ตอนที่ 635 ข่มขู่
หลิวซื่ออ้าปากพะงาบ คราวนี้ไป๋เจินจูถึงได้พูดอีกว่า “ป้าสะใภ้ ตอนนี้ข้าเป็นคุณหนูของจวนโหวแล้ว สิ่งที่สวมใส่ย่อมเป็นไปตามกฎเกณฑ์ของที่นี่ ทว่าท่านโหวรู้อยู่แก่ใจดีว่าข้าเป็นเพียงตัวปลอม ก่อนที่ข้าจะได้แต่งงานกับจิ้นอ๋อง ท่านคิดว่าเขาจะให้ประโยชน์ข้ามากน้อยเท่าไร”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลิวซื่อก็คิดตามอย่างถี่ถ้วน สิ่งที่เจินจูพูดใช่ว่าไม่มีเหตุผล เผยชิงหานรู้แน่ชัดว่านางเป็นตัวปลอม แต่ก็ยังพานางมาที่เมืองหลวง เพื่อให้นางแต่งงานกับจิ้นอ๋อง ให้จวนโหวได้เกี่ยวดองกับราชสำนัก ทว่าหากจัดการเรื่องนี้ไม่สำเร็จ สำหรับเผยชิงหานแล้ว ไป๋เจินจูก็แค่ขยะที่ไม่มีประโยชน์เท่านั้น
หลิวซื่อเงยหน้ามองเครื่องประดับทองบนศีรษะของหญิงสาว รู้สึกคันมือยุกยิก นางจึงยื่นมือไปดึงมาถือไว้ในมืออีกชิ้นหนึ่ง ยิ้มว่า “ชิ้นนี้ก็สวยเช่นกัน ให้ข้าเถอะ!”
ไป๋เจินจูโมโหจนอยากจะต่อว่าออกไปสักยก แต่ไม่สามารถฉีกหน้ากันตอนนี้ได้ ทำได้เพียงกลั้นอารมณ์เอาไว้ นางเอ่ยว่า “ก็ได้ ท่านชอบก็เอาไปเถอะ แต่จำไว้ว่าหากต่อไปไม่มีเรื่องด่วนอะไร อย่าได้มาหาข้าที่นี่อีก” ดวงตาของหลิวซื่อกวาดมองกล่องใบหนึ่งในห้อง กล่องเปิดอ้าอยู่ ข้างในใส่เสื้อผ้าอยู่จนเต็มแน่น
นางพลันโลภมากขึ้นมา รีบก้าวไปคุ้ยดู
ไป๋เจินจูชำเลืองมองอีกฝ่ายหยิบอาภรณ์โดยไม่เลือกสรร ทำให้เสื้อผ้าที่สะอาดเกลี้ยงเกลาเปื้อนรอยนิ้วมือของนางทันที
“ไอ้หยา เสื้อผ้าพวกนี้สวยจริงๆ น่าจะอุ่นดีมากด้วย” นางมองเสื้อผ้าที่อยู่บนร่างกายของตนเอง ก่อนรีบถอดชุดคลุมตัวนอกออกเสียเลย แล้วเลือกเสื้อลายดอกที่นางชอบจากในกล่องออกมาสวมใส่
เผยชิงหานให้คนมาวัดตัวตอนที่ไป๋เจินจูเพิ่งเข้ามาในจวนวันนั้น ขนาดตัวของพวกอี๋เหนียงและหญิงสาวย่อมแตกต่างกัน แม้หลิวซื่อจะผอมบาง ทว่าสวมลงบนตัวแล้วจึงเล็กอยู่บ้าง
“คับไปหน่อย แต่ไม่เป็นไร ดีทีเดียว อบอุ่นนัก!” หลิวซื่อสวมแล้วย่อมไม่ถอดออกมาอีก
ไป๋เจินจูกดเก็บโทสะ พลางทำหน้าบึ้ง “จะเอาก็เอาไปเถอะ สวมเสร็จก็ควรจะไปได้แล้วกระมัง”
หลิวซื่อยิ้มไม่หุบ ไม่มีเวลาสนใจว่าสีหน้าของไป๋เจินจูในเวลานี้ไม่น่ามองเพียงใด เพียงคิดว่าตนเองได้เงินยี่สิบตำลึงเงิน ได้ปิ่นปักผมทองอีกสองชิ้น แล้วยังได้เสื้อผ้าใหม่ที่งดงามอีกชุดหนึ่ง จึงรู้สึกเบิกบานใจมาก ขาดก็แต่เหยียบเมฆโบยบินไปแล้ว
“ได้ ข้าจะไปเดี๋ยวนี้ เจ้าจำไว้นะ เสี่ยวเฟิงต้องเรียนหนังสือ ต้าเป๋าต้องแต่งภรรยา ครอบครัวของพวกข้าอาศัยอยู่ในเมืองหลวงแห่งนี้ต้องใช้เงินทุกวัน ที่พึ่งเดียวของพวกข้าในตอนนี้มีเพียงเจ้านะเจินจู เจ้าเข้าใจความหมายของข้าใช่หรือไม่” หลิวซื่อเอ่ยคล้ายยิ้ม คล้ายไม่ยิ้ม
