จอมใจจอมทัพ 49 พี่ต้องการเจ้ามากกว่าสิ่งใด

ตอนที่ 49 พี่ต้องการเจ้ามากกว่าสิ่งใด

“ เสด็จพ่อเพคะ ลูกผู้ชายตรัสแล้วอย่าคืนคำสิเพคะ ” องค์หญิงซูเม่ยค้านขึ้น สองแขนของนางโอบรอบลำคอของเขาเอาไว้ ใบหน้างามมีรอยยิ้มอันเปี่ยมสุข นั่นทำให้ผู้เป็นบิดาพอคาดเดาอะไรได้บ้าง

“ ลูกเต็มใจเช่นนั้นหรือ ”

“ ลูกเต็มใจเป็นอย่างยิ่งที่จะเป็นสิ่งตอบแทนให้กับชายผู้กล้าหาญ จอมทัพผู้แข็งแกร่งนามว่าเหิงซื่อหลุนผู้นี้เพคะ ”

“ ข้ามิได้เห็นนางเป็นเพียงสิ่งตอบแทน แต่ข้าได้มอบดวงใจของข้าให้แก่นางไปแล้วและนางเองก็ใจตรงกับข้าเช่นกัน ” แม่ทัพเหิงเอ่ยขึ้น

“ เจ้าว่าอะไรนะ ” ท่านเจ้าเมืองถามออกมาอย่างไม่เชื่อหู

“ เรารักกันเพคะเสด็จพ่อ ลูกกับแม่ทัพเหิงรักกัน ” นางบอกผู้เป็นบิดาด้วยรอยยิ้ม แม้ว่ายามนี้จะสงสัยใคร่รู้และมีคำถามร้อยพัน หากคงมิใช่เวลาที่จะพูดคุย

“ ถ้าเช่นนั้นก็… ตามสบายนะ ” ท่านเจ้าเมืองว่าแม้ในใจจะแสนห่วงใยคนเป็นลูกมากก็ตามที

“ ข้าคงต้องขอตัวก่อน ” แม่ทัพหนุ่มเอ่ยสั้น ๆ แต่ท่านเจ้าเมืองเรียกไว้

“ เดี๋ยว ” ก่อนสาวเข้าไปใกล้และกระซิบข้างหูแม่ทัพหนุ่ม

“ ทะนุถนอมลูกสาวข้าด้วย อย่าได้รุนแรงกับนางนัก ”

“ ข้ารับปาก ท่านเจ้าเมืองไม่ต้องห่วง ”

“ ยามนี้เจ้าคงต้องเรียกข้าว่าเสด็จพ่อแล้ว ” นั่นทำให้แม่ทัพเหิงยิ้มกว้างออกมาอย่างมีความสุข

“ ข้ารู้สึกเป็นเกียรติเหลือเกิน ที่ท่านให้โอกาสชายผู้ต่ำศักดิ์ ”

“ ไม่เลย จิตใจของเจ้าสูงส่งเหลือเกิน เหิงซื่อหลุน ขอให้ดูแลลูกสาวข้าให้ดีเช่นที่เจ้าดูแลเมืองหงโจวมาตลอด ”

“ ข้าสัญญา ” เขากล่าวคำมั่นสั้น ๆ ด้วยแววตาและน้ำเสียงหนักแน่น ก่อนเดินจากไปอย่างรวดเร็วพร้อมองค์หญิง ซูเม่ยในวงแขน

มิใยที่เหล่าขุนนางจะซุบซิบนินทาตามหลัง ทว่าท่านเจ้าเมืองตวาดเสียงดัง

“ หุบปากไร้ประโยชน์ของพวกเจ้าได้แล้ว หลังจากนี้ข้าจะสะสางบัญชีการเมืองและขุนนาง ผู้ใดอยู่อย่างไร้ประโยชน์ สิ้นเปลืองงบประมาณแผ่นดิน ข้าจะพิจารณาให้ออกแล้วแต่งตั้งคนใหม่ที่เหมาะสม ข้าอ่อนข้อต่อพวกเจ้านานเกินไปแล้ว ” นั่นทำให้พวกเขาหุบปากฉับทันควัน ร้อน ๆ หนาว ๆ ไปตามกัน

