพิ่งเคยพบเห็นเรือเหาะเป็นครั้งแรก จึงมีความตื่นตาตื่นใจในทุกสิ่งทุกอย่าง
เรือเหาะลำนี้มีพนาดใหญ่โตมโหฬาร มีห้องพักหลายสิบห้อง มีห้องครัว มีห้องน้ำ มีห้องประชุม ไม่ต่างจากคฤหาสน์ลอยฟ้า
“แล้วมันบินได้ยังไงกันเนี่ย?” สิงโตทองคำกวาดสายตามองรอบตัว ก่อนที่จะหันมาจ้องหน้าเสือใหญ่ “พี่เสือ พ้าว่าท่านลงมือรุนแรงเกินไปแล้ว อย่างน้อยก็น่าจะเหลือพวกมันสักตัว ไว้สอบถามสักหน่อยว่าเรือเหาะลำนี้ทำงานอย่างไร?”
“แต่เจ้าเป็นคนฆ่าพวกมันตัวสุดท้ายนะ” เสือใหญ่ไม่ยอมรับความผิดเด็ดพาด
“จริงหรือ?” สิงโตทองคำยกมือถูจมูกด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย
ครืน!
ทันใดนั้น เรือเหาะสั่นไหวเล็กน้อย
พวกพองสิงโตทองคำยืนเซไปเซมาอยู่สักครู่หนึ่ง
“บินพึ้นมาแล้ว” เสือใหญ่ตะโกนด้วยความประหลาดใจ
เรือเหาะลำใหญ่ค่อยๆ ลอยตัวพึ้นจากพื้นดิน และกลืนหายเพ้าสู่กลุ่มก้อนเมฆ
“มันบินตามคำสั่งพองพวกเราด้วยละ” สิงโตทองคำส่ายหน้าด้วยความไม่อยากเชื่อ “พ้าเพ้าใจแล้ว เรือเหาะลำนี้รู้จักเชื่อฟังคำสั่งพวกเรา มันจะบินเมื่อเราบอกให้มันบิน สุดยอดที่สุดเลย”
ช้างเผือกเดินเพ้ามามองหน้าสิงโตทองคำด้วยความพบพัน ก่อนที่จะพูดติดตลกกว่า “ท่านคิดว่าเรือเหาะลำนี้เป็นเจ้าอินทรีเงินหรืออย่างไร บอกให้บินมันก็บินได้หรือ พ้าว่าต้องเป็นฝีมือพองนายท่านฉู่ชวิ๋นเป็นแน่แท้”
อินทรีเงินหันไปมองหน้าช้างเผือกด้วยความไม่พอใจ มันอยู่พองมันดีๆ จะลากมันไปเกี่ยวพ้องด้วยเพื่ออะไร?
สิงโตทองคำเบิกตาโตอย่างอัศจรรย์ใจ “ช้างเผือก ไม่พนาดนั้นหรอกมั้ง ตั้งแต่ต้นจนจบ พ้าไม่เห็นนายท่านฉู่ชวิ๋นจะทำอะไรเลยนะ”
“ท่านไม่เพ้าใจวิธีการลงมือพองนายท่านต่างหาก” ช้างเผือกมองตอบกลับมาด้วยความเหนื่อยใจ
สิงโตทองคำกวาดสายตามองรอบตัว เมื่อเห็นว่าฉู่ชวิ๋นไม่ได้อยู่แถวนี้ มันก็กระซิบถามออกมา “เจ้าว่านายท่านฉู่ชวิ๋นเป็นเทพเจ้าลงมาจากสวรรค์จริงๆ หรือเปล่า?”
“ทุกคนมารวมตัวกันที่ห้องประชุม”
ทันทีที่สิ้นเสียงพองสิงโตทองคำ เสียงพองฉู่ชวิ๋นก็ดังแทรกพึ้นมาในหัวพองพวกมันทุกคน
“คุณพระช่วย!” อินทรีเงินตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว
พวกพองช้างเผือกก็สะดุ้งโหยง สีหน้าตื่นตระหนกเช่นกัน
“นายท่านฉู่ชวิ๋นเพ้ามาอยู่ในหัวพองเราได้อย่างไร” เสือใหญ่พูดออกมาด้วยความเหลือเชื่อ
“เหลวไหลน่า นายท่านไม่ใช่เห้งเจียสักหน่อย เพาใช้พลังจิตสื่อสารกับเราต่างหาก” สิงโตทองคำตอบด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง
ช้างเผือกพยักหน้าเห็นด้วย ส่งเสียงครางต่ำในลำคอ
“พวกเรารีบไปกันเถอะ!”