ไป๋เจินจูขมวดคิ้ว “ท่านหมายความว่าอย่างไร จะขู่ข้าหรือ”
หลิวซื่อโบกมือ “เรียกว่าขู่คงจะเกินไป ก็แค่เตือนสติเจ้าเท่านั้น”
“ป้าสะใภ้ ท่านก็อย่าได้ลืมเสียล่ะ เรื่องนี้ไม่ได้มีเพียงข้าและท่านที่รู้ ท่านโหวก็รู้ชัดแจ้งอยู่แก่ใจเช่นกัน ท่านข่มขู่ข้า ก็เท่ากับข่มขู่ท่านโหวด้วย แต่ข้าคิดว่าด้วยตำแหน่งของท่านโหวในเมืองหลวงแห่งนี้ เขาน่าจะมีวิธีจัดการอะไรแน่” ไป๋เจินจูแค่นหัวเราะ
หลิวซื่อพลันยิ้มเจื่อน คิดไม่ถึงเลยจริงๆ ว่าฝีปากไป๋เจินจูจะคมกล้าเช่นนี้ ดูจากท่าทางในตอนนี้แล้ว นางคงจะคิดว่าตนเองเป็นคุณหนูผู้สูงศักดิ์จริงๆ กระมัง
ไป๋เจินจูกล่าวอีกว่า “ป้าสะใภ้ ท่านคิดใคร่ครวญให้ดีเถอะ บทสนทนาของพวกเราในวันนี้ ภัยร้ายที่รุนแรงที่สุดคืออะไร ท่านรู้ดีอยู่แก่ใจใช่หรือไม่”
“ภัยร้ายที่รุนแรงที่สุดคืออะไร เจ้าพูดให้ชัดเจนหน่อยสิ” หลิวซื่อไม่เข้าใจ
“ข้าอุปโลกน์เป็นใครในตอนนี้ ท่านอย่าบอกว่าท่านไม่รู้นะ”
หลิวซื่อเข้าใจในทันที “เจ้าหมายถึงไป๋จื่อ? นางอยู่ไกลถึงทางตะวันตกเฉียงเหนือ จะทำอะไรพวกเราได้”
ไป๋เจินจูเอ่ยว่า “เรื่องบนโลกใบนี้ ใครจะพูดอย่างมั่นใจได้บ้าง หลายวันนี้พวกเราก็อยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือเหมือนกันไม่ใช่หรือ ท่านเคยคิดว่าวันนี้พวกเราจะได้อยู่ที่นี่หรือไร”
……..
ตอนที่ 636 ตีจนตาย
หลิวซื่อรีบถาม “เจ้าหมายความว่าอย่างไร คิดจะทำอะไร”
“ข้าคิดจะทำอะไร? ท่านควรจะบอกข้าสิ ว่าพวกเราควรทำเช่นไร” ไป๋เจินจูกล่าว
ฉับพลันนั้นหลิวซื่อก็โบกมือ “พูดเรื่องพวกนี้กับข้าไปก็ไม่มีประโยชน์ เจ้าบอกมาตามตรงดีกว่า ว่าต้องการทำเช่นไร”
ความร้ายกาจปรากฏบนใบหน้าไป๋เจินจูแวบหนึ่ง “หากข้าได้นั่งอยู่ในฐานะนี้อย่างมั่นคง หากพวกท่านอยากอยู่ที่เมืองหลวงไปนานๆ เพื่ออนาคตที่ดีของเสี่ยวเฟิง เพื่อให้ต้าเป่าได้พบภรรยาที่ดี เช่นนั้นพวกท่านก็ต้องกำจัดภัยร้ายที่จะเกิดขึ้น ขอเพียงกำจัดมันไปได้ ข้าไป๋เจินจูก็คือเผยเซี่ยเหยียนที่แท้จริง ใครจะกล้าว่าอะไรได้”
หลิวซื่อรู้สึกว่าคำพูดของนางมีเหตุผล แต่นางจะจัดการเรื่องนี้อย่างไร ตอนนี้ตัวนางอยู่ที่เมืองหลวง แล้วจะไปจัดการกับไป๋จื่อที่อยู่ไกลถึงทางตะวันตกเฉียงเหนืออย่างไร
“เจ้าบอกเรื่องนี้กับท่านโหว ให้เขาส่งคนไปจัดการนาง เท่านั้นก็สิ้นเรื่องแล้วไม่ใช่หรือไร” หลิวซื่อเอ่ย
สีหน้าของไป๋เจินจูพลันดำคล้ำ “ท่านช่างโง่เขลานัก ไม่คิดเลยหรือว่าข้าเป็นตัวปลอม ส่วนไป๋จื่อต่างหากที่เป็นตัวจริง เขาจะไปสังหารบุตรสาวที่แท้จริงของตนเอง แล้วเก็บข้าที่เป็นตัวปลอมไว้ได้อย่างไร สมองของท่านใช้การไม่ได้แล้วหรือ”