 

“ ท่านจะพาข้าไปไหน ”

องค์หญิงซูเม่ยเอ่ยถาม อีกฝ่ายจ้องมองนางด้วยดวงตาเยิ้มฉ่ำราวจะกลืนกิน

“ ที่ไหนก็ได้ที่พี่สามารถกลืนกินเจ้าได้ทั้งวันทั้งคืน ” นั่นทำให้นางใบหน้าร้อนวูบ ต้องหลบสายตาแทงทะลุถึงหัวใจนั้นพัลวัน

“ เจ้าพร้อมหรือไม่ ”

“ หากข้าบอกว่าไม่พร้อมท่านจะยอมหยุดหรือ ” นางถามกลับ ทำให้เขาหัวเราะร่วน

“ เรื่องอะไรจะยอม พี่อุตส่าห์รีบรบ รีบชนะ รีบกลับมาเพื่อทวงสัญญาที่เจ้าให้ไว้ ” นางพิจารณาทั่วใบหน้าหล่อเหลานั้น หนวดเครารกครึ้ม ใบหน้าคร้ามเข้มขึ้นด้วยแดดเผา รอยแผลใหม่และรอยเลือดเปรอะเปื้อนไปทั่วอาภรณ์

“ ท่านเจ็บตรงไหนหรือไม่ ท่านพี่ ”

“ เป็นห่วงพี่หรือ ” เขาถามเสียงนุ่ม

“ ห่วงสิ ตอนท่านไปรบข้าร่ำไห้ทุกวันเลย ” คำตอบนั้นทำให้เขาหัวเราะร่วน

“ หญิงแกร่งผู้ที่กล้าขู่ข้าวันนั้นไปไหนกันเล่า ”

“ ข้าก็ทำทีเก่งกล้าไปอย่างนั้น เดินออกมาก็น้ำตาไหลไม่หยุดแล้ว ” นางสารภาพตามตรง เขาก้มลงจูบที่หน้าผากของนางอย่างแสนรักใคร่

“ ไม่เห็นต้องห่วง ข้ามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าคุ้มครองข้าอยู่เสมอ ” เป็นจังหวะเดียวกับที่เลี้ยวเข้าสู่ตำหนักบรรทมของนาง นางกำนัลและองครักษ์ทั้งหลายเปิดทางให้ เขาเดินเข้าสู่ห้องบรรทมก่อนวางนางลงบนเตียงอย่างทะนุถนอม ก่อนลุกขึ้นยืนแล้วถอดเกราะเหล็กออก ตามด้วยเสื้อคลุมจนเห็นท่อนบนกำยำเปลือยเปล่า ท่อนแขนขวามีผ้าสีแดงผูกเอาไว้ นั่นทำให้นางเบิกตากว้างอย่างแปลกใจ

“ นี่ท่านผูกตู้โตวของข้าเอาไว้ที่แขนเช่นนั้นหรือ ”

“ ตลอดเวลา ”

“ แขนอีกข้างของท่านมีบาดแผล ”

“ ก็แค่คมทวน เจ็บไม่มากไปกว่ามดกัด ”

“ แต่ว่า… ”

“ ยามนี้พี่ต้องการเจ้ามากกว่าสิ่งใด ” เขาว่าก่อนจะเปลื้องท่อนล่างจนเปลือยเปล่า นางหลับตาปี๋ทันทีนั่นทำให้เขาหัวเราะร่วน ก่อนที่นางจะรู้สึกถึงมือสากที่ลูบเบา ๆ บนซีกแก้มข้างหนึ่ง

“ หลับตาทำไม ”

“ ขะ… ข้าอาย ”

“ อายทำไม ทั้งเห็นทั้งอมทั้งเลียมาหมดแล้ว ”

“ ท่านพี่ พูดอะไรก็ไม่รู้ ”

Options

not work with dark mode
Reset