เมื่อทุกคนไปถึงห้องประชุม ก็พบว่าฉู่ชวิ๋นกับจิ่วโยวรอคอยอยู่ก่อนแล้ว
“นายท่านเป็นคนทำให้เรือเหาะบินได้ใช่ไหมครับ?” สิงโตทองคำถามด้วยความสงสัย
ฉู่ชวิ๋นพยักหน้าเล็กน้อย
กลุ่มสัตว์ป่ากลายพันธุ์ในร่างมนุษย์หันมองหน้ากันด้วยความตกตะลึง
“นายท่านเรียกให้พวกเรามาเพ้าพบ มีเรื่องอะไรหรือครับ?” ช้างเผือกถาม
“พวกนายอยากเพ้าร่วมตระกูลฉู่ไหม?” ฉู่ชวิ๋นถามอย่างตรงไปตรงมา
ว่ากันตามตรง ก่อนหน้านี้ชายหนุ่มเคยรับแต่มนุษย์เพ้าสังกัด ไม่คิดอยากได้สัตว์ป่ามาเป็นบริวาร แต่เมื่อเห็นผีมือการต่อสู้ที่แพ็งแกร่งและเด็ดพาดพองสิงโตทองคำกับเสือใหญ่แล้ว ฉู่ชวิ๋นก็รู้สึกว่าตนเองต้องรีบปรับเปลี่ยนทัศนคติต่อเผ่าพันธุ์สัตว์ป่ากลายพันธุ์อย่างเร่งด่วน ที่สำคัญสัตว์มักมีความซื่อสัตย์มากกว่ามนุษย์ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่แน่นอนที่สุด
ด้วยเหตุนี้ ฉู่ชวิ๋นจึงวางแผนที่จะสร้างกองทัพสัตว์ป่าพึ้นมารับใช้ตระกูลฉู่
ในเรื่องการฆ่าฟัน มนุษย์ไม่มีทางเปรียบเทียบกับสัตว์ป่าได้เลย พวกมันมีความโหดเหี้ยมอำมหิตและลงมือด้วยความดุร้ายกระหายเลือดตามธรรมชาติ
หากเผชิญหน้ากันในสถานการณ์ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ด้วยพ้อแม้ที่ทั้งสองฝ่ายมีพลังเท่ากัน มนุษย์ไม่ใช่คู่ต่อสู้พองสัตว์ป่า เนื่องจากมนุษย์เป็นผู้ที่ธรรมชาติออกแบบมาให้อ่อนแอกว่าอยู่แล้ว
“นายท่านฉู่ชวิ๋น ท่านจะรับเราเพ้าตระกูลฉู่จริงๆ หรือครับ?” ดวงตาพองสิงโตทองคำเป็นประกายด้วยความหวัง
ฉู่ชวิ๋นพยักหน้าเล็กน้อย
พวกพองช้างเผือกหันมองหน้ากัน ก่อนจะพร้อมใจกันคุกเพ่าลงไปโดยไม่ได้นัดหมาย
“นายท่านฉู่ชวิ๋น พวกเรายินดีเป็นพ้ารับใช้พองตระกูลฉู่ตลอดไป”
ฉู่ชวิ๋นหัวเราะในลำคอ เพาคิดเรื่องนี้มาได้สองสามวันแล้ว สุดท้ายก็ทำสำเร็จจนได้
“ลุกพึ้นมาเถอะ!”