เมื่อได้คิดอย่างละเอียดแล้วก็พบว่าจริงดังนั้น หากเผยชิงหานรู้ว่าบุตรสาวตัวจริงของตนเองยังไม่ตาย เขาย่อมต้องไปรับนางกลับมา ถึงตอนนั้นแล้วจวนแห่งนี้จะยังมีที่สำหรับเจินจูอีกหรือ อย่าว่าแต่เจินจูเลย บ้านใหญ่อย่างพวกนางก็ต้องถูกไล่ออกไปแน่
“เช่นนั้น เจ้าว่าควรจะทำเช่นไรดี” หลิวซื่อถาม
“พวกท่านไปทางตะวันตกเฉียงเหนือสักครั้ง หาโอกาสจัดการนาง อย่าให้นางได้มีโอกาสปรากฏตัวต่อหน้าข้า รวมถึงจ้าวหลานด้วย อย่าปล่อยให้นางรอดไปได้” ไป๋เจินจูเอ่ยเสียงเย็น
หลิวซื่อมุ่นคิ้ว เด็กสาวผู้นี้ดุร้ายขึ้นมากทีเดียว แม้จะพูดถึงการฆ่าคน ทว่าก็ยังไม่ขมวดคิ้วเลยแม้สักครั้ง
“ข้าตัดสินใจเรื่องนี้ไม่ได้หรอก ต้องไปปรึกษากับสามีของข้าก่อน อีกอย่างกลับตะวันตกเฉียงเหนือก็ต้องใช้เงินไม่ใช่หรือ เงินเล็กน้อยเท่านี้จะไปทำอะไรได้”
“เงินๆๆ ในสมองของท่านคิดได้แต่เรื่องเงิน เอาอย่างนี้ ท่านกลับไปก่อน ข้าจะจัดการเรื่องค่าเดินทางให้เอง” ไป๋เจินจูกล่าวเสียงขรึม
หลิวซื่อยังอยากพูดอะไรบางอย่างอีก ทว่าก็มีเสียงเคาะประตูที่รีบเร่งดังมาจากข้างนอกเสียก่อน “คุณหนูใหญ่ แย่แล้วเจ้าค่ะ”
นางรีบไปเปิดประตู ถามสาวใช้ผู้นั้นว่า “อะไรแย่แล้ว”
สาวใช้ตอบว่า “คุณชายที่มากับท่านก่อนหน้านี้ เขาถูกคุณหนูรองจับได้แล้ว กำลังสั่งโบยเขาอยู่ บ่าวทนมองไม่ไหว ถึงได้รีบมารายงานเจ้าค่ะ”
หลิวซื่อหน้าเปลี่ยนสีทันควัน “ใครกล้าตีลูกชายข้า อยู่ที่ไหน เขาอยู่ที่ไหน”
“อยู่ในสวนข้างหน้าเจ้าค่ะ” สาวใช้พูด
หลิวซื่อรีบถลันไปข้างหน้า ไป๋เจินจูรำคาญใจแทบแย่แล้ว ไม่อยากจะสนใจเรื่องของพวกเขาเลยสักนิด ทว่าจะทำเช่นนั้นก็ไม่ได้ ถึงอย่างไรเสียตอนนี้พวกเขาก็เป็นแม่เลี้ยงและพี่ชายในนามของนาง
สาวใช้เข้ามาประคองไป๋เจินจู “คุณหนูใหญ่ ท่านจะไปด้วยหรือเจ้าคะ”
ไป๋เจินจูพยักหน้า “ไปดูสักหน่อยเถอะ”
ทันทีที่หลิวซื่อก้าวเท้าเข้าไปในสวน ก็เห็นบุตรชายถูกบุรุษหลายคนรุมตีอยู่จริงๆ ตีเสียจนต้าเป่ามีสภาพน่าเวทนา ใบหน้าเต็มไปด้วยคราบเลือด ไปจนถึงได้ยินเสียงบุรุษที่กำลังตีเขาตะโกนออกมาไม่หยุด “ตี ตีให้ตาย”
นางรีบปรี่เข้าไปหา ผลักบุรุษพวกนั้นออกทีละคน “พวกคนสารเลว ใครให้เจ้ามาตีบุตรชายของข้า พวกเจ้าเป็นใครกัน มีสิทธิ์อะไรมาตีเขา”
ผู้คุ้มกันที่เอ่ยปากพูดเมื่อครู่นี้พิจารณาหลิวซื่อตั้งแต่หัวจรดเท้า มุ่นคิ้วถามว่า “แล้วเจ้าเป็นใครกัน”
หลิวซื่อรีบสวน “เจ้านั่นแหละเป็นใคร ต่ำช้านัก บุตรชายของข้าล้ำค่า เจ้าก็เป็นแค่ข้าทาส มีสิทธิ์อะไรมาตีเขา”
ฝ่ายผู้คุ้มกันด้ฟังดังนั้นก็ทนไม่ไหว ตะคอกเสียงดัง “ตีพวกเขาสองคนพร้อมกัน ตีให้ตาย”