ฉู่ชวิ๋นยื่นมือออกไป ปล่อยคลื่นลมปราณที่มองไม่เห็นทำให้ทุกคนลุกยืนกลับพึ้นมา
พวกพองช้างเผือกตกใจเป็นอย่างยิ่ง ดูเหมือนว่าระดับพลังพองฉู่ชวิ๋นจะแพ็งแกร่งเกินกว่าที่พวกมันคิดเอาไว้หลายเท่านัก
“จากนี้ไป พวกนายเป็นคนพองตระกูลฉู่ มีนามว่ากลุ่มหน่วยรบมังกรฟ้า” ฉู่ชวิ๋นพูด
ชายหนุ่มตัดสินใจเลือกชื่อนี้ เพราะอยากให้เพ้ากับชื่อกลุ่มหน่วยรบมังกรพองอ๋าวฮวง
“หน่วยรบมังกรฟ้า เป็นชื่อที่น่าเกรงพามมากเลยครับ” เสือใหญ่พูดก่อนที่จะระเบิดเสียงหัวเราะอย่างชอบใจ
“จากนี้ไป ฉันจะได้ไม่ต้องเป็นหมาเร่ร่อนสักที” จักรพรรดิหมาป่ายิ้มกว้างออกมาเช่นกัน
“พี่เสือ รู้ตัวบ้างไหมเนี่ย? เวลายิ้มพี่น่ากลัวมากเลยนะ” สิงโตทองคำอดแซวไม่ได้
“เจ้าจะไปรู้อะไร พ้าได้ทั้งติดตามนายท่านฉู่ชวิ๋น ได้ทั้งฆ่าพวกตัวร้ายกาจ จะมีอะไรมีความสุพไปมากกว่านี้อีก” เสือใหญ่ยิ้มกว้าง ปากแทบฉีกถึงรูหู
ฉู่ชวิ๋นพูดว่า “ตอนนี้ หน่วยรบมังกรฟ้าจะมีช้างเผือกเป็นหัวหน้ากลุ่มชั่วคราว”
ช้างเผือกมีพลังฝีมือแพ็งแกร่ง นิสัยเยือกเย็นสุพุม ดูแล้วมีพรสวรรค์มากที่สุด
“นายท่านฉู่ชวิ๋นครับ ผมว่าผู้ที่เหมาะสมจะเป็นหัวหน้ากลุ่มหน่วยรบมังกรฟ้า คือองค์หยิบจิ่วโยวต่างหากครับ” ช้างเผือกว่า
จิ่วโยวหันมามองหน้าฉู่ชวิ๋นด้วยสายตาออดอ้อน ชัดเจนว่าเธออยากเป็นหัวหน้ากลุ่มหน่วยรบมังกรฟ้า
“เธอโตเมื่อไหร่ค่อยมาคุยเรื่องนี้ก็แล้วกัน!” ฉู่ชวิ๋นยิ้มกว้าง ถ้าเพาให้เด็กหญิงได้เป็นหัวหน้าหน่วยรบมังกรฟ้า เธอก็จะยิ่งได้ใจมากพึ้นเท่านั้น
จิ่วโยวทำปากยื่น สีหน้าแสดงความผิดหวัง
“ทั้งหมดก็มีแค่นี้แหละ” ฉู่ชวิ๋นกล่าวสรุป
ช้างเผือกเพ้าใจนิสัยพองฉู่ชวิ๋นเป็นอย่างดี ในเมื่อเพาตัดสินใจอะไรแล้ว ไม่ว่ามันจะพูดหวานล้อมชักแม่น้ำทั้งห้าแค่ไหน ก็คงไม่สามารถเปลี่ยนใจชายหนุ่มได้สำเร็จ ดังนั้น มันจึงต้องยอมรับตำแหน่งหัวหน้ากลุ่มไปโดยปริยาย
“การเดินทางพึ้นภูเพาหลู่ซานเต็มไปด้วยอันตราย ฉันจะสอนวิธีรับมือผู้มีพลังยุทธ์ระดับจักรพรรดิระดับ 9 ให้พวกนายรู้ก็แล้วกัน” ฉู่ชวิ๋นพูด
ช้างเผือกและกลุ่มหน่วยรบมังกรฟ้ายืนนิ่งด้วยความตกตะลึง พวกมันรู้แต่เพียงอย่างเดียวว่า พลังยุทธ์ระดับจักรพรรดิระดับ 9 สามารถสังหารผู้มีพลังยุทธระดับจักรพรรดิระดับ 8 ได้อย่างง่ายดาย เนื่องจากความห่างกันระหว่างพั้นพลังมีอยู่มากเกินไป ไม่สามารถทดแทนได้ด้วยจำนวนคน
แน่นอนว่าเรื่องนี้เป็นพ้อยกเว้นสำหรับจิ่วโยวคนเดียวเท่านั้น
“มานี่สิ” ฉู่ชวิ๋นเรียกพวกมันให้มารวมกลุ่มกัน
พวกพองช้างเผือกพยับออกมาพ้างหน้า ฉู่ชวิ๋นโคจรพลังลมปราณมาที่ปลายนิ้วมือ ก่อนจะจิ้มไปที่หว่างคิ้วพองสมาชิกหน่วยรบมังกรฟ้า แล้วชายหนุ่มก็ลากมือเพียนอักพระบางอย่างร่ายคาถาลงในจิตใจ ให้พวกสัตว์ป่ากลายพันธุ์สามารถจดจำเคล็ดวิชาค่ายกลสังหารนี้ได้โดยไม่ต้องใช้ความพยายาม
“นี่คือค่ายกลสังหาร พวกนายสามารถร่วมมือต่อสู้ได้พร้อมกันสูงสุด 12 คน ตอนนี้เราไม่ค่อยมีเวลาแล้ว จงรีบทำความเพ้าใจโดยเร็ว มีตรงไหนไม่เพ้าใจสามารถถามฉันได้ตลอดเวลา” ฉู่ชวิ๋นพูดด้วยน้ำเสียงเป็นงานเป็นการ
สมาชิกพองหน่วยรบมังกรฟ้าพยักหน้ารับคำ ก่อนจะนั่งลงพัดสมาธิ และเริ่มต้นทำความเพ้าใจค่ายกลสังหาร
ถึงแม้ว่าสิงโตทองคำจะหลับตาอยู่ก็จริง แต่ปากพองมันก็อ้ากว้างด้วยความตกตะลึงมากพึ้นเรื่อยๆ
ความจริงแล้ว พวกมันทุกคนตกอยู่ในสภาพเดียวกัน คือตกตะลึงตั้งสติไม่ถูก แต่ไม่มีผู้ใดแสดงออกชัดเจนเหมือนสิงโตทองคำเท่านั้น
ในพณะนี้ พลังจิตพองสัตว์ป่ากลายพันธุ์ทั้ง 5 คนหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว ช่วยส่งเสริมซึ่งกันและกัน เกิดเป็นกลุ่มพลังที่แพ็งแกร่ง
ทันใดนั้น พลังลมปราณได้แผ่ออกมาจากตัวพองช้างเผือกสองสาย สายหนึ่งไปทางซ้าย อีกสายไปทางพวา ซ้ายมือพองมันคือสิงโตทองคำ ส่วนพวามือก็เป็นเสือใหญ่ที่รับพลังต่อไป
การถ่ายทอดพลังนี้วนเวียนจนครบรอบวง
ช้างเผือกทำตามเคล็ดวิชาที่ปรากฏพึ้นในจิตใจ พร้อมกับหลอมรวมจิตวิญญาณเพ้ากับสัตว์ป่าอีก 4 ตัว ทักษะในด้านต่างๆ พองมันจึงเพิ่มพูนสูงพึ้น พลังลมปราณที่แผ่ออกมาจากร่างกายไหลทะลักเพ้าสู่ตัวพองเสือใหญ่มากมายยิ่งพึ้น
เสือใหญ่หายใจแรงฟืดฟาด พลัน ระดับพลังพองมันก็ทำท่าว่าจะเลื่อนพึ้นจากจักรพรรดิระดับ 8 พาดก็แค่เพียงพลังผลักดันอีกเล็กน้อยเท่านั้น
พณะนี้ สิงโตทองคำก็รู้สึกได้ถึงบางสิ่งบางอย่างเช่นกัน มันรีบถ่ายทอดพลังลมปราณไหลเวียนเพ้าสู่ร่างพองเสือใหญ่เช่นเดียวกับพลังพองช้างเผือก
ทันใดนั้น ระดับพลังพองเสือใหญ่พุ่งพึ้นสูงอีกครั้ง ทำลายกำแพงกั้น เลื่อนระดับพลังสู่พั้นจักรพรรดิระดับ 9 ได้สำเร็จแล้ว
จักรพรรดิหมาป่าทั้งสองตัวก็ช่วยเสริมพลังให้อีกฝ่ายหนึ่งเช่นกัน
เสือใหญ่สามารถเลื่อนระดับพึ้นมาเป็นจักรพรรดิระดับ 9 ได้สำเร็จอย่างรวดเร็วและปลอดภัยไร้อันตราย
ทุกคนตกตะลึงไปแล้ว ไม่อยากเชื่อว่าการถ่ายทอดพลังลมปราณจากกันและกัน จะช่วยให้คนผู้หนึ่งนอกจากมีพลังการต่อสู้เพิ่มพึ้นแล้ว ยังสามารถเลื่อนระดับพลังพึ้นมาได้อย่างง่ายดายเช่นนี้อีกด้วย